ตลอดหนึ่งสัปดาห์
ความพยายามอย่างหนักของฉันในการสอนเธออย่างจริงจังก็ประสบผลสำเร็จ เธอเหลือแค่ต้องปรับปรุงเล้กน้อย
อย่างไร…
ข้อกังวลอีกอย่างที่เหลืออยู่
ถึงจะบอกให้ยูกิมิยะทำอาหารคนเดียว แต่จริง ๆ ฉันไม่เคยปล่อยให้ทำเธอตามลำพังเลย รู้สึกกังวล …กังวงเอามาก ๆ
เมื่อวานเราไปซื้อก่อน ตู้เย็นจึงเต็มไปด้วยวัตถุดิบสำหรับนิคุจะกะ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากินนิคุจากะทุกวัน จนตอนนี้แค่เห็นก็เอียนแล้ว
เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นตู้เย็นบ้านยูกิมิยะมีวัตถุดิบมากมายแบบนี้
「 ยูกิมิยะไหวมั๊ย ? 」
「 สะ… สบายมาก… 」
ไม่ไหว ๆ ยูกิมิยะกังวล ทำให้ฉันกังวลไปด้วย กังวลจริง ๆ นะ
พวกเราทั้งคู่ประหม่าเหมือนกัน ฉันตรวจสอบในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อทำความสะอาดและจัดเก็บห้องให้เรียบร้อย
ห้องที่เคยว่างเปล่า ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยสีสัน มีแมวอยู่มากมายในห้อง
「 ว้าว… เหมือนห้องของเด็กผู้หญิงจริง ๆ 」
「 เสียมารยาท มันห้องของเด็กผู้หญิงตั้งแต่แรกแล้วค่ะ 」
「 นั้นก็ใช่ ! แต่เป็นในอีกความหายหนึ่งนะ 」
ถ้ามีคนมาบอกว่าสถานที่เปล่าเปลี่ยวแบบนั้นเป็นห้องของเด็กผู้หญิง —ใครจะเชื่อล่ะ นอกซะจากจะเป็นพวกบ้ามินิมอล
เมื่อมองนาฬิกาแมวในห้องก็เกือบจะสิบโมงแล้ว
「 มาพักกันก่อนเถอะ อยากดื่มกาแฟมั๊ย ? 」
「 ฉะ… ฉันไม่มีเวลาพักแล้ว 」
「 เราควรหาเวลาให้พักบ้างนะ —มานั่งตรงนี้สิ 」
ฉันชวนยูกิมิยะนั่ง แล้วชงกาแฟให้ส่งให้เธอในห้องนั่งเล่น
จริง ๆ อยากลองกาแฟใส่เมล็ดกาแฟบดผสม แต่มันจะยุ่งยากเกินไป นอกจากนี้ฉันกับเธอชอบกาแฟแบรนด์นี้เหมือนกัน คงไม่เป็นเป็นอะไร
「 กลิ่นหอมช่วยให้ผ่อนคลาย และยังช่วยให้ตื่นตัว พักจนกว่าพ่อเธอจะมาเถอะ 」
「 …ขอบคุณค่ะ 」
ยูกิมิยะก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
เธอหยิบแก้วรับสัมผัสกลิ่นหอมของกาแฟ
กลิ่นมันหอม ฉันชอบกลิ่นของกาแแฟมากกว่าชอบดื่มซะอีก
บางทียูกิมิยะคงมีรสนิยมแบบเดียวกัน เธอรับสัมผัสอย่างช้า ๆ หายใจออกเบา ๆ
…มือของเธอยังคงสั่นเทา คงกังวลมาก
「 เธอกลัวพ่อของเธอเหรอ ? 」
「 ไม่ใช่หรอกค่ะ ที่เคยบอกไป… ฉันรู้สึกอึดอัด ก่อนจะขอออกมาอยู่คนเดียวพวกเราแทบไม่เคยคุยกันดี ๆ มา 7 ปีแล้ว 」
「 7 ปี… 」
หมายความว่า…
ตั้งแต่ยูกิมิยะอายุได้ประมาณ 10 ปี
ปกตินั้นล่ะนะ การที่ไม่ได้คุยมานานขนาดนั้น ทำให้รู้สึกประหม่าก็คงจะไม่แปลก
「 พ่อของฉันแต่งงานใหม่ก็ตอนนั้น —แม่เลี่ยงเธอเป็นอดีตเลขาของพ่อนะค่ะ 」
หวา…
สถานการณ์มันชักจะซับซ้อนแล้วสิ คงเป็นเรื่องอึดอัดใจเลยทีเดียว
「 แม่เลี้ยงคนที่ว่า ไม่ชอบเธองั้นสินะ 」
「 ค่ะ ! เธอเคร่งกับฉันมาก ไม่เคยทำอาหารเอง งานบ้านไม่เคยแตะ ได้แต่โยนภาระทุกอย่างให้คนใช้ เธอก็ยังตำหนิกิริยา ท่าทาง ของฉันตลอดเวลา… 」
「 ทั้งถูกกดดัน โดยบอกว่าทุกอย่างก็เพื่อตัวของฉัน เพื่อสืบกิจการของบริษัท… 」
「 จริง ๆ แล้วฉันไม่ชอบ 」
เธอคงโดนกดดัยอยู่ทุกวันสินะ
คงจะทรมาณน่าดู…
เมื่อพูดถึงบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Yukimiya Co..Ltd พวกเขาตัองาับมือทั้งคนในและคนนอกด้วย
มันคงไม่ได้เกินจริงเลยสักนิด แม่เลี้ยงของเธอคงจะเข้มงวด…
ฉันพอเข้าใจความรู้สึกและเหตุผลของเธอ แค่ถ้าไม่ใช่ความคิดเชิงต่อต้านของเธอ ก็คงไม่เป็นอะไร แต่เรื่องราวมันจะต่างออกไป ถ้าหากการที่ยูกิมิยะจะต้องสืบทอดกิจการต่อไป
แต่ถ้า…
ไม่ใช่ก็คงไม่ต่างจากการกลั่นแกล้งหรอก
「 ไม่ชอบเลยค่ะ… ปลายปีที่แล้วก็อดทนไม่ไหวแล้ว เลยรีบไปคุยกับคุณพ่อ เพื่อขออนุญาติเพื่อแยกตัวเพื่อเรียนรู้สังคม แต่ความจริง… ฉันแค่อยากจะที่จะหนี 」
「 คุณ… คุณหัวเราะเยาะฉันเรื่องที่ฉันทำแน่ 」
「 ไม่เลย 」
ฉันตอบยูกิมิยะตรง ๆ
ทำให้ยูกิมิยะมองมาที่ฉันด้วยสายตาประหลาดใจ
「 คุณ …จะไม่หัวเราะจริง ๆ เหรอ 」
「 ใช่ ! ฉันก็หนีเหมือนถ้าเป็นงั้น 」
「 แต่เรื่องที่ฉันคอยทำตัวแย่ ๆ ใส่คุณ… 」
「 อะไรล่ะ… จะดีหรือแย่ เธอก็ยังคงเป็นเธอ ยูกิมิยะ เฮียวกะเหมือนเดิม 」
「 อะไรกันล่ะ ? ฉันต้องทำให้คุณอลำบากนะ 」
「 ยิ่งกว่านั้น ฉันนับถือเถอนะ 」
「 …นับถือ ? คนขี้ขลาดแบบฉันน่ะเหรอ 」
ยูกิมิยะพึมพำด้วยเสียงที่แทบจะไม่ได้ยิน
「 จะชายหรือหญิง เด็กหรือผู้ใหญ่… ไม่ว่าใครก็มีเรื่องให่มท้อกันทั้งนั้น แต่เธอเลือกที่จะลุกขึ้น และเลือกเดิน ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ ฉันนับถือผู้หญิงที่ชื่อ ยูกิมิยะ เฮียวกะ จริง ๆ 」
「 พูดได้เต็มปากว่า ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่เข้มแข็งที่สุดที่ฉันดคยพบ… เธอควรภูมิใจนะ 」
เป็นความรู้สึกจากใจ คำพูดที่ออกมาจากหัวใจ
ถ้าต้องเจอคำพูดรุนแรงอยู่ทุกวัน ฉันคงขัดขืนหรือหดหู่และปิดใจอย่างแน่นอน
การปล่อยปะเกินไปก็ไม่ดี แต่การมากเกินไปก็ควรเช่นกัน
ยูกิมิยะก็มีชีวิตที่ยากลำบากเช่นกัน บางทีเราอาจจะคล้ายกันมาก
「 —เอ๊ะ !? 」
「 ยูกิมิยะเธอร้องไห้ทำไม… ! 」
「 …เอ๊ะ…? อา… 」
เธอค่อย ๆ เช็ดน้ำตาขณะที่ฉันยื่นทิชชู่ให้เธอ
「 ขอโทษ ฉันยุ่งย่ามมากเกินไปหรือเปล่า…? 」
「 มะ… ไม่ ไม่ใช่นะ …ฉันไม่คิดว่าคุณยุ่งบ่ามเลยนะ 」
ได้ยินอย่างนั้นฉันก็โล่งใจ
ฉันยังงงอยู่ว่าทำไมจู่ ๆ เธอถึงร้องไห้… ? ไม่เข้าใจจิตใจผู้หญิงเลยแฮะ
ผ่านสักพัก…
ยูกิมิยะที่ตาแดงเล็กน้อยมองมาที่ฉันโดยตรง
「 อื้อ ตอนนี้สบายใจแล้วค่ะ —รู้สึกเบาใจขึ้นเยอะเลย 」
「 จริงเหรอ …ก็เครียดอยู่ จะห้องไห้บ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา 」
「 คนที่ทำให้ฉันร้องไห้ก็คือคุณนะ 」
「 รู้มั๊ยคะ ? การที่ถูกคุณทำให้ร้องไห้แบบนี้ ถือว่าเป็นความอัปยศที่สุดในชีวิตเลย 」
「 ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ 」
「 ….ฮึ ! 」
( ให้ตายสิ… ไม่ชอบยัยคนนี้เลยจริง ๆ )
ฉันละสายตาจากเธอที่กำลังยิ้มแย้มขณะบ่นออกมา และจิบกาแฟของฉัน
ทันใดนั้นเสียงกริ่งก็ดังขึ้น
เมื่อฉันมองไปที่ยูกิมิยะ ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะหายไปแล้ว เธอดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด
ไม่พูดอะไรอีก…
เราพยักหน้าให้กัน ยูกิมิยะยืนขึ้นเพื่อเปิดประตูเพื่อต้อนรับแขก
「 ค่ะ ! …จะไปเปิดเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ 」
เธอพูดผ่านอินเตอร์คอม วันนี้เขาก็เปิดประตูอย่างเชื่อฟัง
พ่อของเธอประหลาดใจ มองด้วยสีหน้าสับสน
หน้าคล้ายกันจริง ๆ
「 …ขอโทษที่มารบกวน 」
「 เอ๊ะ… !? เธอคือยัตสึฮาชิคุงใช่มั๊ยนะ ทำไมเธอถึงมาอยู่ในห้องของลูกสาวฉันล่ะ ? 」
「 อรุณสวัสดิ์ครับ …ที่จริงแล้ว 」
「 ยัตสึฮาชิคุง… ฉันจะอธิบายเองค่ะ 」
ยูกิมิยะหายใจเข้าลึก มองไปยังดวงตาของพ่อเธอ
「 เขาเป็นครูสอนของฉันค่ะ เขาคอยสอยเรื่องงานบ้าน เขาเป็นคนที่สำคัญมากสำหรับฉัน และวันนี้เข้าก็มาคอยช่วยด้วย 」
「 ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ 」
「 คนสำคัญ ? 」
สายตาของคุณพ่อของเธอหันมาที่ฉัน
( นี่ ๆ ยูกิมิยะพูดอะไรชวนเข้าใจผิดแบบนั้นเล่า… )
แต่ฉันก็ไม่สามารถเข้าไปแทรกพวกเขาได้ ได้แต่ยิ้มแหย่ ๆ
แต่นั้นมันไม่สำคัญอีกแล้ว…
「 เข้าใจล่ะ… งั้นให้พ่อเข้าไปก่อน 」
คิดว่าเขาจะโวยวายมากกว่านี้ซะอีก เช่น ชายหญิงจะอยู่ในห้องปิดตายสองต่อสองไม่ได้ หรืออะไรเทือกนี้
พ่อของยูกิมิยะถอดรองเท้าแล้วเดินเข้าไปในห้องมองไปรอบ ๆ ห้องครัว
「 อืม… สะอาดหมดจดจริง ๆ 」
「 ค่ะ… ! เราแค่กำลังืำความสะอาด 」
( โฮ่ย ๆ ยูกิมิยะการโกหกมันไม่ดีนะ ที่มันสถานสะอาดก็เพราะไม่เคยใช้มันต่างหากล่ะ )
ต่อมาเขาเดินเข้าไปตรวจสอบในห้องน้ำ แล้วจึงเป็นห้องนั่งเล่น
เมื่อเดินเข้าไปยังห้องนั่งเล่น ดวงตาของเขาก็เบิ่งกว้าง…
「 นิ…เนียงโกะ ? 」
「 ใช่ค่ะ เนียงโกะ ! 」
( เนียงโกะเหรอ ? แม้แต่ผู้ใหญ่อย่างเขาก็เรียกเนียงโกะเหรอ ? )
หรือเป็นพวกคำพิเศษประจำตระกูลอะไรเงี้ย…
เรื่องครอบครัวนี้ทำเอาประหลาดใจเหมือนกันแฮะ
พ่อของยูกิมิยะอุ้มตุ๊กตาแมวที่อยู่บนชั้นวางของในห้องนั่งเล่นขึ้น
「 รู้สึกคิดถึงจัง… แม่ของลูกก็เองก็ชอบเนียงโกะเหมือนกันสินะ ? 」
「 …ค่ะ 」
ยูกิมิยะเองก็ดูเศร้า… แต่ก็พยักหน้าด้วยสีหน้าอ่อนโยน ?
( แม่เหรอ ? )
ครั้งนี้ดุเหมือนจะพูดถึงแม่แท้ ๆ ของเะอ คงยากที่จะคิดว่ายูกิมิยะจะไม่ชอบที่สิ่งแม่ตัวเองชอบ
พ่อของเธอคงนึกถึง…
ดวงตาของเขาดูอ่อนโยนมาก
「 …พ่อเข้าใจแล้ว ห้องดูเหมือนจะรักษาความสะอาดอย่างดี 」
「 แน่นอน ! 」
อันที่จริง…
เธอคิดจะจ้างแม่บ้านด้วยซ้ำ ตอนนี้เธอภูมิแบบนี้ได้ยังไงกัน ?
「 เอาล่ะ ต่อไปช่วยทำอาหารให้ดูหน่อย 」
「 …ค่ะ ! ช่วยนั่งรอก่อน… ยัตซึฮาชิคุงด้วย ฉันจะลองทำด้วยตัวเองค่ะ ! 」
「 …ขอให้โชคดีนะ 」
ยูกิมิยะพยักหน้าอย่างแรง ใส่ผ้ากันเปื้อนแล้วเดินไปที่ห้องครัว
พ่อของเธอนั่งฝั่งตรงข้ามกับฉัน
ฉันเสิร์ฟกาแฟให้เขา
คำถามว่า…
ตอนนี้รู้สึกอย่างไรอ่ะเหรอ
คำตอบก็…
กดดันชะมัด อยู่กับพ่อของเธอแค่สอง มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่กดดัน
ควรทำยังไงดี ควรทำอะไรดี ?
「 ยัตซึฮาชิคุง 」
「 เออ… ครับ 」
ไม่ทันได้ตั้งตัว พ่อของยูกิมิยะเรียกฉัน
พ่อของเธอเป็นคนเริ่มต้นบทสนทนา เขาวางถ้วยกาแฟลงแล้วหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมยิ้มจาง ๆ
「 ไม่ต้องเครียดไปหรอก… แค่อยากคุยกับเธอนิดหน่อย 」
「 เอ่อ… 」
ฉันรู้สึกสงบใจขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เริ่มพูดด้วยเสียงแผ่วเบา
「 เธอคงได้ยินเรื่องในครอบครัวฉันมาบ้างสินะ 」
「 แค่เล็กน้อยครับ… 」
「 พอแล้ว… ฉันแต่งงานใหม่ เธอคือผู้หญิงที่เคยเป็นเลขาของฉัน แม่ของเด็กคนนั้นเสียไปเมื่อ 12 ปีก่อน 」
「 …เข้าใจแล้วครับ ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี… 」
「 มันเป็นอดีตไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องนึกถึงหรอกนะ 」
ดูเหมือนว่าพ่อของเธอจะทำใจยอมรับแล้ว เขาแสดงสีหน้าเศร้าเล็กน้อย
ฉันเดาถูกที่ต้องจากกันแบบนี้…
「 ตอนนั้นฉันเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ ไม่เคยดูแลลูกมาก่อน ฉันมุกจะทิ้งลูกและภรรยาไว้ข้างหลังเสมอ แต่ก็พยายามจะสนิทกับลูกให้มากที่สุด 」
…อ้อ !
เคยจำได้อยู่ว่าเธอเคยบอกว่าเมื่อก่อนเขายิ้มออกมาบ่อย ตอนนี้เขากำลังคงนึกถึงอดีตอยู่… ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
「 พอกิจการเริ่มดีขึ้น เงินทองก็เริ่มเพิ่มขึ้น ทุกอย่างกำลังราบรื่น… 」
「 แต่ความสุขมันก็ช่างแสนสั้น… แม่ของเด็กคนนั้นเสียไปด้วยอุบัติเหตุ 」
「 เอ่อ… คือ… 」
จุดสูงสุดของความสุข และความทุกข์เกิดจึ้นพร้อมกัน ฉันไม่อาจจินตนาการได้เลย
「 ภรรยาของฉันเสียไป… แต่ฉันกลับทิ้งหน้าที่การงานไม่ได้ ฉันเลยจ้างแม่บ้าน และมอบหน้าที่เลี้ยงดูให้พวกเธอ 」
พ่อของยูกิมิยะพูดยิ้มราวกับประชดบอกว่าสิ่งที่เขาทำมันช่างโง่เขลา
「 ที่ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ …เอาจริง ๆ ก็แค่ขี้ขลาดแล้วใช้เรื่องตรวจบ้านมาเป็นข้ออ้างต้อหน้าลุกสาวเท่านั้น 」
「 ผมพอเจ้าใจความรู้สึกนะครับ… 」
「 ขอบใจนะ …ภรรยาคนปัจจุบันของฉันซึ่งเคยเป็นเลขาของฉันคอยช่วยเหลือการงานฉัน โดยไม่มีความคิดล่วงเกินภรรยาที่จากไปของฉัน 」
「 ฉันยังสามารถพูดได้ว่า รักเธอ… แต่เวลาช่างโหดร้าย ฉันเริ่มสนใจเธอ แล้วเราก็แต่งงานกัน 」
หลังจากพูด…
เขาก็จิบกาแฟเข้าไปอีก
เกิดขึ้นมากมายในครอบครัวยูกิมิยะ ไม่รู้เลยว่าควรตอบยังไงดี
หนักเกินกว่าที่เด็ก ม.ปลาย จะรับอีกซะอีก
อย่างไรก็ตาม…
มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันอยากรู้
「 ทำไมคุณถึงบอกผมเหรอครับ 」
「 ฉันกับเขาแทบจะไม่รู้จักกันเลยนับตั้งแต่พบกันครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
พวกเราไม่ได้สนิทกันมากพอที่จะเล่าเรื่องส่วนตัวแบบนี้ 」
ยิ่งไปกว่านั้น…
หากฉันคิดถูก ความประทับใจแรกที่มีต่อฉันคงจะแย่มาก ที่คิดว่าเขาเป็นสตอล์กเกอร์
ฉันรู้สึกฟุ้งซ่านเวลามีคนพูดถึงเรื่องแบบนี้ ควรทำยังไงดีนะ ?
เป็นอีกครั้งที่ตัวเองดูสับสน เขากอดอกและปิดปากด้วยมือ
「 อืม… นั้นสิ… ทำไมกันนะ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน 」
「 ไม่รู้ 」
「 เหตุผลและแรงจูงใจ… มันยากที่จะแสดงออกมาเป็นคำพูด คงเป็น ลางสังหรณ์… ไม่ก็ความเชื่อน่าจะเหมาะสมที่สุด 」
「 คุยพูดเรื่องอะไรน่ะ… ? 」
ฉันเอียงคอสงสัย…
พ่อของยูกิมิยะก็มองมาที่ฉันอย่างอ่อนโยนและยิ้ม
ราวกับมองลูกของตัวเอง
「 ลูกสาวของฉันเชื่อใจเธอ ฉันก็จะเชื่อในตัวเธอ เพราะเชื่อเลยพูดคุยกับเธอ เชื่อว่าเธอเป็นคนที่ดี 」
「 …นั่นล่ะเหตุผล 」
เป็นความเชื่อจากใจ ไม่มีความเท็จแต่อย่างใด
ฉันกลืนน้ำลายที่ติดอยู่ในลำคอโดยไม่รู้ตัว
「 คุณเฮียวกะไม่คิดอย่างนั้น… 」
「 มีแค่ยัตซึฮาชิคุงเท่านั้นล่ะที่คิดอย่างนั้น เด็กคนนั้นเชื่อใจเธออย่างไม่ต้องสงสัยเลย 」
ฉันไม่คิดว่ายูกิมิยะจะเชื่อใจฉัน
ฉันนึกภาพเธอเชื่อใจคนอื่นง่าย ๆ ไม่ได้เลย
แต่…
พ่อของเธอกลับบอกว่าเธอเชื่อใจฉัน
ฉันแก้ไขทัศนคติของตัวเอง
มองตาพ่อของยูกิมิยะโดยตรง เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
「 ยัตสึฮาชิคุง นับจากนี้ไปช่วยดูแลลูกสาวฉันด้วยนะ 」
「 …ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมเองครับ 」
แน่นอนว่าในฐานะครูสอนงานบ้านนะ ไม่ได้เกินกว่านั้น…
การสนทนาจริงจังของเราผ่านไปนานพอสมควร
นาฬิกาแมวส่งเสียงร้อง
—แสดงเวลาเที่ยงตรงพอดี
ขณะนั้น…
ยูกิมิยะมาพร้อมกับนิคุจากะชามใบใหญ่
「 ขอโทษที่ให้รอค่ะ… 」
ยูกิมิยะยังคงเคลื่อนไหวเก้ ๆ กัง ๆ
นอกจากนิคุจากะแล้ว ยังมีข้าวตามมาอีกด้วย
เหมือนภูเขาจริง ๆ
หากให้เปรียบก็คงภูเขาในนิทานพื้นบ้านล่ะมั้ง
( เอาจริงอ่ะ… เยอะขนาดนี้ พ่อของเธอคงกินไม่เยอะขนาดนั้นหรอกมั้ง !? )
ฉันมองดูพ่อของเธอ เห็นเขามองนิคุจากะด้วยสายตาที่คิดถึง
「 นิคุจากะเหรอ… 」
「 ค่ะ ! …ไม่ชอบเหรอ 」
「 …ไม่หรอก ของโปรดเลยล่ะ 」
「 …เหรอคะ ? 」
「 อึดอัดชะมัด !? 」
ตอนที่คุยกับเขาก่อนหน้านี้ บรรยากาศก็ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง
แต่..
พอเป็นพวกเธอพ่อลูกแล้วเหมือนจะทำตัวกันไม่ถูก
พ่อของยูกิมิยะประสานมือต่อหน้ากองข้าวและนิคุจากะกองพะเนิน
「 ทานให้อร่อยนะคะ 」
「 ทานแล้วนะครับ 」
เขาพูดแล้วตักเอามันฝรั่งเข้าปาก
เขาหลับตา เคี้ยวมันอย่างระลึก
ฉันทำได้ ฉันทำได้ ฉันทำได้
ทันใดนั้น…
ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เขาก็เบิกสายตาขึ้นกว้าง
「 …หวาน… 」
「 หือ ? ไม่จริง… 」
ยูกิมิยะตักชิมนิดหน่อย ก็ขมวดคิ้ว
「 อื้ม ฉันก็เหมือนกัน …อ่ะ หวานจัง… 」
( รสชาติมันหวานเกินไปเหมือนน้ำตาลและมิรินหกยังงั้นแหละ ต้องขนาดไหนเนี้ย… เธอได้ได้เช็คหรือยัง ? )
「 ยูกิมิยะเธอได้ชิมหรือยัง… !? 」
「 เอ่อ… อา… 」
「 ยัยบ้า ! ฉันบอกให้เธอชิมก่อนเสมอ… อย่างนี้ถ้าผลการตัดสินไม่ผ่าน เธอจะโดนบังคับกลับจะทำยังไงล่ะ 」
「 เอ่อ… คุณพ่อของยูกิมิยะ นี่มัน… 」
「 เอ่อ… 」
พ่อของเธอกินโดยไม่พูดอะไร เหมือนคนที่ไม่ได้อดอยาก ยูกิมิยะกับฉันรู้สึกประหลาดใจที่เห็นเขากินจุใจขนาดนี้
…นิคุจากะเป็นของโปรดฉัน เพราะมันเป็นจานแรกที่แม่ของลูกทำให้ฉัน
「 อึก… 」
ตอนนั้นแม่ของลูกก็พลาดเหมือนกัน รสชาติของนิกุจากะอันแสนหวานที่เธอทำเพื่อฉัน… ฉันยังคงจำมันได้ชัดเจนจนถึงวันนี้
ยูกิมิยะเองที่ได้ยินครั้งแรกก็เบิกตากว้าง และมองนิคุจากะเหมือนกัน
พ่อของเธอยังเคี้ยวต่อไป กินต่อไป
「 …รสหวาน และเขาก็ด้วย… ก็จะไม่ลืม… ไม่มีทางฉันที่จะลืม… 」
「 เอ่อ… น้ำตา 」
บางทีอาจเป็นเพราะความทรงจำในอดีตกลับมา พ่อของยูกิมิยะจึงสะอื้น แม้จะเป็นผู้ใหญ่ แม้จะเป็นผู้ชาย แม้ว่าจะเป็นพ่อคนก็ตาม…
มันไม่สำคัญเลย
เขาก็เป็นมนุษย์ธรรมดาที่หยาดเหงื่อและน้ำตา เขาหลั่งให้กับความทรงจำเหล่านั้น
เขาคีบนิคุจากะ กระทั่งเช็ดน้ำตา
โดยไม่มองไปไหนเลย ด้วยความเต็มใจ ข้าวทานด้วยความรู้สึกมากมาย
นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ยูกิมิยะได้เห็นพ่อของเป็นแบบนี้
เธอจึงได้แต่ตัวแข็งทื่อ…
「 ยูกิมิยะ ไหวมั๊ย !? 」
「 เอ่อ… ค่ะ …แม่… ทำพลาดเหมือนกันเหรอ ? 」
ดูเหมือนยูกิมิยะไม่คิดว่าแม่ของเธอจะทำพลาดแบบเดียวกับเธอ เธอพูดอะไรไม่ออก ได้แต่จ้องมองไปที่นิคุจากะของเธอ
( ตอนนี้ฉันควรอยู่ด้วยจริงเหรอ ? )
「 ยูกิมิยะ นั่งลงสิ 」
「 เอ๊ะ… แต่คุณ… 」
「 ไม่เป็นอะไร ! 」
ฉันลุกขึ้นแล้วขอให้ยูกิมิยะนั่งต่อหน้าพ่อของเธอ
ยูกิมิยะมองมาที่อย่างประหม่า แต่ฉันก็พยักหน้าเพื่อบอกเธอว่าไม่เป็นอะไร
「 ยูกิมิยะ กินซะสิ เธอคงจะรู้นะ.. 」
「 ทานแล้วนะคะ ! 」
ยูกิมิยะผสานมือของเธอ
หลังจากทาเข้าไปหนึ่งคำ สองคำ… น้ำตาก็เริ่มไหลออกมาจากดวงตาของเธอ
ด้วยอาการน้ำหูน้ำตาไหล เธอยังคงเอาเนื้อและมันฝรั่งยัดแก้มของเธอต่อไป จากนั้นก็ทานต่อไป
นี่อาจไม่ใช่การทานอาหารมื้อหรู่ที่เธอมักจะแสดงให้เห็น…
ไม่ใช่วิธีทานแบบที่แม่เลี้ยงของเธอสอน
มันไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการทานที่ไม่งาม แต่การที่เธอได้ทานอย่างอ่มเอมใจ
「 การทานแบบนี้… มันก็ดีเหมือนกันนะคะ 」
สำหรับช่วงเวลานี้แหละ…
ช่วงเลาของครอบครัวที่แท้จริง ที่ไม่ว่าใครก็เข้าไปยุ่งไม่ได้