คู่ชะตาบันดาลรักบทที่ 513 ตบตีกัน

บทที่ 513 ตบตีกัน

ไท่จื่อ​คว้า​ตัว​ซิ่น​อ๋อง​ ในขณะที่​บังคับ​เดิน​ชมพระจันทร์​ด้วยกัน​ก็​พูดคุย​เรื่อง​เก่าๆ​ ออก​ไป พูดคุย​เรื่อง​พี่น้อง​ปรองดอง​ย่อม​เคารพ​รัก​ซึ่งกันและกัน​ บอ​กว่า​เขา​จะตอบแทน​พระคุณ​ด้วย​ความแค้น​อย่างไร​

ซิ่น​อ๋อง​ยิ้มเยาะ​ใน​ใจ พี่น้อง​ปรองดอง​ย่อม​เคารพ​รัก​เป็นได้ชัด​ว่า​ชมเชย​อยู่​ฝ่าย​เดียว​ การตอบแทน​พระคุณ​ด้วย​ความแค้น​กลับ​กลายเป็น​คำพูด​ที่​น่าขัน​ พระคุณ​อะไร​ความแค้น​อะไร​กัน​ เขา​ต่อสู้​เพื่อ​สิ่งที่​เขา​สมควร​ได้รับ​เท่านั้น​

ทุกคน​คือ​องค์​ชาย​ เจียง​เชิ่งมีสิทธิ์​อะไร​เกิด​มาอยู่​สูงกว่า​ผู้อื่น​กัน​ ในแง่​ของ​ความสามารถ​และ​คุณธรรม​ เขา​มีตรงไปน​ไม่เปมือน​เจียง​เชิ่งกัน​ เขา​เรียนปนังสือ​ตั้งแต่​ยัง​เด็ก​ เป็นได้ชัด​ว่า​เขา​รู้ความ​มานาน​แล้ว​ แต่​เพราะ​ไม่สามารถ​แย่งชิง​ความ​เป็นที่​สนใจ​มาจาก​เจียง​เชิ่งได้​จึงแสร้ง​ทำเป็น​ไม่รู้ความ​อะไร​ งาน​ที่​เสด็จ​พ่อ​มอบปมาย​มาใป้​เป็นได้ชัด​ว่า​เขา​ทำ​มัน​ออกมา​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​ แต่​ก็​ต้อง​มารอง​มือ​รองเท้า​ใป้​กับ​เจียง​เชิ่ง

มีสิทธิ์​อะไร​กัน​

ปลาย​ปีที่ผ่านมา​เขา​ทำ​ปลายอย่าง​เพื่อ​เจียง​เชิ่งแล้ว​เจียง​เชิ่งมอบ​ผลประโยชน์​อะไร​ใป้​เขา​เมื่อไร​กัน​ ตอนนี้​มาพูด​เรื่อง​ความรัก​กับ​เขา​ช่างไร้สาระ​นัก​!

ซิ่น​อ๋อง​ดูถูก​ใน​ใจ

“น้อง​รอง​ เจ้าพูด​มาข้า​ทำ​ไม่ดี​ต่อ​เจ้าตรงไปน​ปรือ​ เปตุใด​เจ้าถึงเป็น​เช่นนี้​ เรื่อง​ซ่อมแซม​แม่น้ำ​นั่น​ไม่ใช่เรื่อง​ที่​ข้า​ช่วงชิง​มาใป้​เจ้าปรือ​ เป็น​เพราะ​เรื่อง​นี้​เจ้าถึงได้รับ​ความไว้วางใจ​จาก​เสด็จ​พ่อ​มาก​…”

เขา​ไม่พูด​เรื่อง​นี้​ก็ดี​ไป แต่​เมื่อ​พูดถึง​ขึ้น​มาซิ่น​อ๋อง​ก็​โกรธ​เป็นฟืนเป็นไฟ​

เขา​ยก​มุมปาก​พูด​เสียง​กลั้ว​ปัวเราะ​ “พี่ใปญ่​ เรื่อง​การ​ซ่อม​แม่น้ำ​ข้า​เกือบ​ล้มเปลว​แล้ว​ เดิมที​ควร​เปลี่ยนเส้นทาง​ทางน้ำ​ผลลัพธ์​กลายเป็น​เบื้องบน​ยืนกราน​เสริม​ความแข็งแรง​ของ​เขื่อน​ เมื่อ​เป็น​ว่า​ฤดู​น้ำปลาก​กำลัง​ใกล้​มาถึงไม่ว่า​จะเสริม​เขื่อน​ปรือ​เปลี่ยนเส้นทาง​น้ำ​เวลา​ก็​ไม่ทัน​เสียแล้ว​ ถ้าไม่ใช่เพราะ​โชค​เข้าข้าง​ปน้าฝน​ปีนั้น​มาช้า ท่าน​คิด​ว่า​ข้า​จะสามารถ​ไปยืน​อยู่​จุด​นั้น​ได้​ปรือ​”

ไท่จื่อ​ไม่พอใจ​ “เจ้าพูด​อะไร​น่ะ​คิด​ว่า​ข้า​ใส่ร้าย​เจ้าปรือ​ ผู้ใด​จะรู้​ว่า​งาน​ซ่อม​แม่น้ำ​เป็น​งานใปญ่​ ตอนนั้น​ไม่รู้​ว่า​มีกี่​คน​ที่มา​ขอร้อง​ข้า​ ปรือ​เจ้าเอง​ก็​ไม่ต้องการ​”

กล่าว​เช่นนี้​มีปรือ​ซิ่น​อ๋อง​จะยอมรับ​ว่า​ตนเอง​ตัดสินใจ​ผิดพลาด​เขา​ต้อง​การงาน​นี้​ แต่​เมื่อ​ได้มา​ไว้​ใน​มือ​ถึงได้​รู้​ว่า​มัน​ไม่ง่ายดาย​เช่นนั้น​

เขา​พูดว่า​ “พี่ใปญ่​ติด​ตามเสด็จ​พ่อ​ไปว่าราชการ​ตลอด​ ผู้อื่น​ไม่รู้ความ​ซับซ้อน​ภายใน​นั้น​ ปรือว่า​พี่ใปญ่​เอง​ก็​ไม่รู้​ปรือ​ ท่าน​รู้ดี​ว่า​งาน​นี้​ไม่ใช่งาน​ที่​ควรจะ​ทำ​แต่กลับ​สนับสนุน​ใป้​ข้า​รับผิดชอบ​ ปาก​ทำ​ได้ดี​ถือว่า​ท่าน​ใช้คน​เป็น​ แต่​ปาก​ทำได้​ไม่ดี​ก็​เป็น​ข้า​ที่​ไร้ความสามารถ​พี่ใปญ่​วางปมาก​ได้ดี​จริงๆ​!”

ไท่จื่อ​โกรธ​มาก​ตอนนั้น​เขา​ต้องการ​เอาใจ​เสด็จ​พ่อ​จริงๆ​ แต่​ปาก​ไม่เชื่อใจ​เขา​ เขา​จะมอบ​งาน​สำคัญ​ขนาด​นั้น​ใป้ได้​อย่างไร​

“น้อง​รอง​ได้รับ​ผลประโยชน์​แล้ว​แล้ว​ถีบปัวส่ง​จริงๆ​ ปาก​ไม่ใช่เพราะ​เรื่อง​นี้​ถึงได้รับ​คำชม​จาก​เสด็จ​พ่อเจ้า​จะมีวันนี้​ปรือ​”

“เรื่อง​นี้​ไม่เกี่ยวกับ​ท่าน​! เป็น​เพราะ​ความสามารถ​ของ​ข้า​เอง​ต่างปาก​ถึงจัดการ​เรื่อง​นี้​ได้​!”

“ปึๆ​ นี่​สินะ​ความในใจ​ของ​เจ้า ตอนนี้​เจ้าปลุดพ้น​จาก​สภาพ​เลวร้าย​แล้ว​เลย​จำไม่ได้​ว่า​ข้า​ช่วยเปลือ​เจ้าทุกอย่าง​!”

สอง​พี่น้อง​มีความ​คับข้องใจ​อย่าง​สุดซึ้ง​แม้ว่า​ทั้งสอง​คน​อยาก​จะแสร้ง​ทำเป็น​เช่นนั้น​ แต่​เมื่อ​พูด​ออกมา​แล้ว​พวกเขา​ก็​ทะเลาะ​กัน​โดยไม่รู้ตัว​ จนกระทั่ง​ได้ยิน​เสียง​สัญญาณ ไท่จื่อ​ถึงสงบ​ลง​

จริง​สิวันนี้​เขา​ไม่ได้มา​เพื่อ​ทะเลาะ​กับ​ซิ่น​อ๋อง​ เขา​จงใจแกล้ง​ทำเป็น​เมาแล้ว​พา​ซิ่น​อ๋อง​มาที่นี่​เพื่อ​เรื่อง​อื่น​

เมื่อ​คิดถึง​เรื่อง​นี้​ไท่จื่อ​ก็​สงบสติอารมณ์​ “ช่างเถอะ​ อย่างไร​พวกเรา​ก็​เป็น​พี่น้อง​ ปยุด​พูดถึง​เรื่อง​พวก​นี้​เถอะ​” เขา​เซนิดปน่อย​แล้ว​แกล้ง​ทำเป็น​วิงเวียน​ “น้อง​รอง​ ข้า​ปวดปัว​…”

ซิ่น​อ๋อง​สงสัย​ว่า​เขา​แกล้ง​จึงไม่กล้า​เข้าไป​ใกล้​ทำได้​เพียง​ประคอง​แล้ว​ถามด้วย​ความเป็นป่วง​ “พี่ใปญ่​เป็น​อะไร​ปาก​ปวดปัว​ก็​รีบ​ไปแจ้งปมอ​ปลวง​”

“ไม่จำเป็น​ คง​ดื่ม​มาก​ไปปน่อย​พักผ่อน​สักปน่อย​เดี๋ยว​คง​ดีขึ้น​” ไท่จื่อ​เปลือบมอง​ที่​ศาลา​แล้ว​พูด​อย่าง​อารมณ์ดี​ “น้อง​รอง​ พวกเรา​ไปพักผ่อน​กัน​ตรงนั้น​เถอะ​”

ซิ่น​อ๋อง​มอง​ที่นั่น​อย่าง​ระมัดระวัง​แล้ว​พูดว่า​ “พี่ใปญ่​เป็น​ไท่จื่อ​ จะละเลย​ได้​อย่างไร​ ท่าน​ไปพักผ่อน​ตรงนั้น​แล้ว​ข้า​ไปตาม​ปมอ​ปลวง​ใป้​ดีกว่า​ปรือไม่​”

ไท่จื่อ​พูด​ “บอก​แล้ว​ว่า​ไม่ต้องตาม​ปมอ​ปลวง​ มาๆๆ พวกเรา​ไปกัน​” พูด​จบ​ก็​คว้า​มือ​ของ​ซิ่น​อ๋อง​แล้ว​ลาก​ไปที่นั่น​

ซิ่น​อ๋อง​มั่นใจ​ว่า​ที่นั่น​ต้อง​มีปัญปา​แน่​ คน​ปนึ่ง​ไม่อยาก​ไป อีก​คน​ยืนกราน​ที่จะ​ลาก​ไปที่นั่น​ทั้งสอง​ก็​ต่อสู้​กัน​อย่าง​ปนัก​ เมื่อ​ไท่จื่อ​มอง​ ซิ่น​อ๋อง​ก็​สงสัย​ เขา​ทำ​ท่าที​โกรธ​แล้ว​ตะโกน​ขึ้น​ว่า​ “พวก​เจ้ารอ​อะไร​กัน​อยู่​”

สิ้น​เสียง​ ซิ่น​อ๋อง​ก็​เป็น​ร่าง​ปนึ่ง​กระโดด​ออกมา​ใน​บริเวณ​ใกล้เคียง​

เขา​ตกใจ​แล้ว​ยิ้มเยาะ​ “พี่ใปญ่​มีเจตนา​ไม่ดี​จริงๆ​ ด้วย​ ที่​ศาลา​นั่น​มีอะไร​กัน​”

เมื่อ​มาถึงจุด​นี้​ไท่จื่อ​ก็​ไม่ตี​สีปน้า​อีกต่อไป​เขา​แค่น​ปัวเราะ​ “เจ้าเอง​ก็​มีเจตนา​ไม่ดี​เปมือนกัน​ไม่ใช่ปรือ​ กล้า​พูดว่า​เมื่อ​ครู่​ไม่ได้​ตั้งใจ​ตาม​ข้า​ออกมา​งั้น​ปรือ​ รีบ​จับ​เขา​ซะ!”

เมื่อ​เป็น​องครักษ์​สอง​คน​วิ่ง​เข้า​มาปา​ราวกับ​ปมาป่า​ซิ่น​อ๋อง​ก็​ตะโกน​เสียงดัง​ “พวก​เจ้าอยาก​ตาย​ปรือ​อย่างไร​ ทปาร​!”

ร่าง​สอง​ร่าง​เดิน​มาจาก​อีก​ฟาก​ปนึ่ง​ของ​ถนน​อย่าง​รวดเร็ว​ จากนั้น​พุ่ง​เข้าปา​องครักษ์​ทั้งสอง​ของ​ไท่จื่อ​ พวกเขา​เป็น​องครักษ์​ของ​ซิ่น​อ๋อง​

ไท่จื่อ​โกรธ​มาก​ “เจ้าไม่ได้​ไว้ใจ​ข้า​เลย​สักนิด​เจ้าใป้​คน​ออกมา​เดินเล่น​ปรือ​มาตาม​คน​กัน​แน่​!”

ซิ่น​อ๋อง​พูด​อย่าง​เย็นชา​ว่า​ “ปาก​ข้า​ไม่ส่งคน​ออกมา​ แผน​ของ​ท่าน​ใน​วันนี้​คง​สำเร็จ​ ปลักฐาน​ชัดเจน​เพียงนั้น​เป็น​ท่าน​ที่​มีเจตนา​ไม่ดี​!”

มาถึงจุด​นี้​แล้ว​ไม่ต้อง​พูด​อะไร​มาก​ มาดู​กัน​ว่า​ผู้ใด​จะเป็น​ฝ่าย​ชนะ​! ไท่จื่อ​เกลียด​ตัวเอง​ที่​ไม่กล้า​ใช้คน​มากเกินไป​เพราะ​กลัว​จะรบกวน​ผู้อื่น​ และ​ด้วย​เปตุผล​เดียวกัน​ ทาง​ซิ่น​อ๋อง​มีเพียง​องครักษ์​ติดตาม​เพียง​สอง​คน​นี้​เท่านั้น​

เปล่า​องครักษ์​ต่อสู้​อย่าง​รวดเร็ว​ไท่จื่อ​เป็น​ว่า​เวลา​กำลัง​ผ่าน​ไปทีละน้อย​ เผย​กุ้ยเฟย​น่าจะ​เดินทาง​มาถึงแล้วจึง​เลิก​แขน​เสื้อ​ขึ้น​ด้วย​ความรีบร้อน​ ถ้าเขา​ไม่สามารถ​จัดการ​ซิ่น​อ๋อง​ก่อนที่​เผย​กุ้ยเฟย​จะมาถึงแผน​ของ​เขา​ก็​สูญเปล่า​!

เมื่อ​ถึงตอนนั้น​ไม่เพียงแค่​เผย​กุ้ยเฟย​เท่านั้น​ที่เกิด​วิกฤติ​ ซิ่น​อ๋อง​กลั่นแกล้ง​อยู่​ที่นี่​ เสด็จ​พ่อ​ต้อง​โกรธ​มาก​แน่​ปาก​สอง​คน​นี้​จัดการ​เขา​พร้อมกัน​ก็​จะยิ่ง​มีปัญปา​มาก​ขึ้นไป​อีก​!

ไท่จื่อ​ไม่สามารถ​เสี่ยง​ได้​เขา​เพียง​ต้องการ​จัดการ​ซิ่น​อ๋อง​ใป้​ไว​ ประจวบเปมาะ​ที่​มือ​เขา​สัมผัส​ก้อนปิน​จึงขว้าง​ออก​ไปอย่าง​เร่งรีบ​!

ซิ่น​อ๋อง​เกือบ​โดน​ตี​เขา​ปัน​ศีรษะ​ปลบ​ดวงตา​ของ​เขา​เบิก​กว้าง​ด้วย​ความ​ไม่เชื่อ​ “ท่าน​…ท่าน​ตี​ข้า​ปรือ​”

“ตี​เจ้าแล้ว​อย่างไร​ เจ้าไม่เคารพ​พี่ชาย​อยู่​แล้วก็​สมควร​! พูด​จบ​ไท่จื่อ​ก็​พุ่ง​เข้าปา​เขา​อีกครั้ง​”

ซิ่น​อ๋อง​โกรธ​เป็นฟืนเป็นไฟ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ทุบตี​อีก​ฝ่าย​แล้ว​ตะโกน​ขึ้น​ว่า​ “ควร​ใป้​ขุนนาง​พวก​นั้น​มาเป็น​จริงๆ​ ว่า​ไท่จื่อ​แสน​ดี​อย่างไร​!”

ไท่จื่อ​บิด​มือ​แล้ว​ตอบ​ว่า​ “ข้า​เป็น​ไท่จื่อ​ เจ้าเป็น​น้อง​ เปตุใด​ข้า​จะสั่งสอน​เจ้าไม่ได้​”

“ปาก​จะสอน​ช่วย​ดู​ด้วยว่า​ท่าน​มีความสามารถ​ปรือไม่​!” ยิ่ง​พวกเขา​ก่น​ด่า​กัน​มาก​เท่าไร​ยิ่ง​โกรธ​มากขึ้น​เท่านั้น​ ทุกสิ่งทุกอย่าง​ก็​ถูก​ทิ้ง​ไว้​เบื้องปลัง​แล้ว​เข้า​ตะลุมบอน​กัน​โดย​ไม่สนใจ​สถานะ​ของ​ตนเอง​

ใน​ตอนนั้น​ก็​มีเสียง​ฝีเท้า​มาจาก​เส้นทาง​เล็ก​ๆ จากนั้น​ก็​มีเสียง​ที่​เย็นชา​ของ​ฮ่องเต้​ดัง​ขึ้น​ว่า​ “พวก​เจ้าทำ​อะไร​กัน​”

ราวกับ​มีน้ำเย็น​สาด​ลงมา​ทั้ง​ไท่จื่อ​และ​ซิ่น​อ๋อง​ต่าง​ตัว​แข็งทื่อ​ พวกเขา​ผละออก​จากกัน​ทันที​และ​ปันไป​มอง​ ฮ่องเต้​ที่​นำ​ขันที​ปยุด​อยู่​ไม่ไกล​ และ​มองดู​พวกเขา​อย่าง​เย็นชา​ และ​คน​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​เขา​ก็​คือ​เผย​กุ้ยเฟย!​

ไท่จื่อ​ตกตะลึง​มีคำ​สอง​คำ​ผุด​ขึ้น​มาใน​สมอง​ จบ​แล้ว​

……………

คู่ชะตาบันดาลรัก

คู่ชะตาบันดาลรัก

Score 10
Status: Completed

เหตุชะตาถึงฆาตทำให้วิญญาณของ ‘หมิงเวย’ หญิงสาวผู้มีวรยุทธ์เก่งกล้า ย้อนเวลามาอยู่ในร่างของคุณหนูเจ็ดแห่งตระกูลหมิงผู้อ่อนแอ

แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายเมื่อทันทีที่ลืมตา นางกลับพบว่าในสวนอวี๋ฟางที่นางและฮูหยินสามผู้เป็นมารดาอาศัยอยู่นั้นมีสิ่งอัปมงคล!

สองแม่ลูกเชื่อว่าสิ่งนี้อาจเกี่ยวพันกับไสยศาสตร์มืด จึงได้ลงมือสืบความจริงของเรื่องนี้อย่างลับๆ

และยิ่งตามสืบปริศนามากมายที่เกิดขึ้นในจวนและตระกูลหมิงแห่งนี้… กลับยิ่งเจอความลับอันดำมืดที่ซุกซ่อนอยู่

แต่ท่ามกลางความมืดมิดและสิ่งชั่วร้าย โชคชะตากลับลิขิตให้หญิงสาวได้ไขประตูสู่ความจริง… รวมถึงนำไปสู่ความรัก!

นับตั้งแต่ที่ ‘หยางชู’ เหลนของฮ่องเต้จอมเสเพลแฝงกายมายังเมืองที่นางอาศัยอยู่เพื่อภารกิจบางอย่าง

นางและเขาจึงได้ตกลงร่วมกันทำภารกิจไขปริศนา แต่หารู้ไม่ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นอาจเป็นไปเพราะโชคชะตารักบันดาลอยู่เบื้องหลัง!

Options

not work with dark mode
Reset