คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า 720 ข้า ชื่อเสียงฉาวโฉ่

ตอนที่ 720 ข้า ชื่อเสียงฉาวโฉ่

ตอนที่ 720 ข้า ชื่อเสียงฉาวโฉ่

เฉวียนจิ่งสลบไปนานแล้ว ใบหน้าราวกับกระดาษทอง กลิ่นอายแห่งความตายปกคลุมไปทั่วหน้า หากด่านนี้ไม่อาจผ่านไปได้ แม่กู่นั้นก็ไม่จำเป็นต้องไปเอามาแล้ว

ฉินหลิวซีให้เฉวียนอันนำเขาขึ้นไปไว้บนเตียง หยิบเข็มทองออกมา ปักลงไปในจุดเป็นตายหลายจุด หยิบปีศาจโสมน้อยที่เต็มไปด้วยน้ำเสียสีเหลืองเต็มศีรษะออกมาจากอก ดึงรากออกมาหนึ่งราก เช็ดลวกๆ แล้วป้อนเข้าไปในปากของเฉวียนจิ่ง

ปีศาจโสมน้อยที่ถูกตัดขาไปอีกครั้ง “!”

อายุสั้นนะ ทำลายความงามของข้า

เฉวียนอันจับจ้องอยู่ที่ปีศาจโสมน้อยนิ่ง อ้วนท้วนราวกับหยก รากยาวสมบูรณ์ ใบเป็นระเบียบงดงาม ผลสองผลกำลังโผล่ออกมา โสมชั้นดีเพียงนี้ ทั้งชีวิตหาได้ยากยิ่ง

แต่ฉินหลิวซีกลับป้อนให้กับนายน้อยหนึ่งคำ

น้ำตาของเฉวียนอันร่วงลงมา มองเฉวียนจิ่งที่ไม่รู้สึกตัว หันไปมองหว่านไป๋ที่อยู่บนพื้นทันใด ดึงกระบี่ออกจากเอว

เจ้าคนบ้าสองคนนี่

เหนียงจื่อผู้มีพิษลืมตา ใบหน้าตึงขึ้น “เจ้าจะเอาอย่างไร”

“เอาอย่างไรน่ะหรือ เจ้าทำร้ายนายน้อยของเรา เจ้าคิดว่าข้าจะเอาอย่างไร” เฉวียนอันตวัดเพลงกระบี่พุ่งเข้าหาหว่านไป๋ที่อยู่ใกล้ที่สุด

หว่านไป๋จับผมที่ถูกตัดออกพลันกรีดร้อง

เหนียงจื่อผู้มีพิษขว้างยาพิษออกไป ควันขึ้นโขมง คว้าหว่านไป๋หนีออกจากห้องนี้ไปอย่างรวดเร็ว เมื่อทั้งสองเคลื่อนไหวถึงได้รู้ฤทธิ์ของมดคันไฟ ลมหายใจที่ยังไม่สมดุลปั่นป่วนขึ้นมาทั้งหมด หัวใจเต้นรัวเร็ว

เฉวียนอันก่นด่า กำลังจะตามไป ฉินหลิวซีก็เรียกเขาเอาไว้ “มีเรื่องรู้จักหนักเบา อย่าได้พลาด”

ถูกมดคันไฟกัดแล้ว ยาถอนพิษใช้ไม่ถูก พวกเขาคงซวยแล้ว ต่อให้ใช้ถูก ค่อยไปคิดบัญชีทีหลังก็ยังไม่สายกระมัง

ฉินหลิวซีหยิบขวดยาถอนพิษออกมาจากอก โยนไปให้ “ถอนพิษให้คนของพวกเจ้าก่อน เจ้าก็กินไปอีกหนึ่งเม็ด”

นึกถึงควันพิษเมื่อครู่ เฉวียนอันกินยาเข้าไปอีกหนึ่งเม็ด จากนั้นเดินออกไป ป้อนยาให้กับองครักษ์ผู้หนึ่ง ส่งยาถอนพิษให้เขาไปป้อนคนอื่นๆ ให้คนที่ฟื้นตัวกลับมาไปตามหว่านไป๋

เฉวียนอันกลับเข้ามาในห้อง ฉินหลิวซีใช้ชาดแดงเขียนยันต์ไว้บนหน้าผากของเฉวียนจิ่งแล้ว ศีรษะปวดเต้นตุบตับขึ้นมาโดยไม่อาจห้ามได้

“ท่านเจ้าอาวาสน้อย นี่คืออะไรหรือ”

“ยันต์สะกดวิญญาณ” ฉินหลิวซียืดตัวขึ้น เอ่ย “ยาที่พวกหว่านไป๋ให้กินนั้นรุนแรง ทว่าไม่แข็งแกร่งเท่าพิษมดคันไฟ ยามนี้ฤทธิ์ยาปะทะ ทำให้พิษอัคคีเยือกแข็งกร่อนที่สงบอยู่ปะทุขึ้นมาทั้งหมด ทั้งยังทำให้มดคันไฟเกิดขึ้นมา ข้าสงสัย พิษอัคคีเยือกแข็งกร่อนนี้ทำให้เกิดไข่มดคันไฟ”

ขนของเฉวียนอันลุกซู่ขึ้นมา ไข่มด นี่ไม่ได้หมายความว่าร่างกายของนายน้อยเป็นรังอบอุ่นแล้วหรือ

“เช่นนั้นนายน้อยของข้า”

“หากไม่อาจผ่านพรุ่งนี้ไปได้ เจ้าก็สวมชุดไว้ทุกข์เถิด”

ใบหน้าเฉวียนอันซีดขาว ตบหน้าตัวเองแรงๆ หนึ่งครั้ง เลือดไหลออกมาจากมุมปาก

ฉินหลิวซีเอ่ย “นี่คือยันต์สะกดวิญญาณ ห้ามเช็ดออก ปากเขาอมโสมพันปีเอาไว้ ยื้อชีวิตของเขาเอาไว้ได้ หากเขาฟื้นขึ้นมา ให้เขาเคี้ยวและกลืนลงไป แล้วก็เข็มทองนี่ ข้าผนึกพลังชีวิตที่เหลืออยู่ของเขาเอาไว้ ระหว่างที่ข้ายังไม่กลับมา อย่าได้แตะต้องเข็มทองแม้แต่เล่มเดียว”

นางครุ่นคิด แปะยันต์ไว้รอบๆ เตียงเพิ่มหลายแผ่น หลีกเลี่ยงไม่ให้ดวงวิญญาณผีตนใดมาเข้าสิงร่าง

จัดการสิ่งเหล่านี้เสร็จสิ้น นางก็เปิดเส้นทางหยินแล้วก้าวเข้าไป มุ่งหน้าไปยังบ้านแม่หมอกู่

เฉวียนอันมองนางหายไปกลางอากาศ นิ่งค้าง จากนั้นหันมามองยันต์ที่ถูกแปะเอาไว้ทุกหนทุกแห่ง สูดหายใจเข้าลึก

ท่านเจ้าอาวาสน้อยเป็นหมอนักพรตเต๋า นางต้องมีวิธีอย่างแน่นอน

เขาจ้องมองเฉวียนจิ่งที่ไม่ขยับตัว เดินไปอยู่ด้านข้าง เรียกคนเข้ามาพร้อมออกคำสั่ง จากนั้นเดินกลับมานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง

ยามจื่อ ผีมากมายท่องไปทั่วราตรีกาล

ฉินหลิวซีปรากฏตัวอยู่หน้าบ้านแม่หมอกู่ มองบ้านที่ยังจุดตะเกียงอยู่จึงตั้งใจส่งเสียงเรียกแม่หมอกู่อยู่ด้านนอก จากนั้นก็รออย่างสงบ

ผ่านไปสักพัก เสียงประตูเปิดออก

แม่หมอกู่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าซึมเซา

ฉินหลิวซีรีบเข้าไปหา ยังไม่ทันเอ่ยปาก อีกฝ่ายก็ยื่นกล่องกลมเล็กมาให้

“สำเร็จแล้ว” แม่หมอกู่ยัดกล่องใส่มือนาง เอ่ย “ใช้เลือดและหัวใจสร้างสัญญาเลือดปลูกเอาไว้ในร่างกายก็พอ ใช้เลือดนิ้วกลางก็ได้ เพียงเท่านี้จะกลายเป็นกู่ผู้พิทักษ์ของเขา สัญญาสำเร็จ กู่อยู่เขาอยู่ กู่ตายเขาก็จะได้รับผลสะท้อนกลับเช่นกัน”

ฉินหลิวซีกลับจับมือแม่หมอกู่ขึ้นมา สองนิ้วทาบลงไป หัวคิ้วขมวดขึ้น เอ่ย “พลังชี่ปั่นป่วน พลังหยินหนัก ท่านใช้เคล็ดวิชาลับหรือ”

แม่หมอกู่ชะงัก ใบหน้าเย็นชาเผยความอ่อนโยนที่ยากจะหาได้ เอ่ย “แม่กู่นี้ยังต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อย หากไม่ใช้เคล็ดวิชาลับก็ไม่อาจสำเร็จได้ เจ้าบอกว่าเด็กคนนั้นอยู่ได้ไม่เกินวันนี้มิใช่หรือ”

ฉินหลิวซีอ้าปาก รู้สึกละอายใจขึ้นมา

“ไม่เป็นไร หากช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้ ต่อไปเขาจะปกป้องประชาชน ข้าเองก็ถือว่ามีคุณความดี ยังได้ชดเชยการกระทำผิดคุณธรรมของแม่หมอกู่อย่างข้าแล้ว” แม่หมอกู่เอ่ยปลอบหนึ่งประโยค

ฉินหลิวซีฟังคำนี้ไม่เอ่ยสิ่งใด เพียงหยิบปีศาจโสมน้อยออกมา เอ่ย “เจ้าให้เองหรือให้ข้าหัก”

ปีศาจโสมน้อยน้ำตาไหลนองหน้า มันเพียงนอนหลับเท่านั้น ไยจึงถูกถอนขึ้นมาบาดเจ็บแล้วบาดเจ็บอีก

มันมองไปยังแม่หมอกู่ ใบหน้าขมขื่นดึงรากฝอยยื่นไปให้

แม่หมอกู่ไม่ใช่คนไม่รู้จักของ เห็นลักษณะของโสม ทั้งยังมีจิตวิญญาณเช่นนี้ ก็รู้ว่าบำเพ็ญเพียรตบะจนมีจิตวิญญาณขึ้นมา มีที่มาเดียวกันกับรากนั้นที่ฉินหลิวซีเคยให้มาก่อน

“เจ้าเคยให้มาก่อนหน้านี้แล้ว” แม่หมอกู่รู้ว่าสมบัติของสวรรค์นั้นหายากบนโลกมนุษย์ ล้ำค่าไม่น้อย

ฉินหลิวซีกลับยัดใส่มือนาง เอ่ย “ท่านตุ๋นดื่ม บำรุงกำลังวังชา นอกจากนี้ แม่กู่ต้องเลี้ยงหรือไม่ ต้องเลี้ยงอย่างไร”

“มันจะดูดเลือดจากร่างกายของเขาเอง วางใจ ขอเพียงเขาไม่ตั้งใจลงมือกับกู่ เขาจะไม่เป็นไร เลือดเพียงหนึ่งหยดก็จะมีชีวิตร่วมกัน” แม่หมอกู่เอ่ย “มีแม่กู่นี้ เขาไม่ต้องเกรงกลัวต่อพิษใดรวมไปถึงสัตว์พิษอื่น นอกเสียจากราชีนีกู่ที่ร้ายกาจกว่ามัน”

ฉินหลิวซีเอ่ยถามถึงสิ่งที่ต้องระวัง จากนั้นก็ไม่รอช้า รีบเดินทางกลับไปด้วยเส้นทางหยินอีกครั้ง

แม่หมอกู่มองนางกลับไป ก้มลงมองรากโสมในมือรวมไปถึงหยกคุ้มภัยที่ไม่รู้ยัดใส่มือมาเมื่อใด มุมปากยกขึ้น เป็นเด็กดีคนหนึ่งเหมือนกัน

ฉินหลิวซีกลับมายังเรือนของเฉวียนจิ่งอีกครั้ง รู้สึกถึงบางอย่างไม่ถูกต้อง เพียงมองออกไปก็เห็นเว่ยเสียมายืนอยู่หน้าเรือน

“อย่าบอกข้าว่าฝั่งนั้นให้เจ้ามาคล้องวิญญาณของเฉวียนจิ่ง”

องครักษ์ในเรือนเห็นฉินหลิวซีปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน ต่างพากันเบิกตาโพลงอ้าปากค้าง ตอนนี้ยังเห็นนางกำลังพูดคุยมองไปยังทิศทางหนึ่ง รวมไปถึงได้ยินสิ่งที่นางเอ่ยอย่างชัดเจน ขนพลันลุกซู่ขึ้นมา

เว่ยเสียส่งเสียง หึ “ท่านจะแย่งคน ผู้ใดกล้ามาบ้าง ก็ไม่ใช่มารังแกข้าที่ไม่มีความสำคัญที่ไม่ได้มีตำแหน่งทางการ”

สวรรค์เห็นใจ เพื่อไม่ถูกฉินหลิวซีเทพอสูรผู้นี้ตีตาย ยมทูตเหล่านั้นยอมเดินทางไปคล้องวิญญาณที่แดนไกล ไม่ยอมมารับดวงวิญญาณของเฉวียนจิ่ง เพราะรู้ชื่อเสียงฉาวโฉ่ของฉินหลิวซีดี

“อ้อ ข้ามีชื่อเสียงฉาวโฉ่หรือ” ฉินหลิวซีเผยยิ้มร้าย

เว่ยเสียรีบปิดปาก สวรรค์ เขาเอ่ยสิ่งที่อยู่ในใจออกมาได้เยี่ยงไร

มองเห็นว่าฉินหลิวซีกำลังเดินมา เขารีบเอ่ย “เจ้าอย่าเข้ามา ใกล้ถึงเวลาแล้ว เจ้าไม่แย่งคน ข้าจะเข้าไปคล้องแล้วหนา”

เท้าฉินหลิวซีชะงัก ส่งเสียงหยันหนักๆ หมุนตัวเดินเข้าห้องไป

เว่ยเสียพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ กุมหน้าอกที่ถูกทำให้หวาดกลัว เอ่ยกับผีสาวใต้ต้นไม้ด้วยความโกรธ “เจ้า ไม่ต้องเล่นลิ้นเล่นหัวแล้ว เอามันมาเต้นรำให้ข้าอารมณ์ดีขึ้น มิเช่นนั้นข้าจะคล้องวิญญาณเจ้า”

ผีสาว “…”

ก็รู้เป็นบุรุษทัดดอกไม้มีปัญหา เจ้านี่มันวิปริตจริงๆ

คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Score 10
Status: Completed
คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า นางคือปรมาจารย์ปู่ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น! รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาชีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่ง ฉินหลิวชี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเดำเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไป เบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู่ฉิว ผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงิน ปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิด เมื่อโชชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่นปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้ เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมรื่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัว เฮ้อ แม้ไม่หวังการก้วหน้าใดๆ แต่สรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเขียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้า เขาก็ดั้นดันเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า! "เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ" "ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ" "ไม่ป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง" "ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า" ฉีเซียนเอ่ย "ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป..." ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ "เดิมที่ท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน" "..."

Options

not work with dark mode
Reset