ซีเหมินจินเหลียนยิ้มฝืน “ผู้อาวุโส คุณรับไว้เถอะค่ะ เผื่อมีเรื่องด่วนที่จำเป็นจะต้องใช้”
ชายชราคิดเล็กน้อย จึงพูดขึ้น “ก็ได้ หินหยกดิบพวกนั้น ถ้าคุณต้องการก็เอามันไปให้หมดเถอะนะ”
“ฉันต้องการค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าหงึกหงัก ไม่ต้องพูดถึงหินหยกดิบลักษณะดีพวกนี้เลย ถึงไม่ดีเธอก็อยากจะเหมาซื้อทั้งหมด “พรุ่งนี้ฉันจะมาขนสินค้านะคะ”
“ตกลง พรุ่งนี้ตอนฟ้ามืด ผมจะรอคุณ” พ่อค้าชราพูด
ซีเหมินจินเหลียนบอกลา เมื่อเดินไปหน้าประตูจู่ๆ ฝีเท้าก็ชะงักไป ถามขึ้นว่า “คุณมีลูกหลานหรือเปล่าคะ” ถ้าชายชราท่านนี้มีลูกหลาน เกรงว่าลูกหลานที่บ้านของเขาคงคัดค้านไม่ให้เขาดูแลลุงงูแน่ เพราะด้วยสภาพของลุงงูด้วยแล้วมันก็ทำให้คนหวาดผวาจริงๆ
“คนแก่อย่างฉันไม่มีลูกไม่มีหลานหรอก ชีวิตนี้ตัวคนเดียว คุณซีเหมินวางใจได้” พ่อค้าชราเป็นคนฉลาด ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าซีเหมินจินเหลียนกำลังคิดอะไร ทันใดนั้นก็ยิ้มกริ่มออกมา
“ขอบคุณมากค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูดขอบคุณอีกครั้ง จากนั้นเดินออกไป อากาศข้างนอกเย็นลงแล้ว จ่านป๋ายรีบนำเสื้อคลุมตัวนอกไปพาดไว้ที่ตัวเธอ จับมือเธอที่หนาวเย็นและพูดปลอบประโลมว่า “คุณวางใจเถอะ เขาจะต้องไม่เป็นไร”
ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้า ก่อนที่จู่ๆ เธอจะหันกลับไปซบลงบนไหล่ของจ่านป๋ายแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วง
จ่านป๋ายยื่นมือออกไปโอบหลังของเธอและลูบปลอบประโลมอย่างอ่อนโยนพูดว่า “จินเหลียน ร้องออกมาเถอะครับ…ร้องออกมาแล้วจะได้รู้สึกดีขึ้น!”
ซีเหมินจินเหลียนร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดว่า “เสี่ยวป๋าย คุณไม่รู้หรอก ลุงงูไม่ไหวแล้ว ยาพวกนั้นเป็นยาพิษที่ถึงชีวิต…”
จ่านป๋ายตกตะลึงไป ก่อนจะประคองใบหน้าเธอแล้วถามขึ้นว่า “แล้วทำไมเขาถึงยังกินล่ะ คุณไม่ได้บอกเขาเหรอ?”
“หากหยุดยาตัวนั้น มากสุดก็อยู่ได้แค่สามสี่วันเท่านั้น ถ้าไม่หยุดก็ไม่รู้ว่าประคับประคองไปได้นานเท่าไหร่ พิษของเขาเข้าไขกระดูกไปแล้ว…” ซีเหมินจินเหลียนพูด “ตอนนั้นคุณย่าของฉันเคยเกลี้ยกล่อมเขาแล้วว่ายานั่นกินไม่ได้ ไม่อย่างนั้นต้องได้คร่าชีวิตคนไปไม่ช้าก็เร็ว”
“นั่น…คือยาอะไรครับ?” จ่านป๋ายตกใจถาม
“ฉันเองก็ไม่รู้” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าพูดอย่างวิตก “ฉันไม่รู้จริงๆ แต่ตอนนี้เมื่อลองคิดดูแล้ว ยาแปลกพิสดารแบบนั้นคงไม่ได้ถูกหลักทางการแพทย์แน่…มันต้อง…มันต้อง…” พูดถึงเท่านี้เธอก็ยั้งปากไว้
จ่านป๋ายลองครุ่นคิดดู ในที่สุดก็เริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะว่าเดิมพันหินหยกทำกำไรได้มหาศาลเพียงชั่วพริบตา ภายใต้ผลกำไรจำนวนมากที่คอยหลอกล่อนั้น แน่นอนคงหนีไม่พ้นเรื่องชั่วร้ายอะไรแน่ ยาชนิดนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการเดิมพันหิน เพียงแต่ใช้ยังไงเขาคิดยังไงก็คิดไม่ออก
“เกี่ยวข้องกับเดิมพันหินอย่างนั้นเหรอ?” จ่านป๋ายประคองเธอพร้อมถาม
ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าเชื่องช้า ทันใดนั้นพูดขึ้น “เท่าที่ฉันจำได้ หลังจากที่พ่อจากโลกนี้ไปไม่นาน สุขภาพของคุณย่าฉันก็ย่ำแย่ลงทุกวัน ไม่นานลุงงูก็มา…ขอร้องให้คุณย่ามอบของบางอย่างแก่เขา ตอนแรกคุณย่าไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายก็ทนมองใบหน้าที่เศร้าหมองของเขาไม่ได้…ตอนนี้เมื่อคิดดูแล้วก็น่าจะเป็นยาตัวนี้”
จ่านป๋ายถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา นักบ้าคลั่งเดิมพันหินอีกคนหนึ่งสินะ คนพวกนี้ก็ทำเพื่อหินสวยงามและเอาชีวิตตัวเองจมดิ่งลงไป
ซีเหมินจินเหลียนชะงักอยู่นานถึงพูดขึ้น “เขาพักอยู่บ้านของฉันนานพอสมควร คอยไล่จับงูพิษตามภูเขาไปทั่ว”
จ่านป๋ายคิดถึงเรื่องเมื่อสักครู่ที่ชายชราท่านนั้นจับคองูพิษอย่างคล่องแคล่วชำนาญ ภาพที่บีบคั้นพิษงูออกมาจากปาก ก็อดไม่ได้ที่ตัวจะสั่นเทิ้ม ชายชราท่านนั้นไม่ใช่คนธรรมดาแน่
“แล้วชายชราท่านนั้นล่ะเป็นใคร?” จ่านป๋ายถามขึ้น
“ลุงงูเรียกเขาว่าซานเยี่ย!” ซีเหมินจินเหลียนพูดขึ้น “ถึงฉันไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่เกรงว่าคงอยู่ในวงการพวกเรานี่ล่ะ ชายชราคนนั้นทำธุรกิจฉลาดเป็นกรดขนาดนั้น” อย่างน้อยก็ฉลาดกว่าเธอมาก เธออดไม่ได้ที่จะเพิ่มประโยคเองในใจ ฝากลุงงูไว้กับซานเยี่ยคนนั้น เธอก็วางใจได้หน่อย
ความจริง แม้แต่ตัวเธอเองยังบอกไม่ได้เลยว่าทำไมเธอต้องเชื่อใจซานเยี่ยคนนั้น
แน่นอนลุงงูคงบอกวิธีการทำยาตัวนั้นให้กับซานเยี่ย และซานเยี่ยเองก็เป็นคนต้มยาให้เขาเองกับมือ แสดงว่าลุงงูต้องไว้ใจเขามาก ลุงงูที่ไม่เคยไว้ใจใครง่ายๆ มาก่อน แม้กระทั่งตอนที่เธอยังเด็ก เขายังไม่เคยหลุดปากพูดเกี่ยวกับเรื่องเดิมพันหินเลย
แต่ตอนนี้ ความจริงก็พิสูจน์ได้แล้วว่า…ทักษะการเดิมพันหินของเขายอดเยี่ยมมาก
แม้ว่าจะดึกมากแล้ว แต่ถนนหยกโบราณก็ยังสามารถเรียกรถแท็กซี่ได้ ทั้งคู่จึงได้กลับไปยังโรงแรม
เพิ่งจะได้เข้าไปในห้องไป ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ซีเหมินจินเหลียนรีบหยิบมือถือขึ้นมาดู คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเจียหยวนฮวา จากนั้นเธอก็กดปุ่มรับสาย ปลายสายเป็นเสียงของเจียหยวนฮวาที่ส่งเข้ามา “จินเหลียน คุณกลับมาแล้วหรือยังครับ”
“กลับมาแล้วค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูด “ผู้อาวุโสเจียมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ถ้าผมจะไปคุยกับคุณ คุณพอจะสะดวกไหมครับ?” ผู้อาวุโสเจียถามขึ้นยิ้มๆ
“ได้สิคะ” ซีเหมินจินเหลียนพูด “ฉันอยู่ห้อง 314”
“ผมรู้ ผมไปสืบมาแล้ว อีกทั้งยังขอให้ทางโรงแรมช่วยย้ายห้องมาอยู่ตรงข้ามคุณด้วย ผมเห็นคุณเข้าห้องไปแล้ว” เจียหยวนฮวาพูดพลางหัวเราะแหะๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะ รบกวนคุณมาที่ห้องของฉันแล้วกันนะคะ” ซีเหมินจินเหลียนพูด
เมื่อวางสายโทรศัพท์ลง เธอก็บอกจ่านป๋ายว่าเจียหยวนฮวาจะมา ตนเองก็รีบเข้าไปในห้องน้ำล้างหน้าล้างตา เปิดกระเป๋าเครื่องสำอางแต่งหน้าน้อยๆ เพื่อปกปิดร่องรอยที่เคยร้องไห้…แม้ว่าเธอกับเจียหยวนฮวาจะคุ้นเคยกัน แต่เธอก็ไม่อยากให้เขารู้เรื่องส่วนตัวของเธอ
แน่นอนเจียหยวนฮวารอเธออยู่ ดังนั้นเมื่อซีเหมินจินเหลียนวางสายแล้ว จ่านป๋ายที่อยู่ทางนั้นได้ยินเสียงเคาะประตูจึงรีบไปเปิด
ซีเหมินจินเหลียนออกมาจากห้องน้ำ เจียหยวนฮวาจึงถามขึ้นยิ้มๆ ว่า “คืนนี้ไปดูสินค้ามาเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดีค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มบางๆ
“จินเหลียน ผมรอให้คุณกลับมา อยากจะถามคุณว่าคุณรู้เรื่องงานประมูลหยกใต้ดินที่พม่าหรือเปล่า” เจียหยวนฮวาถาม
“งานประมูลที่พม่า ยังมีแยกใต้ดินบนดินด้วยเหรอคะ?” ซีเหมินจินเหลียนถามอย่างสงสัย
“ใช่ครับ” เจียหยวนฮวาขมวดคิ้วพูดขึ้น “งานประมูลหยกทางการถูกจัดโดยรัฐบาลพม่า เรื่องนี้คุณน่าจะรู้”
“ค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า งานประมูลที่พม่าโดยทั่วไปแล้วจะจัดขึ้นปีละครั้ง บรรยากาศคึกคักมาก รวมพลบรรดานักเดิมพันหินจากทุกหนทุกแห่ง หรือพูดว่านักเดิมพันหินอดิเรก
“ถ้าอย่างนั้นคุณน่าจะรู้ว่าเหมืองที่พม่า ความจริงแล้วคนจีนเป็นคนขุด?” เจียหยวนฮวาพูดอีกครั้ง
ซีเหมินจินเหลียนพูด “ฉันไม่เคยไปพม่ามาก่อน เคยเห็นแค่ข้อมูลบางส่วนบอกว่าเหมืองหยกในพม่าส่วนมากจะมีคนจีนเป็นคนขุดเหมือง ไม่รู้ว่าจริงแท้อย่างไร รัฐบาลพม่าก็ยอมให้คนจีนมาขุดเหมืองด้วยเหรอคะ?”
“ช่วงนี้ขอบเขตขยายกว้างขึ้น ไม่ใช่ใครจะพูดอะไรก็เชื่อทั้งนั้น แต่…งานประมูลใต้ดินที่พม่า ดีกว่าที่ทางการจัดมาก ไม่เพียงแต่หินหยกมากมาย แถมราคายังถูกแสนถูก” เจียหยวนฮวาอธิบาย “ดังนั้นนักเดิมพันหินส่วนมาก ช่วงนี้ถึงได้พากันไปพม่า”