ความลับแห่งจินเหลียน 313 กล่องไม้ขนาดใหญ่

ตอนที่ 313 กล่องไม้ขนาดใหญ่

ไข่หยกห้าสีเดิมทีก็สวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เมื่อประดับด้วยเพชรเพริศแพร้ว ยิ่งระยิบระยับควรค่าแก่สายตา เพียงแต่เมื่อมองไข่หยกกลับพลันคิดถึงหูชีเยี่ยนโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นถอนหายใจและโอบดอกไม้มา “เข้ามานั่งก่อนเถอะค่ะ ข้างนอกอากาศเย็น ทำไมคุณถึงมาเวลานี้ล่ะคะ?”

 

 

หลินเสวียนหลานยิ้ม “ผมถูกคนใส่พานมาน่ะ”

 

 

“เอ่อ…” ซีเหมินจินเหลียนเบิกตากว้างและมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ

 

 

“นี่น่าจะเป็นของขวัญที่คุณปู่หูมอบให้คุณอีกชิ้น ฮ่าๆ…” จ่านป๋ายใส่เสื้อกันเปื้อนและยืนพิงประตู

 

 

“หมายความว่าอะไร?” ซีเหมินจินเหลียนถามอย่างไม่เข้าใจ “ของขวัญอีกชิ้น?” เหมือนว่าไข่หยกไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับหูหวังไม่ใช่เหรอ?

 

 

“จินเหลียน” หูหวังสองมือไขว้หลังเดินออกมา ผลักตัวหลินเสวียนหลานพูด “หนูดูสิ ไอ้หนุ่มนี่หล่อหรือเปล่า?”

 

 

ไม่มีใครกล้าพูดว่าหลินเสวียนหลานไม่หล่อ เสริมกับความสุภาพอ่อนโยนที่มีมาตั้งแต่เกิดของเขา ไหนจะเสื้อผ้าการตัดเย็บที่สมบูรณ์แบบอีก

 

 

แต่ซีเหมินจินเหลียนพูดอะไรไม่ได้ ทำได้แค่ยิ้มและเดินเข้าไปข้างในบ้าน หูหวังพูด “จินเหลียน หรือหนูลืมไปแล้ว ปู่ของเขาติดหนี้ปู่ยังไม่คืน ปู่เลยให้หมอนี่มาใช้หนี้ปู่ ตอนนี้ปู่เลยใส่พานมาให้หนู หนูอยากจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่หนูชอบ…”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนใบหน้าแดงระเรื่อ กลัวว่าเขาจะพูดอะไรโผงผางออกมา

 

 

ใครจะรู้เมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง หูหวังเจตนาพูด “หนูอยากจะตีเขาหรือเล่นยังไงก็ได้ตามชอบใจ”

 

 

“คุณปู่หู…” ซีเหมินจินเหลียนย่างเท้าพูด

 

 

จ่านป๋ายถอดผ้ากันเปื้อนออกมาจากเอวและยื่นต่อให้หลินเสวียนหลาน “เอาเถอะ อย่าเล่นเอสเอ็มเลย เขาไม่ใช่คนร้ายกาจอะไร คุณชายหลินในเมื่อคุณมาแล้ว ทางห้องครัวก็ฝากคุณจัดการแล้วกัน ถ้าผมทำเกรงว่ามื้อค่ำนี้คงหมดหวังที่จะได้กิน”

 

 

หลินเสวียนหลานได้ยินแล้วยิ้มๆ จ่านป๋ายกับซีเหมินจินเหลียนทำกับข้าวไม่เป็น เรื่องนี้เขารู้ทุกอย่าง ตอนนั้นจึงรับผ้ากันเปื้อนและพุ่งตรงเดินเข้าครัว ในเวลาเดียวกันก็ยังไม่ปล่อยจ่านป๋ายรีบเรียก “เขามาช่วยกันสิ”

 

 

“คุณปู่คะ ท่านจะทำอะไรคะ?” รอให้จ่านป๋ายกับหลินเสวียนหลานเข้าไปในครัวแล้ว ซีเหมินจินเหลียนนั่งลงบนโซฟาถามหูหวัง “ทำไมท่านถึงได้เรียกพี่หลินมาล่ะคะ?”

 

 

“มาสร้างสีสันไง” หูหวังถอนหายใจพูด “ถ้าแค่พวกเราก็ดูจืดชืดไป คนเยอะหน่อยยิ่งคึกคัก ปู่ไม่รู้ว่าตัวเองฉลองปีใหม่คนเดียวมานานแค่ไหนแล้ว”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนได้ยินน้ำเสียงเขามีความอ้างว้างก็ถอนหายใจแผ่วเบา ไม่ต่อความยาวสาวความยืด เอาเถอะ งั้นทุกคนก็มาฉลองปีใหม่ด้วยกันนี่แหละ

 

 

ส่วนทางด้านจ่านป๋ายกับหลินเสวียนหลานช่วยกันขะมักเขม้นอยู่ในครัว ซีเหมินจินเหลียนนั่งพูดคุยอยู่กับหูหวังบนโซฟา แต่ไม่นานได้ยินเสียงโทรศัพท์ ซีเหมินจินเหลียนรับสายและทางโทรศัพท์มีเสียงของชายหนุ่มส่งเสียงจริงจัง “คุณซีเหมิน ส่งท้ายปีเก่าครับ แล้วก็สวัสดีปีใหม่”

 

 

“หมอมองโกล?” ซีเหมินจินเหลียนมึนงง นับตั้งแต่ที่สวี่อี้หรานสร้างเรื่องในวันนั้น เขาก็ไม่เคยมารบกวนเธออีกเลย

 

 

“ผมไม่ใช่สัตว์แพทย์” ในโทรศัพท์สวี่อี้หรานยังคงอธิบายชัดเจน “ดอกกุหลาบแวร์ซายส์เบ่งบานออกแล้ว ผมตัดเสร็จแล้วเดี๋ยวจะเอาไปให้คุณนะครับ”

 

 

“ฉันไม่สนใจคนของซีเหมินน่งเยว่เท่าไหร่” ซีเหมินจินเหลียนโมโห สวี่อี้หรานเป็นลูกศิษย์สืบทอดของซีเหมินน่งเยว่ คิดถึงเรื่องนี้เธอก็โกรธจัดฉับพลัน

 

 

ซีเหมินน่งเยว่พูดออกมาจากปาก เขาเคยใช้ก้อนหินมาทุบนิ้วมือของหูชีเยี่ยนให้แตกละเอียดทีละนิ้ว เธอหวังว่าคงมีสักวันที่เธอได้หยกเนื้อแก้วเหล่าพ่ากันมาทุบกะโหลกเขาให้แตกละเอียด…

 

 

“มีพันธุ์วิจัยตัวอย่างอยู่สองแบบ คุณชอบแบบไหน ไม่อย่างนั้นให้ผมเอาไปส่งให้นะครับ?” สวี่อี้หรานยังคงพูดจริงจังและเริ่มถกเถียงถึงปัญหานี้

 

 

“เอาสมองของอาจารย์คุณมาทำเป็นตัวอย่างศึกษาสิ” ซีเหมินจินเหลียนขี้เกียจพูดจากับเขาให้มากความ พูดจบรีบวางสายทันที

 

 

ใครจะไปรู้เพิ่งวางสายได้ไม่นาน โทรศัพท์พลันดังขึ้นอีกครั้ง หยิบขึ้นมาดูเป็นเบอร์แปลกหน้าจึงกดรับสาย มีเสียงหญิงสาวที่คล้ายเสียงอัตโนมัติดังขึ้นในโทรศัพท์ “คุณซีเหมินใช่ไหมคะ? ฉันมาจากบริษัทxx ขนส่ง คุณมีพัสดุที่จะต้องเซ็นรับค่ะ”

 

 

“พัสดุ?” ซีเหมินจินเหลียนคิดถึงหูชีเยี่ยนตามสัญชาตญาณ มีแค่เขาเท่านั้นที่ชอบเล่นเกมแบบนี้ ทันใดนั้นจึงรีบไปเปิดประตู

 

 

เป็นอย่างที่คิดปากประตูมีบริษัทขนส่งนำกล่องไม้ลวดลายสีทองขนลงมา และยื่นใบรับพัสดุส่งมาให้ ซีเหมินจินเหลียนพร้อมยิ้ม “ขอให้มีความสุขในวันปีใหม่นี้นะครับ”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนรับใบรับพัสดุมา ตัวอักษรที่ปริ้นมาจากเครื่องปริ้นบอกว่ามาจากพม่า ในใจก็ยินดียกใหญ่รีบเซ็นชื่อให้จบๆ

 

 

พนักงานของบริษัทขนส่งทั้งสองรีบนำกล่องไม้ยกเข้าไปในห้องรับแขก และกล่าวอวยพรสวัสดีปีใหม่อยู่หลายประโยคถึงได้บอกลา หูหวังยิ้มถาม “ของขวัญของพ่อหนู?”

 

 

“ดูจากที่อยู่ที่ส่งของมาน่าจะเป็นพม่า น่าจะใช่เขาค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม

 

 

“เขานี่เงินเยอะเสียจริง ของชิ้นใหญ่ขนาดนี้ส่งพัสดุต่างประเทศมันแพงมาก” หูหวังพูดสีหน้าเพิกเฉย

 

 

ซีเหมินจินเหลียนได้แค่ยิ้มๆ ได้รับของขวัญจากหูชีเยี่ยนเธอก็รู้สึกดีใจมาก ส่วนเรื่องแพงหรือไม่แพงเธอไม่เอามันมาย้ำคิดในหัว ตอนนั้นจึงรีบเปิดกล่องไม้

 

 

“คุณซีเหมิน รอเดี๋ยว” จู่ๆ มีคนเรียก

 

 

“เฮ้อ…” ซีเหมินจินเหลียนกับหูหวังหันหน้ากลับไปเห็นสวี่อี้หรานยืนอยู่หน้าประตูบ้านโอบอุ้มดอกกุหลาบแวร์ซายส์ ไหนจะแจกันคริสตัล ครั้งที่แล้วตอนที่เขามา ซีเหมินจินเหลียนเขวี้ยงแจกันดอกไม้แตกละเอียด ครั้งนี้เขาจึงตั้งใจซื้อมันมาเป็นพิเศษ

 

 

“คุณเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร?” ซีเหมินจินเหลียนเห็นสวี่อี้หรานพลันโกรธจัด

 

 

“ผม…ถือวิสาสะที่พวกเขามาส่งของขวัญเมื่อสักครู่แฝงตัวเข้ามาด้วย” สวี่อี้หรานสีหน้าอึดอัดใจ นี่เป็นเรื่องของอาจารย์ของเขา ทำไมต้องเอาเขาไปเกี่ยวด้วย?

 

 

“คุณออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” ซีเหมินจินเหลียนชี้ไปหน้าประตูใหญ่

 

 

“ไม่เอาน่า” สวี่อี้หรานสีหน้าน่าสงสารมองไปยังซีเหมินจินเหลียน “คุณหูให้ผมมาที่นี่ และยังให้ผมพาของขวัญมาให้คุณ”

 

 

“คุณหูคนไหน?” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้วพูด “พ่อฉันไม่มีทางสนใจคุณหรอก”

 

 

“คุณหูให้ผมมาจริงๆ ผมไม่ได้หลอกคุณนะ” สวี่อี้หรานพูดจริงจัง

 

 

“ออกไป” ซีเหมินจินเหลียนกัดฟันพูด “ศิษย์และอาจารย์อย่างพวกคุณ ไม่มีใครดีกว่ากันทั้งนั้น”

 

 

สวี่อี้หรานใบหน้าปนเศร้าคว้ามือถือต่อสายไปยังเบอร์หนึ่ง ไม่นานต่อสายติด “คุณหู คุณชนะแล้ว” เขาพูดพลางอีกด้านก็ลอบมองซีเหมินจินเหลียน

 

 

ซีเหมินจินเหลียนได้ยินเสียงสัพยอกของผู้ชายคนหนึ่งในสาย แต่รายละเอียดที่พูดคุยอะไรกันเธอเองนั้นฟังไม่เข้าใจสักคำ

 

 

สวี่อี้หรานเหลือบไปมองซีเหมินจินเหลียนแวบหนึ่งและเดินเข้ามาหา ทั้งยื่นโทรศัพท์ส่งต่อให้เธอ “สายจากคุณหู”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนคิดๆ ดู ก็รับโทรศัพท์ต่อมาและพูดหนึ่งประโยคว่า “ฮัลโหล” เลยได้ยินเสียงหัวเราะของ หูชีเยี่ยนดังผ่านเข้ามา

 

 

“พ่อคะ” ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกอึดอัดไปทั่วท้อง เขาล้อเล่นอะไรเนี่ย คนคนนี้เป็นลูกศิษย์ของซีเหมินน่งเยว่เชียวนะ

 

 

“จินเหลียน พ่อถูกสวี่เซวี่ยนหยวนตามตื้อไม่เลิก สวี่อี้หรานพ่อเคยเจอแล้ว ลูกยอมลำบากใจหน่อยเก็บเขาไว้กินข้าวด้วยกันแล้วค่อยไล่เขาให้รีบกลับไปแล้วกัน อีกอย่างต่อไปถ้ามีเรื่องยุ่งยากอะไร อย่าลืมเรียกหาหมอนั่น พ่อของเขาติดหนี้บุญคุณพ่อ ห้ามเรียกคนอื่นเด็ดขาดนะ ห้ามเลย” หูชีเยี่ยนหัวเราะ

 

 

“พ่อคะ เขาคือลูกศิษย์ของซีเหมินน่งเยว่นะคะ” ซีเหมินจินเหลียนกล่าวขอเท็จจริงที่ไม่อาจเพิกเฉย

 

 

“ช่างเถอะ สะสางเรื่องต่อเรื่อง พ่อไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นใคร” หูชีเยี่ยนยิ้มเบาๆ “อีกอย่าง ถ้าลูกฉลองปีใหม่ตัวคนเดียวมันก็อ้างว้างเกินไป”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนยิ้มฝืดเฝื่อน เธอจะฉลองปีใหม่คนเดียวได้อย่างไร? ทางเธอนี่แหละกำลังคึกคักเชียว

 

 

“จินเหลียน ทางพ่อยังมีเรื่องต้องสะสาง พ่อไม่พูดกับหนูแล้ว พ่อให้ไอ้หนุ่มตระกูลสวี่พาของขวัญมาให้ลูก ลูกลองดูสิว่าชอบหรือเปล่า” หูชีเยี่ยนพูดต่อ

 

 

“อืม ขอแค่เป็นของที่พ่อให้หนู หนูก็ชอบทั้งนั้นแหล่ะค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม “พ่อคะ สุขวันต์วันปีใหม่นะคะ สุขสันต์วันเกิดค่ะ”

 

 

“เหอะๆ…” หูชีเยี่ยนหัวเราะเบาๆ “ถ้าลูกไม่บอกพ่อก็เกือบลืมไปแล้ว วันนี้เป็นวันเกิดพ่อ ลูกว่า…วันปีใหม่ก็ดีๆ อยู่แล้ว จะเกิดพ่อมาทำไม? หรือกลัวว่าจะไม่มีอะไรทำในวันปีใหม่งั้นเรอะ”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วปล่อยเสียงหัวเราะ เรื่องนี้มีแต่หูชีเยี่ยนที่พูดได้ เกิดตั้งแต่เมื่อไหร่เดือนไหนใครเลือกได้ล่ะ?

 

 

“ผู้เฒ่าหูท่านนั้นเรียกให้แม่พ่อไปหาอย่างลับๆ ก็คงไม่ใช้นิ้วมานับเวลาหรอก จินเหลียน ลูกว่าใช่ไหมล่ะ?” หูชีเยี่ยนพูดจาเหลวไหล

 

 

แต่หูหวังนั่งอยู่ข้างซีเหมินจินเหลียน แม้จะผ่านโทรศัพท์แต่บทสนทนาของทั้งสอง เขาก็ได้ยินไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่คำเดียว เมื่อได้ยินจึงส่งเสียงแหบแห้ง “ไอ้สารเลว”

 

 

“จินเหลียน ผู้เฒ่าคนนั้นอยู่กับลูก?” หูชีเยี่ยนตกใจ ปกติเขาจะไม่มีการห้ามใดๆ ขอแค่ไม่เกี่ยวกับเรื่องหินซ่อมฟ้าอะไรก็ได้ทั้งนั้น แม้แต่ตอนที่ตนเองยังเป็นวัยรุ่นทำเรื่องเหลวแหลกมาตั้งมากยังกล้าบอกกับซีเหมินจินเหลียน แล้วนี่แค่เรื่องหยอกล้อที่ไร้ซึ่งพิษภัย

 

 

“พ่อคะ…” ซีเหมินจินเหลียนมองไปที่หูหวังและยิ้ม “วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า พ่อเรียกท่านสักหน่อยก็ไม่น่ายุ่งยากนี่คะ?” พูดจบเธอก็มองไปที่หูหวัง แม้ใบหน้าของหูหวังจะแสร้งเป็นไม่รู้สึกรู้สา แต่เธอก็มองออกว่าเขาก็คาดหวังเหมือนกัน

 

 

“จินเหลียน อย่าทำให้พ่อต้องลำบากใจ” หลังจากหูชีเชี่ยนนิ่งไปนานถึงค่อยพูดต่อ “ช่างเถอะ ไม่มีอะไรแล้ว สุขสันต์วันปีใหม่ พ่อวางสายแล้วนะ” พูดจบเขาก็ไม่รีรอให้ซีเหมินจินเหลียนพูดชิงตัดสายไปก่อน

 

 

ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกผิดหวังมาก หูหวังเองก็ผิดหวังมากเช่นกัน สวี่อี้หรานยิ้มได้ใจ “เป็นไง ผมไม่ได้หรอกคุณใช่ไหมล่ะ?”

 

 

“ของขวัญของพ่อฉันล่ะ?” ซีเหมินจินเหลียนยื่นมือออกมาพูด

 

 

“อยู่บนรถของผม เดี๋ยวผมไปเอาให้” สวี่อี้หรานรีบพูด พูดจบเขาก็นำแจกันดอกไม้คริสตัลกับดอกกุหลาบแวร์ซายในมือส่งไปให้ซีเหมินจินเหลียนด้วยกัน และรีบแล่นออกไปด้านนอก

 

 

ซีเหมินจินเหลียนแปลกใจเล็กน้อย เมื่อสักครู่หูชีเยี่ยนไม่ได้พูดถึงเรื่องกล่องลวดลายสีทองขนาดใหญ่นี่เลย แค่บอกให้สวี่อี้หรานเอาของขวัญมาให้ หรือว่ากล่องไม้นั่นไม่ใช่เขาเป็นคนให้? ถ้าไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใครล่ะ คิดดูแล้วเขาน่าจะทำเซอร์ไพรส์เธอ เลยตั้งใจที่จะไม่บอกมากกว่า?

 

 

ซีเหมินจินเหลียนคิดพลาง อีกด้านก็เดินไปที่กล่องไม้ข้างหน้า และเมื่อรู้ว่ากล่องไม้นั้นไม่ได้ปิดผนึกตายแถมยังปิดอย่างหลวมๆ นี่ไม่น่าจะเป็นขั้นตอนการทำงานของบริษัทขนส่งเลย…

ความลับแห่งจินเหลียน

ความลับแห่งจินเหลียน

Score 10
Status: Completed

ส่วนที่ 1 ตอนที่ 1 – 29 อ่านนิยาย
ส่วนที่ 2 ตอนที่ 1 – 30 อ่านนิยาย
ส่วนที่ 3 ตอนที่ 1 – 33 อ่านนิยาย


ซีเหมินจินเหลียน หญิงสาวจากครอบครัวชนบทที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้น เธอดิ้นรนส่งเสียตัวเองจนเรียนจบ กระทั่งได้เข้ามาทำงานในนครเซี่ยงไฮ้ เมืองที่ไม่เคยหลับใหลแห่งนี้ แต่ความจริงกลับไม่เป็นดั่งฝันที่วาดไว้ เมื่อเธอถูกแฟนหนุ่มที่ตั้งใจจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันหักหลังอย่างไม่ไยดี

แต่แล้ว…ในคืนที่เธอไม่เหลืออะไรแม้แต่ชายคนรัก ซีเหมินจินเหลียนได้รับความสามารถพิเศษที่เธอเองก็ไม่อาจคาดคิด… ‘ความสามารถในการมองทะลุสิ่งของ’ พร้อมกับลายดอกบัวสีทองที่ปรากฏอยู่บนหลังมือ ได้นำพาให้ซีเหมินจินเหลียนที่ไม่มีอะไรติดตัวเข้าสู่วงการ ‘นักพนันหยก’ จนได้กลายเป็น ‘เจ้าหญิงแห่งวงการหยก’ ภายในชั่วข้ามคืน…

Options

not work with dark mode
Reset