คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า 419 แม้แต่ผีน้อยนางก็ไม่ปล่อย

ตอนที่ 419 แม้แต่ผีน้อยนางก็ไม่ปล่อย

ตอนที่ 419 แม้แต่ผีน้อยนางก็ไม่ปล่อย

ผีทารกทั้งรู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมทั้งน่าอนาถ นางอยากกลับมาเกิดใหม่ แต่ก็ต้องตายก่อนทุกครั้ง ไม่ตายก่อนจะได้เกิด ก็จมถังน้ำปัสสาวะตาย ต้องเกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใครจะน่าอนาถเท่านางอีก?

และที่น่าอนาถยิ่งกว่าก็คือนางพบกับปรมาจารย์สวรรค์เข้าแล้ว!

“ปรมาจารย์สวรรค์ ข้าน้อยเลอะเลือนไปชั่วขณะจริงๆ ข้าน้อยแค่ไม่อยากผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่อยากจะถูกฆ่าแล้ว” ผีทารกเอ่น น้ำตาผีสีแดงสดยังไหลออกมาจากดวงตานั้นด้วย

ฉินหลิวซีนิ่วหน้าพลางเอ่ยถาม “ในวัดหนี่ว์วานั่นมีตุ๊กตาดินเผาที่แต่งดวงตาเหมือนเจ้ากี่ตัว?”

“ถ้าไม่ถึงร้อยก็ต้องมีหลายสิบ” ผีทารกคิดแล้วตอบ

“ต่างก็ต้องเกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนเจ้าหรือ อย่างมากคือกี่ครั้ง ตุ๊กตาดินเผาที่ถูกอัญเชิญกลับไปจะเป็นอย่างไร หากเจ้าบ้านไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก” ฉินหลิวซีถาม

ผีทารกตกตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า “ข้าน้อยไม่ทราบ” จู่ๆ นางก็นึกขึ้นได้ “ข้าเคยเห็นคนนำตุ๊กตาดินเผากลับมาคืน บอกว่าไม่ตั้งครรภ์ต้องการเปลี่ยน แต่ตัวที่ถูกนำมาเปลี่ยนไม่ได้แต้มดวงตา”

ฉินหลิวซีแค่นเสียงหยัน

วัดหนี่ว์วานั่นผิดปกติ

ฉินหลิวซีมองตุ๊กตาดินเผาในมือแล้วใช้แรงบีบตุ๊กตาดินเผาเล็กๆ ตัวนั้นจนแตก กระดาษยันต์สีเหลืองแผ่นหนึ่งก็ร่วงลงบนพื้น

เติ้งเฉิงซื่อเห็นแล้วก็อุทานด้วยความตกใจ

ฉินหลิวซีเก็บกระดาษยันต์ขึ้นมาคลี่ออก บนนั้นมีอักษรเขียนอยู่ ซึ่งนางมองแวบเดียวก็รู้แล้วว่ามันเป็นยันต์คาถาประเภทใด

ยันต์ดึงดูดวิญญาณ

ไม่น่าแปลกใจที่วิญญาณผีทารกกลับมาที่ตุ๊กตาดินเผาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่แท้ด้านในนั้นก็มียันต์ดึงดูดวิญญาณอยู่ ตุ๊กตาคือที่พักพิงของมัน เมื่อมันตายจึงกลับไปยังที่ที่คุ้นเคยที่สุด จากนั้นก็รอที่จะไปเกิดครั้งใหม่ แล้วประสบกับการแท้งก็ได้กลับมาเกิดใหม่

ไม่มีใครอยากจะประสบพบเจอกับการเกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมถึงผีทารกตนนี้ด้วย และเมื่อประสบสิ่งนั้นแต่ละครั้ง ไอแค้นของมันก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นจนกระทั่งถึงจุดสูงสุด

เช่นนั้นแล้วมันต้องพบเจอเรื่องเช่นนี้มากที่สุดกี่ครั้ง?

คำกล่าวหนึ่งผุดขึ้นในใจฉินหลิวซี

ตัวเลขทั้งหมดบนสวรรค์และโลกมนุษย์เริ่มต้นที่หนึ่ง สิ้นสุดที่เก้า

เลขเก้าคือจำนวนสูงสุด

มากที่สุดคือเก้าครั้ง ไอแค้นของผีทารกกลายไปพลังหยินชั่วร้ายที่ยากจะรับมือ

ส่วนวัดหนี่ว์วาก็กำลังรุ่งเรืองได้รับความนิยม มีตุ๊กตาดินเผาแบบนี้เป็นหลายสิบหรืออาจเป็นร้อยตัว หากตุ๊กตาดินเผาทุกตัวที่แต้มดวงตาต่างก็มีผีทารกสิ่งสู่อยู่หนึ่งตน พวกเขาต่างก็ประสบกับการไปเกิดใหม่แต่ไม่สามารถเติบโตได้ถึงเก้าครั้ง หากหลอมรวมพวกเขาทั้งหมดไว้ด้วยกัน ไอชั่วร้ายนั้นจะไม่ยิ่งเข้มข้นรุนแรงกว่าคำสาปเลือดทารกของแม่มดชั่วร้ายนั่นอีกหรือ

ฉินหลิวซีขนลุก สีหน้าย่ำแย่สุดขีด

นางนึกถึงธงร้อยวิญญาณ

หากต้องการสร้างอาวุธอาคมชั่วร้ายนี้ขึ้นมา จะต้องใช้วิญญาณร้ายเป็นร้อยตัวสร้างขึ้น เมื่อธงร้อยวิญญาณถูกเรียกใช้ นักพรตทั่วไปย่อมไม่ใช่คู่ปรับอย่างแน่นอน

และผีทารกพวกนี้ก็เช่นกัน ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะทำอะไรกับพวกมัน แต่จากคำบอกเล่าของผีทารกที่อยู่ตรงหน้านี้แล้ว มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่

เป็นไปได้บ้างหรือไม่ที่จะไม่ต้องประสบพบเจอเรื่องเช่นนี้ถึงเก้าครั้ง?

เมื่อเป็นเช่นนี้ เพียงเกิดใหม่สามครั้งกับฮูหยินคนหนึ่ง ก็ถึงเก้าครั้งได้แล้ว

ดูเหมือนว่านางจะต้องไปสำรวจวัดหนี่ว์วาเสียหน่อยแล้ว

ฉินหลิวซีมองผีทารก “ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการเกิดใหม่อีกแล้ว เช่นนั้นก็เข้าไปอยู่ในอาวุธอาคมของข้าดีๆ แล้วข้าจะส่งเจ้าไปเกิดใหม่ แต่เจ้าดูดซับแก่นปราณของคนบริสุทธิ์ ทั้งอีกฝ่ายยังมีบุญติดตัวด้วย เมื่อลงไปยังปรโลก จะต้องผ่านกระจกส่องกรรมด้วย ยามต้องไปเกิดใหม่ ก็คงไม่ได้ไปเกิดในตระกูลที่มั่งคั่งร่ำรวยดีๆ”

ผีทารกอุทาน ลังเลเล็กน้อย

“ถ้าเจ้าไม่มา ข้าก็ต้องทำลายวิญาณเจ้าให้แตกสลายไปเท่านั้น” ฉินหลิวซียกกิ่งหลิวในมือขึ้น

ผีทารกตัวสั่น

ดุ นางดุผี แม้แต่ผีน้อยที่ไม่สามารถกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ได้ก็ไม่ยอมปล่อย!

“ปรมาจารย์สวรรค์ ข้ายินดี” ผีทารกเลือกที่จะจำนนต่ออำนาจเผด็จการของคนบางคน

ฉินหลิวซีแค่นเสียงออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหยิบน้ำเต้าหยกที่พกไว้ตรงเอวออกมา เปิดขวดออก “มา”

ผีทารกสลายกลายเป็นกลุ่มควันเข้าไปในน้ำเต้าหยก

ฉินหลิวซีเก็บน้ำเต้าหยกแล้วแขวนไว้ที่เอวเหมือนเดิม ก่อนจะหันไปเอ่ยกับเถิงเจา “เจ้าเป็นอะไรหรือไม่”

เถิงเจาแค่หน้าซีดไปเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อได้ยินนางถามก็ส่ายหน้า เกี่ยวเชือกสีแดงที่ลำคอซึ่งแขวนป้ายหยกขับไล่สิ่งชั่วร้ายที่ฉินหลิวซีมอบให้

ฉินหลิวซีลูบศีรษะเขา ก่อนจะหันไปมองคู่สามีภรรยาเติ้งฟู่ไฉ แล้วเดินเข้าไปหา โดยไม่คาดคิดทั้งสองต่างก็ตกใจกลัวจนรีบถอยหลัง

นางนิ่งไปเล็กน้อย “ไม่เป็นไรแล้ว”

เติ้งฟู่ไฉมองเศษตุ๊กตาดินเผาบนพื้นพลางกลืนน้ำลาย “ท่านอาจารย์ นั่นมันอะไรหรือ”

“เป็นตุ๊กตาดินเผาที่มีผีทารกสิงสู่อยู่ ไม่ทราบว่าพวกท่านรู้จักสะใภ้รองตระกูลหยวนหรือไม่”

เติ้งฟู่ไฉและภรรยาสบตากัน “นางเป็นคนหมู่บ้านเจ่าจือของเรา”

“บ้านนั้นเป็นอย่างไรบ้าง”

เติ้งเฉิงซื่อส่ายศีรษะ ก่อนจะถอนหายใจ “ไม่ดี สะใภ้หยวนให้กำเนิดบุตรสาวสามคนติดๆ กัน แม่สามีของนางด่าทอนางทุกวัน ต่อว่านางว่าไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ทุกครั้งที่ข้าเห็นนาง นางก็มองข้าด้วยสายตาอิจฉาริษยา น่ากลัวมาก”

เติ้งฟู่ไฉจิตใจดีและเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง พอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พอจะเดาอะไรได้ “ท่านอาจารย์ หรือว่าสะใภ้รองตระกูลหยวนไปขอลูกชายที่วัดหนี่ว์วา ตุ๊กตาดินเผานี้เป็นของที่นางขอมาจากวัดเพื่อบูชา?”

ฉินหลิวซีพยักหน้า “ใช่แล้ว”

เติ้งเฉิงซื่อตกใจทันที “ของที่นางบูชาทำไมมาอยู่ที่ลูกรักของข้าได้ ทั้งยังถูกซ่อนเอาไว้ลึกลับเช่นนี้?”

ฉินหลิวซีบอกเล่าตามคำพูดของผีทารก

พอเติ้งเฉิงซื่อได้ยินว่าผีทารกต้องเกิดใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งถูกทุบตีจนแท้งหรือกดน้ำตาย สองขาของนางก็อ่อนแรงลงทันทีจนแทบจะล้มลงกับพื้น โชคดีที่เติ้งฟู่ไฉประคองไว้ทัน

“เหตุใดต้องทำถึงขนาดนั้น นางทำอย่างนั้นได้อย่างไร” เติ้งเฉิงซื่อเองก็เป็นสตรีเหมือนๆ กัน การแท้งในช่วงอายุครรภ์นั้นจะต่างอะไรกับการคลอดออกมา ไม่สิ นั่นมันส่งผลเสียต่อร่างกายยิ่งกว่าการคลอดตามธรรมชาติเสียอีก

ส่วนสะใภ้รองตระกูลหยวนที่แท้งไปได้ไม่ถึงครั้งปีก็ตั้งครรภ์ใหม่อีก ครั้งนี้ก็คลอดก่อนกำหนด บัดนี้เด็กเสียชีวิตไปแล้ว แต่ร่างกายของนางคงไม่สามารถกลับมาดีได้แล้ว ต่อไปจะยิ่งยากมากขึ้นไปอีก

“ไม่น่าช่วงนี้ข้าไม่ค่อยเห็นสะใภ้รองตระกูลหยวนเลย ที่แท้ก็…” สีหน้าเติ้งเฉิงซื่อซีดเซียวไร้สีเลือด

เติ้งฟู่ไฉส่ายศีรษะ “แม้จะเป็นเด็กผู้หญิง ก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองเหมือนกัน ทำร้ายกันเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าด้วยมือตัวเอง มิน่าพวกตระกูลหยวนจึงได้ยากจนลงทุกที เป็นเพราะพวกเขาทำลายบุญกุศลด้วยมือของตนเอง สะใภ้รองตระกูลหยวนเองก็โง่เขลานัก”

เติ้งเฉิงซื่อเช็ดน้ำตาออกจากหางตา ใครจะพูดว่าไม่จริงได้เล่า

ความรู้สึกที่นางมีต่อสะใภ้รองตระกูลหยวนเรียกได้ว่า เสียใจในความโชคร้ายของนาง โศกเศร้าที่ชีวิตไม่เป็นไปตามที่หวัง

เติ้งฟู่ไฉเหลือบมองเศษตุ๊กตาดินเผา ก่อนจะเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “ท่านอาจารย์ หาเป็นอย่างที่ท่านว่า วัดหนี่ว์วานั่นไม่ได้ทำร้ายคนอื่นอยู่หรือ”

ตุ๊กตาดินเผามีผีอยู่ก็น่ากลัวมากแล้ว ทางวัดถึงกับให้คนนำกลับไปบูชา มันไม่เท่ากับเป็นการเลี้ยงผีตัวน้อยนี่หรือ หากไปเกิดใหม่เป็นเด็กผู้หญิงก็ต้องแท้ง จากนั้นก็ต้องเกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่เป็นการทำร้ายทั้งวิญญาณทารกและร่างกายของผู้ใหญ่นี่

เติ้งเฉิงซื่อเองก็ตกใจเช่นกัน

“ข้าจึงได้ถามท่านว่า พวกท่านยังรู้อีกหรือไม่ว่ามีคนที่ไปขอลูกที่วัดหนี่ว์วาแบบเดียวกับสะใภ้รองตระกูลหยวนอีกหรือไม่ พวกนางเป็นอย่างไรกันบ้าง” ฉินหลิวซีถาม

สะใภ้รองตระกูลหยวนไม่ใช่คนแรก หากวัดหนี่ว์วาไม่ล่มสลาย นักพรตชั่วร้ายนั่นไม่ถูกทำลาย นางก็ย่อมไม่ใช่คนสุดท้าย

คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Score 10
Status: Completed
คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า นางคือปรมาจารย์ปู่ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น! รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาชีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่ง ฉินหลิวชี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเดำเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไป เบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู่ฉิว ผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงิน ปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิด เมื่อโชชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่นปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้ เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมรื่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัว เฮ้อ แม้ไม่หวังการก้วหน้าใดๆ แต่สรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเขียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้า เขาก็ดั้นดันเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า! "เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ" "ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ" "ไม่ป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง" "ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า" ฉีเซียนเอ่ย "ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป..." ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ "เดิมที่ท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน" "..."

Options

not work with dark mode
Reset