ตอนที่ 840 เร็ว โอกาสร้องเรียนมาถึงแล้ว
……….
เด็กทั่วไปทะเลาะวิวาทผู้ใดไม่เรียกหาผู้ปกครอง แต่ฉินหลิวซีสติฟั่นเฟือนผู้นี้ เรียกหาผู้ปกครองของอีกฝ่าย เมื่อเรียกหาก็เรียกหาเป็นกลุ่มใหญ่ แม้อีกฝ่ายจะตายไปหลายปีแล้วก็ไม่ยอมปล่อยผ่าน นี่ยังเป็นคนอยู่หรือไม่
เฮยอู๋ฉัง อืม แต่หากเป็นคนนางก็คงไม่ถึงขั้นสติฟั่นเฟือน
ฉินหลิวซี อย่าถาม ถามข้าก็ไม่ใช่คน แต่เป็นแสงสว่างของเต๋าบนโลกมนุษย์ ส่องสว่างจนตาของเจ้าพร่าเยี่ยงนั้น
อวี้ฉังคงงุนงงไปเลย หลายปีมานี้เหล่าบรรพบุรุษต่างก็ยังไม่ไปเกิดใหม่ ยังมีห่วงบนโลกหรือไม่อาจต่อแถวได้
เหล่าบรรพบุรุษยืนเรียงรายตัวสั่นระริก ทั้งหนาวทั้งกลัว สถานการณ์ตอนนี้ พวกเขาไม่อาจจัดการได้จริงๆ
“ท่านเฮย ไม่รู้ว่าท่านเฮยเรียกพวกข้ามามีเรื่องใดหรือ” อวี้เฉิงฉี ทวดบรรพบุรุษสองร้อยกว่าปีก่อนของตระกูลอวี้ยืนอยู่ด้านหน้า พาคนในตระกูลของตนยืนเรียงราวทำความเคารพ
เฮยอู๋ฉังใบหน้าเย็นชา “ท่านเจ้าอาวาสน้อยปู้ฉิว เทียนซือแห่งอารามชิงผิงเชิญพวกเจ้ามาตีลูกหลาน ไม่สิ สั่งสอนลูกหลาน”
อวี้เฉิงฉี “?”
นายท่าน โทษที่ข้าน้อยไม่เข้าใจ หมายถึงเรียกพวกเรามาตีลูกหลานของข้าหรือ
อวี้ฉังคงก้าวขึ้นมาด้านหน้า คุกเข่าลง “ลูกหลานตระกูลอวี้ อวี้ลิ่งสือ รุ่นหนึ่งร้อยสามสิบหกคารวะเหล่าบรรพบุรุษทั้งหลาย”
อวี้เฉิงฉีเห็นเขา มองสำรวจหนึ่งรอบก่อนจะพยักหน้า “อืม เจ้าไม่เลว สติปัญญาความกล้าหาญของตระกูลอวี้เด่นชัดอยู่บนตัวเจ้า”
เหล่าผู้อาวุโสในตระกูลที่อยู่ไม่ไกลต่างตัวสั่นเทา ทรุดตัวคุกเข่าลงไปทันใด เอ่ยเรียกตะกุกตะกัก “ท่านบรรพบุรุษ…”
เหล่าอวี้เฉิงฉีหันไป มองเห็นพวกเขา สายตาพลันเปลี่ยน “พวกเจ้า ทำสิ่งใดผิดไป ไยจึงมีเวรกรรมปรากฏเด่นชัดเพียงนี้”
เหล่าผู้อาวุโสตกใจจนหน้าซีด เวรกรรม เพียงได้ยินก็ไม่ใช่คำที่ดี
ฉินหลิวซีกลัวเรื่องจะไม่ใหญ่พอ จึงเอ่ยตอบว่า “นี่เป็นเหตุผลที่เชิญเหล่าผู้อาวุโสขึ้นมา ผู้อาวุโส หลายปีมานี้อยู่เบื้องล่างไม่รู้สึกว่าพลังของคุณความดีในตัวค่อยๆ ลดเลือนหายไปหรอกหรือ”
คนมีบุญกุศลหลังตายไปแล้วไปอยู่ในยมโลก จะเป็นประโยชน์เมื่อเข้าแถวไปเกิดใหม่ ด้วยบุญกุศลติดตัว ชาติหน้าแน่นอนว่ามีสามหกเก้าขั้น ดวงชะตาชีวิตก็แตกต่าง
มิเช่นนั้นจะมีคำกล่าวที่ว่า ชาติที่แล้วทำคุณงามความดีไปมากเพียงใดเปลี่ยนมาเป็นชีวิตในชาตินี้ ตรงกันข้าม คนที่ทำชั่ว ต่อให้มาเกิดใหม่ก็ไม่ได้ดีไปเท่าใดนัก ไม่ลำบากยากแค้นก็เจ็บป่วยพิการ ผู้ชั่วร้ายมากถึงขั้นไปเกิดเป็นสัตว์
ดังนั้นบุญกุศล ไม่ว่าจะเป็นตอนมีชีวิตหรือตายไปแล้วล้วนแล้วแต่สำคัญ
แน่นอนว่าอวี้เฉิงฉีสัมผัสได้ แต่คิดว่าตนเองตายมานานหลายปี ลดลงก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้คิดมาก เพียงคิดใช้บุญกุศลที่เหลืออยู่ไปเกิดเพียงเท่านั้น
แต่ตอนนี้ ดูจะไม่ปกตินี่นา
“ข้าไม่มีบุญกุศลแล้วด้วยซ้ำ ก่อนหน้านี้ ท่านยมทูตไม่เห็นข้าในสายตาด้วยซ้ำ ดูรังเกียจยิ่งนัก” ชายชราตัวเตี้ยผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังฟ้องเสียงดังลั่น ท่าทางน่าสงสาร
ทุกคนมองไป
เหล่าผู้อาวุโสร้องตกใจออกมา “ท่านพ่อ”
ผู้นำสกุลอวี้กลืนน้ำลาย เป็นปู่ของเขา อวี้เจ๋อเฉวียน
อวี้เฉิงฉีเองก็เคยเป็นที่ปรึกษาให้กับฮ่องเต้ โลกทรรศน์และความเฉลียวฉลาดแน่นอนว่ามี เห็นว่าไม่ปกติ กวาดสายตาเย็นยะเยือกมาเหล่าผู้อาวุโสรุ่นหลังนั่น มองไปยังอวี้ฉังคง “ลิ่งสือสกุลอวี้ เจ้าว่ามา เกิดเรื่องใดขึ้น”
“เร็ว โอกาสฟ้องมาถึงแล้ว” ฉินหลิวซีเตะอวี้ฉังคง
ผู้นำตระกูลลิ่นและเหล่าผู้อาวุโสในตระกูลสีหน้าเปลี่ยนไปทันใด แทบอยากพุ่งเข้าไปอุดปากเขาเอาไว้
อวี้ฉังคงถือโลงศพเล็ก เอ่ยเล่าถึงการตายอย่างน่าอนาถของบิดามารดา เรื่องการตาบอดของตนเองสิบกว่าปีที่สืบมาได้ เล่าออกมาทีละเรื่องอย่างชัดเจน ที่สำคัญคือหลังจากฉินหลิวซีมาแล้ว ได้สืบเรื่องราวในส่วนที่เขายังไม่เข้าใจออกมาอย่างกระจ่างชัด เพียงวันเดียวโลกของเขาพลันพลิกผัน
หลังจากที่บิดาของเขาถูกปรับดวงชะตา ถูกนำไปทำเป็นค่ายอาคมพร้อมกับมารดา แม้ว่าจุดนี้ยังคงไม่อาจสืบได้ แต่ผู้นำตระกูลอวี้ได้เอ่ยแล้ว พวกเขาถูกนำไปทำเป็นค่ายอาคมแล้ว
“เหลวไหลสิ้นดี ตระกูลอวี้ในยามนี้ ทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้แล้วหรือ ดวงชะตาบุญกุศลของตระกูลอวี้ของข้า ล้วนได้มาเพราะการอุทิศชีวิตแก่ประชาชนมากมายในใต้หล้า ช่วยกษัตริย์คุ้มกันให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข เดินในเส้นทางที่ถูกต้อง ต้องมาอาศัยวิชามารชั่วร้ายเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน น่าขันยิ่งนัก มิน่าหลายปีมานี้ข้าจึงสัมผัสได้ว่าการเคารพกราบไหว้ของลูกหลานไม่บริสุทธิ์ ที่แท้เพราะลูกหลานโง่เขลาและเลวทรามเช่นพวกเจ้า พวกเจ้าไม่คู่ควรกับตระกูลอวี้ด้วยซ้ำ ไร้ประโยชน์จะเป็นรุ่นหลังของตระกูลอวี้ของข้า ผู้ใด นี่คือลูกหลานที่พวกเจ้าให้กำเนิดและสั่งสอนมาอย่างนั้นหรือ น่าอายสิ้นดี”
ฉินหลิวซีมองไป ชายชราใบหน้ากล้าหาญซื่อตรงก้าวออกมาสง่างามเอ่ยเสียงกร้าว ชี้ไปยังเหล่าผู้อาวุโสในตระกูลตำหนิเสียงดัง
อวี้ฉังคงเอ่ยกับฉินหลิวซีเสียงเบา “เป็นบรรพบุรุษผู้หนึ่งที่มีชื่ออยู่ในสมุดบันทึกวงศ์ตระกูลที่ยังกล้าเผชิญหน้าแม้แต่โอรสสวรรค์ อวี้เสี่ยนเจิ้ง”
ผีบิดาและปู่ของผู้นำตระกูลที่ถูกกล่าวถึงคุกเข่าลงเพื่อขอลุแก่โทษ “บรรพบุรุษ พวกข้าผิดไปแล้ว”
“ชื่อเสียง บุญคุณ โชคชะตาอันดี เดิมไม่จำเป็นต้องอาศัยวิชามารเหล่านี้ด้วยซ้ำ แต่ได้มาจากการอุทิศตนเพื่อปวงประชาชน เดินในเส้นทางที่ถูกที่ควร” อวี้เสี่ยนเจิ้งมองผู้นำตระกูลอวี้ด้วยสายตาเยือกเย็น เอ่ย “ใช้วิชา คนอื่นสละชีวิตคือคนอื่น พวกเจ้ากลับใช้ลูกหลานตระกูลอวี้ที่มีความสามารถโดดเด่น ดวงชะตาดีมาทำพิธี เดิมยังไม่สิ้นอายุขัย ตัดรากฐานของตนเอง โง่เขลาเป็นที่สุด เสือร้ายยังไม่กินลูก พวกเจ้ากลับชั่วร้ายเสียยิ่งกว่าเสือร้ายเสียอีก เจ้าเป็นลูกหลานตระกูลอวี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นบิดาอีก”
ผู้นำตระกูลอวี้ใบหน้าไร้สีคน กุมหน้าอกร่างกายโงนเงน ไม่กล้าเอ่ยตอบโต้แม้เพียงครึ่งคำ
ดวงตาเบื้องลึกของอวี้ฉังคงเย็นยะเยือก หัวใจกลับไม่มีความเจ็บปวดแม้เพียงนิด
“อีกทั้งพวกเจ้า บอกมา เจ้าเจ็ดนั่นถูกพวกเจ้าทำให้ตาย เพื่อดวงชะตาของตระกูลอวี้จริงหรือไม่”
เหล่าผู้อาวุโสในตระกูลอวี้ไม่กล้าแม้แต่ผายลม ท่าทางอึกอัก
เหล่าบรรพบุรุษสกุลอวี้ไม่มีผู้ใดโง่เขลา เห็นเช่นนั้นไยจะไม่เข้าใจ โกรธจนตัวสั่น ลูกหลานตระกูลอวี้ไยจึงกลายเป็นเช่นนี้แล้ว
“ดี ดียิ่งนัก นี่คือตระกูลอวี้ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้นมาอย่างอย่างลำบาก ถูกพวกเจ้าทำลายสิ้นแล้ว เจ้า ผู้ใดนั่น ตอนเจ้าเป็นผู้นำตระกูลดูแลเช่นไร ไยจึงเลี้ยงลูกหลานเหี้ยมโหดออกมาเยี่ยงนี้”
อวี้เจ๋อเฉวียนแทบร้องไห้แล้ว “เหล่าบรรพบุรุษ ข้า ข้าตายจากไปเร็ว ตอนมีชีวิตอยู่ยังไม่โตเท่าพวกเขาด้วยซ้ำ ก่อนตายได้มอบหมายให้อวี้หมิงจังบุตรชายคนโตช่วยดูแล”
ฮือๆ เขาทำเวรทำกรรมใดไว้ ตายไปหลายสิบปีแล้ว ยังถูกเหล่าบรรพบุรุษเรียกออกมาด่า น่าอายนัก
“อวี้หมิงจังอยู่ที่ใด”
ไม่มีคนตอบรับ
“ไปเกิดเร็วเพียงนี้เลยหรือ” ทุกคนชะงัก พวกเขายังไม่ไปเกิดเลย หลานผู้นี้ไปเกิดเร็วเพียงนี้เลยหรือ
เฮยอู๋ฉังเปิดบันทึกเป็นตายของตน เอ่ย “ไม่มีลงทะเบียนไปเกิดใหม่”
และเรียกวิญญาณมาไม่ได้
ฉินหลิวซีเสียงเหยียดหยัน “ไม่ต้องเอ่ยแล้ว ไม่ไปเกิดใหม่ เรียกวิญญาณก็ไม่มา หากไม่ถูกคนเอาไปทำพิธีก็คงวิญญาณแตกสลาย คงเกี่ยวข้องกับการปรับดวงชะตานี้อย่างแน่นอน”
เหล่าผู้อาวุโสตระกูลอวี้และผู้นำตระกูลอวี้สีหน้าพลันเปลี่ยน
ฉินหลิวซีเอ่ยต่อ “เหล่าผู้อาวุโสอวี้ พวกท่านคงต้องถามให้ละเอียดแล้ว ต้องรู้ว่า เรื่องนี้คงไม่ใช่การปรับดวงชะตาเพื่อโชคลาภง่ายๆ แล้ว คาถาสำเร็จแล้ว โชคลาภมีแล้ว แต่ไม่ได้ทำเพราะประดับแก่ตระกูลอวี้ ตระกูลอวี้กลายเป็นคลังเสบียงของผู้อื่นก็เท่านั้น”