คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า 802 ข้าไม่สนิทกับพวกเขา

ตอนที่ 802 ข้าไม่สนิทกับพวกเขา

ตอนที่ 802 ข้าไม่สนิทกับพวกเขา

……….

ฟังจากที่ฉินหยวนซานอธิบาย จอมอันธพาลน้อยเนี่ยผู้นั้นมาหาเรื่องที่แผงขายของซึ่งเขาเขียนจดหมายอยู่ บังคับให้เขาลอดใต้หว่างขา ฉินหมิงเยี่ยนเด็กโง่ผู้นั้นจึงโวยวายว่าไม่ยุติธรรม ก็เลยถูกเขาอ้างว่าไม่ให้ความเคารพต่อเชื้อพระวงศ์ ถูกม้าลากไปตามถนน

ฉินหยวนซานน้ำเสียงสะอึกสะอื้น ดวงตาแก่ชราเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจ

ฉินปั๋วชิงเอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า “ท่านพ่อ ไยท่านต้องโทษตัวเองในเรื่องนี้ด้วย เห็นได้ชัดว่าสตรีที่จอมอันธพาลน้อยผู้นั้นชอบเมินเขา แต่กลับมาชอบหมิงเยี่ยน จึงได้ทำให้เกิดเรื่องเลวร้าย”

จนได้ ที่แท้ก็เป็นดาวเสน่ห์ร้าย!

ฉินหลิวซีมองไปยังฉินหมิงเยี่ยนที่หมดสติ ถอนหายใจด้วยความเวทนา พึ่งจะอายุสิบสามปีก็ดึงดูดฝูงผึ้งฝูงผีเสื้อแล้ว ซ้ำยังไปดึงดูดสุนัขบ้าตัวนี้มาด้วย

เมื่อครบเวลาฝังเข็มแล้ว ฉินหลิวซีก็ดึงเข็มออก ยังไม่ทันรอให้นางมีการเคลื่อนไหวใดๆ หมอเฒ่าก็ชิงเข้าไปจับชีพจรก่อน ดวงตาเป็นประกาย “อากาศไหลเวียนแล้ว ชีพจรก็มีแรงแล้ว มหัศจรรย์จริงๆ”

ทุกคนล้วนมีคนเก่งที่นับถือ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะอายุเท่าไหร่ สิ่งที่เรียกว่าผู้ที่บรรลุย่อมมาก่อน ฉินหลิวซีก็คือผู้ที่บรรลุผู้นั้น สิ่งนี้ทำให้สายตาของหมอเฒ่าที่มองนางเต็มไปด้วยความชื่นชม

อย่างน้อยหลังจากกินยาและฝังเข็มทองนี้ เมื่อตรวจชีพจรของฉินหมิงเยี่ยนอีกครั้ง ก็ไม่มีใครบอกว่าเขาใกล้จะหมดลมแล้ว!

ฉินหลิวซีให้พวกเขาออกไปก่อน เหลือเพียงฉินปั๋วชิงกับหมอเฒ่าไว้ช่วยเหลือ เอาผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดบาดแผลบนร่างกายของฉินหมิงเยี่ยน

ส่วนเหตุผลว่าทำไมแม้แต่บิดาผู้ให้กำเนิดก็ถูกไล่ออกไปด้วย

อย่าถาม เพราะคำตอบก็คือเขาไม่มีประโยชน์!

ความจริงแล้วตอนที่ฉินหมิงเยี่ยนถูกแบกกลับเรือน กระดูกซี่โครงที่หักได้รับความเสียหายเป็นครั้งที่สอง และในตอนนี้นางได้ใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งเมื่อถอดเสื้อผ้าของเขาออก

เสื้อผ้าที่ตัดออกถูกนางทิ้งลงบนพื้น ซ้ำยังมีเสื้อซับในที่เปื้อนเลือด นางกำลังจะทิ้ง แต่กลับเห็นว่าเสื้อซับในนั้นมีกระเป๋าที่เย็บอย่างบิดเบี้ยว ซึ่งมีสีดำเทาเล็กน้อย

นางสัมผัสดู พบเศษขี้เถ้าสีดำเทา เป็นยันต์แคล้วคลาด

“เหตุใดจึงได้มีขี้เถ้ากระดาษเหล่านี้” ฉินปั๋วชิงเหลือบมอง ประหลาดใจเล็กน้อย

ฉินหลิวซีเอ่ยว่า “เป็นยันต์แคล้วคลาดที่ข้ามอบให้ ช่วยป้องกันภัยพิบัติให้เขาได้อยู่บ้าง หมดประโยชน์แล้ว”

ฉินปั๋วชิงรูม่านตาหดลง หมายความว่าหากไม่ใช่เพราะยันต์นี้คอยป้องกันภัยพิบัติให้ เวลานี้เกรงว่าพวกเขาจะร้องไห้คร่ำครวญกันไปแล้ว

หมอเฒ่าอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก “ยันต์จากที่ไหนจึงได้ศักดิ์สิทธิ์เพียงนี้”

“ของอารามชิงผิง” นางเดินไปด้านข้าง เขียนใบสั่งยา ถามว่า “ท่านไปเอาวัตถุดิบยาเหล่านี้จากร้านขายยาที่ใกล้ที่สุดกลับมาก่อน”

หมอเฒ่าอยากเห็นเป็นอย่างมาก แต่ก็รู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ มองฉินปั๋วชิงถือใบสั่งยาออกไปตาปริบๆ จึงได้ถามฉินหลิวซีว่า “เจ้าวางแผนจะรักษาอย่างไรหรือ”

“อาการบาดเจ็บภายนอกรักษาง่าย แต่กระดูกซี่โครงนั้นยุ่งยากเล็กน้อย ต้องต่อกระดูก เคลื่อนย้ายได้ยาก ซ้ำยังมีเลือดออกภายในช่องท้องด้วย โชคดีที่ม้ามไม่เสียหาย มิเช่นนั้นคงได้แขวนธงขาวแล้ว”

ฉินหลิวซีขมวดคิ้วพลางตรวจสอบร่างกายของฉินหมิงเยี่ยนตั้งแต่หัวจรดเท้า เห็นอาการบวมที่ท้ายทอยอีกหนึ่งจุด ขมวดคิ้วพลางเอ่ย “ศีรษะได้รับการกระแทก ก็ไม่รู้ว่ามีเลือดคั่งหรือได้รับความเสียหายหรือไม่ หากมีเช่นนั้นก็จะยุ่งยากกว่าเดิม

หมอเฒ่าถามอย่างระมัดระวังว่า “เจ้าไม่ใช่บุตรของตระกูลนี้หรือ นี่เป็นน้องชายของเจ้าไม่ใช่หรือ เหตุใดเจ้าจึงได้ปากร้ายเช่นนี้?” คำพูดนี้ไม่น่าฟังเกินไปแล้วกระมัง ผู้ที่ไม่รู้จะคิดว่ากำลังพูดถึงศัตรูอยู่!

“ย่อมเป็นเพราะว่าไม่สนิทกับพวกเขา”

ฉินปั๋วหงที่อดไม่ได้เลยเดินเข้ามาจากข้างนอก รู้สึกเหมือนถูกธนูยิงเข้าที่หัวใจ สีหน้ามืดครึ้ม

ฉินหลิวซีตรวจสอบร่างกายของฉินหมิงเยี่ยนอย่างละเอียด ไม่ได้มีข้อระมัดระวังใดๆ ระหว่างบุรุษสตรีแม้แต่น้อย โชคดีที่ฉินหมิงเยี่ยนกำลังสลบอยู่ หากเขาตื่นขึ้นมาเห็นว่าพี่หญิงกำลังลงมือกับตัวเอง คงจะอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

“สิ่งที่ร้ายแรงที่สุดคือกระดูกซี่โครงหักและถูกกระแทกที่ท้ายทอย ทายาแผลภายนอกก่อน” ฉินหลิวซีปลดถุงของตัวเอง ค้นดูในนั้น หยิบยาจินชวงสมานแผลออกมาหนึ่งขวด นี่เป็นสิ่งที่ต้องมีในถุง

นางทายาและทำแผลอย่างง่ายๆ บริเวณกระดูกซี่โครงที่หักจำเป็นต้องได้รับการดามด้วยเฝือกหรืออะไรทำนองนั้น แต่ไม่มีอยู่ในมือ นางมองไปรอบๆ ให้ฉินปั๋วหงรื้อประตูบานนั้นออก อย่างไรเสียความหนาก็กำลังพอดี

ก่อนที่จะจัดการประตู ฉินหลิวซีได้ฝังเข็มบริเวณศีรษะของฉินหมิงเยี่ยนก่อน ไม่ว่าที่ศีรษะของเขาจะมีเลือดคั่งสะสมหรือไม่ การอาศัยช่วงที่ได้รับบาดเจ็บระบายเลือดคั่งออกก่อนจึงจะสมเหตุสมผล

ขณะที่ปล่อยเข็มทิ้งไว้ นางก็ใช้มีดฟันบานประตูออกเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมหลายชิ้น ซ้ำยังขัดเสี้ยนออกอย่างใส่ใจ จากนั้นจึงได้ใช้ฝีมือจัดกระดูกชิ้นนั้นกลับคืนที่เดิม

ฉินหมิงเยี่ยนตื่นขึ้นเพราะความเจ็บปวด เห็นคนหน้าตารูปงดงามผู้หนึ่งกำลังจับหน้าอกของตัวเองอย่างคลุมเครือ ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้เขาสลบไปอีกครั้ง

หมอเฒ่าอยากรู้ทักษะของนางเป็นอย่างมาก อดถามไม่ได้ว่า “สามารถต่อกันได้หรือ”

“อืม แต่ต้องได้รับการดูแล โดยปกติแล้วต้องอยู่บนเตียงเป็นเวลาอย่างน้อยสามเดือน ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามต้องการ” ฉินหลิวซีเอ่ย

หมอเฒ่าได้ยินความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดนี้ “แล้วถ้าไม่ปกติล่ะ”

ฉินหลิวซีไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น “หากให้ความร่วมมือกับยาที่ข้าใช้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาถึงสามเดือน” หลังจากหยุดครู่หนึ่งจึงเอ่ยอีกว่า “ท่านอย่าแม้แต่จะคิด ยามีราคาแพงมาก วัตถุดิบยาก็หาได้ยาก”

หมอเฒ่าไม่ได้ซักไซ้อะไรอีก หมอทั่วไปล้วนมีทักษะการฝังเข็มที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองหรือกระทั่งใบสั่งยาที่เป็นสูตรลับ จะไม่บอกแก่ผู้อื่นง่ายๆ เขาคิดเพียงว่าสำนักของฉินหลิวซีไม่เผยแพร่ให้คนนอก แต่กลับไม่รู้ว่าวัตถุดิบยานั้นหาได้ยากจริงๆ

ฉินหลิวซีไม่ได้ทายาใดๆ ให้ฉินหมิงเยี่ยน หลังจากจัดสู่ตำแหน่งเดิม ก็ใช้ไม้กระดานดามไว้ข้างหน้าและข้างหลังของเขา แล้วพันด้วยผ้าพันแผล

ในเวลานี้ก็ครบกำหนดฝังเข็มแล้ว ฉินหลิวซีดึงเข็มออกแล้วตรวจชีพจรอีกครั้ง

ชีพจรมีแรงมากขึ้น แต่ยังคงต้องจับตาดูอย่างระมัดระวัง เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาค่อยฝังเข็มอีกครั้ง คราวนี้ต้องกำจัดเลือดคลั่งที่อาจมีอยู่ในช่องท้อง

เพียงแต่ต้องดูแลร่างกายของเขาอย่างระมัดระวัง ซ้ำยังมีใบหน้าอันงดงามนี้ หากไม่อยากให้เหลือรอยแม้แต่นิดเดียวก็ต้องจ่ายเงินจำนวนมาก ที่นางเองก็ไม่มียาติดตัว ต้องกลับไปเอา

หลังจากที่ฉินหลิวซีจัดการบาดแผลเล็กใหญ่บนร่างกายฉินหมิงเยี่ยน ท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว ส่งหมอเฒ่าออกไป จากนั้นก็ถูกรายล้อมไปด้วยผู้ใหญ่และเด็กทั้งห้อง

ฉินหมิงมู่ก็มองดูน้องสาวคนโตด้วยความสงสัย เขาไปหาซื้อโสมมาไม่ได้ เป็นเพราะพ่อค้ากลัวอันธพาลเนี่ยผู้นั้นจึงไม่กล้าขาย คิดไม่ถึงว่าจะไม่ต้องการแล้ว เนื่องจากน้องสามมียาที่ดีกว่าแล้ว ก็คือยาที่น้องหญิงใหญ่ซึ่งตกลงมาจากฟ้าผู้นี้เอามาด้วย

“เยี่ยนเอ๋อร์จะเป็นอย่างไร” ฉินปั๋วหงมองไปยังบุตรชายภรรยาเอกคนโตเพียงคนเดียวที่ยังคงหมดสติอยู่ ไม่อาจปิดบังความกังวลในสายตาได้

“ต้องให้เขาผ่านมันไปด้วยตัวเอง” ฉินหลิวซีหันกลับมามอง “อย่างน้อยต้องนอนบนเตียงเป็นเวลาสามเดือนโดยไม่สามารถขยับตัวได้ ข้าจะไปเอายามาเพิ่ม ช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้น ที่เหลือพวกท่านแค่ช่วยกันดูแลก็พอแล้ว”

ฉินปั๋วหงถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นจึงได้มองไปที่นางพลางถามว่า “สตรีตัวคนเดียวอย่างเจ้าเหตุใดจึงได้ปรากฏตัวที่นี่อย่างกะทันหัน”

“ก็แค่ผ่านมา”

ฉินปั๋วหงโมโหกับความไม่ใส่ใจของนางจนหัวใจจะวาย ‘ช่วยจริงจังกว่านี้หน่อยได้หรือไม่’

แค่ผ่านมา ผ่านมาในตอนที่ฉินหมิงเยี่ยนได้รับบาดเจ็บสาหัสพอดี จากนั้นก็ช่วยรักษา?

เห็นว่าบิดาอย่างเขาเป็นคนโง่อย่างนั้นหรือ

ทุกคนล้วนมีสีหน้าอึดอัดเล็กน้อย ประการแรกพวกเขาล้วนไม่สนิทกับฉินหลิวซี ไม่รู้ว่าจะเอ่ยอะไรกับเด็กสาวคนนี้ที่ถูกส่งไปอารามเต๋าตั้งแต่ที่นางยังเด็ก

ฉินหลิวซีก็ไม่ได้อยู่ต่อ เอ่ยว่า “ข้าจะกลับไปเอายา ใบสั่งยาที่ข้าเขียน ต้มแล้วก็ให้เขาดื่มเมื่อเขาตื่น จริงสิ ห้ามขยับเขยื้อนเขา จะกินจะดื่มหรือขับถ่ายก็ต้องอยู่บนเตียง หากป้อนยาลำบาก ให้ไปหาก้านกกมาทำเป็นหลอดสำหรับดื่ม”

ทุกคนมองออกไปข้างนอกพร้อมกัน ข้างนอกมืดสนิท เดินทางตอนกลางคืน? จะไปอย่างไร

ก่อนที่พวกเขาจะเอ่ยปากรั้งให้อยู่ต่อ ฉินหลิวซีก็ร่ายคาถาเปิดเส้นทางหยินแล้วมุดเข้าไป จะได้ลดความอึดอัดในการทักทายของทั้งสองฝ่าย ไปเอายามาก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ทุกคน “?”

เพล้ง

ทุกคนมองไปอย่างเหม่อลอย ถ้วยของสะใภ้เฉาหล่นลงพื้น ส่วนตัวคนก็ล้มไปด้านหลังเช่นกัน

คนเป็นๆ หายไปต่อหน้าต่อตาของตัวเอง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Score 10
Status: Completed
คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า นางคือปรมาจารย์ปู่ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น! รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาชีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่ง ฉินหลิวชี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเดำเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไป เบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู่ฉิว ผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงิน ปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิด เมื่อโชชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่นปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้ เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมรื่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัว เฮ้อ แม้ไม่หวังการก้วหน้าใดๆ แต่สรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเขียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้า เขาก็ดั้นดันเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า! "เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ" "ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ" "ไม่ป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง" "ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า" ฉีเซียนเอ่ย "ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป..." ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ "เดิมที่ท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน" "..."

Options

not work with dark mode
Reset