คุณชิมิสึแยงกี้ตัวแม่ที่นั่งโต๊ะข้างๆไม่รู้อารมณ์ไหนถึงได้ย้อมผมดำมาซะเเล้ว 6.1 ช้อปปิ้งกับพี่น้องชิมิสึ

ตอนที่ 6.1 ช้อปปิ้งกับพี่น้องชิมิสึ

“เอาล่ะ กินอิ่มแล้ว เราไปกันเลยไหม?” 

“ว่าแต่ ผมลืมถามไปเลย วันนี้ไอซังและชิมิสึซังตั้งใจจะไปไหนกันเหรอครับ?”

ถึงจะตกลงไปด้วยแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ได้ถามเลยว่าจะไปไหนกัน

“อ๊ะ! ลืมบอกไปเหรอเนี่ย? แหม~ พวกเรามาซื้อเสื้อผ้าให้เคย์จังกับฉันน่ะ” 

“เหรอครับ?”

ผมไปด้วยได้จริงๆ เหรอเนี่ย…

“ถ้าจะซื้อเสื้อผ้า ก็ต้องขอความเห็นจากเพศตรงข้ามด้วย ถูกมั้ยล่ะ? ปกติฉันจะไปกับเพื่อนสมัยเด็ก แต่วันนี้เขาติดธุระน่ะสิ อุตส่าห์ตั้งตารอทั้งที~ ว่าจะทำยังไงดีน้า~ โชคดีจังเลยที่ไดกิคุงอยู่ที่นี่พอดี” 

“อ๋อ เข้าใจแล้วครับ แต่เอาจริงๆ ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเสื้อผ้าเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าจะช่วยได้รึเปล่านะ”

ผมพูดความจริง วันหยุดผมก็ใส่แต่เสื้อฮู้ด แบบนี้ ไม่รู้หรอกว่าเสื้อผ้าแบบไหนถึงจะดูดี

“ไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า~ เพื่อนสมัยเด็กของฉันก็ชอบพูดว่า ‘ใส่แบบไหนก็ดูดี…’ อะไรแบบนี้” 

“ฮ่าๆ…”

ผมอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแห้งๆ ออกมา  ทำไมรอยยิ้มของไอซังถึงดูเศร้าๆ นะ 

“เพราะงั้น ไม่ต้องห่วงเรื่องเซนส์แฟชั่นอะไรนั่นหรอก อีกอย่าง เคย์จังก็อยากให้ไดกิคุงช่วยดูเสื้อผ้าให้ด้วย ใช่มั้ยจ๊ะ?”

ไอซังหันไปมองชิมิสึซัง เหมือนจะถามความเห็น

“…ฉันยังไงก็ได้” 

“–แต่ถ้าไดกิคุงช่วยดูให้ ฉันก็จะดีใจมากกว่านะ” 

“พูดเองเออเองอีกแล้วนะ” 

“แหม~ ฉันเข้าใจความรู้สึกของเคย์จังดีออก” 

“ไม่จริงสักหน่อย”

ชิมิสึซังจ้องไอซังด้วยสายตาเย็นชา แต่ไอซังก็ดูไม่สะทกสะท้าน

“ฉันว่าฉันอ่านใจเธอออกนะ แต่ช่างเถอะ ในเมื่อเคย์จังบอกว่ายังไงก็ได้ ก็แปลว่าให้ไดกิคุงไปด้วยก็ได้สินะ เอาล่ะ ในเมื่อตกลงกันได้แล้ว งั้นเราไปกันเลย!” 

“ที่บอกว่า ‘ไปกันเถอะ’ หมายถึงว่า เราจะไปร้านประจำของแต่ละคนไม่ใช่เหรอ?” 

“เหรอครับ?”

เรื่องนี้ผมเพิ่งรู้ ผมนึกว่าพวกเธอจะไปช้อปปิ้งด้วยกันที่ร้านเดียวกันซะอีก

“ตอนแรกก็กะจะไปแบบนั้นแหละ แต่พอได้ฟังเรื่องของไดกิคุง ฉันก็เปลี่ยนใจแล้ว ไปร้านที่ฉันชอบกันเถอะ” 

“ทำไมล่ะ?” 

“ก็เพราะว่า ร้านที่เคย์จังชอบ ส่วนใหญ่จะเป็นแนวเท่ๆ แมนๆ มากกว่าแนวเรียบร้อย น่ารักๆ ร้านที่เราจะไป มีเสื้อผ้าหลายแบบ ตั้งแต่หวานๆ น่ารักๆ ไปจนถึงเรียบร้อย ดูดี น่าจะเหมาะกับเคย์จังมากกว่านะ ใช่มั้ยล่าาา?” 

“อืม…”

อยู่ๆ ไอซังก็เหลือบมามองผม ชิมิสึซังก็มองผมแวบหนึ่ง ล้อเล่นน่า เธอกำลังจ้องผมเขม็งต่างหาก

“เอาล่ะ! ในเมื่อไม่มีใครคัดค้าน งั้นเราไปกันเลย!”

ว่าแล้ว ไอซังก็ออกเดินนำไปเลย พวกเราสามคนก็เดินตามไป

โซนขายเสื้อผ้าในห้าง มีคู่รักเดินกันเยอะแยะ แต่ไม่ค่อยเห็นกลุ่มสองสาวหนึ่งหนุ่มแบบนี้เท่าไหร่

ผมไม่ได้สนใจสายตาคนอื่นมากนักหรอกนะ

เมื่อกี้ไอซังพูดเล่นๆ แต่เอาจริงๆ ทั้งไอซังและชิมิสึซังก็สวยทั้งคู่ คนอื่นจะมองก็ไม่แปลกหรอก

“เอ่อ…ไอซัง แบบนี้ผมลำบากใจนิดหน่อย…”

ผมกระซิบกับไอซัง ที่เดินอยู่ข้างๆ ชิมิสึซัง

“ลำบากใจ?”

ไอซังมองไปรอบๆ ทำท่าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

“อ๋อ เข้าใจแล้ว ไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า~ คนอื่นเขาแค่สนใจ ที่เห็นพ่อหนุ่มโชคดีแบบนาย เดินกับสาวน่ารักตั้งสองคน” 

“อย่าเรียกตัวเองว่าน่ารักนะ”

ชิมิสึซัง ที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบพูดแทรกขึ้นมาทันที แก้มแดงระเรื่อ

“พูดไปก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่นา เอาเถอะ ไหนๆ ก็มาถึงร้านแล้ว รีบเข้าไปกันดีกว่า”

ว่าแล้ว ไอซังก็เดินเข้าร้านไปเลย โดยไม่รอให้ผมกับชิมิสึซังพูดอะไร ผมเลยหันไปมองชิมิสึซัง

“ช่างเถอะ ข้างในร้านคนมองน้อยกว่านี้เเล้วล่ะ รีบเข้าไปกันดีกว่า”

ชิมิสึซังพูดจบ ก็เดินเข้าร้านไป

“เดี๋ยวสิ ชิมิสึซัง!”

ผมรีบวิ่งตามเธอไป

“เฮ้ เคย์จัง ไดกิคุง! มานี่เร็ว ห้องลองเสื้อ ฉันเลือกชุดไว้ให้ลองแล้วนะ”

พอเข้าไปในร้าน ผมก็ได้ยินเสียงไอซังดังมาจากข้างใน ดูเหมือนเธอจะเลือกเสื้อผ้าไว้แล้ว

“ชิมิสึซัง รู้ไหมว่าห้องลองเสื้ออยู่ตรงไหน?” 

“อืม ฉันเคยมาที่นี่กับไอบ้าง ตามมาสิ”

ชิมิสึซังพาผมไปที่ห้องลองเสื้อ

“ไอ พวกเรามาแล้ว”

พวกเราเดินมาถึงห้องลองเสื้อ เห็นห้องๆ หนึ่งปิดม่านอยู่

“หาเจอได้ยังไงเนี่ย? ดีจังเลย” 

“เจอแล้ว ฉันไปได้รึยัง?” 

“รอแป๊บนึงสิ! พี่สาวสุดสวยคนนี้ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนะ ตอนนี้ฉันสวยขั้นเทพเลยล่ะ อยากเห็นมั้ย? หืม?”

 “เลิกพูดว่าสวยๆ ได้แล้ว ถ้าอยากให้ดูก็เปิดม่านออกมาสิ” 

“โธ่เอ๊ย น้องสาวตัวแสบ ชอบทำเย็นชาใส่พี่สาวคนสวยจังเลย งั้นก็ได้ ม่านจ๋า เปิดออก!”

ทันทีที่สิ้นเสียง ม่านห้องลองเสื้อก็เปิดออก

“เป็นไงบ้าง?”

ไอซังในชุดเสื้อเชิ้ตสีเหลืองตัวโคร่ง กับกระโปรงสั้นสีขาว โชว์เรียวขาอันสวยงาม ยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น

“ฉันลองเอาคาร์ดิแกนสีเหลืองมาแมทช์กับมินิสเกิร์ตสีขาวดู!” 

“จงใจเกินไปนะ หักคะแนนห้าร้อยล้านแต้ม” 

“ตัดสินแบบนั้นมันมั่วไปแล้วนะ! เคย์จังใจร้าย ฉันจะร้องไห้แล้วนะ” 

“ถ้ายังพูดแบบนั้นได้อยู่ก็แปลว่าไม่ร้องหรอก” 

“ใจฉันมันร้องไห้อยู่นะ… ไดกิคุงว่าไงบ้าง?”

จริงสิ ผมต้องช่วยออกความเห็นด้วย

จะพูดว่าไงดีนะ? ถ้าชมตรงๆ ว่าขาเธอสวย เธออาจจะไม่ชอบก็ได้

แต่ผมไม่เคยออกความเห็นเรื่องเสื้อผ้าผู้หญิงคนอื่น นอกจากน้องสาวตัวเองนี่นา ไม่รู้ว่าจะโฟกัสตรงไหน จะชมยังไงดี

ผู้ชายคนอื่นเขาชมกันยังไงนะ?

“นี่ ไดกิคุง ฟังอยู่รึเปล่า?” 

“ครับ รอแป๊บนึงนะครับ”

ไม่มีเวลาแล้ว ผมตัดสินใจพูดความรู้สึกออกไปตรงๆ เท่าที่จะนึกคำพูดออก

“ผมว่าคาร์ดิแกนสีอ่อนเข้ากับคุณไอซังนะครับ ปกติผมจะรู้สึกว่าคุณดูสง่างาม แต่ครั้งนี้ดูน่ารักดีครับ”

บรรยากาศในร้านเงียบกริบ ผมลุ้นว่าไอซังจะคิดยังไง

“นี่ เคย์จัง ได้ยินไหม? เขาบอกว่าคาร์ดิแกนเข้ากับฉัน แล้วก็บอกว่าฉันดูน่ารักด้วย! ได้รับคำชมที่ดีมากเลยนะ!”

เยี่ยมเลย ดูเหมือนไอซังจะดีใจ ถ้าเธอไม่ได้แสดงละคร ก็น่าจะพอใจกับความเห็นของผม โล่งอกไปที

“ฮอนโด นายจ้องขาไออยู่ใช่ไหม?”

กำลังโล่งใจอยู่เลย ก็โดนกล่าวหาจากคนที่ผมไม่คาดคิด ผมจงใจไม่พูดถึงมินิสเกิร์ต เพราะกลัวจะเหมือนจ้องขาเธอ แต่ชิมิสึซังจับได้ซะแล้ว

“ไดกิคุง จริงเหรอ?”

ไอซังมองผมตรงๆ

ไม่รอดแล้ว แล้วผมก็ไม่ได้อยากจะปฏิเสธด้วย

“ครับ ชิมิสึซังพูดถูก”

 

ผมไม่ได้ตั้งใจจะมองขาเธอหรอกนะ แต่มันแก้ตัวไม่ได้แล้ว ไอซังทำหน้าจริงจังไปแป๊บนึง แต่ก็กลับมายิ้มเหมือนเดิม

“เอาเถอะ ไม่เป็นไรหรอก ก็ฉันน่ารัก มีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ ใครจะอดใจไหวล่ะ จริงมั้ย?”

โล่งอกไปที รอดตัวแล้ว

“…หมอนี่ก็จ้องขาฉันเหมือนกัน ตอนที่คุยกันเมื่อกี้” 

“ชิมิสึซัง…”

ก็จริง ตอนเรียนศิลปะ ผมเผลอมองขาชิมิสึซัง แต่นึกว่าเธอจะลืมไปแล้วซะอีก

“ไดกิคุง ที่เคย์จังพูด จริงเหรอ?” 

“…จริงครับ”

ไอซังมองผมด้วยสายตาที่เย็นชา จ้องผมอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ยิ้มออกมา

“ฉันจะยกโทษให้ก็ได้ ขาสวยๆ ของเคย์จัง มันแน่น แล้วก็มีความงามที่ต่างจากฉัน ไดกิคุงจะมองจนเหลียวหลังก็ไม่แปลกหรอก”

ดูเหมือนผมจะถูกพี่น้องชิมิซึ ตราหน้าว่าเป็นคนชอบมองขาไปแล้ว

“ไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ?” 

“ใจฉันกว้างเหมือนมหาสมุทร ไม่ว่าจะเป็นไดกิคุงหรือเคย์จัง ฉันก็ไม่ถือสาหรอก อีกอย่าง ฉันชนะไปแล้วด้วย” 

“ชนะอะไรของเธอ?”

ชิมิสึซังถามขึ้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน

“ก็แข่งกันว่า ใครจะเลือกชุดที่ไดกิคุงชอบได้ไงล่ะ” 

“ก็เลือกเองคนเดียวสิ”

ชิมิสึซังพูดตัดบท เหมือนจะไล่ไอซัง

“หุหุ” 

“อะไรอีกล่ะ?”

อยู่ๆ ไอซังก็ยิ้มแบบเจ้าเล่ห์

“ไม่มีความมั่นใจเหรอ เคย์จัง? ถึงจะเรียกว่า ‘พี่น้องสุดสวย’ แต่ฉันกับน้องสาว มันต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยนะ เคย์จังจะหนีไปก่อนเริ่มแข่ง ก็ไม่แปลกหรอก”

เธอกำลังยั่วโมโห ยั่วยวนชัดๆ แต่ชิมิสึซังไม่น่าจะหลงกลง่ายๆ หรอก…

“…ก็ได้” 

“หา?” 

“ก็ได้! ฉันรับคำท้า!”

ชิมิสึซังใจง่ายกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย ผมไม่รู้มาก่อน เพราะในห้องไม่มีใครกล้ายั่วโมโหเธอ ค้นพบอะไรใหม่ๆ อีกแล้วสิ

“หืม รู้อยู่แล้วว่าเคย์จังต้องเล่นด้วย กติกาง่ายๆ เลย เรามาดูกันว่าใครจะเลือกชุดที่ไดกิคุงชอบได้มากกว่ากัน เราจะลองชุดให้ดู แล้วไดกิคุงก็เป็นคนตัดสิน ว่าใครใส่แล้วดูดีกว่ากัน แต่ละคนลองได้แค่สองครั้งเท่านั้น ฉันเหลือโอกาสอีกครั้ง เอาล่ะ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วก็เริ่มกันเลย!”

ว่าแล้ว ชิมิสึซังก็หายไปจากสายตาผม

คุณชิมิสึแยงกี้ตัวแม่ที่นั่งโต๊ะข้างๆไม่รู้อารมณ์ไหนถึงได้ย้อมผมดำมาซะเเล้ว

คุณชิมิสึแยงกี้ตัวแม่ที่นั่งโต๊ะข้างๆไม่รู้อารมณ์ไหนถึงได้ย้อมผมดำมาซะเเล้ว

Score 10
Status: Completed
"คุณชิมิสึย้อมผมดำเหรอ?" "กะ-ก็นะ" "ทำไมจู่ๆถึงได้ย้อมล่ะ. "จะทำไมอีกล่ะ! ก็เมื่อวาน...." [ชิมิสึ เคย์] สาวแยงกี้ผมบลอนด์ผู้ที่เป็นโจทย์จันของทั้งโรงเรียน เธอคือหญิงสาวที่อยู่ในทุกข่าวลือเสียๆหายๆทั้งปวง ทั้งเรื่องทะเลาะวิวาทเอย หรือการแหกกฏของโรงเรียนต่างๆ แต่จู่ๆเธอก็ดันย้อมผมดำพร้อมกับแต่งตัวมาเรียนซะเรียบร้อยแถมเข้าเรียนครบทุกคาบเฉยเลย มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ? มันเกี่ยวข้องกับตอนที่ [ฮอนโด ไดกิ] ได้บอกกับ [มัตสึโอกะโทชิยะ] ไอ้เพื่อนซี้ไปเมื่อวานตอนที่ถามว่าสเปคสาวที่ไดกิชอบเป็นยังไง? แล้วก็ดันตอบไปว่า "ชอบสาวผมดำยาว ลุคเรียบร้อยไม่แต่งตัวฉูดฉาด" รึเปล่านะ? เตรียมผมกับเลิฟคอมเมดี้รักใสๆของแยงกี้สายซึนผู้ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนที่ตัวเองแอบชอบกับหนุ่มหน้ามนสายหยอดที่พร้อมจะปกป้องทุกข่าวลือเสียๆหายๆของเธอ

Options

not work with dark mode
Reset