คู่ชะตาบันดาลรักบทที่ 463 รางวัล

บทที่ 463 รางวัล

วัน​ต่อมา​มีการหารือ​กัน​ภายใน​ราชสำนัก​ แน่นอน​ว่า​หัวข้อ​หลัก​ของ​วันนี้​เป็นเรื่อง​ชัยชนะ​ครั้ง​ใหญ่​ที่​ซีเป่ย​ไม่ว่า​ก่อนหน้า​จะมีเรื่องสำคัญ​มากมาย​เพียงใด​ก็​ต้อง​เลื่อน​ออก​ไป​ก่อน​

รายงาน​สงคราม​ของ​จงซู่เขียน​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​หู​เห​ริน​ถอยทัพ​ออก​ไป​หลาย​ร้อย​ลี้​ทำให้​ยึด​เอา​เหลียง​ชวน​มาได้​ หาก​เปลี่ยน​พรมแดน​สิ่งอำนวยความสะดวก​ทั้งหมด​ควร​ตามมา​

เช่น​ การสร้างเมือง​ การ​ตั้ง​ด่าน​ วาง​กำลัง​ทหาร​ สร้าง​ถนน​ทางการ​ เปิด​ถนน​…สิ่งเหล่านี้​ก็​เพียง​พอแล้ว​สำหรับ​ที่ว่าการ​ที่​เกี่ยวข้อง​ที่จะ​ยุ่ง​เป็นเวลา​สอง​สามเดือน​ แม้จะเสนอ​ต่อหน้า​ฮ่องเต้​เพื่อ​หารือ​เกี่ยวกับ​การตัดสินใจ​ที่​สำคัญ​บางอย่าง​ แต่​ก็​ยัง​ยุ่ง​อยู่​จนถึง​บ่าย​

ประเด็น​สุดท้าย​คือ​รางวัล​ รางวัล​ใหญ่​สำหรับ​ตระกูล​จงเป็นที่​แน่นอน​แล้ว​ กัว​สวี่​ถูก​ย้าย​กลับมา​ทำงาน​ใน​ราชสำนัก​อีกครั้ง​โดย​ไม่ต้องสงสัย​ แต่​ขุนนาง​ผู้​มีคุณูปการ​อีก​คน​จะตอบแทน​อย่างไร​ ขุนนาง​ทั้งหลาย​ยัง​ตัดสินใจ​ไม่ได้​

เจ้าหน้าที่​กระทรวง​พิธีการ​พูด​ด้วย​ความลังเล​ “เจ้าหน้าที่​หยาง​ผู้ดูแล​สนามม้า​มีความดี​ความชอบ​อัน​ใหญ่หลวง​ตาม​กฎ​แล้ว​ต้อง​มอบ​ตำแหน่ง​โหว​”

นอกจาก​ตำแหน่ง​อัน​มีเกียรติ​อย่าง​เฉิงเอิน​โหว​แล้ว​ โหว​ที่​มีจาก​การ​สร้าง​คุณงามความดี​ทางการทหาร​เป็นที่​ชัดเจน​แล้ว​ แต่​ท่าที​ของ​ฮ่องเต้​ยังคง​คลุมเครือ​ และ​ขุนนาง​ทั้งหลาย​ที่อยู่​ข้าง​กาย​เขา​ก็​ไม่ได้​โง่ ข่าวลือ​ล่าสุด​ทำให้​ฮ่องเต้​ไม่พอ​พระทัย​อย่าง​มาก​ผู้ใด​กล้า​กล่าวถึง​ก็​เป็น​ไอ้​โง่แล้ว​!

เมื่อ​คิด​เช่นนั้น​ก็​ดัน​มีไอ้​โง่ขึ้น​มาจริงๆ​

“ทูล​ฝ่าบาท​ใน​เมื่อ​ต้อง​มอบ​รางวัล​ให้​เจ้าหน้าที่​หยาง​ผู้ดูแล​สนามม้า​ก็​ควร​จัดการ​เรื่อง​ข่าวลือ​เสีย​ก่อน​ เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​สายเลือด​ของ​ราชวงศ์​ ฝ่าย​กบฏ​หลอกลวง​ผู้คน​หาก​ไม่จัดการ​เกรง​ว่า​ศักดิ์ศรี​ของ​ราชวงศ์​จะเสียหาย​พ่ะย่ะค่ะ​”

ยังมี​คนโง่​อีก​คนรับ​ช่วงต่อ​ “จัดการ​ข่าวลือ​งั้น​หรือ​ ก่อนหน้านี้​ศาลา​ว่าการ​ได้​จับกุม​กลุ่มคน​ที่​ปล่อย​ข่าวลือ​ แต่​แทนที่จะ​หยุดยั้ง​ได้​ข่าวลือ​กลับ​ทวี​ความรุนแรง​ขึ้น​ เดิมที​เป็น​คำพูด​ที่​น่าขบขัน​ ไม่มีแหล่งที่มา​ แต่​พวกเรา​กลับ​เก็บ​เอา​มาใส่ใจจน​ทำให้​ผู้อื่น​คิด​ว่า​มัน​เป็น​เรื่องจริง​”

คนโง่​คน​ต่อมา​พูดว่า​ “จะไม่ให้​ใส่ใจได้​อย่างไร​ท่าน​ไม่เห็น​หรือว่า​สถานการณ์​ภายนอก​เป็น​อย่างไร​! ราชสำนัก​เพิกเฉย​เหมือน​คน​กลัว​ความผิด​!”

คนโง่​คน​แรก​คล้อยตาม​ “ใช่ ข่าวลือ​มาถึงจุด​นี้​แล้ว​ไม่ว่า​อะไร​ก็​ควรจะ​มีคำอธิบาย​ ฝ่าบาท​…ได้​โปรด​ออก​พระ​ราชโองการ​ด้วย​เถิด​พ่ะย่ะค่ะ​”

“ฝ่าบาท​เป็น​โอรส​สวรรค์​ที่​แท้จริง​! การ​ที่​ต้อง​ออก​ราชโองการ​เพียง​เพราะ​ข่าวลือ​บางอย่าง​ แล้ว​ศักดิ์ศรี​ของ​ฝ่าบาท​จะอยู่​ที่ใด​กัน​!”

เหล่า​คนโง่​ทะเลาะ​กัน​ อาการ​ปวด​พระเศียร​ของ​ฮ่องเต้​ดีขึ้น​ แต่​เมื่อ​ฟังพวกเขา​ทะเลาะ​กัน​ก็​อด​เลิกคิ้ว​ไม่ได้​

โส่วเซี่ยง​หลู่​เซียง​ตะโกน​ขึ้น​ “ทะเลาะ​อะไร​กัน​ อยู่​ใน​ท้องพระโรง​พูด​ให้​ดี​ๆ หน่อย​!” จากนั้น​ก็​หันไป​ขอ​คำแนะนำ​ “ฝ่าบาท​พ่ะย่ะค่ะ​”

ฮ่องเต้​ได้​รับสัญญาณ​ทาง​สายตา​จาก​อีก​ฝ่าย​ก็​รู้​ว่า​คง​หนี​ไม่พ้น​แล้วจึง​ออกคำสั่ง​ “ร่าง​ราชโองการ​”

คนโง่​คน​แรก​คิด​ว่า​ตน​ชนะ​จึงรู้สึก​ภาคภูมิใจ​

แต่​ไม่คิด​ว่า​สิ่งที่​ฮ่องเต้​ตรัส​จะเป็น​ “โศกนาฏกรรม​ของ​ราชวงศ์​ใน​อดีต​เป็นที่​รู้กัน​ทั่วหล้า​ เสด็จ​พี่ใหญ่​ของ​เจิ้น​ประสบ​เคราะห์ร้าย​ และ​ทุก​คนใน​ครอบครัว​เสียชีวิต​ โชคดี​ที่​หย่ง​ซีหวา​งเฟย​ได้​ให้กำเนิด​บุตร​ในขณะที่​กำลังจะ​ตาย​จึงเหลือ​สายเลือด​ไว้​หนึ่ง​คน​ ฮ่องเต้​องค์​ก่อน​สูญเสีย​พระราชโอรส​อัน​เป็นที่​รักเพราะ​กลัว​ว่า​ผู้​เป็น​เหลน​จะเสียชีวิต​ก่อน​วัย​อัน​ควร​ พี่​หญิง​ใหญ่​ผู้​มีเมตตา​จึงรับ​เหลน​มาอยู่​ใน​ความดูแล​ของ​ตนเอง​ แต่​พวก​กบฏ​กลับ​ไม่รู้ความ​ตีความ​ความเมตตา​ของ​ฮ่องเต้​องค์​ก่อน​ผิด​ไป​ หลอกลวง​ประชาชน​ วันนี้​เจิ้น​จะประกาศ​ให้​ทั่วหล้า​ได้​รับรู้​ คืน​พระนาม​ และ​พา​เขา​กลับ​เข้า​ราชวงศ์​ จุด​ธูป​ไหว้​เสด็จ​พี่ใหญ่​ และ​ฮ่องเต้​องค์​ก่อน​ที่อยู่​บน​สวรรค์​ และ​พวก​ที่​พูดจา​มั่วซั่ว​ไม่คำนึงถึง​ความจริง​ทำให้​ประชาชน​สับสน​จะถูก​ลงโทษ​ขั้น​ร้ายแรง​!”

ใน​ท้องพระโรง​อัน​กว้างขวาง​มีเพียง​เสียง​ของ​ฮ่องเต้​เท่านั้น​ที่​ก้องกังวาน​เหล่า​ขุนนาง​ที่​ไม่ได้​รับสัญญาณ​ใดๆ​ ต่าง​ตกตะลึง​ ขุนนาง​ผู้​ร่าง​พระ​ราชโองการ​แทบ​จับ​พู่กัน​ไว้​ไม่อยู่​

อะไร​นะ​…พวกเขา​ทั้งหมด​คิด​ว่า​จุดประสงค์​ของ​การ​ร่าง​พระ​ราชโองการ​คือ​การชี้แจง​ข่าวลือ​มัน​จะกลายเป็น​…เรียก​กลับ​ราชวงศ์​ได้​อย่างไร​

นี่​เล่น​ละคร​อะไร​กัน​

แม้ว่า​จะมีข่าวลือ​ออกมา​ และ​พวกเขา​บางคน​ก็​สงสัย​ใน​ตัวตน​ของ​บุคคล​นั้น​จริงๆ​ แต่​ไม่มีผู้ใด​คิด​ว่า​ฮ่องเต้​จะให้​เขา​กลับ​เข้า​ราชวงศ์​! ดังนั้น​จากนี้ไป​คุณชาย​หยาง​ผู้​นั้น​จะเป็นสมาชิก​ของ​ราชวงศ์​ใช่หรือไม่​

ฮ่องเต้​เพียง​กล่าว​ต่อไป​ว่า​ “บันทึก​นาม​แท้จริง​ของ​เขา​ใน​แผนภูมิ​หยก​ประจำ​ราชวงศ์​ กระทรวง​พิธีการ​แต่งตั้ง​เขา​เป็น​…”

เขา​หยุดชั่วคราว​หัน​ศีรษะ​ไป​แล้ว​ถามว่า​ “หลู่​ชิง ท่าน​ว่า​ให้​เขา​นาม​ว่า​อะไร​ดี​”

หลู่​เฉียน​ตอบ​ “หย่ง​ซีตั้งอยู่​ใน​เยวี่ยตี้​ ฝ่าบาท​เลือก​ชื่อ​หนึ่ง​ใน​เยวี่ยตี้​โจว​ดี​หรือไม่​พ่ะย่ะค่ะ​”

ฮ่องเต้​ส่ายหน้า​ “เขา​เป็น​ลูกหลาน​ของ​เสด็จ​พี่ใหญ่​ไม่เหมือน​ผู้อื่น​ ยิ่งไปกว่านั้น​เดินทาง​ไป​ซีเป่ยจน​ประสบความสำเร็จ​ใน​สงคราม​เป็น​ผู้​ที่​ควร​พูดถึง​เป็น​อันดับ​แรก​ งั้น​แต่งตั้ง​เขา​เป็น​เยวี่ย​อ๋อง​ตาม​ตำแหน่ง​ชิน​อ๋อง​[1] บิดา​ของ​เขา​…”

เมื่อ​เห็น​ใบ​หน้าที่​ตกตะลึง​ของ​เหล่า​ขุนนาง​ ฮ่องเต้​ก็​รู้สึก​ดีขึ้น​ เขา​ให้อภัย​เพียง​พอแล้ว​หรือไม่​ ทายาท​ของ​จิ้น​อ๋อง​ และ​ฉิน​อ๋อง​ล้วน​ให้​ตำแหน่ง​จวิ้น​อ๋อง​ แต่​เพราะ​ความดี​ความชอบ​ทางทหาร​จึงได้รับ​ตำแหน่ง​ชิน​อ๋อง​ และ​ใช้นาม​แคว้น​โดยตรง​ ผู้ใด​จะพูด​อีก​หรือไม่​ว่า​เขา​ปฏิบัติ​ต่อ​ลูกหลาน​ของ​พี่ชาย​ไม่ดี​ข่าวลือ​นั่น​ทำลาย​เขา​ไม่ได้​หรอก​

กุ้ยเฟย​ได้ยิน​ข่าว​นี้​ก็​คง​เข้าใจ​จิตใจ​ของ​เขา​ ฮ่องเต้​รู้สึก​ว่า​การเคลื่อนไหว​นี้​ถูกต้อง​แล้ว​ แต่งตั้ง​เป็น​อ๋อง​ก็​ยาก​ที่จะ​ออกจาก​เมืองหลวง​ เด็ก​คน​นี้​ออกจาก​เมืองหลวง​ได้​สอง​ปี​ก็​สามารถ​ซื้อใจ​จงซู่ และ​กัว​สวี่​ได้​ หาก​ปล่อย​ให้​เขา​อยู่​ข้างนอก​นาน​กว่า​นี้​จะวางใจ​ได้​อย่างไร​

สู้ให้​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ไม่ดีกว่า​หรือ​ให้​อยู่​ที่สูง​ให้​สายตา​หลาย​คู่​จับจ้อง​ให้​เขา​เล่นตลก​อะไร​ไม่ได้​อีก​ ฮ่องเต้​กล่าว​จบ​เมื่อ​ไม่มีผู้ใด​มีปฏิกิริยา​ตอบกลับ​เขา​ก็​ไม่พอใจ​ “ไม่ได้ยิน​ที่​เจิ้น​พูด​หรือ​”

เหล่า​คน​ที่​ได้สติ​ก็​รีบ​ประจบประแจง​ทันที​ “ฝ่าบาท​มีเมตตาธรรม​คุณธรรม​สูงส่ง รับรอง​ทายาท​ของ​พี่น้อง​เป็น​อย่าง​ดี​ เป็น​ฮ่องเต้​ผู้ทรง​เมตตา​…” เหล่า​ขุนนาง​เหมือน​เพิ่ง​ตื่น​จาก​ฝัน​ก็​รีบ​กล่าว​ตาม​ๆ กัน​ไป​

…………

จวน​โป๋วห​ลิง​โหว​เกษียณ​ออกจาก​ศูนย์กลาง​มานาน​แล้ว​ และ​แน่นอน​ว่า​การประชุม​ราชสำนัก​นั้น​ไม่มีสิทธิ์​เข้าร่วม​ เมื่อ​เร็ว​ๆ นี้​ได้ยิน​ข่าวลือ​มากมาย​ และ​รุนแรง​ถึงขีดสุด​เมื่อ​รายงาน​สงคราม​ที่​ซีเป่ย​มาถึง

เดิมที​เรื่อง​นี้​เป็นเรื่อง​ที่​รุ่งโรจน์​อย่างยิ่ง​ แต่​เนื่องจาก​ข่าวลือ​ที่​คล้าย​กับ​ว่า​ถูกต้อง​ แต่​ความจริง​ไม่ถูกต้อง​เหล่านั้น​ เหมือน​เป็นการ​เพิ่ม​หมอก​ควัน​มากขึ้น​ทำให้​ทุก​คนใน​จวน​โป๋วห​ลิง​โหว​ยาก​ที่จะ​ออก​ไป​

ลอง​นึก​ภาพ​ดู​พอ​ออก​ไป​ก็​ถูก​มอง​ด้วย​สายตา​แปลก​ๆ หรือไม่​ก็​ถูก​ถามทางอ้อม​จะสบายใจ​ได้​อย่างไร​

นาง​หลู่​ ฮูหยิน​ซื่อ​จื่อ​ไม่พอใจ​ เด็ก​คน​นั้น​หลัง​ได้รับ​ความดี​ความชอบ​ทางทหาร​อย่าง​ยากลำบาก​แล้ว​ยัง​ก่อเรื่อง​เหลวแหลก​อะไร​เช่นนี้​อีก​ แสดง​ความรุ่งโรจน์​ก็​ไม่ได้​ทำให้​พวกเขา​ถูก​ผู้อื่น​มอง​อีก​

หลัง​อาหารเย็น​ทุกคน​กำลัง​นั่ง​ดื่ม​ชากัน​อยู่​ นาง​หลู่​ทนไม่ไหว​จน​ต้อง​ถามขึ้น​มาว่า​ “ท่าน​โหว​ ข่าวลือ​พวก​นั้น​เรา​จะไม่ติดร่างแห​ไป​ด้วย​ใช่หรือไม่​”

นาง​เป็น​คน​พูดจา​โผงผาง​ซึ่งเป็นที่​น่ารำคาญ​ของ​ทุกคน​ในครอบครัว​ แต่​คำถาม​นี้​กลับ​กระทบใจ​ทุกคน​

เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​สายเลือด​ของ​ราชวงศ์​ หาก​เปลี่ยนเป็น​ผู้อื่น​คง​รักษา​ชีวิต​ไม่ได้​ไป​นาน​แล้ว​ แต่​ชาติกำเนิด​ของ​เด็ก​คน​นั้น​ยัง​ไม่ชัดเจน​อีก​ทั้ง​เผย​กุ้ยเฟย​ยังอยู่​ ไม่แน่​ว่า​เขา​อาจจะ​ปลอดภัย​

แต่​ก็​ไม่แน่​…เขา​ถูก​ฮ่องเต้​ลดขั้น​ และ​ขับไล่​ออกจาก​เมืองหลวง​ไม่ใช่เพราะ​เกลียด​เขา​หรอก​หรือ​ เป็นไปได้​หรือไม่​ว่า​จะใช้โอกาส​นี้​ลงมือ​ โป๋วห​ลิง​โหว​ถือ​ถ้วย​ชาไม่พูด​อะไร​

นาง​หลู่​พูด​อีกครั้ง​ “น้อง​สามเอง​นี่​จริงๆ​ เลย​ทำให้​คน​ขุ่นเคือง​กัน​ไป​ทั่ว​ ลูกหลาน​ของ​ซือฮว๋ายไท่จื่อ​หรือ​ โชคดี​ที่​คน​พวก​นั้น​สร้างเรื่อง​โกหก​” สีหน้า​ของ​โป๋วห​ลิง​โหว​ดู​ไม่น่ามอง​

โกหก​งั้น​หรือ​ เกรง​ว่า​จะไม่ใช่

เขา​ไม่ได้​ฝึก​วรยุทธ์​ดังนั้น​เขา​จึงไม่ได้​มีส่วน​ร่วมใน​เหตุการณ์​นั้น​ แต่​เขา​รู้​สาเหตุ​การตาย​ของ​น้องชาย​คน​รอง​ของ​เขา​

น้อง​รอง​เสียชีวิต​เนื่องจาก​การ​ช่วยชีวิต​ซือฮว๋ายไท่จื่อ​ไม่นาน​หลังจากนั้น​น้อง​สะใภ้ก็​มีอาการ​ปวด​หนัก​ทำให้​คลอด​ยาก​นอน​ป่วย​อยู่​ไม่กี่​เดือน​ก็​จากไป​ จากนั้น​เขา​ถึงได้​เห็น​เด็ก​คน​นั้น​ และ​เขา​มักจะ​รู้สึก​ว่า​เด็ก​คน​นั้น​ดู​โตก​ว่าที่​เขา​คิด​ไม่กี่​เดือน​…

ในขณะที่​กำลัง​คิด​อยู่​นั้น​ก็​เกิด​ความโกลาหล​ขึ้น​ด้านนอก​พ่อบ้าน​รีบ​เข้ามา​บอ​กว่า​ “ท่าน​โหว​ พระ​ราชโองการ​ มีพระ​ราชโองการ​มาขอรับ​!” ทุก​คนใน​เรือน​ตื่นตระหนก​ทันที​

นาง​หลู่​ตะโกน​ขึ้น​ “มัน​เป็นเรื่อง​ของ​เจ้าลูก​กระต่าย​[2]นั่น​หรือ​ ท่าน​โหว​ เรื่อง​นี้​ไม่เกี่ยวกับ​พวกเรา​ท่าน​ต้อง​ไป​อธิบาย​กับ​ฝ่าบาท​นะ​เจ้าคะ​!”

เห็น​นาง​เป็น​เช่นนี้​ทำให้​ซื่อ​จื่อ​หยาง​ซวน​โกรธ​มาก​ และ​กด​นาง​ให้​คุกเข่า​ลง​ไป​ “พระ​ราชโองการ​มาถึงแล้ว​เจ้าพูด​อะไร​ออกมา​ รอ​รับ​พระ​ราชโองการ​ก่อน​ค่อย​ว่า​กัน​!” ขันที​ที่ประกาศ​พระ​ราชโองการ​เข้ามา​ และ​ขมวดคิ้ว​เมื่อ​ได้ยิน​คำ​ว่า​เจ้าลูก​กระต่าย​

เมื่อ​เห็น​สีหน้า​ของ​เขา​ดู​ไม่ดี​ทุก​คนใน​ตระกูล​หยาง​ยิ่ง​รู้สึก​อึดอัด​มากขึ้น​

หลัง​เตรียมตัว​เสร็จ​ขันที​ก็​ประกาศ​ว่า​ “ฝ่าบาท​มีพระ​ราชโองการ​ โป๋วห​ลิง​โหว​มีคุณงามความดี​เลี้ยงดู​เยวี่ย​อ๋อง​ พระราชทาน​รางวัล​…”

ประโยค​หลังจากนั้น​ทุก​คนใน​จวน​อกสั่นขวัญหาย​จน​ไม่มีแรง​ฟังต่อ​พวกเขา​ตกตะลึง​เมื่อ​ได้ยิน​คำ​ว่า​มีคุณงามความดี​ใน​การ​เลี้ยงดู​

เดี๋ยว​นะ​…เยวี่ย​อ๋อง​ นี่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​!

………….

[1] ชิน​อ๋อง​ : ผู้​ที่​ได้รับ​ตำแหน่ง​นี้​โดยมาก​เป็น​พระ​โอรส​ พระ​เชษฐา หรือ​พระ​อนุชา​ใน​องค์​จักรพรรดิ​ ตำแหน่ง​เชื้อพระวงศ์​ชาย​ลำดับ​ที่​ 1 และ​เป็น​ตำแหน่ง​สูงสุด​ที่​สามารถ​มีได้​รอง​จาก​หวง​ไท่จื่อ​

[2] ลูก​กระต่าย​ : เป็น​คำด่า​เด็กผู้ชาย​ที่​อายุ​น้อยกว่า​ ความหมาย​ประมาณ​ว่า​ ไอ้​เด็ก​เวร​ เด็ก​เปรต​

คู่ชะตาบันดาลรัก

คู่ชะตาบันดาลรัก

Score 10
Status: Completed

เหตุชะตาถึงฆาตทำให้วิญญาณของ ‘หมิงเวย’ หญิงสาวผู้มีวรยุทธ์เก่งกล้า ย้อนเวลามาอยู่ในร่างของคุณหนูเจ็ดแห่งตระกูลหมิงผู้อ่อนแอ

แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายเมื่อทันทีที่ลืมตา นางกลับพบว่าในสวนอวี๋ฟางที่นางและฮูหยินสามผู้เป็นมารดาอาศัยอยู่นั้นมีสิ่งอัปมงคล!

สองแม่ลูกเชื่อว่าสิ่งนี้อาจเกี่ยวพันกับไสยศาสตร์มืด จึงได้ลงมือสืบความจริงของเรื่องนี้อย่างลับๆ

และยิ่งตามสืบปริศนามากมายที่เกิดขึ้นในจวนและตระกูลหมิงแห่งนี้… กลับยิ่งเจอความลับอันดำมืดที่ซุกซ่อนอยู่

แต่ท่ามกลางความมืดมิดและสิ่งชั่วร้าย โชคชะตากลับลิขิตให้หญิงสาวได้ไขประตูสู่ความจริง… รวมถึงนำไปสู่ความรัก!

นับตั้งแต่ที่ ‘หยางชู’ เหลนของฮ่องเต้จอมเสเพลแฝงกายมายังเมืองที่นางอาศัยอยู่เพื่อภารกิจบางอย่าง

นางและเขาจึงได้ตกลงร่วมกันทำภารกิจไขปริศนา แต่หารู้ไม่ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นอาจเป็นไปเพราะโชคชะตารักบันดาลอยู่เบื้องหลัง!

Options

not work with dark mode
Reset