คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า 608 เลิกพล่ามแล้วมาสู้กันเถอะ!

ตอนที่ 608 เลิกพล่ามแล้วมาสู้กันเถอะ!

ตอนที่ 608 เลิกพล่ามแล้วมาสู้กันเถอะ!

อัปลักษณ์?

เมื่อบุรุษชุดดำถูกฉินหลิวซีด่าว่าอัปลักษณ์ทันทีที่เห็นหน้าก็มึนงงเล็กน้อย สีหน้าก็เริ่มไม่น่าดูแล้ว จ้องฉินหลิวซีแล้วกำลังจะเอ่ยปาก แต่กลับถูกอีกฝ่ายโยนยันต์ใส่

อะไรกัน

บุรุษชุดดำตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากที่มีเสียงระเบิดดังขึ้นเขาก็รีบถอยหลังทันที ตบเปลวไฟที่อยู่บนตัว รู้สึกแน่นและเจ็บที่หน้าอกเล็กน้อย

ให้ตายเถอะ ยันต์ห้าสายฟ้า

ศิษย์น้องผู้นี้ไม่มีจรรยาบรรณในการต่อสู้เอาเสียเลย ทันทีที่เห็นหน้าก็ลอบโจมตีโดยการปายันต์ใส่ก่อน ซ้ำยังเป็นยันต์ห้าสายฟ้าอันล้ำค่า ตาเฒ่าชื่อหยวนให้ยันต์ป้องกันตัวนางไว้เยอะหรือ

เขาคิดว่าจะจบลงแค่นี้ แต่ไม่เป็นเช่นนั้น

ในขณะที่เขาตบไฟบนตัวอยู่ ฉินหลิวซีก็เขย่งปลายเท้าเพื่อโจมตี

เมื่อได้ยินเสียงลม บุรุษชุดดำก็รีบหลบ และโยนยันต์ต่อสู้หนึ่งแผ่นตอบโต้กลับไป

ดูเหมือนว่าฉินหลิวซีจะเตรียมพร้อมไว้นานแล้ว เขาปายันต์ออกมาอย่างรวดเร็ว นางเองก็ไม่ได้ช้า โยนยันต์ต่อสู้ออกไปหนึ่งแผ่นเช่นกัน ยันต์สองแผ่นปะทะกันกลางอากาศ เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น

ทั้งสองถอยห่างออกไปในระยะที่ปลอดภัย

บุรุษชุดดำก้มหน้าลงมองไปยังเสื้อคลุมสีดำของตัวเองที่ถูกไฟไหม้ และหน้าอกที่ปวดร้าว เลียเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากด้วยปลายลิ้น เอ่ยอย่างชั่วร้ายว่า “ศิษย์น้องเล็กไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรก็ลอบโจมตี ชื่อหยวนอ้างตนว่าเป็นคนชอบธรรม เขาสอนสิ่งเหล่านี้แก่เจ้าหรือ”

เมื่อฉินหลิวซีได้ยินเขาพูดถึงอาจารย์ สายตาก็มีร่องรอยของความเย็นชา เอ่ย “ให้ข้าสอนหลักการให้เจ้าสักหนึ่งอย่างหรือไม่”

“อะไร”

“ตัวโกงตายเพราะพูดมาก!” ก่อนที่ฉินหลิวซีจะเอ่ยจบ ก็ปายันต์โจมตีอีกครั้ง

อยากต่อสู้ก็สู้ พูดพล่ามอะไรไร้สาระ

เราก็ไม่ได้รู้จักกัน

นางไม่รู้ว่าบุรุษชุดดำผู้นี้เป็นใคร แต่ที่แน่ใจก็คือผู้นั้นที่อยู่เบื้องหลังจังหย่งคงจะเป็นคนมีฝีมือ จึงได้ตามมาที่นี่ อีกอย่างเขารู้จักอาจารย์ และจุดมุ่งหมายก็คือนาง

บุรุษชุดดำกระโดดออก มองดูยันต์ห้าสายฟ้าที่ระเบิดอยู่ตรงหน้า เปลือกตากระตุก “เจ้ามันจอมล้างผลาญ…”

เมื่อเห็นว่าฉินหลิวซีไม่หยุดการเคลื่อนไหว เตะมาทางเขา บุรุษชุดดำก็แสยะยิ้ม “เดี๋ยวศิษย์พี่จะสอนความเป็นคนให้แก่เจ้า…อะ”

“ข้าเป็นพ่อเจ้า!” หลังจากที่ฉินหลิวซีส่งเข็มพุ่งออกไปหลายเล่ม มือทั้งสองข้างร่ายอาคม ปากท่องคาถาห้าสายฟ้า “ใต้หล้าไร้ขอบเขต พลังเต๋าแห่งจักรวาล ข้าพเจ้าขออันเชิญปรมาจารย์เต๋าซานชิง มอบพลังอันศักดิ์สิทธิ์แก่ข้า ส่งห้าสายฟ้าลงมาจากสวรรค์ เพี้ยง”

คาถาของนางเสกไปยังบุรุษชุดดำ เสียงฟ้าผ่าคำรามดังกึกก้องไปทั่ว สายฟ้าสีม่วงฟาดลงไปที่บุรุษชุดดำ

ในที่สุดบุรุษชุดดำก็มีสีหน้าระแวดระวัง ใช้ยันต์ห้าสายฟ้าอย่างไม่เห็นคุณค่าไม่เท่าไหร่ ซ้ำนางทำให้เกิดฟ้าผ่าได้ด้วย

เขาดึงเครื่องรางเข็มทิศออกมาจากเอวแล้วโยนขึ้นไป “ใต้หล้าไร้ขอบเขต สายฟ้าลงมาสู่เข็มทิศ จักรวาลเคลื่อนตัว…ไป”

ฉินหลิวซีมองดูเข็มทิศนั้นที่รับห้าสายฟ้า ทำให้เข็มทิศเกิดประกายไฟ จากนั้นก็พุ่งมาที่ตัวเอง

ตาข่ายสายฟ้าสีม่วงปกคลุมพื้นที่

ฉินหลิวซีไม่ได้ดูถูก เคลื่อนฝีเท้าใช้วิธีเปลี่ยนตำแหน่งหลบหนีอย่างรวดเร็ว

นับว่าฝีมือสมน้ำสมเนื้อ

ดวงตาของฉินหลิวซีเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

ยิ่งไปกว่านั้นวิชาของคนผู้นี้ดูคุ้นเคยเล็กน้อย เหมือนกับ…

เมื่อฉินหลิวซีคิดอะไรบางอย่างได้ก็เปลี่ยนวิธีแล้วโจมตี จริงๆ ด้วย ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่านางจะโจมตีที่ไหน หลบหลีกได้อย่างคล่องแคล่ว หลังจากทดสอบเช่นนี้อยู่สองครั้ง นางก็จงใจเปิดช่องโหว่ ให้อีกฝ่ายหาโอกาสแสดงฝีมือ

เขาหลบหลีกได้ นางก็โจมตีเพื่อถอยได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ

ฉินหลิวซีเคลื่อนไหวหลบหลีกอย่างช่ำชอง ปายันต์ห้าสายฟ้าไปที่ท่อนล่างของเขา

ปังๆๆ

บุรุษชุดดำ “!”

ให้ตายเถอะ ใครคือตัวโกงกันแน่

เจ้าเป็นนักพรตหญิง ไยจึงได้ทำเรื่องหยาบคายอย่างเปิดเผยเช่นนี้

หรือว่าตาเฒ่าชื่อหยวนผู้นั้นได้รับแรงกระตุ้นเพราะเรื่องของอาจารย์อย่างใหญ่หลวง จึงได้สอนกลอุบายอันชั่วร้ายเช่นนี้ให้แก่เจ้า

อีกอย่างยันต์ห้าสายฟ้าไม่ต้องใช้เงินจริงๆ หรือ เจ้าซื้อมาในราคาขายส่งหรืออย่างไร

ในหมู่บ้าน เถิงเจามองดูตาข่ายสายฟ้าสีม่วงผืนนั้น เม้มริมฝีปากแน่น กำมือทั้งสองข้าง

บุรุษชุดดำด่าก็ส่วนด่า แต่ก็ยังต้องต่อสู้ เขาคลำกระดิ่งขังวิญญาณของตัวเอง เขย่าพลางท่องคาถา ดวงวิญญาณขุ่นเคืองหลายตนที่ถูกเขาขังอยู่ในนั้นลอยออกมา หนึ่งในนั้นก็คือจังหย่ง

เมื่อได้พบกับคนที่มีความแค้นต่อกันก็ตาแดงก่ำเป็นพิเศษ

เมื่อจังหย่งเห็นฉินหลิวซี พลังความขุ่นเคืองก็พุ่งทะยาน พุ่งเข้าไปหานาง “ข้าจะฆ่าเจ้า”

“เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย” เมื่อฉินหลิวซีเห็นจังหย่ง ความสงสัยก่อนหน้านี้ของนางสลายไป เริ่มแน่ใจในทันที ดึงเข็มขัดที่พันอยู่รอบเอวออก ทันทีที่โยนออกไปเข็มขัดก็กลายเป็นแส้โบยวิญญาณ ฟาดไปที่จังหย่ง “คนสารเลว ไปตายซะ!”

“อ๊าก”

แส้โบยวิญญาณเป็นเครื่องรางที่นางหล่อหลอม สีดำสนิท สลักด้วยอักขระที่เป็นยันต์สำหรับสังหารวิญญาณชั่วร้ายปราบปีศาจ ซ้ำยังใช้ห้าสายฟ้ามาช่วยหล่อหลอม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือนางยังได้เพิ่มการหล่อหลอมด้วยจิตสำนึกของไฟนรก เมื่อแส้นี้ฟาดลงไปก็จะสังหารวิญญาณได้อย่างร้ายกาจ ทำให้ดวงวิญญาณของจังหย่งอ่อนแอลงทันที

เดิมทีเขาก็เป็นวิญญาณใหม่ ยังไม่มีประสบการณ์การโจมตี เพียงแค่อาศัยสัญชาตญาณและความขุ่นเคืองอันแรงกล้าของเขามาโจมตีฉินหลิวซี ยังไม่ทันได้แตะต้องนางแม้แต่ปลายเส้นผม ก็ถูกอีกฝ่ายใช้แส้โบยตีจนวิญญาณอ่อนแอลง กรีดร้องโหยหวน

แต่ฉินหลิวซีกลับคิดว่ายังไม่พอ โบยไปอีกหนึ่งที จากนั้นก็ปายันต์ห้าสายฟ้าใส่ผีร้ายอีกหนึ่งตนที่กำลังจะลอบโจมตี แส้โบยลงบนดวงวิญญาณของจังหย่งเป็นครั้งที่สาม “นี่คือการเอาคืนให้แก่เด็กน้อยชายหญิงคู่นั้นและการที่ไม่เคารพร่างของท่านแม่ทัพใหญ่ คนสารเลวอย่างเจ้าอย่าได้กลับชาติไปเกิดอีกเลย”

จังหย่งกรีดร้องโหยหวน วิญญาณแตกสลายไปในทันที

เมื่อผีหลายตนเห็นเช่นนี้ก็พากันรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ดูเหมือนว่าแส้นี้จะมีพลังมากกว่าแส้โบยวิญญาณธรรมดาทั่วไปอยู่มาก หากพวกเขายอมแพ้ตอนนี้จะทันหรือไม่

บุรุษชุดดำก็มองออกแล้ว เขาไม่ได้รู้สึกเสียดายแม้แต่น้อยที่จังหย่งถูกโบยจนแตกสลายไปภายในพริบตา เป็นเพียงแค่วิญญาณที่มีความขุ่นเคือง เขาย่อมหาใหม่ได้

สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นคือแส้โบยวิญญาณของฉินหลิวซีเส้นนั้น

อารามชิงผิงพังทลายลงแล้วไม่ใช่หรือ แต่กลับมีของดีเช่นนี้?

ใช้งานได้ดี ข้าอยากได้

บุรุษชุดดำนำกระจกหยินโลหิตออกมาแล้วส่องไปที่ฉินหลิวซี

กระจกหยินโลหิตนั้นถูกสร้างขึ้นมาจากการสังเวยเลือดหยินเมื่อสตรีคลอดบุตร มีความร้ายกาจเยือกเย็นเป็นอย่างมาก

ทันทีที่ถูกกระจกบานนั้นส่อง ฉินหลิวซีก็อยู่ในทะเลเลือดเหนียวหนืด ในทะเลเลือดมีเสียงเด็กทารกกรีดร้อง ยื่นมือออกมาหลายมือ ต้องการดึงนางลงไปในทะเลเลือด กลิ่นคาวของเลือดทำให้คนคลื่นไส้ กลิ่นเลือดฉุนพุ่งเข้าไปในปากและจมูกของนางทำให้หายใจไม่ออก

“ช่วยข้าด้วย ช่วยเด็กๆ ด้วย” สตรีสีหน้าซีดผู้หนึ่งลุกขึ้นยืนโซเซอยู่ในทะเลเลือด ลากรกที่ออกมาจากร่างกายส่วนล่าง เอื้อมมือไปหานาง “ท่านเป็นปรมาจารย์ที่มีบุญกุศลติดตัวไม่ใช่หรือ ช่วยพวกเราด้วยเถิด เหตุใดท่านไม่ช่วยพวกเรา หัวใจเต๋าของท่านล่ะ”

สตรีผู้น่าสงสารเอื้อมมือมาหานางคนแล้วคนเล่า

ฉินหลิวซีมองอย่างเย็นชา

ทันใดนั้นก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหลังนาง นางหันกลับไป นักพรตเต๋าชื่อหยวนตะโกนใส่นางด้วยความร้อนใจ “เจ้าศิษย์เนรคุณ รีบขึ้นมา ทะเลเลือดเหน็บหนาวเข้ากระดูก รีบขึ้นมาเร็ว”

“ตาเฒ่า?”

เขายื่นมือมาพลางเอ่ย “เจ้ามอบมุกมังกรวารีให้ข้า ข้าจะดึงเจ้าขึ้นมา เร็วเข้า”

ฉินหลิวซีหยิบมุกหนึ่งเม็ดออกมาจากอ้อมแขนแล้วยื่นให้ “ข้าให้เจ้าก็โง่แล้ว จะแสร้งทำก็ทำให้เหมือนหน่อย ดูถูกไหวพริบของข้ายิ่งนัก!”

ตาเฒ่าไม่เคยรู้ว่านางกำลังตามหามุกมังกรวารี

ทันทีที่นางปล่อยมือ กลุ่มไฟก็ตกลงไปในทะเลเลือด

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังทะยานขึ้นสู่ฟ้า

แกรก

บุรุษชุดดำถอยหลังสองก้าว มองดูกระจกหยินโลหิตที่แตกร้าวในมือ ดวงตาเป็นประกาย “เจ้าเก่งกว่าที่ข้าคิดไว้มาก ศิษย์น้องเล็ก”

“อย่ามานับญาติมั่วซั่ว เจ้าเป็นใคร” ฉินหลิวซีถามอย่างเย็นชา

บุรุษชุดดำถอดหมวกออก เผยให้เห็นใบหน้าทั้งหมด ยิ้มพลางเอ่ย “ข้าคือซาหยวนจื่อศิษย์พี่ของเจ้าไง วันนี้เตรียมตัวมาไม่ดีเท่าใดนัก ศิษย์พี่เสียมารยาทแล้ว ครั้งหน้าข้าค่อยมาใหม่ พวกเรามาสู้กันสักสามร้อยยก”

ฉินหลิวซีสายตาไว พุ่งเข้าไป มือกลายเป็นกรงเล็บคว้าเอาไว้ แต่สิ่งที่คว้าได้กลับเป็นเพียงตุ๊กตากระดาษที่เป็นตัวแทน

คนบ้าผู้นี้!

คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Score 10
Status: Completed
คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า นางคือปรมาจารย์ปู่ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น! รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาชีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่ง ฉินหลิวชี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเดำเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไป เบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู่ฉิว ผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงิน ปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิด เมื่อโชชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่นปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้ เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมรื่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัว เฮ้อ แม้ไม่หวังการก้วหน้าใดๆ แต่สรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเขียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้า เขาก็ดั้นดันเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า! "เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ" "ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ" "ไม่ป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง" "ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า" ฉีเซียนเอ่ย "ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป..." ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ "เดิมที่ท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน" "..."

Options

not work with dark mode
Reset