คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา 547 ที่มาของพู่หยก (2) / 548 ที่มาของพู่หยก (3)

ตอนที่ 547 ที่มาของพู่หยก (2) / ตอนที่ 548 ที่มาของพู่หยก (3)

ตอนที่​ 547 ที่มา​ของ​พู่​หยก​ (2)

ฮ่องเต้​ตรัส​กับ​พ่อบ้าน​ซุน​ว่า​ “กลับ​ไป​นำ​พู่​หยก​มาเดี๋ยวนี้​”

พ่อบ้าน​ซุน​รับ​บัญชา​แล้ว​ถอยหลัง​ไป​ รีบ​ออกจาก​วัง​ไป​อย่าง​เร่งรีบ​

ส่วน​ชางซูหัง​ยังคง​คุกเข่า​อยู่​ใน​ตำหนัก​ ดูเหมือน​ฮ่องเต้​จะลืม​เขา​ไป​แล้ว​

ฮ่องเต้​ตรัส​กับ​ขันที​ข้าง​กาย​ “วันนี้​ตง​ฟางมู่ก็​มาด้วย​ใช่หรือไม่​”

ขันที​พยักหน้า​ “ทูล​ฝ่าบาท​ ไม่ได้มา​พ่ะย่ะค่ะ​ ทว่า​ไหว้วาน​ให้​คน​มาส่งของขวัญ​ให้​แล้ว​ ตอนนี้​เขา​น่าจะ​เข้า​เมืองหลวง​แล้ว​ เพราะ​เขา​จะมาเยี่ยมเยียน​คุณหนู​หว่าน​ในเวลานี้​ทุกปี​ด้วย​พ่ะย่ะค่ะ​”

เมื่อ​พูดถึง​คุณหนู​หว่าน​ ฮ่องเต้​ก็​ถอนหายใจ​เสียง​หนึ่ง​ ตรัส​ถามอี​กว่า​ “ส่งหมอ​หลวง​ไปดู​อาการ​เป็นประจำ​อยู่​ใช่หรือไม่​”

“พ่ะย่ะค่ะ​ ส่งหมอ​หลวง​ไป​ตรวจดู​ทุกๆ​ สอง​สามวัน​พ่ะย่ะค่ะ​” ขันที​ทูล​

“ตง​ฟางหว่าน​เอ๋อร์​ป่วย​เป็น​อะไร​กัน​แน่​ หลาย​ปี​ขนาด​นี้​แล้ว​ เหตุใด​ยัง​รักษา​ไม่หาย​สักที​” ฮ่องเต้​ถาม

ฝ่าย​ขันที​ส่ายหน้า​ “ได้ยิน​หมอ​หลวง​บอ​กว่า​ โรค​ของ​คุณหนู​หว่าน​เกิดขึ้น​เพราะ​สูญเสีย​บุตรี​ไป​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ นาง​เศร้าโศก​มายาวนาน​ ทำลาย​สุขภาพ​และ​ร่างกาย​ รักษา​มานาน​ก็​ไม่เห็น​หาย​เสียที​ เห็นที​ว่า​จะมีแต่​แย่​ลง​พ่ะย่ะค่ะ​”

คิ้ว​ของ​ฮ่องเต้​พัน​กัน​ยุ่งเหยิง​ ยิ่ง​กำ​พู่​หยก​ใน​มือ​แน่น​ขึ้น​

การ​หมั้น​หมาย​ของ​เยี่ยนเอ๋อร์​และ​เด็ก​คน​นั้น​ เป็นเรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​ตั้งแต่​เด็ก​ยัง​ไม่คลอด​ออกมา​ แต่​ใคร​จะรู้​ว่า​นาง​เพิ่ง​เกิด​มาได้​ไม่เท่าไร​ก็​หมด​ลมหายใจ​ ตง​ฟางมู่บอ​กว่า​ฝังพู่​หยก​ชิ้น​นี้​ไป​พร้อมกับ​ตัว​เด็ก​แล้ว​

ทว่า​พู่​หยก​ที่​รู้​แน่ชัด​แล้ว​ว่า​ฝังไป​พร้อมกับ​ตัว​เด็ก​ เหตุใด​ถึงมาปรากฏ​อยู่​ที่นี่​ได้​

ฮ่องเต้​ชำเลือง​มอง​ไป​ทาง​ชางซูหัง​ที่​หน้า​ซีดเผือด​ ตรัส​เสียง​ขรึม​ว่า​ “ข้า​เดา​ว่า​เจ้าไม่รู้เส้น​สน​กล​ใน​ จึงจะไว้ชีวิต​เจ้าไป​ก่อน​ แต่​เจ้าฟังข้า​ไว้​ให้​ดี​ ไป​สืบ​ที่มา​ของ​พู่​หยก​ชิ้น​นี้​มาให้​ข้า​ภายใน​สิบ​วัน​ ห้าม​ให้​คน​ที่​พัวพัน​กับ​มัน​เล็ด​รอดไป​สัก​คนเดียว​ ต้อง​รายงาน​ข้า​ทั้งหมด​ เข้าใจ​หรือไม่​”

ครั้น​ชางซูหัง​รู้​ว่า​ตน​รักษา​ชีวิต​ของ​ตนเอง​ไว้​ได้​แล้ว​ เขา​ก็​พลัน​คลายใจ​ รีบ​โขก​ศีรษะ​ “กระหม่อม​เข้าใจ​แล้ว​พ่ะย่ะค่ะ​” จากนั้น​เขา​ก็​พลัน​นึกได้​ สืบ​ได้​แล้ว​ควร​ทำ​เช่นไร​ต่อ​เล่า​

เขา​ลอบ​เงยหน้า​มอง​ฮ่องเต้​ เห็น​พระองค์​ก็​มอง​เขา​อยู่​เช่นกัน​ จึงรีบ​เก็บ​ซ่อน​สายตา​ เอ่ย​ถามเสียงสั่น​ “ฝ่าบาท​ หลังจาก​กระหม่อม​สืบ​จน​ชัดแจ้ง​แล้ว​ ควรจะ​จัดการ​กับ​คน​ที่​เกี่ยวข้อง​อย่างไร​หรือ​พ่ะย่ะค่ะ​”

“เจ้าเพียงแค่​สืบมา​ สิ่งที่​ไม่ควร​พูด​ออกมา​ก็​อย่า​ได้​พูด​ ส่วน​เรื่อง​อื่น​เจ้าไม่ต้อง​เป็นกังวล​ไป​ ข้า​จะจัดการ​เอง​” ฮ่องเต้​ตรัส​

ขันที​สอง​คน​พา​ชางซูหัง​ออก​ไป​แล้ว​ จากนั้น​ฮ่องเต้​ก็​เอ่ย​กับ​ขันที​เฒ่าว่า​ “เจ้าส่งคน​ไป​เชิญตง​ฟางมู่ บอ​กว่า​ข้า​มีเรื่อง​อยาก​พบ​เขา​ ส่วน​เรื่อง​เกี่ยวกับ​พู่​หยก​นี้​ เจ้าอย่า​เพิ่ง​กระโตกกระตาก​ไป​ล่ะ​”

จวน​ชางหยวน​โหว​

ตง​ฟางมู่นั่ง​อยู่​เบื้องหน้า​เตียง​ของ​สตรี​ มอง​หมอ​หลวง​ตรวจร่างกาย​นาง​ ขณะเดียวกัน​ก็​รีบ​ถามว่า​ “ดีขึ้น​บ้าง​หรือไม่​”

หมอ​หลวง​ส่ายหน้า​ “เป็น​ดัง​เก่า​ขอรับ​ แย่​ลง​เรื่อยๆ​ ท่าน​ตง​ฟาง ท่าน​ต้อง​เตรียมใจ​ไว้​บ้าง​แล้ว​นะ​ขอรับ​”

“เตรียมใจ​? เตรียม​อะไร​ ให้​ข้า​เตรียม​อะไร​รึ​ คน​คน​หนึ่ง​นอน​อยู่​ตรงนี้​ เจ้าเป็น​หมอ​ ไม่ใช่ว่า​ควร​รักษา​นาง​ให้​หาย​หรือ​ไร​” ตง​ฟางมู่โมโห​

เขา​อ่อนไหว​กับ​เรื่อง​ของ​นาง​อย่าง​มาก​ แต่​ที่​มากกว่า​นั้น​คือ​ความเจ็บ​ปวดใจ​

หมอ​หลวง​ถอนใจ​เสียง​หนึ่ง​ ไม่ได้​พูด​อะไร​มาก​อีก​ หลังจาก​เขียน​ใบสั่งยา​แล้วก็​จากไป​

ตง​ฟางหว่าน​เอ๋อร์​ที่อยู่​บน​เตียง​พิง​หัว​เตียง​อย่าง​อ่อนล้า​ พลาง​ยิ้ม​ขื่น​ให้​ตง​ฟางมู่ “ท่าน​พ่อ​ ท่าน​กำลัง​ทำ​อะไร​ ที่​ข้า​ป่วย​ก็​ไม่ใช่ความผิด​ของ​หมอ​หลวง​ ท่าน​จะไป​กล่าวโทษ​เขา​ได้​อย่างไร​กัน​”

โทสะ​ของ​ตง​ฟางมู่ยัง​ไม่หาย​ไป​ “ไม่โทษ​เขา​แล้ว​จะโทษ​ใคร​ได้​ เจ้าป่วย​มาตั้ง​นาน​เท่าไร​แล้ว​ เขา​เป็น​มือดี​แห่ง​สำนัก​หมอ​หลวง​ แต่กลับ​ทำ​อะไร​ไม่ได้​เลย​สัก​อย่าง​ บอก​เพียง​ว่า​เป็นโรค​ที่​เกิดขึ้น​ฉับพลัน​ใน​ปี​นั้น​ แต่​ข้า​ว่า​เขา​ไร้ความสามารถ​มากกว่า​”

“ท่าน​พ่อ​ ไม่พูด​เรื่อง​นี้​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ท่าน​ก็​ใจเย็น​ๆ หน่อย​เถอะ​ เรื่อง​ผ่าน​ไป​นาน​แล้ว​ โมโห​ขึ้น​มาแล้ว​จะมีประโยชน์​อะไร​กัน​”

ตง​ฟางมู่รู้สึก​เจ็บ​ปวดใจ​เหลือเกิน​ เห็น​บุตรี​มีสภาพ​เช่นนี้​แล้ว​ เขา​จะไม่โมโห​ได้​อย่างไร​ แต่​คน​ที่​เขา​โมโห​คือ​ตัว​เขา​เอง​ต่างหาก​ เหตุใด​ตน​ถึงทำได้​เพียง​มอง​บุตรี​ป่วยไข้​อยู่​เช่นนี้​ ทว่า​ทำ​อะไร​ไม่ได้​เลย​สัก​อย่าง​

……….

ตอนที่​ 548 ที่มา​ของ​พู่​หยก​ (3)

“หว่าน​เอ๋อร์​ เจ้าวางใจ​เถอะ​ พ่อ​จะต้อง​ตามหา​หมอ​เทวดา​มารักษา​เจ้าให้ได้​ พ่อ​จะไม่ให้​เจ้าเป็น​อะไร​โดย​เด็ดขาด​ เจ้าเชื่อ​พ่อ​นะ​” เขา​มีบุตรี​เพียง​คนเดียว​ จึงรัก​และ​เอ็นดู​นาง​ราวกับ​แก้วตาดวงใจ​ ทว่า​หว่าน​เอ๋อร์​ผู้​สดใส​ร่าเริง​ ไร้​ความกังวล​เปลี่ยนไป​ตั้งแต่​แต่ง​เข้า​จวน​ชางหยวน​โหว​แห่ง​นี้​

หลาย​ปี​มานี้​เขา​รู้สึก​เสียใจ​มาโดยตลอด​ ที่​บุตรสาว​แต่ง​เข้า​จวน​ชางหยวน​โหว​แห่ง​นี้​ ปี​นั้น​เขา​สนิทสนม​กับ​เผย​เซิงคัง​ บุรุษ​ผู้​นี้​เป็น​คน​ดีมาก​ เพื่อให้​บุตรชาย​ได้​แต่งงาน​ก่อน​ตนเอง​ตาย​ และ​หวัง​อาศัย​ความสัมพันธ์​อัน​ดี​ของ​ตน​กับ​ฮ่องเต้​ รักษา​ความรุ่งเรือง​ของ​จวน​ชางหยวน​โหว​ต่อไป​ ในเวลานั้น​เขา​ก็​คิด​เช่นกัน​ว่า​บุตรชาย​ของ​เผย​เซิงคัง​ต้อง​เป็น​คน​ที่​ไม่เลว​แน่ๆ​

ดังนั้น​เขา​จึงตัดสินใจ​โดยพลการ​ ให้​หวาน​เอ๋อร์​แต่ง​เข้า​สกุล​เผย​ หาก​รู้​แต่แรก​ว่า​เผย​ชิงหา​น​จะเป็น​คน​เช่นนี้​ เขา​ไม่มีทาง​ให้​บุตรี​แต่ง​ให้​เขา​แน่นอน​

ถึงแม้ใน​ใจจะมีคำตอบ​อยู่แล้ว​ แต่​เขา​ก็​ยังคง​ถามออก​ไป​ “เผย​ชิงหยวน​ผู้​นั้น​ ช่วงนี้​เขา​ดี​กับ​เจ้าหรือไม่​”

ตง​ฟางหว่าน​เอ๋อร์​ยิ้ม​จางเพื่อ​ปกปิด​ความเสียใจ​ใน​แววตา​ “อะไร​เรียก​ว่า​ดี​หรือไม่​ดีกัน​เล่า​ เขา​เป็น​สามีของ​ข้า​นะ​เจ้าคะ​”

ยิ่ง​นาง​เป็น​เช่นนี้​ ตง​ฟางมู่ก็​ยิ่ง​รู้สึก​โศกเศร้า​ เผย​ชิงหา​น​รับ​อนุ​หลาย​คน​หลังจาก​นาง​ป่วย​ได้​ไม่ถึงสามเดือน​ บัดนี้​จวน​ชางหยวน​โหว​ถึงจะมีหว่าน​เอ๋อร์​เป็น​ภรรยา​เอก​ แต่​ความจริง​แล้ว​กลับเป็น​เพียง​อนุ​ที่​ต่ำต้อย​ เหล่า​ข้า​รับใช้​เหล่านั้น​ไม่เห็น​นาง​เป็น​ภรรยา​เอก​ของ​จวน​ด้วยซ้ำ​ไป​ ตัว​เขา​เข้ามา​ใน​จวน​ตั้ง​นาน​แล้ว​ แต่กลับ​ไม่มีการ​ยก​ชามาให้​แม้สัก​จอก​

“หว่าน​เอ๋อร์​ เจ้าพูดความจริง​กับ​พ่อ​เถอะ​ ยัง​อยาก​อยู่​ที่นี่​ต่อไป​หรือไม่​ หาก​เจ้าอยาก​จะไป​ พ่อ​จะพา​เจ้าไป​วันนี้​เลย​”

เขา​ถามนาง​เช่นนี้​มากกว่า​หนึ่ง​ครั้ง​ ทว่า​หว่าน​เอ๋อร์​ล้วน​ปฏิเสธ​เขา​ทุกครั้ง​ไป​ นาง​บอ​กว่า​นาง​เหมือน​น้ำ​ที่​สาด​ออก​ไป​แล้ว​ ทั้ง​ยัง​เป็น​ภรรยา​เอก​ของ​จวน​ชางหยวน​โหว​ หาก​นาง​กลับบ้าน​พ่อ​ไป​เช่นนี้​ ก็​ยิ่ง​เป็นการ​ทำลายเกียรติ​ของ​เขา​

ทว่า​ครั้งนี้​ตง​ฟางหว่าน​เอ๋อร์​กลับ​ใจอ่อน​อยู่​บ้าง​ นาง​รู้​ว่า​ชีวิต​คน​ไม่ยืนยาว​ และ​นาง​ไม่อยาก​ทิ้ง​ช่วงเวลา​สุดท้าย​ของ​ชีวิต​ตนเอง​ไว้​ที่​เรือน​หลัง​นี้​ นาง​อยาก​ออก​ไปดู​ว่า​โลก​ภายนอก​เปลี่ยนไป​อย่างไรบ้าง​ แทน​บุตรี​ที่​ยัง​ไม่ทัน​ได้​เรียก​นาง​ว่า​ท่าน​แม่แม้สักครั้ง​

“ท่าน​พ่อ​ หาก​ข้า​ไป​กับ​ท่าน​ คน​ข้างนอก​จะต่อว่า​ข้า​เช่นไร​” แม้นาง​จะใจอ่อน​ แต่​ก็​ยังคง​ลังเลใจ​

ตง​ฟางมู่โบกมือ​ “ไม่ต้อง​ไป​สนใจ​ว่า​พวกเขา​จะพูด​อย่างไร​ พวกเรา​ไม่ได้​เกี่ยวข้อง​กัน​เสียหน่อย​ เจ้าใช้ชีวิต​ของ​เจ้าก็​พอ​ พวกเขา​อยาก​พูด​ก็​ให้​พูด​ไป​ พวกเรา​ไม่ได้​ต้อง​เสีย​เนื้อ​สัก​ชิ้น​เพราะเหตุนี้​”

เมื่อ​เห็น​บุตรสาว​ยังคง​ลังเล​ เขา​จึงกล่าว​อี​กว่า​ “หว่าน​เอ๋อร์​ พ่อ​อายุ​มาก​แล้ว​ ผ่าน​ประสบการณ์​อะไร​มามากมาย​ นี่​เป็น​เพียง​การ​รับ​เจ้ากลับบ้าน​ไป​รักษา​อาการป่วย​ หรือ​หาก​เจ้าต้องการ​แยกทาง​กับ​เขา​ พ่อ​ก็​จะช่วย​เจ้าเช่นกัน​”

คำ​ว่า​แยกทาง​สอง​คำ​นี้​เหมือนกับ​สายฟ้า​ฟาด​ ระเบิด​เสียงดัง​อื้ออึง​อยู่​ข้าง​หู​ของ​นาง​ นาง​เคย​คิดถึง​เรื่อง​นี้​เช่นกัน​ ยาม​ที่​เผย​ชิงหา​นย​ก​ย่อง​อนุ​ผู้​นั้น​ต่อหน้า​นาง​ และ​ยาม​ที่​เขา​พลอดรัก​กับ​สตรี​สารเลว​ผู้​นั้น​ต่อหน้า​นาง​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ แยกทาง​สอง​คำ​นี้​ปรากฏ​อยู่​ใน​ห้วง​สมอง​ของ​นาง​นับ​ครั้ง​ไม่ถ้วน​

แต่​เพราะ​นาง​ไม่พอใจ​ ไม่ชอบใจ​ที่​สตรี​ผู้​นั้น​ได้รับ​ความรัก​ ถึงได้​ฝืนทน​มานาน​ถึงเพียงนี้​

“ท่าน​พ่อ​ ข้า​จะไป​กับ​ท่าน​ แต่​ข้า​ไม่อยาก​แยกทาง​กับ​เขา​ ถึงแม้ข้า​จะไป​แล้ว​ ข้า​ก็​จะครองตำแหน่ง​ภรรยา​เอก​ของ​ที่นี่​ ไม่ให้​นาง​แพศยา​ผู้​นั้น​ได้​สมใจปรารถนา​”

ตง​ฟางมู่รู้สึก​ปีติ​นัก​ ในที่สุด​บุตรี​ของ​เขา​ก็​เข้าใจ​ทุกอย่าง​แล้ว​

“ดี​ๆๆ ข้า​จะไป​จัดเตรียม​ทุกอย่าง​ พวกเรา​ไป​กัน​วันนี้​เลย​เถอะ​” ตง​ฟางมู่ให้​บุตรสาว​นอนลง​ก่อน​ เขา​ห่ม​ผ้า​ให้​นาง​ด้วย​ ขณะ​กำลังจะ​ไป​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​เผย​ชิงหา​น​ สาวใช้​คน​หนึ่ง​ก็​รีบร้อน​เข้ามา​ สีหน้า​ลนลาน​ร้อนใจ​ทีเดียว​ ราวกับว่า​มีใคร​ไล่​ตามมา​อย่างไร​อย่างนั้น​

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

Score 10
Status: Completed

จู่ๆ แพทย์หญิงยอดฝีมือจากยุคปัจจุบัน ดันตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กสาวชาวบ้านยุคโบราณที่ถูกย่าและป้าสะใภ้ตีจนตายทั้งเป็น

ครั้นรอดชีวิตมาได้ ก็ถูกโขกสับไม่ต่างกับสาวใช้ในบ้าน ทั้งยังจะถูกจับขายแลกเงินให้แต่งกับบุรุษอายุคราวพ่อ

แต่ไป๋จื่อคนใหม่นี้จะไม่ปล่อยให้พวกนางใช้งานข่มเหงรังแกได้ตามใจชอบอีกต่อไปแล้ว

ให้ตายอย่างไรก็ต้องออกจากบ้านที่เหมือนกับขุมนรกแห่งนี้ไปให้ได้ จึงตัดสินใจสร้างอุบายทำให้ตนเองเสียชื่อ

เพื่อแยกบ้านกับเหล่าคนสกุลไป๋ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพื่อให้มีข้าวกินอิ่มท้องสักมื้อ

หญิงสาวที่เคยมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งประเทศในยุคปัจจุบันต้องถกแขนเสื้อทำไร่ทำนา ใช้วิชาแพทย์แผนปัจจุบันรักษาคนไข้

และจัดการกับเหล่าคนในหมู่บ้านที่เข้ามาเอารัดเอาเปรียบนางด้วย

แต่ขณะเดียวกัน… ก็ต้องรักษาโรคความจำเสื่อมให้ชายหนุ่มกล้ามโตขี้น้อยใจอีก!

เดิมทีคิดจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หาเช้ากินค่ำ เลี้ยงชีพให้ตนและท่านแม่มีชีวิตที่ดี

แต่ความหวังพรรค์นั้นน่าจะไม่มีทางเป็นจริงได้ หนทางข้างหน้าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเอาเสียเลย!

Options

not work with dark mode
Reset