คู่ชะตาบันดาลรักบทที่ 502 เข้าวัง

บทที่ 502 เข้าวัง

เมื่อ​มาถึงวัน​จัด​พิธี​รถม้า​จวน​เยวี่ย​อ๋อง​ก็​มารับ​นาง​ที่​ตระกูล​จี้ จี้ฮูหยิน​ไม่รู้​ว่า​ไป​ได้ยิน​เรื่อง​สตรี​ชนชั้นสูง​จาก​ที่ใด​มา ซึ่งหมิง​เวย​เดา​ว่า​น่าจะเป็น​หนังสือ​นิทาน​ อีก​ฝ่าย​กำชับ​นาง​หลาย​เรื่อง​ซ้ำแล้วซ้ำอีก​

ตัวอย่างเช่น​ อย่า​ทาน​ของ​ที่​ผู้อื่น​ให้​มา อย่า​อยู่​คนเดียว​ ให้​นำ​เสื้อผ้า​ไป​เปลี่ยน​หลาย​ตัว​…ฟังจน​จี้ห​ลิง​ถึงกับ​แอบ​กลอกตา​ มารดา​ไม่รู้​ระดับ​ของ​น้อง​หญิง​หรือ​ วิธีการ​เหล่านี้​มีประโยชน์​ต่อ​นาง​ได้​อย่างไร​ แม้ใน​วัง​จะอันตราย​ แต่​นาง​ก็​สามารถ​มีชีวิต​อยู่​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​

หมิง​เวย​ได้รับ​การ​สั่งสอน​มาดี​นาง​พูด​อะไร​ก็​รับปาก​หมด​ให้​เตรียม​อะไร​ก็​นำ​ไป​ทุกอย่าง​ จากนั้น​ก็​ขึ้น​รถม้า​…

“พวกเรา​หลบ​หา​จุด​ที่​ไม่เตะตา​ปะปน​อยู่​ไป​เจ็ด​วัน​ก็​พอ​”

ตัว​ฝูถาม “แล้ว​เรื่อง​ที่​ฮูหยิน​พูด​…”

หมิง​เวย​พูด​ “ท่าน​ป้า​คง​อ่าน​นิทาน​มากเกินไป​ ข้า​ไม่ได้​บาดหมาง​อะไร​กับ​สตรี​ชนชั้นสูง​ อีก​อย่าง​ไม่มีความสัมพันธ์​ที่​เอื้อประโยชน์​กัน​ผู้ใด​จะมาสนใจ​ข้า​”

“อ้อ​…”

เมื่อ​เข้าใกล้​พระราชวัง​ จำนวน​รถม้า​ก็​เพิ่มขึ้น​ คราวนี้​เป็น​พิธี​ที่​ยิ่งใหญ่​ และ​สมาชิก​ราชวงศ์​หญิง​เกือบ​ทั้งหมด​เข้าร่วม​ด้วย​ หมิง​เวย​ยัง​เห็น​รถม้า​ของ​จวน​โป๋วห​ลิง​โหว​ รถม้า​ของ​นาง​จอด​อยู่​นอก​บริเวณ​รอบ​เขต​วัง​เพื่อ​รอ​เข้าไป​ด้านใน​ เกิด​เสียงเคาะ​ที่​ผนัง​รถม้า​

หมิง​เวย​เปิดม่าน​ และ​เห็น​หยาง​ชูขี่ม้า​ที่​จอด​อยู่​ข้างๆ​ กัน​ สถานการณ์​นี้​คุ้นเคย​เกินไป​จน​หมิง​เวย​หลุด​หัวเราะ​ออกมา​

“หัวเราะ​อะไร​”

“หัวเราะ​ท่าน​ที่ผ่านมา​สามปี​แล้ว​ไม่โต​ขึ้น​เลย​เจ้าค่ะ​” หมิง​เวย​มอง​เขา​ตั้งแต่​หัว​จรด​เท้า​

หยาง​ชูจำได้​ เหตุการณ์​เหมือน​ปี​นั้น​ที่​ตง​หนิง​ตอนที่​เดินทาง​ไป​วัด​เป่า​ห​ลิง​

เวลา​ผ่าน​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​สามปี​ผ่าน​ไป​ใน​พริบตา​

หลัง​หัวเราะ​เสร็จ​หมิง​เวย​ก็​ถามว่า​ “ด้านใน​มีอะไร​ต้อง​ใส่ใจหรือไม่​เจ้าคะ​” นาง​เหลือบมอง​ไป​ทาง​ประตู​วัง​

หยาง​ชูตอบ​ “ตามใจ​ท่าน​”

หมิง​เวย​พยักหน้า​ “เข้าใจ​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

หยาง​ชูคิด​จะพูด​บางอย่าง​ แต่​เสียง​ของ​อัน​อ๋อง​ก็​ดัง​มาจาก​ด้านหลัง​

เขา​หัน​กลับมา​และ​พูดว่า​ “ข้า​ไป​ก่อน​นะ​”

“เจ้าค่ะ​”

เขา​หัน​หัว​ม้าจากนั้น​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​หันกลับ​ไป​พูด​อย่าง​รวดเร็ว​ว่า​ “วันนี้​ท่าน​งดงาม​มาก​” แล้ว​เขา​ก็​วิ่ง​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ราวกับ​ถูก​ไล่ล่า​ หมิง​เวย​ใช้เวลา​ตอบสนอง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​

เมื่อก่อน​นาง​ไม่งามหรือ​อย่างไร​ เพราะ​วันนี้​เป็น​งานพิธี​นาง​จึงแต่งตัว​เรียบร้อย​เป็นพิเศษ​ เสี่ยว​ถงที่​ถูก​ส่งให้​มากับ​รถม้า​ด้วย​มองดู​ท่าน​อ๋อง​ของ​ตน​วิ่งหนี​ไป​ก็​พยักหน้า​ด้วย​ความ​โล่งอก​ นาง​ยิ้ม​ราวกับ​รอยยิ้ม​ของ​มารดา​ก็​ไม่ปาน​

อืม​…ท่าน​อ๋อง​เป็น​เช่นนี้​ต่างหาก​ถึงเรียก​ว่า​มีความสุข​!

ทาง​ด้าน​อัน​อ๋อง​เห็น​หยาง​ชูกำลัง​มาก็​โบกมือ​และ​ตะโกน​ว่า​ “หลานชาย​ ทาง​นี้​!”

สีหน้า​ของ​หยาง​ชูมืดครึ้ม​ แม้หาก​นับ​ตามลำดับ​ผู้อาวุโส​แล้ว​พวกเขา​มีศักดิ์​เป็น​อา​หลาน​กัน​ แต่​ถูก​เรียก​ต่อหน้า​ผู้คน​มากมาย​เช่นนั้น​ช่างน่าอาย​นัก​!

“จะตะโกน​เสียงดัง​ไป​ทำไม​กัน​” เขา​ทำ​หน้า​มึน​ “ข้า​ไม่ได้​หูหนวก​เสียหน่อย​”

“ก็​ไม่ได้​กลัว​เจ้าไม่ได้ยิน​หรอก​นะ​” อัน​อ๋อง​โอบ​ไหล่​มอง​เขา​ด้วย​ความรักใคร่​มาก​แล้ว​เพ​ยิด​หน้า​ไป​ทาง​หมิง​เวย​ “เห็น​เจ้าเป็น​เช่นนี้​แล้ว​เหตุใด​ไม่รีบ​แต่ง​ให้​เร็ว​ๆ ล่ะ​ ตอนนี้​แม้แต่วัน​ก็​ยัง​ไม่ได้​กำหนด​พวก​เจ้าสอง​คน​ไม่เด็ก​แล้ว​นะ​!”

เขา​เด็ก​กว่า​หยาง​ชูสอง​ปี​ตอนนี้​แม้แต่​สตรี​คู่​หมาย​ก็​มีแล้ว​

หยาง​ชูมีสีหน้า​หดหู่​ “ท่าน​คิด​ว่า​ข้า​ไม่อยาก​หรือ​ แต่​ท่าน​ราชครู​บอ​กว่า​ชะตา​ของ​ข้า​แข็ง​เกินไป​ ทาง​ที่​ดี​ที่สุด​รอ​สัก​สอง​สามปี​แล้ว​ค่อย​แต่งงาน​ให้​โชคชะตา​พลิกผัน​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​”

“อีก​สอง​สามปี​เลย​หรือ​” อัน​อ๋อง​เห็นใจ​เขา​ “อายุ​ใน​ตอนนี้​…เจ้าทน​ได้​หรือ​”

หยาง​ชูปฏิเสธ​ที่จะ​ตอบคำถาม​นี้​ เป็นเรื่อง​ที่​ชวน​เจ็บใจ​มีผู้ใด​เป็น​เช่นนี้​บ้าง​

เมื่อ​เห็น​ว่า​เขา​ยังคง​มอง​ย้อนกลับ​ไป​อัน​อ๋อง​ก็​คว้า​ตัว​เขา​แล้ว​พูดว่า​ “พอได้​แล้ว​ ดู​อะไร​อีก​! ข้า​ให้​หวา​งเฟย​ช่วยดูแล​นาง​แล้ว​ไม่มีอะไร​หรอก​”

หยาง​ชูคิดในใจ​เขา​ไม่ได้​กังวล​ว่า​จะเกิดเรื่อง​ขึ้นกับ​นาง​…แต่​ก็​ยอม​เดินตาม​อัน​อ๋อง​แต่​โดยดี​

เมื่อ​หมิง​เวย​เข้าไป​ใน​ประตู​วัง​ก็​มีขันที​มารอ​รับ​อยู่แล้ว​เมื่อ​ทำความเคารพ​นาง​เสร็จ​ก็​นำ​นาง​ไป​ทาง​ทิศตะวันตก​

สถานที่​จัด​พิธี​ใน​ครั้งนี้​คือ​ตำหนัก​ไท่​หยวน​ ตำหนัก​แห่ง​นี้​ซึ่งเคย​เป็นที่​ประทับ​ของ​ไทเฮา​ ครอง​พื้นที่​ขนาดใหญ่​ ซึ่งมีต้นไม้​ ดอกไม้​ และ​พืชพรรณ​มากมาย​รอบ​ๆ ซึ่งเงียบสงบ​มาก​

อย่างไรก็ตาม​หลัง​ฮองเฮา​คู่​พระทัย​ของ​ไท่​จู่เสด็จสวรรคต​ก็​ไม่มีผู้ใด​รับ​ตำแหน่ง​ต่อ​ ราชวงศ์​นี้​จึงไม่มีไทเฮา​ ตำหนัก​แห่ง​นี้​จึงถูก​ปล่อย​ร้าง​ไว้​ตลอด​

หมิง​เวย​และ​อัน​อ๋อง​เฟย​เดินทาง​มาถึงใน​เวลา​ใกล้เคียง​กัน​ อัน​อ๋อง​เฟย​ที่​เคย​ได้ยิน​ว่า​ดุร้าย​มาก​เข้ามา​ทักทาย​

นาง​ดู​ต่าง​จาก​ข่าวลือ​ อัน​อ๋อง​เฟย​ผู้​นี้​เกิด​มาตัวเล็ก​ เตี้ย​กว่า​หมิง​เวย​เล็กน้อย​ แต่​หน้าตา​งดงาม​ ใบหน้า​กลม​ เมื่อ​นาง​ยิ้ม​จะปรากฏ​ลักยิ้ม​สอง​ข้าง​ ดู​อ่อนโยน​และ​เป็นมิตร​

ยาม​นาง​พูดคุย​เสียง​ของ​นาง​อ่อนโยน​ตาม​ฉบับ​ของ​แม่นาง​ที่​มาจาก​ทางใต้​

หมิง​เวย​ครุ่นคิด​ อัน​อ๋อง​เลือก​หวา​งเฟย​ผู้​นี้​อาจ​เป็น​เพราะ​ถูก​รูปลักษณ์​ของ​นาง​หลอก​เข้า​ แต่​ผู้ใด​จะรู้​ว่า​สตรี​ตัวเล็ก​ที่​แค่​ผลัก​ก็​ล้ม​แล้​วจะ​มีบุคลิก​ที่​ดุร้าย​เช่นนี้​ได้​

เมื่อ​ทั้งสองฝ่าย​ทำความเคารพ​ทักทาย​กัน​อัน​อ๋อง​เฟย​พูดว่า​ “ท่าน​อ๋อง​ของ​ข้า​บอ​กว่า​คุณหนู​หมิง​ชีเข้า​วัง​เป็นครั้งแรก​เกรง​ว่า​จะไม่คุ้นเคย​จึงให้​ข้า​มาดูแล​”

หมิง​เวย​กล่าว​ขอบคุณ​อย่าง​จริงใจ​ “ขอบ​พระทัย​หวา​งเฟย​ ขอบ​พระทัย​อัน​อ๋อง​มาก​เพคะ​”

อัน​อ๋อง​เฟย​ยิ้ม​ “ขอบคุณ​อะไร​กัน​พวกเรา​เป็น​ครอบครัว​เดียวกัน​ มา พวกเรา​เข้าไป​กัน​เถอะ​”

ภายใน​ตำหนัก​ไท่​หยวน​ได้​มีการ​จัด​สถานที่​เอาไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ ห้องโถง​ใหญ่​เป็น​สถานที่​ที่​เหล่า​นักพรต​จาก​เสวียน​ตูก​วัน​มาทำพิธี​ เหล่า​สมาชิก​ฝ่าย​หญิง​จะถูก​แบ่ง​ออก​ไป​ยัง​ห้องโถง​ข้างๆ​ หลาย​ห้อง​ซึ่งอยู่​ไกล​กัน​จึงไม่จำเป็นต้อง​พบ​พวกเขา​ เพียงแค่​สวดมนต์​ตาม​ไป​ก็​พอ​

ใน​เมื่อ​ฮ่องเต้​ทรง​มีเมตตา​จึงไม่เข้มงวด​ ห้องโถง​ข้าง​มีทุกอย่าง​พร้อม​เสร็จสรรพ​ อีก​ทั้ง​ยังมี​สถานที่​ให้​พักผ่อน​ หมิง​เวย​สำรวจ​ดู​แล้ว​พบ​ว่า​เงื่อนไข​สถานที่​นี้​ดีมาก​ ดูเหมือนว่า​เจ็ด​วันนี้​จะไม่ลำบาก​แล้ว​

อัน​อ๋อง​เฟย​พา​นาง​ไป​คารวะ​ผู้ใหญ่​ เผย​กุ้ยเฟย​อยู่​ด้านหลัง​ห้องโถง​ เหล่า​สนม​ทั้งหลาย​ก็​อยู่​ที่นี่​ด้วย​ไท่จื่อเฟย​ และ​ซิ่น​อ๋อง​เฟย​เอง​ก็​อยู่​

อัน​อ๋อง​เฟย​และ​หมิง​เวย​เดิน​เข้ามา​แล้ว​ทำความเคารพ​ ฮุ่ย​เฟย​ยิ้ม​ “ครอบครัว​มากัน​ครบ​แล้ว​”

เผย​กุ้ยเฟย​คุย​กับ​อัน​อ๋อง​เฟย​ไม่กี่​คำ​นาง​ก็​หัน​มาหา​หมิง​เวย​ให้​พวก​นาง​ทำตัว​ตามสบาย​ ไม่แสดง​ความรักใคร่​ผู้ใด​เป็นพิเศษ​ หมิง​เวย​เดินตาม​ไท่จื่อเฟย​และ​คนอื่นๆ​ ออกจาก​หลัง​ห้องโถง​

เมื่อ​อยู่​ห่าง​จาก​สายตา​ผู้อาวุโส​ไท่จื่อเฟย​ก็​กวักมือ​เรียก​อัน​อ๋อง​เฟย​จากนั้น​ก็​พูดคุย​กัน​อย่าง​สนิทสนม​ แม้ว่า​ไท่จื่อ​และ​ซิ่น​อ๋อง​อายุ​พอๆ กัน​ อัน​อ๋อง​ก็​อายุ​น้อยกว่า​มาก​ แต่​ตอนนี้​ไท่จื่อเฟย​เป็น​จี้เฟย[​1] มีอายุ​ใกล้เคียง​กับ​อัน​อ๋อง​เฟย​จึงเกิด​มิตรภาพ​ใน​หมู่​สตรี​

ซิ่น​อ๋อง​เฟย​ดู​แก่​กว่า​พวก​นาง​สอง​ถึงสามปี​นาง​จึงไม่ได้​พูด​อะไร​

ทั้ง​สี่มาถึงห้องโถง​ด้าน​ข้าง​ที่​จัดเตรียม​ไว้​สำหรับ​พวก​นาง​หมิง​เวย​เห็น​พี่น้อง​ตระกูล​เห​วิน​ที่​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​

ไท่จื่อเฟย​ยิ้ม​ให้​นาง​และ​พูดว่า​ “ได้ยิน​ว่า​คุณหนู​หมิง​ชีเป็น​สหาย​ร่วม​ชั้น​กับ​เห​วิน​เป่า​หลิน​ ตอนนี้​พิธี​ยัง​ไม่เริ่ม​ท่าน​ไป​ระลึก​ความหลัง​กัน​ก่อน​ได้​”

หมิง​เวย​กล่าว​ขอบคุณ​ แต่​ใน​ใจกลับ​รู้สึก​แปลก​ๆ ให้​นาง​ไป​คุย​กับ​สอง​พี่น้อง​ตระกูล​เห​วิน​ฆ่าเวลา​นับว่า​เป็นการ​ดูถูก​หรือไม่​ นาง​หมด​ความอดทน​กับ​ความคิด​ที่​ไร้​ความหมาย​เช่นนี้​จริงๆ​

ช่างเถอะ​ แค่​เจ็ด​วัน​ก็​ทน​ๆ ไป​

เห​วิน​หรู​เข้ามา​ทำความเคารพ​นาง​แล้ว​พูดว่า​ “ได้ยิน​ว่า​ท่าน​กลับ​เมืองหลวง​นาน​แล้ว​ น่าเสียดาย​ที่​ข้า​ไม่สะดวก​ออก​ไป​ข้างนอก​จึงไม่สามารถ​นัด​พบกัน​ได้​ หวัง​ว่า​ท่าน​จะไม่โกรธเคือง​กัน​”

นาง​สุภาพ​เช่นนี้​ แน่นอน​หมิง​เวย​ก็​ต้อง​ไว้หน้า​นาง​ แม้เห​วิน​อิ๋ง​จะไม่เต็มใจ​แต่​นาง​ก็​ทำความเคารพ​ตาม​ หมิง​เวย​เห็น​ว่า​นาง​สงบ​ขึ้น​มาก​จึงเดา​ว่า​คง​ถูก​ชำระความ​แล้วจึง​ถอนหายใจ​เงียบๆ​ ใน​ใจก็​รู้สึก​สงสาร​อยู่​บ้าง​

เมื่อ​ครั้ง​ที่อยู่​สถานศึกษา​หมิง​เฉิง สอง​พี่น้อง​ตระกูล​เห​วิน​นั้น​หยิ่งผยอง​ แต่​ตอนนี้​ผู้​หนึ่ง​อ่อนโยน​สง่างาม อีก​คน​เงียบขรึม​ไม่พูด​อะไร​ หาก​เป็นนิสัย​ของ​พวก​นาง​อยู่แล้ว​ก็ช่าง​ไป​แต่​หาก​เป็น​เพราะ​ถูก​บีบ​ให้​ทำตัว​เช่นนี้​ก็​ออกจะ​น่าเบื่อ​ไป​หน่อย​

เด็กผู้หญิง​เมื่อ​เติบโต​ขึ้น​ถึงเวลา​ต้อง​เรียนรู้​ที่จะ​เคารพ​ และ​ยับยั้งชั่งใจ​ แต่​นั่น​ควร​ให้​ชีวิต​ได้​สอน​พวก​นาง​ไม่ใช่วิธีการ​ของ​หลัง​เรือน​

……………

คู่ชะตาบันดาลรัก

คู่ชะตาบันดาลรัก

Score 10
Status: Completed

เหตุชะตาถึงฆาตทำให้วิญญาณของ ‘หมิงเวย’ หญิงสาวผู้มีวรยุทธ์เก่งกล้า ย้อนเวลามาอยู่ในร่างของคุณหนูเจ็ดแห่งตระกูลหมิงผู้อ่อนแอ

แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายเมื่อทันทีที่ลืมตา นางกลับพบว่าในสวนอวี๋ฟางที่นางและฮูหยินสามผู้เป็นมารดาอาศัยอยู่นั้นมีสิ่งอัปมงคล!

สองแม่ลูกเชื่อว่าสิ่งนี้อาจเกี่ยวพันกับไสยศาสตร์มืด จึงได้ลงมือสืบความจริงของเรื่องนี้อย่างลับๆ

และยิ่งตามสืบปริศนามากมายที่เกิดขึ้นในจวนและตระกูลหมิงแห่งนี้… กลับยิ่งเจอความลับอันดำมืดที่ซุกซ่อนอยู่

แต่ท่ามกลางความมืดมิดและสิ่งชั่วร้าย โชคชะตากลับลิขิตให้หญิงสาวได้ไขประตูสู่ความจริง… รวมถึงนำไปสู่ความรัก!

นับตั้งแต่ที่ ‘หยางชู’ เหลนของฮ่องเต้จอมเสเพลแฝงกายมายังเมืองที่นางอาศัยอยู่เพื่อภารกิจบางอย่าง

นางและเขาจึงได้ตกลงร่วมกันทำภารกิจไขปริศนา แต่หารู้ไม่ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นอาจเป็นไปเพราะโชคชะตารักบันดาลอยู่เบื้องหลัง!

Options

not work with dark mode
Reset