คู่ชะตาบันดาลรักบทที่ 505 เปิดโปง

บทที่ 505 เปิดโปง

“ที่ใด​กัน​” เมื่อ​เห็น​ว่า​เขา​ดู​สนใจ​อัน​อ๋อง​จึงพูด​ด้วย​ความตื่นเต้น​ “มาๆๆ ข้า​จะแสดง​คลังสมบัติ​ของ​เปิ่น​หวา​งให้​เจ้าดู​!”

ในที่สุด​หยาง​ชูก็​สนใจ​เขา​เดิน​คดเคี้ยว​ตาม​อีก​ฝ่าย​ไป ผ่าน​ต้นไม้​มากมาย​ใน​ตำหนัก​ไท่​หยวน​ ป่าที่นี่​เขียวขจี​จริงๆ​ ไม่น่าแปลกใจ​ที่​ราชวงศ์​ก่อน​จะสร้าง​เป็น​ตำหนัก​บรรทม​ของ​ไทเฮา​เป็น​สถานที่​ที่​ดี​ใน​การ​พักฟื้น​

อัน​อ๋อง​เดิน​ไปพูด​เสียง​เจื้อยแจ้ว​ไปว่า​ “ข้า​ไม่เหมือน​เจ้าตอน​เด็ก​ไม่มีผู้ใด​เล่น​ด้วย​ พี่ใหญ่​พี่​รอง​ก็​ไม่สนใจ​ข้าเจ้า​ก็​มัก​รังแก​ข้า​ก็​มีแต่​ขันที​น้อย​ที่​เล่น​เป็นเพื่อน​ แต่​พวกเขา​ก็​รู้สึก​เบื่อ​จึงจงใจละเลย​ข้า​ ต่อมา​ข้า​จึงต้อง​เล่น​เอง​ผู้เดียว​ใน​วัง​นี้​จึงไม่มีที่ใด​ที่​ข้า​ไม่รู้จัก​ ผู้อื่น​คิด​ว่า​ตำหนัก​ไท่​หยวน​นั้น​น่ากลัว​ แต่​จริงๆ​ แล้ว​น่าสนใจ​มาก​ มาๆๆ เจ้าดู​ที่นี่​…”

ทั้งสอง​มาถึงต้นไม้​ใหญ่​ที่​มีลักษณะ​คล้าย​คน​หลาย​คน​กอด​กัน​อัน​อ๋อง​ปีน​ขึ้นไป​ หยาง​ชูทน​มอง​ไม่ไหว​อีกต่อไป​จึงยก​เขา​ขึ้น​แล้ว​ใช้วิชา​ตัวเบา​ไม่นาน​ก็​ขึ้นไป​ถึงบน​ลำต้น​

“ก่อนหน้านี้​บอก​ให้​ท่าน​เรียน​วรยุทธ์​ท่าน​ก็​ไม่ฟัง!”

ทันทีที่​เท้า​ของ​อัน​อ๋อง​แตะ​พื้น​เขา​ก็​ปีน​ขึ้นไป​บน​กิ่งไม้​อย่าง​รวดเร็ว​แล้ว​พูดว่า​ “เจ้าก็​พูด​ง่าย​นะ​ก่อนหน้านี้​ข้า​ก็​เคย​บอก​เจ้าแล้ว​ว่า​ไม่มีผู้ใด​หา​อาจารย์​ให้​ข้า​เลย​! จากนั้น​…” เขา​ก้ม​มองหน้า​ท้องที่​ยื่น​ออกมา​

อัน​อ๋อง​ไม่ได้​เป็น​คน​อ้วน​ก็​แค่​เป็น​คน​กิน​เก่ง​ไม่คิด​อะไร​ รูปร่าง​จึงอวบ​เล็กน้อย​อย่าง​เลี่ยง​ไม่ได้​กำลังกาย​เช่นนี้​ให้​ทำงานหนัก​ก็​คง​เหนื่อย​เกินไป​

พูดถึง​เรื่อง​นี้​เขา​ยิ่ง​อิจฉา​หยาง​ชูมาก​ขึ้นไป​อีก​ เด็ก​คน​นี้​เกิด​มาตัว​สูงอีก​ทั้ง​ยัง​ได้รับ​การฝึกฝน​มาอย่าง​แข็งแกร่ง​ เมื่อ​มายืน​เคียงข้าง​เขา​การ​เปรียบเทียบ​นี้​ทำเอา​คน​มอง​แทบ​ร้องไห้​…

“ข้า​ฝึก​ตอนนี้​ยัง​ทัน​หรือไม่​”

หยาง​ชูคิด​ “อายุ​ของ​ท่าน​หาก​คิด​ฝึก​เป็นยอด​ฝีมือ​คง​ไม่ทัน​ แต่​หาก​เพื่อให้​ร่างกาย​แข็งแรง​ย่อม​ทำได้​อย่าง​น้อย​ก็​ช่วย​กำจัด​ไขมัน​หน้าท้อง​ท่าน​ได้​”

อัน​อ๋อง​พยักหน้า​ “ได้​ ข้า​จะกลับ​ไปลอง​”

ก่อนหน้านี้​เขา​ยัง​เด็ก​เกินไป​ไม่มีมารดา​ดูแล​ บิดา​ไม่สนใจ​ คิด​อยาก​ฝึก​วรยุทธ์​ก็​ไม่มีคน​เอาใจใส่​ เรื่อง​จึงจบ​แบบ​ไม่มีข้อสรุป​เช่นนี้​ ตอนนี้​เขา​มีจวน​เป็น​ของ​ตนเอง​แล้ว​ มีองครักษ์​มีผู้ช่วย​ คิด​จะหา​อาจารย์​มัน​ก็​ง่ายๆ​ ไม่ใช่หรือ​

อัน​อ๋อง​แหวก​ไม้เลื้อย​ที่​พัน​อยู่​บน​ต้นไม้​เผย​ให้​เห็น​รู​ขนาดเล็ก​ซึ่งข้างใน​มืด​จน​มองเห็น​อะไร​ไม่ชัดเจน​

“มีครั้งหนึ่ง​ข้า​ไปวิ่งเล่น​ใน​ตำหนัก​ไท่​หยวน​แล้ว​ไม่ระวัง​ตกลง​ไปใน​หลุม​นี้​ ข้างใน​มีอุโมงค์​สวรรค์​อื่น​อีก​ ต่อมา​ข้า​ตระหนัก​ว่า​นี่​อาจ​เป็น​ทางลับ​ของ​ราชวงศ์​ก่อน​ แต่​ข้า​ก็​ไม่ได้​บอก​ผู้ใด​เพราะ​คิด​ว่า​ไม่แน่​อาจ​มีสัก​วันที่​ต้อง​ใช้มัน​”

อัน​อ๋อง​หัวเราะเยาะ​ตนเอง​ “ข้า​พูด​เช่นนั้น​ไป แต่​ก็​รู้​ว่า​ไม่จำเป็นต้อง​ใช้หรอก​”

หยาง​ชูมอง​เขา​ด้วย​ความรู้สึก​ซับซ้อน​ ไม่…ท่าน​ได้​ใช้มัน​แล้ว​ ใน​ประวัติศาสตร์​ที่​หมิง​เวย​รู้​ อัน​อ๋อง​ได้​สังหาร​ไท่จื่อ​ และ​คิด​จะสังหาร​น้องชาย​ที่​เหลืออยู่​ จากนั้น​อัน​อ๋อง​ก็​อาศัย​ช่วง​ชุลมุน​หนี​ออกจาก​เมืองหลวง​

เดิมที​หยาง​ชูรู้สึก​ประหลาดใจ​ด้วย​เส้นสาย​ของ​อัน​อ๋อง​เขา​จะหลบหนี​ได้​อย่างไร​ เกรง​ว่า​เรื่อง​นี้​ต้อง​มีเรื่องราว​ภายใน​

เขา​ถาม “แล้ว​เหตุใด​ท่าน​ถึงบอก​ข้า​”

ซึ่งอัน​อ๋อง​ก็​คิดได้​ใน​ภายหลัง​ “จริง​ด้วย​ ตอน​เด็ก​เจ้ารังแก​ข้า​ไปไม่น้อย​ตามเหตุผล​แล้ว​ข้า​ควร​เกลียด​เจ้าถึงจะถูก​ แต่​พอ​เห็น​เจ้าเป็น​เช่นนี้​ข้า​ก็​รู้สึก​สงสาร​ บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​ข้า​ใจดี​เกินไป​!”

“หึๆ​!” หยาง​ชูแค่น​หัวเราะ​กับ​คำพูด​ยก​หาง​ตนเอง​ของ​อีก​ฝ่าย​

พอ​คิดดู​อีกที​อัน​อ๋อง​น่าจะเป็น​ผู้​ที่​เข้า​อก​เข้าใจ​คนอื่น​ เขา​ไร้​มารดา​ตั้งแต่​เด็ก​ เป็น​คน​ที่​บิดา​ไม่สน​มารดา​ไม่รัก​ และ​เขา​สัมผัส​ได้​ว่า​บิดา​มีความ​เป็น​ศัตรู​กับ​หลานชาย​คน​นี้​เล็กน้อย​ สถานการณ์​ของ​ทั้งสอง​ค่อนข้าง​คล้าย​กัน​

เมื่อ​นึกถึง​ประวัติศาสตร์​ที่​หมิง​เวย​เล่า​หยาง​ชูตัดสินใจ​ว่า​แค่​ทำให้​เขา​ไม่ขึ้น​เป็น​ฮ่องเต้​ก็​พอแล้ว​ขอ​เพียง​ไร้​อำนาจ​เขา​ก็​เป็น​คนดี​อยู่​

“มาๆๆ พวกเรา​เข้าไป​กัน​”

หยาง​ชูกลัว​ว่า​เขา​จะล้ม​จึงพูดว่า​ “ให้​ข้า​เข้าไป​ก่อน​หรือไม่​”

อัน​อ๋อง​เปิดทาง​ให้​แต่​โดยดี​ และ​มองดู​หยาง​ชูเข้าไป​ และ​เมื่อ​ตน​จะเข้าไป​บ้าง​ท้อง​ของ​เขา​ดัน​เกือบจะ​ติด​ เขา​จึงมีความมุ่งมั่น​ที่จะ​กลับ​ไปออกกำลังกาย​อีกครั้ง​มากขึ้น​

ข้างใน​มืดมิด​มาก​อัน​อ๋อง​เป่าไม้จุดไฟ​พกพา​ “ไป!”

ตอนแรก​คิด​ว่า​เป็น​รู​ต้นไม้​ แต่​เมื่อ​เท้า​เหยียบ​ลง​ไปพบ​ว่า​เป็นพื้น​จริงๆ​ มีทางลับ​อยู่​ที่นี่​จริงๆ​

ทั้งสอง​เดิน​ไปได้​สักพัก​อัน​อ๋อง​ก็​หยุด​ “ถึงแค่นี้​ก่อน​เถอะ​ข้างใน​ลึก​เกินไป​ข้า​ไม่กล้า​เดิน​ต่อ​ คิด​ว่า​น่าจะ​สามารถ​ออกจาก​วัง​ได้​พวกเรา​จากไป​นาน​แล้ว​ควร​รีบ​กลับ​ไป”

หยาง​ชูตอบรับ​ เขา​เอง​ก็​ไม่ต้องการ​ให้​เปิดเผย​ทางลับ​นี้​เพราะ​บางที​อาจ​มีโอกาส​ได้​ใช้มัน​

…………

พิธีกรรม​สิ้นสุด​อีก​วัน​ฮ่องเต้​กลับ​ไปพักผ่อน​แล้ว​ ส่วน​ไท่จื่อ​ก็​ไปพูดคุย​กับ​กุ้ยเฟย​ เขา​มีงาน​สำคัญ​อื่น​อีก​จึงต้อง​ออกจาก​วัง​ไปจัดการ​ แน่นอน​ว่า​เผย​กุ้ยเฟย​ตอบรับ​

เมื่อ​เขา​ออก​ไปเขา​ก็​เห็น​หญิง​ชรา​ถือ​ของ​ยืน​นิ่ง​อยู่​ข้าง​ถนน​ ร่างกาย​สั่นเทา​เล็กน้อย​ ใบหน้า​ชื้น​เหงื่อ​ดู​มีท่าทาง​หวาดกลัว​ ไปทำ​ความผิด​อะไร​มาหรือ​ไท่จื่อ​คิด​ แต่​ก็​ปล่อย​ผ่าน​ไปอย่าง​ไม่คิด​อะไร​

มีนางใน​คน​หนึ่ง​รีบ​วิ่ง​เข้ามา​เรียก​ “ท่าน​ยาย​ห​ร่วน​ ข้า​ให้​ท่าน​มาส่งของว่าง​ เหตุใด​ถึงเกือบ​เสียมารยาท​ต่อหน้า​กุ้ยเฟย​ด้วย​ข้า​ตกใจ​แทบตาย​!”

เสียง​ของ​นางใน​คน​นั้น​ชัดเจน​ ฝีเท้า​ของ​ไท่จื่อ​จึงช้าลง​โดยไม่ตั้งใจ​ และ​หันไป​มอง​ หญิง​ชรา​ผู้​นั้น​ตัวสั่น​ “แม่นาง​หลาน​จือ​ ข้า​…ดูเหมือน​ข้า​จะเห็น​คน​ที่​ตาย​ไปแล้ว​!”

นั่น​ทำให้​นางใน​หลาน​จือ​สงสัย​ “คนตาย​ไปแล้ว​อะไร​กัน​ต่อหน้า​กุ้ยเฟย!​ ท่าน​อย่า​พูด​ไร้สาระ​ออก​มานะ​ โชคดี​ที่​กุ้ยเฟย​นั้น​ใจกว้าง​ไม่พูด​อะไร​ท่าน​รีบ​กลับ​ไปเถอะ​ครั้งหน้า​อย่า​ทำตัว​เช่นนี้​อีก​!”

“อ้อ​…”

ไท่จื่อ​ใจเต้น​เขา​สั่งการ​องครักษ์​ว่า​ “ไปพา​ตัวนาง​มา อย่า​ให้​คนอื่น​เห็น​ได้​”

เมื่อ​ท่าน​ยาย​ห​ร่วน​เดิน​ออกจาก​ประตู​ แต่​เดิน​ไปได้​ไม่นาน​ก็​ถูก​องครักษ์​คน​หนึ่ง​รั้ง​ตัว​ไว้​ นาง​คุกเข่า​ลง​คิด​อยาก​จะหนี​ไปจาก​ตรงนี้​ไม่ต้องการ​ให้​องครักษ์​รั้ง​นาง​ไว้​

ท่าน​ยาย​ห​ร่วน​คิด​อะไร​บางอย่าง​ออก​นาง​มือ​สั่น​และ​โยน​ของ​ทุกอย่าง​ทิ้ง​ไป

“ใต้เท้า​ ข้า​ ข้า​ไม่รู้​อะไร​ทั้งนั้น​เจ้าค่ะ​! โปรด​เมตตา​ข้า​ด้วย​!”

เห็น​นาง​เป็น​เช่นนั้น​องครักษ์​ก็​ยิ่ง​สงสัย​จึงหลอก​ถามนาง​ “เมตตา​เจ้าหรือ​ เจ้ารู้​หรือว่า​ไปทำผิด​อะไร​มา”

ท่าน​ยาย​ห​ร่วน​ตกใจ​มาก​จน​พูด​สะเปะสะปะ “บ่าว​แก่​จน​ตา​เลอะเลือน​คิด​ว่า​มอง​ผิด​ไปเจ้าค่ะ​ กุ้ยเฟย​เหนียง​เหนียง​ไว้ชีวิต​ด้วย​!”

ไท่จื่อ​เดิน​เข้า​มาหา​ช้าๆ “เจ้าทำผิด​อะไร​ถึงต้อง​กลัว​กุ้ยเฟย​เหนียง​เหนียง​เพียงนั้น​ เมื่อ​ครู่​พูดว่า​คน​ที่​ตาย​แล้ว​หมายถึง​ผู้ใด​กัน​”

ท่าน​ยาย​ห​ร่วน​เข้าใจ​ในทันที​ว่า​ตน​พูด​อะไร​ผิด​ไปจึงคุกเข่า​ลง​ทันที​ “บ่าว​ผิด​ไปแล้ว​เจ้าค่ะ​ บ่าว​ไม่ได้​พูด​อะไร​เลย​ฝ่าบาท​ไว้ชีวิต​ด้วย​!”

ไท่จื่อ​มีสีหน้า​มืดครึ้ม​ “ทำไม​..เจ้ากลัว​กุ้ยเฟย​เหนียง​เหนียง​ แต่​ไม่กลัว​ข้า​งั้น​หรือ​”

เขา​ส่งสายตา​องครักษ์​จึงก้าว​ไปข้างหน้า​ ท่าน​ยาย​ห​ร่วน​กลัว​จน​หน้าซีด​นาง​พูด​ทันที​ว่า​ “บ่าว​ผิด​ไปแล้ว​เจ้าค่ะ​ เมื่อ​ครู่​บ่าว​ บ่าว​…”

“พูด​มา! คน​ที่​ตาย​ไปแล้ว​คือ​ผู้ใด​!”

ท่าน​ยาย​ห​ร่วน​ตอบ​ด้วย​ความตกใจ​ “เป็น​กุ้ยเฟย​เหนียง​เหนียง​เจ้าค่ะ​!”

ไท่จื่อ​พยักหน้า​ “ดี​ ข้า​ถามเจ้า เจ้าต้อง​ตอบ​ข้า​ ขอ​เพียง​เจ้าพูดความจริง​ออกมา​ ข้า​จะคิด​เสีย​ว่า​เรื่อง​นี้​ไม่เคย​เกิดขึ้น​”

“เจ้าค่ะ​ๆ” ท่าน​ยาย​ห​ร่วน​ตอบรับ​เสียง​รัว​

“เหตุใด​ถึงบอ​กว่า​กุ้ยเฟย​เหนียง​เหนียง​เป็น​คน​ที่​ตาย​ไปแล้ว​”

ท่าน​ยาย​ห​ร่วน​ตอบ​เสียง​สะดุด​ “เพราะ​ เพราะ​กุ้ยเฟย​เหนียง​เหนียง​เหมือน​คนใน​ความทรงจำ​ของ​บ่าว​มาก​”

“อ้อ​ ผู้ใด​”

“เป็น​…เป็น​…”

“รีบ​พูด​มา!” องครักษ์​เข้า​ไปหา​ด้วย​ท่าทาง​ดุร้าย​

ท่าน​ยาย​ห​ร่วน​โพล่ง​ออกมา​ว่า​ “หย่ง​ซีหวา​งเฟย​เจ้าค่ะ​!”

…………..

คู่ชะตาบันดาลรัก

คู่ชะตาบันดาลรัก

Score 10
Status: Completed

เหตุชะตาถึงฆาตทำให้วิญญาณของ ‘หมิงเวย’ หญิงสาวผู้มีวรยุทธ์เก่งกล้า ย้อนเวลามาอยู่ในร่างของคุณหนูเจ็ดแห่งตระกูลหมิงผู้อ่อนแอ

แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายเมื่อทันทีที่ลืมตา นางกลับพบว่าในสวนอวี๋ฟางที่นางและฮูหยินสามผู้เป็นมารดาอาศัยอยู่นั้นมีสิ่งอัปมงคล!

สองแม่ลูกเชื่อว่าสิ่งนี้อาจเกี่ยวพันกับไสยศาสตร์มืด จึงได้ลงมือสืบความจริงของเรื่องนี้อย่างลับๆ

และยิ่งตามสืบปริศนามากมายที่เกิดขึ้นในจวนและตระกูลหมิงแห่งนี้… กลับยิ่งเจอความลับอันดำมืดที่ซุกซ่อนอยู่

แต่ท่ามกลางความมืดมิดและสิ่งชั่วร้าย โชคชะตากลับลิขิตให้หญิงสาวได้ไขประตูสู่ความจริง… รวมถึงนำไปสู่ความรัก!

นับตั้งแต่ที่ ‘หยางชู’ เหลนของฮ่องเต้จอมเสเพลแฝงกายมายังเมืองที่นางอาศัยอยู่เพื่อภารกิจบางอย่าง

นางและเขาจึงได้ตกลงร่วมกันทำภารกิจไขปริศนา แต่หารู้ไม่ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นอาจเป็นไปเพราะโชคชะตารักบันดาลอยู่เบื้องหลัง!

Options

not work with dark mode
Reset