คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา 541 ครอบครัวคนขี้เกียจ (2) / 542 ครอบครัวคนขี้เกียจ (3)

ตอนที่ 541 ครอบครัวคนขี้เกียจ (2) / ตอนที่ 542 ครอบครัวคนขี้เกียจ (3)

ตอนที่​ 541 ครอบครัว​คน​ขี้เกียจ​ (2)

“ข้า​ก็​เห็น​ไม่เห็น​ว่า​เสี่ยว​เฟิงจะเรียนหนังสือ​ได้เรื่อง​สัก​เท่าไร​ เลิกเรียน​ไป​เสียเถอะ​ ปีหน้า​จะได้​ลง​ที่ดิน​ปลูก​แตง​ดิน​กับ​ข้า​และ​ต้า​เป่า​” เจ้าใหญ่​กล่าว​

หลิว​ก​ว้า​หัว​ขึ้นเสียง​ในทันที​ “เช่นนั้น​ไม่ได้​ ข้า​ยัง​หวัง​ว่า​เสี่ยว​เฟิงจะได้​เป็น​ขุนนาง​ ให้​ข้า​ได้​มีชีวิต​สุขสบาย​ เรียน​มาตั้ง​หลาย​ปี​ขนาด​นี้​แล้ว​ จะเลิกเรียน​ง่ายๆ​ ได้​อย่างไร​กัน​ เจ้าไม่เสียดาย​บ้าง​หรือ​ไร​ เสี่ยว​เฟิงของ​พวกเรา​ฉลาดเฉลียว​ เขา​ต้อง​มีแวว​ได้​เป็น​ขุนนาง​อยู่แล้ว​!”

เจ้าใหญ่​คร้าน​จะโต้เถียง​กับ​นาง​ “สรุป​ว่า​เงิน​หนึ่ง​เฉียน​นี้​นำ​ไป​ซื้อ​เนื้อ​กิน​ก่อน​เถอะ​ ข้า​ทน​หิว​มาตั้ง​หลาย​วัน​แล้ว​ ดู​หน้า​ของ​ข้า​สิ ซูบผอม​ลง​ไป​ไม่รู้​ตั้ง​เท่าไร​”

ทั้งสอง​คน​เถียง​กัน​ไปมา​ ราวกับว่า​ได้เงิน​ค่า​เย็บ​ปัก​มาอยู่​ใน​มือ​แล้ว​ เหลือ​ก็​แต่​รอ​ให้​พวกเรา​นำไปใช้​จ่าย​เท่านั้น​

ครั้น​พวกเขา​พูด​กัน​จน​เหนื่อย​แล้ว​ สอง​สามีภรรยา​ก็​หลับตา​ลง​ นอน​จนถึง​ยาม​เซิน​โดย​ไม่ได้​กิน​ข้าวกลางวัน​

จางซื่อ​ปัก​ผ้า​เสร็จ​อีก​สอง​ผืน​อย่าง​ยากลำบาก​ ขณะ​ลุกขึ้น​ยืดเส้นยืดสาย​ ก็​พบ​ว่า​บน​นิ้วมือ​ที่​แข็งทื่อ​เพราะ​อากาศ​หนาว​ก่อนหน้านี้​ บัดนี้​เกิด​ความอบอุ่น​ขึ้น​มาแล้ว​

นาง​ออกจาก​เรือน​ไป​ เหลือบเห็น​ผ้า​สำหรับ​ปัก​ที่​นาง​ให้​หลิว​ซื่อ​เมื่อเช้า​ยังอยู่​ที่​เดิม​ มัน​ไม่ได้​ขยับเขยื้อน​เลย​สักนิด​ ภาพ​นี้​ทำให้​นาง​โมโห​ไม่น้อย​ ทว่า​ก็ได้​แต่​ถลึงตา​มอง​ประตู​ที่​ปิด​สนิท​อย่าง​ดุดัน​ แล้ว​หยิบ​ผ้า​ผืน​นั้น​หมุน​กาย​กลับ​ห้อง​ของ​ตนเอง​ไป​

จางซื่อ​กล่าว​กับ​เจ้ารอง​ที่​เหม่อลอย​อยู่​บน​เตียง​ “ตอนเย็น​ห้าม​นำ​ข้าว​ไป​ให้​พวกเขา​กิน​อีก​ หาก​เจ้ากล้า​ทำ​เช่นนั้น​ พวกเรา​ต้อง​อยู่​ไม่รอด​แน่​”

ไม่รู้​ว่า​เจ้ารอง​กำลัง​เหม่อ​อะไร​อยู่​ จางซื่อ​จึงเข้าไป​ใกล้​ๆ เขา​ด้วย​สีหน้า​มึนงง​ “เจ้าเป็น​อะไร​ไป​ ใคร​ยั่วโมโห​เจ้าหรือ​”

เมื่อ​จางซื่อ​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา เจ้ารอง​ก็​รู้สึก​โมโห​อยู่​ใน​ใจเช่นกัน​ อย่า​เพิ่ง​พูดถึง​งาน​ใน​ที่นา​เลย​ เพราะ​นั่น​เป็นเรื่อง​ที่​ผ่าน​ไป​แล้ว​ แต่​ตอนนี้​พวกเขา​ไม่เกี่ยวข้อง​กับ​บ้านใหญ่​แล้ว​ จะมาหวัง​ให้​พวกเขา​หา​ข้าว​ให้​กิน​ไม่ได้​ ซูเหมย​หวังดี​ให้​งาน​พวกเขา​ทำ​ ให้​พวกเขา​หาเงิน​ใช้จ่าย​ด้วย​ตนเอง​ ทว่า​กลับ​ไม่ต้องการ​แม้กระทั่ง​โอกาส​ที่จะ​หาเงิน​หรือ​นี่​ วัน​ๆ รู้จัก​แต่​นอน​ขี้เกียจ​อยู่​ใน​ผ้าห่ม​ อยาก​ให้​คนอื่น​มาปรนนิบัติ​ดูแล​พวกเขา​

“ตอนเย็น​ข้า​หุงข้าว​เรียบร้อย​แล้วก็​ยก​กลับ​ห้อง​เลย​ ไม่ได้​เหลือ​ให้​พวกเขา​แม้สักนิด​” เสบียงอาหาร​ที่​ให้​พวกเขา​ก่อนหน้านี้​หมดเกลี้ยง​ไป​นาน​แล้ว​ วันนี้​พวกเขา​ขี้เกียจ​แม้กระทั่ง​จะทำอาหาร​ เอาแต่​รอ​เขา​อยู่​ทุกวัน​ เขา​ทน​ให้​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ไม่ได้​อีกแล้ว​

ตอน​ย่ำค่ำ​ จางซื่อ​จุด​ตะเกียง​ทำงาน​อยู่​ใน​ห้อง​ ส่วน​เจ้ารอง​หุง​โจ๊ก​ง่ายๆ​ อยู่​ที่​ครัว​ด้านหลัง​ ทั้งหมด​แบ่ง​ได้​ห้า​ถ้วย​ บุตรชาย​บุตรสาว​คนละ​ถ้วย​ เขา​และ​ซูเหมย​อีก​คนละ​ถ้วย​ ส่วน​ถ้วย​สุดท้าย​ยก​ไป​ให้​หญิง​ชรา​

หญิง​ชรา​ขดตัว​อยู่​ใน​ผ้าห่ม​ไม่ยอม​ลุก​จาก​เตียง​ ทั้ง​ยัง​ให้​เขา​ยก​โต๊ะ​ตัวเล็ก​ขึ้น​มาบน​เตียง​เพื่อ​วาง​ถ้วย​ จน​ในที่สุด​แล้ว​เขา​ก็​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​เจ้าใหญ่​และ​หลิว​ซื่อ​ได้​ความขี้เกียจ​จาก​ใคร​มา

เมื่อก่อน​เขา​เอง​ก็​ขี้เกียจ​เช่นเดียวกัน​ เพราะ​รู้สึก​ว่า​ไม่จำเป็นต้อง​ทำงาน​ก็​มีข้าว​กิน​ได้​ แล้ว​ไย​ต้อง​ไป​ทำงาน​ด้วย​เล่า​ นั่น​ไม่เท่ากับ​หาเรื่อง​ลำบาก​ใส่ตัวเอง​หรือ​ไร​

แต่​ตอนนี้​เขา​เปลี่ยนไป​แล้ว​ หนึ่ง​เพราะ​มีแรงผลักดัน​ใน​ชีวิต​ สอง​เพราะ​ซูเหมย​ เขา​คิดไม่ออก​เลย​จริงๆ​ ว่า​หาก​ซูเหมย​เกียจคร้าน​เหมือนกัน​กับ​หลิว​ซื่อ​ เช่นนั้น​แล้ว​ครอบครัว​นี้​ของ​เขา​จะอยู่​ต่อไป​ได้​อย่างไร​

หลิว​ซื่อ​ที่นอน​อยู่​ใต้​ผ้าห่ม​ดัน​ร่าง​ของ​เจ้าใหญ่​ที่อยู่​ข้างๆ​ “เจ้าใหญ่​ ข้า​เหมือน​จะได้กลิ่น​โจ๊ก​ เจ้ารีบ​ไป​ตัก​มาสัก​สอง​สามถ้วย​สิ”

เจ้าใหญ่​ไม่ขยับ​ “ข้า​ไม่ไป​ เจ้าไป​เถอะ​ เมื่อวาน​ข้า​ตัก​มาให้​แล้ว​ วันนี้​ก็​ควรจะ​ถึงตา​เจ้าบ้าง​”

หลิว​ซื่อ​ดัน​ร่าง​ของ​สามีอีก​ครั้งหนึ่ง​ “ข้า​ไป​แล้ว​จะมีประโยชน์​อะไร​ หาก​น้อง​รอง​ของ​เจ้าไม่ยอมให้​ข้า​ แล้ว​ข้า​จะสู้ชนะ​เขา​หรือ​”

ทว่า​เจ้าใหญ่​ก็​ยังคง​ไม่ขยับ​ดังเดิม​ หลิว​ซื่อ​จึงบัน​ดาลโทสะ​ “รีบ​ไป​เดี๋ยวนี้​ เพราะ​หาก​พวกเขา​กิน​หมด​แล้ว​ พวกเรา​จะไม่เหลือ​แม้แต่​น้ำแกง​ข้าว​ให้​กิน​”

เจ้าใหญ่​หิว​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ขณะนี้​ได้​กลิ่นหอม​ของ​โจ๊ก​ข้าว​อีก​ ก็​พลัน​รู้สึก​หิว​ยิ่งกว่า​เดิม​

ทว่า​เขา​ไม่อยาก​ขยับ​เลย​ และ​ภรรยา​ของ​เขา​คน​นี้​ก็​ขี้เกียจ​ยิ่งกว่า​เขา​เสีย​อีก​

……….

ตอนที่​ 542 ครอบครัว​คน​ขี้เกียจ​ (3)

เมื่อ​เจ้าใหญ่​อิดออด​ไป​ถึงห้องครัว​ในที่สุด​ หม้อ​ก็​เย็น​เสียแล้ว​ ข้างใน​นั้น​ไม่เหลือ​อะไร​ทั้งสิ้น​ เขา​ถึงได้​เริ่ม​ลนลาน​ รีบ​กลับ​ไป​บอก​กับ​หลิว​ซื่อ​ที่​เรือน​ว่า​ “หมด​แล้ว​ ไม่มีอะไร​เหลือ​สักนิด​”

หลิว​ซื่อ​ตะลึง​ “ไม่มีอะไร​”

“โจ๊ก​ข้าว​ ใน​หม้อ​เกลี้ยงเกลา​ ไม่มีอะไร​เลย​”

คราวนี้​หลิว​ซื่อ​ลนลาน​ขึ้น​มาบ้าง​เช่นกัน​ นอน​นิ่ง​อยู่กับที่​ไม่ได้​แล้ว​ นาง​เลิก​ผ้าห่ม​ลุก​จาก​เตียง​ทันที​ ก่อน​จะสวม​เสื้อ​นวม​บุ​ฝ้าย​อย่าง​คล่องแคล่ว​ แล้ว​ตาม​เจ้าใหญ่​ไปดู​ที่​ห้องครัว​ ที่นั่น​ไม่เหลือ​อะไร​จริงๆ​ อย่า​ว่าแต่​โจ๊ก​ข้าว​เลย​ แม้แต่​จะหา​เมล็ดข้าว​ก็​ยัง​หาไม่​เจอ​

นาง​หมุน​กาย​กระวีกระวาด​ไป​ยัง​ห้อง​ของ​เจ้ารอง​และ​จางซื่อ​ ประตู​ห้อง​ไม่ได้​ปิด​สนิท​ เพียง​แง้มเอาไว้​ นาง​จึงเปิด​ประตู​เข้าไป​ทั้งอย่างนั้น​

ถ้วย​สอง​ใบ​ว่างเปล่า​อยู่​บน​โต๊ะ​ ไม่เหลือ​แม้น้ำแกง​ข้าว​เลย​สัก​หยด​ จางซูเหมย​นั่ง​ปัก​ลาย​อยู่​ใต้​ตะเกียง​น้ำมัน​ เมื่อ​เห็น​อีก​ฝ่าย​เข้ามา​ นาง​ไม่รู้สึก​แปลกใจ​เลย​สักนิด​ กลับ​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “สะใภ้ใหญ่​ตื่น​แล้ว​หรือ​ ไม่ง่าย​เลย​นะ​ นอนหลับ​ทั้งวัน​ไม่เหนื่อย​หรือ​”

หลิว​ซื่อ​ไหน​เลย​จะไม่รู้​ว่า​จางซื่อ​กำลัง​ถากถาง​ตน​ แต่​ก็​กด​อัด​โทสะ​ไว้​ “ข้าวเย็น​เล่า​”

จางซื่อ​ยิ่ง​ยิ้ม​สดใส​ขึ้น​เรื่อยๆ​ “สะใภ้ใหญ่​ช่างล้อเล่น​เก่ง​จริงๆ​ ข้าวเย็น​ของ​เจ้าเกี่ยว​อะไร​กับ​ข้า​กัน​ พวก​ข้า​กิน​ข้าวเย็น​กัน​เสร็จ​ไป​แล้ว​”

“จางซูเหมย​ เจ้าอย่า​ทำเกินไป​เช่นนี้​ นี่​เจ้าจงใจชัด​ๆ จงใจไม่ต้ม​ข้าว​ให้​พวก​ข้า​” หลิว​ซื่อ​โมโห​แล้ว​

ทว่า​จางซื่อ​กลับ​พยักหน้า​อย่าง​จริงจัง​ “ใช่ ข้า​จงใจไม่ต้ม​ข้าว​ให้​พวก​เจ้า แล้ว​อย่างไร​? ข้า​จางซูเหมย​ติดค้าง​อะไร​บ้านใหญ่​หรือ​ เหตุใด​ต้อง​ปรนนิบัติ​รับใช้​พวก​เจ้าทั้ง​บ้าน​ด้วย​”

เหตุใด​ต้อง​ทำ​เช่นนั้น​ มีความจำเป็น​อะไร​กัน​

หลิว​ซื่อ​คิด​คำ​พูดไม่ออก​ จึงกล่าวว่า​ “แล้ว​ท่าน​แม่เล่า​ พวก​เจ้าไม่สนใจ​ท่าน​แม่แล้ว​รึ​”

เจ้ารอง​ที่อยู่​ข้างๆ​ กล่าว​บ้าง​ “ท่าน​แม่กินข้าว​แล้ว​เช่นกัน​ ข้า​เก็บกวาด​ครัว​แล้ว​ พวก​เจ้าก็​ทำ​กิน​ของ​พวก​เจ้าเอง​เถอะ​”

หลิว​ซื่อ​รู้สึก​โมโห​เป็น​อย่างยิ่ง​ “แล้ว​ข้า​จะเอา​อะไร​มาทำ​ ข้า​ไม่มีข้าว​ พวก​เจ้าไม่รู้​เลย​หรือ​”

จางซื่อ​ยิ้ม​เย็น​ “ไม่มีข้าว​แล้ว​อย่างไร​ เจ้าพูดจา​ร้ายกาจ​เกินไป​แล้ว​นะ​ หรือว่า​เป็น​พวก​ข้า​บ้าน​รอง​ที่​กิน​ข้าวของ​พวก​เจ้าจน​หมด​”

หลิว​ซื่อ​ยังคง​ร่ำร้อง​ต่อไป​ “เมื่อก่อน​พวกเรา​ก็​ทำ​กัน​เช่นนี้​ พวก​ข้า​ไม่ได้​กิน​เยอะ​เสียหน่อย​ ไย​พวก​เจ้าต้อง​ทำ​กับ​พวก​ข้า​ขนาด​นี้​ด้วย​”

จางซื่อ​วาง​อุปกรณ์​เย็บ​ปัก​ใน​มือ​ลง​ แล้ว​ผุด​กาย​ลุกขึ้น​ “ข้า​ทำ​กับ​พวก​เจ้า? เจ้าพูดจา​อะไร​คิด​บ้าง​ได้​หรือไม่​ เจ้าดู​มือ​ของ​ข้า​ แล้ว​เจ้าดู​มือ​ของ​เจ้ารอง​ แล้วก็​เบิกตา​ดู​มือ​ของ​พวก​เจ้าเสีย​”

มือ​ของ​สอง​สามีภรรยา​เต็มไปด้วย​ตุ่ม​น้ำ​ ทั้ง​แดง​ทั้ง​พอง​ บาง​จุด​ก็​เปื่อย​อยู่​บ้าง​ ทำให้​พวกเขา​คันคะเยอ​อย่างยิ่ง​ แต่​ก็​ไม่กล้า​ไป​คว้า​เกา​มัน​

เพื่อ​หาเงิน​มาจุนเจือ​ครอบครัว​ นาง​ปัก​ลาย​ทั้งวันทั้งคืน​ ส่วน​เจ้ารอง​ก็​รับผิดชอบ​ซักผ้า​ ทำอาหาร​ และ​เก็บกวาด​บ้าน​ แม้แต่​เจิน​จูก็​เรียนรู้​การ​ปัก​ลาย​เช่นกัน​ บางครั้ง​ก็​ช่วยเหลือ​งานบ้าน​บ้าง​ แล้ว​บ้านใหญ่​ทำ​อะไร​บ้าง​ เอาแต่​นอนหลับ​อุตุ​ ไม่สนใจ​ทั้ง​ภายใน​และ​ภาย​นอกบ้าน​ ทว่า​ได้กลิ่น​ข้าว​แล้ว​กลับ​ยอม​ลุก​จาก​เตียง​ เมื่อ​ไม่ได้กลิ่น​อาหาร​ก็​นอน​ต่อ​ นี่​มัน​ต่าง​อะไร​กับ​สัตว์​ที่​จำศีล​ใน​ฤดูหนาว​กัน​

เมื่อ​เห็น​มือ​ของ​จางซื่อ​ หลิว​ซื่อ​ก็​มุ่น​คิ้ว​ทันที​ “มือ​ของ​เจ้าเป็น​เช่นนี้​แล้​วจะ​โทษ​ใคร​ได้​ จะโทษ​ข้า​หรือ​ไร​”

จางซื่อ​แค่น​หัวเราะ​อย่าง​เย็นชา​ “ข้า​โทษ​เจ้าไม่ได้​ ดังนั้น​ที่​พวก​เจ้าไม่มีข้าว​กิน​ ก็​โทษ​พวก​ข้า​ไม่ได้​เหมือนกัน​กระมัง​ เพราะ​มัน​ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​ข้า​สักหน่อย​”

หลิว​ซื่อ​และ​เจ้าใหญ่​ทำ​อะไร​จางซื่อ​ไม่ได้​ พวกเขา​ก็​ไม่รั้ง​อยู่​นาน​ หมุน​กาย​ไป​ที่​ห้อง​ของ​หญิง​ชรา​ หวัง​ว่า​นาง​จะพึ่งพา​ได้​

หญิง​ชรา​รีบ​กิน​โจ๊ก​ใน​ถ้วย​จน​หมดเกลี้ยง​ ตั้งแต่​พวกเขา​สอง​คน​เข้าไป​โวยวาย​ใน​ห้อง​ของ​บ้าน​รอง​ เมื่อ​ทั้งคู่​เข้ามา​ให้​ห้อง​ของ​ตน​ นาง​ก็​สั่งให้​พวกเขา​เก็บ​โต๊ะ​เล็ก​ที่อยู่​บน​เตียง​ก่อน​ จากนั้น​นาง​ถึงจะลง​จาก​เตียง​

หลิว​ซื่อ​ร้อนใจ​มาก​ “ท่าน​แม่ ท่าน​กินข้าว​แล้ว​หรือ​นี่​ แต่​พวก​ข้า​ทั้ง​บ้าน​ยัง​ไม่ได้​กิน​อะไร​เลย​”

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

Score 10
Status: Completed

จู่ๆ แพทย์หญิงยอดฝีมือจากยุคปัจจุบัน ดันตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กสาวชาวบ้านยุคโบราณที่ถูกย่าและป้าสะใภ้ตีจนตายทั้งเป็น

ครั้นรอดชีวิตมาได้ ก็ถูกโขกสับไม่ต่างกับสาวใช้ในบ้าน ทั้งยังจะถูกจับขายแลกเงินให้แต่งกับบุรุษอายุคราวพ่อ

แต่ไป๋จื่อคนใหม่นี้จะไม่ปล่อยให้พวกนางใช้งานข่มเหงรังแกได้ตามใจชอบอีกต่อไปแล้ว

ให้ตายอย่างไรก็ต้องออกจากบ้านที่เหมือนกับขุมนรกแห่งนี้ไปให้ได้ จึงตัดสินใจสร้างอุบายทำให้ตนเองเสียชื่อ

เพื่อแยกบ้านกับเหล่าคนสกุลไป๋ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพื่อให้มีข้าวกินอิ่มท้องสักมื้อ

หญิงสาวที่เคยมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งประเทศในยุคปัจจุบันต้องถกแขนเสื้อทำไร่ทำนา ใช้วิชาแพทย์แผนปัจจุบันรักษาคนไข้

และจัดการกับเหล่าคนในหมู่บ้านที่เข้ามาเอารัดเอาเปรียบนางด้วย

แต่ขณะเดียวกัน… ก็ต้องรักษาโรคความจำเสื่อมให้ชายหนุ่มกล้ามโตขี้น้อยใจอีก!

เดิมทีคิดจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หาเช้ากินค่ำ เลี้ยงชีพให้ตนและท่านแม่มีชีวิตที่ดี

แต่ความหวังพรรค์นั้นน่าจะไม่มีทางเป็นจริงได้ หนทางข้างหน้าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเอาเสียเลย!

Options

not work with dark mode
Reset