ความสัมพันธ์ลับ ๆ ที่บอกใครไม่ได้ของผมกับยัยเทพธิดาซึนเดเระ 4.4 Chapter 4.4 – รู้สึกใกล้ชิดกับเพื่อนบ้าน

ตอนที่ 4.4 Chapter 4.4 - รู้สึกใกล้ชิดกับเพื่อนบ้าน

 

「 ฮ่าฮ่า… ในที่สุดก็มาถึงสักที 」

「 จะเอาไงต่อล่ะ เอาของกลับก่อนมั๊ย ? 」

「 คงจะอย่างนั้น ซื้อของมามากกว่าที่คิดไว้… กลับก่อนเถอะ 」

「 งั้นเราเอาของไปเก็บก่อนล่ะกัน 」

「 ฉันขอโทษ เอางั้นก็ได้ค่ะ 」

ยูกิมิยะมีสีหน้ารู้สึกผิดเล็กน้อย

( เธอคงรู้ว่าตัวเองใช้เงินเกินตัว… หวังว่าคราวหน้าจะห่วงสภาพแขนฉันบ้างนะ )

「 เอ๊ะ ? ทำตอนนี้ถึงคิดว่าครั้งหน้าฉันจะไปด้วยล่ะ… ถ้าไม่อยู่ใกล้เรื่องคงไม่เกิดตั้งแต่แรกหรอกมั้ง ? 」

หลังจากดิ้นรนจนกลับถึงบ้านได้ เราก็ทิ้งของไว้ที่ห้องของยูกิมิยะ จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนี้

เราเลือกซื้อของราคาถูกแต่ได้ปริมาณมาก แต่จะเป็นช่วงลดราคาอีกด้วย ช่วยได้มากจริง ๆ อย่างไรก็ตามที่แห่งนี้เนื่องจากมีแม่บ้านมากมายเป็นดั่งสนามรบ

ช่วงลดราคากำลังดำเนินต่อไป —ผู้คนมาคอยซื้อมากมาย

「 ฟังนะต่อจากนี้ไปขึ้นสนามรบ ยูกิมิยะ 」

「 เอ๊ะ… ทำไมหรอ ทำหน้าเครียดเชียว 」

「 ช่วงเวลานี้ผู้คนกำลังเล็งช่วงลดราคาอยู่ สถานีแห่งนี้จะเป็นสนามรบที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา 」

「 คุณเวอร์เกินไปหรือเปล่า 」

「 ฉันไม่ได้เวอร์เกินไปสักนิด 」

ตัวฉันผ่านประสบการณ์ไปอย่างโชกโชน จึงสามารถพูดได้อย่างเต็มปาก

ถ้าคิดว่าเป็นเด็ก ม. ปลาย ที่มีเรี่ยวแรงเหลือเฟือความคิดไร้เดียงสาแบบนั้นได้เจ็บตัวแน่

ผู้คนเหล่านี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้กับฝูงคน เดี๋ยวช่วยลดราคาไม่มีใครสนใจเรื่องร่างกายใครทั้งนั้น

ท่ามกลางฝูงคนแต่ช่วงลดราคา การต่อสู้ที่ชนไปแล้วเด้งไปเด้งมาอย่างกับหมูเด้ง การไหลไปตามฝูงคนทั้งหมดเป็นงานที่ยากมาก

ช่วงลดราคาวันนี้แครอท และมันฝรั่งราคาถูกมาก มันฝรั่ง 10 หัว 10 เยน / แครอท 8 หัว 15 เยน

( ไม่จะด้วยวิธีไหนก็ต้องคว้ามาให้ได้ )

「 ไปเถอะศัตรูพร้อมแล้ว 」

「 ยัตสึฮาชิคุง รีบร้อนเกินไปแล้ว 」

「 อย่าได้ประมาทไป 」

ฉันยกตะกร้าและเดินไปทางโซนเนื้อสัตว์

「 ราคาถูกมาก เนื้อ 2 กิโลกรัมราคาเพียง 700 เยน ต้องซื้อ ๆ 」

แถมยังซื้อเนื้อไก่และเนื้อหมูไว้แช่ได้อีก

「 ว้าว… พวกเนื้อขายกันอย่างนี้เหรอเนี่ย 」

「 เอ๊ะ… เธอไม่เคยเห็นหรอ 」

「 ใช่… นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันมาที่นี่เหมือนกัน ปกติฉันมักจะไปร้านอาหาร… ไม่ก็กินอาหารสำเร็จรูป 」

「 อืม… นั่นมันก็จริง อาหารค่อนข้างถูก ราคา 300 เยน ยิ่งถ้าเป็นช่วงลดราคาก็จะถูกกว่านั้น 」

ฉันเองก็เคยกิน แต่จะว่ายังไงดีรสชาติมันออกจะดีขึ้นเกินไป บางทีก็เค็มเกินไป และยังไม่ดีต่อสุขภาพด้วย

แต่ยัยนี่กินแบบนั้นทุกวันเลยหรอ ปาฏิหาริย์มากที่ยังไม่เคยป่วย

「 ครั้งต่อไปเราเป็นโซนปลากัน… ที่นั่นมีปลาดิบขายด้วย 」

「 จริงเหรอ… ฉันยังไม่เคยเห็นปลาตัวเป็น ๆ เลย 」

「 …เธอไม่เคยไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบ้างหรอ ? 」

「 ฉันมักจะถูกบอกว่าให้เรียนมากกว่าที่สนใจสิ่งบันเทิงพวกนั้นน่ะ 」

( เข้าใจละ… ครอบครัวของเธอคงจะเข้มงวดน่าดู )

บางทีฉันคิดว่าควรพาเธอไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสักครั้ง แม้เธอคงจะไม่อยากจะไปก็ตาม

เมื่อเราไปยังโซนปลา ยูกิมิยะจ้องมองปลาด้วยสายตาตกอกตกใจ

「 เอ๊ะ… นี่มันอิโทโยริเหรอ ? 」

「 ใช่ ปลาทรายแดง 」

「 …ตัวใหญ่เหมือนกันนะ ถ้าดูแค่จากหนังสืออินเตอร์เน็ตคงบอกไม่ได้ว่ามันตัวใหญ่แค่ไหน 」

ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นมันด้วยตาตัวเองจริง ๆ

ดูจะกลัวเล็กน้อย แต่ความน่าสนใจน่าจะมากกว่า เธอจ้องมันด้วยตาเป็นประกาย ปกติเธอน่าจะเคยเห็นแค่อาหารที่ปรุงสุกแล้วเท่านั้น

พอเธอไม่เคยไปวิพภัณฑ์สัตว์น้ำมาก่อน พอได้มาเจอปลาตัวเป็น ๆ ที่โซนปลาอาจทำให้รู้สึกแปลก ๆ

「 ดูนั่นสิ พวกเขากำลังจะแล่ปลาอยู่ 」

「 เอ๊ะ… 」

เมื่อเธอละสายตาออกจากตู้ปลา เธอเงยหน้าเห็นคนกำลังแล่ปลาอยู่

การเอาเกล็ดออก ตัดหัว แล้วนำข้างในออกมา ท่านใดนั้นปลาก็ถูกแล่ออกเป็น 3 ส่วน

( ฉันก็สามารถแล่ปลาได้นะ แต่พอมองพวกมืออาชีพทำแล้วพวกเขาไม่ธรรมดาจริง ๆ จริงพวกเขาทำอยู่ทุกวัน เรื่องพรุ่งนี้จึงกลายเป็นธรรมชาติของเขา )

「 น่ากลัวเหมือนกันนะคะ… 」

「 ก็จริง… นั่นเป็นวิธีก่อนที่เราจะได้ทานมัน 」

「 ตลอดมาฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย… ต้องขอบคุณพวกเขาจริง ๆ 」

ยูกิมิยะจ้องมองการแล่ปลาอย่างจะจดใจจ่อ

การพาเธอมาที่นี่…

กลายเป็นการตัดสินใจที่ดี ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันจึงรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ

「 ฉันอยากกินปลาจัง… 」

「 แต่วันนี้เราจะทำนิคุจะกะ ( สตูว์เนื้อมันฝรั่ง ) 」

「 มิคุจะกะ… แล้วปลาล่ะ… 」

「 …งั้นก็ได้ 」

คำตอบที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เป็นเรื่องปกติสำหรับยูกิมิยะ

จะเลือกซาชิมิใส่ตะกร้า ดูถ้าวันนี้ยูกิมิยะจะตั้งตารอมื้อเย็นในวันนี้น่าดู เธอมีความสุขที่ได้เห็นปลาตัวเป็น ๆ

「 เอ๊ะ… ดูสิ ๆ ยัตสึฮาชิคุง แล้วมันปู ตัวใหญ่มาก ๆ 」

「 ใช่ ๆ 」

「 ฉันก็อยากกินปูเหมือนกัน 」

「 นั่นคงไม่ได้หรอก 」

「 ตอนนี้อาหารเย็นมีทั้งมีคู่นิคุจากะ ซาชิมิ แล้วยังมีปูอีก มันจะกลายเป็นมื้อที่หรูเกินไปเนี้ยสิ 」

( แถมปูถึงจะตัวใหญ่ แต่มันไม่สดเนื้อจึงไม่ค่อยเด้งเท่าไหร่ ฉันเคยกินมันครั้งนึงครั้งเดียวพอเลย )

( เอ่อ… นั่นสินะ สักวันหนึ่งฉันก็อยากจะกินปูเหมือนกัน )

「 ก็ได้… สักวันหนึ่งนะ 」

( ตอนนี้ไม่ได้มีเงินพอสำหรับเรื่องนั้น… ถ้ามีเงินสักวันหนึ่งคงได้ไปร้านที่เชี่ยวชาญเรื่องปู ฉันเองก็ชอบปูเหมือนกันนะ )

หลังจากเลือกดูในส่วนของเนื้อและปลา เราจึงใส่พวกเครื่องปรุงและหัวหอมใส่ตะกร้า บรรยากาศในร้านก็เริ่มคึกคัก

「 ถึงเวลาแล้ว… 」

「 ยูกิมิยะ ไปกันเถอะ 」

「 เอ๊ะ… ไปไหนน่ะ 」

「 สนามรบ 」

「 เวอร์แล้วค่ะ… 」

「 เฮอะ… ถ้าไม่เคยเห็นของจริงคงไม่หลั่งน้ำตาเหรอ ? ไม่รู้เหมือนกันว่าภารกิจนี้จะสำเร็จหรือเปล่า 」

เราสองคนมุ่งหน้าไปยังโซนหลัก

ทันใดนั้น…

เหล่าพวกพนักงานก็เดินออกมาจากด้านหลังของร้าน ติดป้ายบนรถเข็นแสดงถึงสินค้าลดราคา

「 จากนี้ไปเป็นช่วงเวลาลดราคาแล้ว ! ขอเชิญลูกค้าแต่ละท่านสามารถเลือกได้เพียงแค่ 1 คนต่อ 1 ชิ้นเท่านั้น หวังว่าพวกคุณจะปฏิบัติตามกฎนะ 」

ฉันรอเข้าสู่สนามรบ…

ลำบากสักหน่อย แต่ฉันก็ค่อย ๆ ฝ่าฝูงชนของเราแม่บ้านก็ทุกเบียดออกมา… !

「 สมแล้วที่เป็นยอดฝีมือ ความกดดันช่างแตกต่างเหลือเกิน… 」

ฉันพยายามเอื้อมมือหยิบมันฝรั่งและแครอทจะกัดถูกผู้หญิงคนนึงผลักและก็ดึงออกมาจากกลุ่มฝูงชน

「 ยะ…ยัตสึฮาชิคุง เป็นอะไรมั๊ย ? 」

「 ไม่เป็นไร ฉันสบายดี 」

ถึงอย่างนั้น…

แต่เราวินาทีที่ผ่านไป พวกมันมันฝรั่งแหละแครอทเริ่มหายไปจากรถเข็น ถ้าฉันเข้าไปแล้วโดนดันออกมาอีก

「 ให้ตายสิ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นนิคุจะกะที่ไม่มีมันฝรั่งและแครอทกันพอดี 」

ขณะที่ฉันรู้สึกหมดหนทางในขณะที่มันฝรั่งและแครอทยังคงหายไปต่อหน้าต่อตา ยูกิมิยะก็ก้าวเข้าไปใกล้ฝูงคนมากขึ้น

「 เดี๋ยวก่อน เธอคิดจะทำอะไรอยู่ ? 」

「 อย่างล่ะ 2 ก็พอใช่มั๊ยค่ะ ? 」

「 ก็ใช่… แต่ไม่ไหวหรอก เธอทั้งตัวเล็กกว่าฉันอีกนะ 」

「 ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้หรอกค่ะ นี่ถือเป็นบทเรียนทางสังคมของฉันด้วย… 」

ยูกิมิยะรุกล้ำเข้าอาณาเขตมนุษญ์แม่บเานอย่างไม่ลังเล

และ… เธอก็หายเข้าไปในฝูงคนแล้วจริง ๆ

「 เอ๊ะ… หายไปแล้ว ? 」

ไม่ได้ถูกดันออกมา แต่หายลับเข้าไป…

เป็นไปได้เหรอที่จะไหลเข้าไปโดยที่ไม่โดนดันออกมาน่ะ ด้วยรูปร่างแบบนั้นอ่ะนะ

เธอใจกล้ามากที่บุกเข้าไปในฝูงนักล่าแบบนั้น ฉันยังลำบากมากแท้ ๆ

ไม่นานจากนั้น ผูงชนก็เริ่มเบาบางลง เพราะแครอทกับมันฝรั่งหายไปหมดแล้ว

แต่…

( ยูกิมิยะหายไปไหน… ? )

( ไม่เห็น ๆ เธอไปไหนแล้ว )

「 มองไปทางไหนกันคะ ? 」

「 เอ๊ะ…. 」

「 อยู่ข้างหลังหรอกเรอะ 」

( ทำไมถึงมาอยู่หลังฉันล่ะเนี้ย เมื่อกี้เข้าไปข้างแท้ ๆ )

เธอยังดูเรียบร้อยดีนะ ทรงก็เป็นระเบียบ เสื้อผ้าก็เรียบร้อย

ยังน่ารักเป็นแบบปกติของเธอ และในมือเธอมีของ 4 ชิ้นในมือของเธอ

「 เธอได้มาหรือเปล่า จากฝูงเมื่อกี้น่ะ 」

「 …ง่ายดีออก 」

「 ง่ายเหรอ… อย่าบอกนะ… 」

「 ก็ฉันตัวเล็ก เลยแทรกง่ายหน่อย พอเข้าไปถึงก็คว้ามันเลย 」

「 เหอะ… 」

อาจเป็นเพราะร่างกายเธอที่ขาดส่วนเว้า ส่วนโค้งตามฉบับเด็กผู้หญิง การเบียดเลยง่ายขึ้นมาซะงั้น เรียบง่ายดี…

「 คุณคิดอะไรที่มันเสียมารยาทอยู่ใช่มั๊ย ? 」

「 คิดไปเองน่า… ช่วยได้เยอะเลย 」

「 ไม่มีปัญหาค่ะ สงสัยต้องเข้าร่วมลดราคารอบหน้าแล้วสิ 」

นั้นทำเอาพูดไม่ออกเลยแหะ…

แปลกใจสุด ๆ มือใหม่แบบยูกิมิยะจะชนะคว้ารางวัลในสงครามลดราคามาได้

หลังจากได้รับมันฝรั่งและแครอท ก็เริ่มหาเครื่องเทศอื่น ๆ ที่กำลังขาดอยู่ใส่ตะกร้า

ของแบบนี้พอตามเป้าแล้วอะไรก็ไหลลื่นขึ้นเยอะ

ถึงจะยุ่งยากที่จะต้องซื้อหลาย ๆ อย่าง แต่ก็เอาให้จบในครั้งเดียว

「 ยูกิมิยะ จะซื้อขนมมั๊ย ? 」

「 ก็อยากนะ แต่ไว้ซื้อทีหลังเองได้ค่ะ 」

「 ถือเป็นการขอบคุณสำหรับของ เลือกที่เธอชอบมาได้เลย 」

「 งั้นไม่เกรงใจนะคะ 」

จากนั้นเราก็ไปยังโซนของว่าง ยูกิมิยะจึงเลือกอย่างจริงจัง

「 อันนี้ก็ดี… อันนี้เพิ่มน้ำตาลอีกหน่อยก้ไม่เลว หรือจะเป็นรามูเนะ… ช็อคโกแลตน่าจะดีกว่า แต่จากราคาแล้ว… บางทีโมจิอาจจะดีกว่าก็ได้… 」

เธอดูจริงจังมาก…

ตอนที่ทำความสะอาดห้องอยู่ ก็ได้รู้ว่าเธอค่อนข้างชอบขนม แต่ก็ไม่ได้นึกว่าจะถึงขั้นนี้

ขณะที่มองดูเธออย่างสับสน ก็เอาเนื้อใส่ตระกร้า

ไม่กี่นาทีต่อมา…

ในที่สุดยูกิมิยะก็เลือกของเสร็จ ซึ่งเต้มไปด้วยว็อคโกแลตหลากหลายประเภท

「 แน่ใจนะ ? 」

「 ค่ะ ของคุณนะคะ 」

「 ด้วยความยินดี —รีบจ่ายเถอะจะได้รีบกลับกัน เริ่มหิวแล้วด้วย 」

「 นิคุจะกะกับซาชิมิ ส่วนฉันทำมิโซะสินะ ? 」

「 ก็ดีเลย เธอจะได้ลองฝึกด้วย 」

「 ฉันจะพยายามค่ะ 」

ยูกิมิยะรีบบึ่งไปทางแคชเชียร์อย่างตื่นเต้น

เหมือนเด็กจริง ๆ ความรู้สึกของพ่อแม่เป็นแบบนี้สินะ ถึงจะไม่รู้ก็เถอะ

ฉันถอนหายใจ แล้วเดินตามเธอไป

หลังซื้อของเสร็จ พวกเราก็ออกจากซุปเปอร์กัน

ข้างนอกเริ่มมืดแล้ว และไฟบ้านก็เปิดอยู่ด้วย ถึงจะไม่ใช่ฤดูของการประดับไฟที่ทำให้อารมณ์สบายอกสาบายใจ

เดือนเมษายนจะผ่านไปแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกหนาวอยู่บ้าง

「 ยูกิมิยะ กลับบ้านกันเถอะ 」

「 ค่ะ —รีบกลับกันเถอะ อยากกินนิคุจากะเร็ว ๆ แล้ว 」

ความกระตือรือร้นของยูกิมิยะจากการแสดงออกของเธอ เธอคงจะดีใจที่จะได้กินนิคุจะกะ นิสัยเหมือนเด็ก ๆ

พวกเราออกจากซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยกัน

ยูกิมิยะมองด้วยความกังวล

「 ยัตสึฮาชิคุง ถือคนเดียงคงจะหนัก เดี๋ยวช่วยถือนะคะ 」

「 ไม่เท่าไหร่หรอก 」

( จริง ๆ มันค่อนข้างลำบากนิด ๆ แต่คงจะแสดงควาปวกเปียกต่อหน้าเด็กผู้หญิงก็ไม่ใช่ ก่อนหน้ายังหนักกว่าอีก )

ขณะที่กำลังสงบใจ ยูกิมิยะก้แย่งจากมือไป

「 เฮ้… ยูกิมิยะ 」

「 อะไรล่ะคะ …แขนก็มีมือสองข้างเหมือนกันนะ 」

「 …เอาเข้าจริง ก็ช่วยได้เยอะเลย 」

「 แน่นอน 」

เบาขึ้นจริง ๆ พวกเราเดินเคียงคู่กันกลับไปที่บ้าน

ถ้าเพื่อนสมัยเด็กมาเห็นเข้า คงได้เข้าใจผิดกันแหงเลย

ยิ่งโดยเจ้าพวกคุโรบะด้วยแล้ว ทุกวันนี้ยิ่งมองเป็นภัยด้วย พวกเขาควรเริ่มปรับตัวเข้ากันได้แล้วนะ ไม่เห็นพวกนั้นจะตอบโต้บ้างเลย

ขณะที่กำลังคิดอยู่…

ยูกิมิยะก็พูดขึ้นมา

「 ดูเหมือนว่า สตอร์กเกอร์จะหายไปแล้วนะ 」

「 หืม… ใช่ ๆ หลังจากคราวที่แล้วก็ไม่เห็นเลยแหะ 」

「 บางทีเขาคงยอมวางมือไปแล้งละมั้ง ? 」

「 ใครจะรู้ล่ะ… ไม่เข้าใจพวกนั้นเลยจริง ๆ 」

( อาจเป็นเพราะอยู่ใกล้เธอเสมอเวลาไปกลับจากโรงเรียน พวกนั้นเลยทำอะไรแปลก ๆ ไม่ได้ )

( …ถึงจะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสตอร์กเกอร์แทนเนี้ย )

( ไม่ ๆ ไม่ได้หมายความยังงั้นสักหน่อย ยิ่งถ้ามีเรื่องเกิดกับยูกิมิยะล่ะก็ คงกลั้นตาหลับไม่ลงแน่ )

「 จริง ๆ ตั้งแต่ที่มียัตซึฮาชิคุงมาอยู่ข้าง ๆ ก็คอยพึ่งพาคุณอยู่เสมอเลย 」

「 ไม่จริงสักหน่อย ก็แค่บังเอิญสื่งที่ฉันทำได้กับเธอทำได้มันตรงข้ามกันก็แค่นั้น 」

「 ก็จริงนะ… ที่คุณเรียนไม่ค่อยได้เรื่อง 」

「 ไม่ใช่ว่าไม่ได้เรื่องสักหน่อย แค่สปีดของชิรามิเนะต่างหากที่แปลก 」

「 จริงเหรอคะ… ไม่เห็นรู้สึกว่ามันจะเร็วอะไรเลย 」

「 แน่นอน —มันอยู่ที่สภาพแวดล้อมต่างหาก 」

( โรงเรียนธรรมดาจะไปเทียบกับพวกชั้นนำได้ยังไงกัน )

「 ความสัมพันธ์นี้จะจบลงเมื่อยูกิมิยะพึ่งพาตัวเองได้ 」

「 … 」

「 ถ้าฉันไม่มีอะไรที่จะสอนเธอ —นั้นหมายเธอมีความสามารถพอที่จะยืนด้วยขาตัวเองได้แล้ว 」

แต่…

「 บางครั้งก็ต้องเข้าไปตรวจสักหน่อยนะ ว่ามันไม่ได้สูญเปล่าซะทีเดียว 」

「 เข้าใจแล้วค่ะ… จนกว่าจะถึงตอนนั้นก็ฝากตัวด้วยนะคะ 」

「 แน่นอน… ถึงจะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ก็นะ 」

「 ฉันเป็นคนที่เรียนรู้ไวนะจะบอกให้ 」

「 ถึงจะเรียนรู้ไว แต่ใช้ไม่ได้จะมีความหมายอะไรล่ะ 」

「 คนที่ไม่เข้าใจบทเรียนอย่างยัตสึฮาชิคุงน่ะ… ไม่มีสิทธิ์พูดหรอกค่ะ 」

「 แทงใจดำชะมัด 」

คำพูดที่พุ่งตรงหน้าเหมือนชกเข้าที่ท้อง เธอรู้จักคำว่า [วาจาเป็นเหมือนดาบ] มั้ยเนี้ย

ยูกิมิยะถอนหายใจ

ยิ้มเบา ๆ ราวกับไม่มีทางเลือก

「 ขอฝากตัวไปอีกสักระยะเลยนะคะ 」

「 อา… แน่นอน 」

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฉันยังนึกภาพไม่ออกเลย ความสัมพันธ์ที่เริ่มคลายตัวอ่อนลง ยูกิมิยะไม่ได้มีท่าทีไม่ชอบแสดงออกมา

ชีวิตคนเรามันเดาไม่ได้เลยจริง ๆ

ดูเหมือนระยะระหว่างพวกเราจะค่อย ๆ เขยิบเข้าใกล้อีกก้าว

ขณที่รู้สึกอย่างนั้น…

เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา แต่ไม่ใช่ของฉัน ก็คงเป็นของยูกิมิยะ

「 นี่… โทรศัพท์กำลังอยู่นะ 」

「 เอ๊ะ ? 」

「 ยะ…ยูกิมิยะ หน้าซีดมากเลยนะ เป็นอะไรมั๊ย ? 」

「 เอ๊ะ… ? 」

( เกิดอะไรขึ้นกัน ? )

แม้จะมีแสงสลัว แต่ก็บอกได้เลยว่าเธอไม่โอเค

ขณะแย่งของจากมือของเธอมา แล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับเธอ

「 เป็นอะไรมั๊ย ? พักสักหน่อยสิ 」

「 ไม่เป็นอะไรค่ะ… ฉันสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง 」

「 จะไม่ให้กังวลได้ไงล่ะ 」

คงมีเหตุผลอะไรบางอย่าง ทั้งที่ยังทำตัวเป็นปกติจนถึงเมื่อกี้แท้ ๆ … ไม่ใช้แค่อาการเหนื่อล้าแน่

「 เป็นเพราะเสียงเรียกเจ้านั้นเหรอ… ? 」

ขณะที่รู้สึกผิด…

ฉันหยิบกระเป๋าของเธอขึ้นมา จากนั้นปิดสายและเปิดใช้งานโหมดเครื่องบิน จะได้ไม่ต้องได้ยินเสีนงเรียกเข้าอีก

แต่…

พอวางสายก็สังเกตุเห็นชื่อผู้ติดต่อมา ถึงจะแค่เพียงแว็บเดียว แต่เขียนเอาไว้ว่า… [แม่เลี้ยง]

( แม่เลี้ยง… ตามที่เขียนเอาไว้ พ่อเธอแต่งงานใหม่เหรอ ? )

สมัยนี้ไม่ใช่สิ่งที่หายากหรอก…

ยูกิมิยะตอนพูดถึงแม่ของเธอเสมอ แต่คงเป็นเรื่องแม่แท้ ๆ ของเธอ

ขณะเดียวกัน…

เมื่อลองคิดดูแล้ว ท่าทางของเธอเช่นนี้ คงเป็นข้อสรุปชัดเจนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเธอได้ดีแล้วล่ะ

「 ขอโทษนะที่ตัดสายแทนเธอ 」

「 ไม่เป็นอะไร… ขอบคุณนะคะ 」

การตัดสายของคนอื่นโดยพลการอาจทำให้เธอโกรธได้ แต่ยูกิมิยะกลับขอบคุณแทน

สุดท้ายแล้ว…

ฉันก็ทำอะไรให้เธอไม่ได้ ทำได้แต่อยู่ข้าง ๆ เะอแทน จนเธอรู้สึกสงบใจลง

 

ความสัมพันธ์ลับ ๆ ที่บอกใครไม่ได้ของผมกับยัยเทพธิดาซึนเดเระ

ความสัมพันธ์ลับ ๆ ที่บอกใครไม่ได้ของผมกับยัยเทพธิดาซึนเดเระ

Score 10
Status: Completed
ツンな女神さまと、誰にも言えない秘密の関係 | Tsun na Megami-sama to, Dare ni mo Ienai Himitsu no Kankei โรงเรียนมัธยมคุโรนามิ โรงเรียนชายล้วนที่กำลังประสบปัญหาเนื่องจากจำนวนเด็กนักเรียนที่ลดต่ำลงทุกปี เพื่อความอยู่รอดของสถานศึกษา ทางโรงเรียนจึงได้ตัดสินใจรวมเข้ากับโรงเรียนมัธยมชิรามิเนะ โรงเรียนหญิงล้วนที่อยู่ข้างเคียง ยัตสึฮาชิ ฮาซึกิ ประธานสภานักเรียนแห่งโรงเรียนชายล้วนคุโรนามิ และ เฮียวกะ ยูกิมิยะ ประธานสภานักเรียนแห่งโรงเรียนหญิงล้วนชิรามิเนะ ประธานสถานักเรียนสาวสวยผู้สมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม "เทพธิดาน้ำแข็ง" เนื่องจากปีนี้เป็นปีแรกของการรวมโรงเรียนสองแห่งเข้าด้วยกัน จึงจะมีประธานสภานักเรียนสองคนจนกว่าวาระการดำรงตำแหน่งจะหมดลง และด้วยเหตุนั้น... ทำให้ฮาซึกิต้องออกจากบ้านพ่อแม่ และเริ่มมาใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว แต่แล้ว... ไหงยัยเทพธิดาน้ำแข็งถึงมาอาศัยอยู่ห้องข้างๆ กันได้ล่ะเนี่ยยยย!!? ฮาซึกิซึ่งกลายมาเป็นเพื่อนบ้านโดยไม่คาดคิด เขากลับได้รู้ "ความลับ" อันน่าเหลือเชื่อเกี่ยวกับเฮียวกะ ยูกิมิยะ ที่ถูกเรียกว่าเทพธิดาผู้สมบูรณ์แบบ

Options

not work with dark mode
Reset