แท็งก์น้ำที่กว้างใหญ่เลี้ยงปลาเทวดาไว้อยู่ ลักษณะลำตัวยาว ถึงแม้จะไม่ใช่งู แต่ซีเหมินจินเหลียนดูอย่างไรก็ไม่สบสายตา สิ่งนี้…ยังไม่สู้นำงูมาทดลอง
“นี่ก็คือปลาสวยงามเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนถาม
“อืม” สวี่อี้หรานพยักหน้าพูด “วันนี้ตอนเช้าผมตั้งใจไปซื้อมาเลยนะ”
“ฉันก็ไม่มีความสามารถในแยกแยะเรื่องความสวยงามเหรอไงกัน หรือว่ามาตราฐานความสวยของคนอื่นมีปัญหา?” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้ว “ปลาตัวนี้มันสวยตรงไหนกันเนี่ย?”
“ผมหาแล้วมันไม่มี ไหนๆ เราก็ซื้อมาทดลองแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะกินได้ก็ได้!” สวี่อี้หรานพูด ในขณะที่พูดเขาก็หาเครื่องมือที่ดูรกหูรกตาไปหมดจนเจอ เตรียมตัวแช่แข็งในเวลานั้นก็ไม่ลืมที่จะประจบประแจงซีเหมินจินเหลียน “คุณซีเหมินในตู้เย็นมีผลไม้ คุณชอบกินอะไร”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณ” ซีเหมินจินเหลียนรีบกล่าวขอบคุณ ในใจก็บ่นพึมพำ ในตู้เย็นบ้านคุณนอกจากจะมีผักผลไม้แล้ว ยังมีหัวคนตายที่ถูกหนูแทะเล็มด้วย ช่างเถอะ เธอไม่กล้ากินผลไม้อย่างนี้
“ใช้เวลาในการแช่แข็งนานเท่าไหร่” จ่านป๋ายถาม
“น้ำเยอะขนาดนี้ หากแช่แข็งก็ต้องใช้เวลาสักห้าถึงหกนาที นี่ถือว่าขีดจำกัดสูงสุดแล้ว” สวี่อี้หรานพูด นี่เป็นที่ของเขา หากเป็นที่อื่นคงไม่มีทางมีอุปกรณ์ครบครันเช่นนี้แน่
ของพวกนี้มีไว้เล่นแช่แข็ง อาจจะมีความเร็วที่มากกว่า แต่ปกติระบบของมันอาจไม่ถึงห้าหรือหกนาทีก็น่าจะแช่แข็งน้ำในแท็งก์น้ำและปลาเทวดา
“แต่เวลาตั้งห้าหกนาทีจะทำให้ปลาแข็งตายเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนพูด
สวี่อี้หรานไตร่ตรองอยู่พักหนึ่งถึงค่อยพูด “ไม่รู้”
จ่านป๋ายขมวดคิ้ว หากเวลาห้าหรือหกนาทีสามารถทำให้ปลาเทวดาแข็งตายได้ สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในหยกในตอนนั้นจะถูกทำให้แช่แข็งด้วยความเร็วเท่าไหร่กัน? แน่นอนความคิดแรกยังคงเป็นหยกในตอนนั้นอยู่ภายใต้เงื่อนไขของอุณหภูมิต่ำทำให้ก่อตัวแข็ง
มันต้องเร็วขนาดไหนที่จะแข็งตัวได้กัน? หากอยากจะรับรองว่าหลังจากที่แข็งแล้วสัตว์พวกนี้สามารถเอาตัวรอดได้หรือเปล่า อย่างน้อยเวลามากสุดห้ามเกินกว่าสามสิบวินาที!
การทดลองนี้ยังไม่ทันได้เริ่มต้นขึ้น จ่านป๋ายก็รับรองได้แล้วว่าผลการทดลองสุดท้ายคงต้องล้มเหลวแน่
“คุณซีเหมิน ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปชมสวนดอกไม้กันไหม ยังไงก็ต้องใช้เวลาตั้งหลายนาทีในการแช่แข็ง พอแช่แข็งเสร็จแล้วค่อยมาดูทีหลังก็ยังทันไม่ใช่เหรอ?” สวี่อี้หรานพูดเชื้อชวน
“ในบ้านของคุณมีของที่ไม่เจริญหูเจริญตาหรือเปล่า” ซีเหมินจินเหลียนถาม “ไม่มีของอะไรที่สกปรกใช่ไหม?”
สวี่อี้หรานเข้าใจดีว่าสิ่งที่สกปรกสำหรับเธอคืออะไร จึงได้แต่พูดอัดอั้นออกไปว่า “ผมเป็นหมอนะ ไม่ใช่สัปเหร่อ จะทำเรื่องพวกนั้นเพื่ออะไร? แต่ผมจะแอบบอกคุณก็ได้ ท่านอาจารย์ของผมเขาชอบศพ”
“อะ…อะไรนะ?” ซีเหมินจินเหลียนไม่ทันได้ดึงสติกลับมา ชอบศพ? หมายความว่าอะไร?
“อาจารย์คุณมีแนวโน้มชอบสมสู่กับศพเหรอ?” จ่านป๋ายถามขึ้นอย่างสงสัย
“อะไรคือสมสู่กับศพ?” ซีเหมินจินเหลียนพูดขัดขึ้นมา ทำไมพวกเขาเหมือนพูดภาษามนุษย์ต่างดาวอยู่ เธอไม่เข้าใจ?
“อาจารย์ของผมไม่ได้มีความชอบแบบนั้น เขาก็แค่…” สวี่อี้หรานพยักหน้าพูด “ยังไง เขาก็แค่วิจัยของพวกนั้น”
“ถ้าอย่างนั้นคุณทำเป็นไหม” จ่านป๋ายขมวดคิ้วถาม
“เป็นน่ะ แน่นอนว่าเป็น!” สวี่อี้หรานพูด “นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก เขาเป็นอาจารย์ของผม เขาเป็น ผมก็ต้องเป็น!”
“พวกคุณกำลังพูดอะไรกันอยู่เนี่ย?” ซีเหมินจินเหลียนเงยหน้าถามขึ้น
สวี่อี้หรานมองจ่านป๋ายและรีบอธิบายว่า “สิ่งที่เรียกว่าสมสู่กับศพก็คือการชอบมีเพศสัมพันธ์กับศพ!”
จู่ๆ ซีเหมินจินเหลียนก็รู้สึกอยากจะอาเจียนออกมา ให้ตายเถอะ…โปรดให้อภัยหากเธอจะพูดคำหยาบ นี่มันคนประเภทไหนกัน?
“ผมยังคิดว่าคุณจะไม่รู้เรื่องอะไรพวกนี้นะเนี่ย!” จ่านป๋ายยิ้ม
“เดิมทีผมก็ไม่รู้หรอก แต่ตาแก่ที่บ้านผมก็บ้าดีเดือดเกินไป!” สวี่อี้หรานพูด “ผมมักสงสัยว่าผมเป็นลูกแท้ๆ ของพ่อหรือเปล่า”
“ดูนั่นสิ…แข็งแล้ว!” ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังคุยกัน ก็เห็นความเร็วของแท็งก์น้ำที่ใส่ปลาไว้ข้างในตอนนี้กลายเป็นน้ำแข็งแล้ว
“เร็วมากเลย!” สวี่อี้หรานพูด “มันยังมีชีวิตอยู่!”
จ่านป๋ายมองดูปลาเทวดาที่โชคร้ายตัวนั้น แล้วก็ได้แต่พยักหน้าพร้อมพูดขึ้น “ดี มันยังมีชีวิตอยู่จริง”
ด้วยเครื่องมือเทคโนโลยีล้ำหน้าในปัจจุบันนี้ ภายในเวลารวดเร็วน้ำในแท็งก์ก็กลับกลายเป็นน้ำแข็งจนหมดและปลาเทวดาที่น่าสงสารถูกแช่แข็งปิดตายไว้ในนั้น
ซีเหมินจินเหลียนจ้องมองไปที่ปลาเทวดาที่ถูกแช่แข็งอยู่นานและพูดขึ้นว่า “ความโปร่งใสของน้ำแข็งไม่ได้ใสบริสุทธิ์เท่าหยกชนิดเนื้อแก้ว”
“จินเหลียน นี่คุณกำลังล้อเล่นอยู่เหรอ?” จ่านป๋ายยิ้ม “ชนิดเนื้อน้ำแข็งกับเนื้อแก้วมันห่างกันคนละชั้นเลยนะ”
“ผมลองดู!” สวี่อี้หรานหรานหยุดเครื่องแช่แข็งชั่วขณะ เอื้อมมือไปแตะบนน้ำแข็งอยู่นานและกล้ำกลืนพูด “เย็นมาก…”
“ได้ไหม?” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้ว
สวี่อี้หรานพยักหน้าไม่พูดต่อ เวลาผ่านไปสามถึงสี่นาที ใบหน้าของสวี่อี้หรานก็พลันซีดขาว ศีรษะเต็มไปด้วยเหงื่อที่ผุดซึมออกมาเป็นเม็ดๆ
“เป็นอย่างไรบ้าง?” จ่านป๋ายรีบถามขึ้นอย่างร้อนรน
“จากการวิเคราะห์ของผม ปลาตัวนี้ได้ตายเป็นที่เรียบร้อยแล้วและไม่มีแนวโน้มในการมีชีวิตรอด!” สวี่อี้หรานรีบเก็บมือกลับมาพยุงตัวนั่งไปที่เก้าอี้พร้อมส่ายหน้า “ความรู้สึกนี้ไม่เหมือนกับตอนหยกราชางู”
ซีเหมินจินเหลียนอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปสัมผัสความเย็นของก้อนน้ำแข็ง เมื่อความร้อนไหลผ่าน โลกของน้ำแข็งได้ทะลุเข้าไปในใจลุ่มลึก ถัดจากนั้นเป็นปลาเทวดา เกล็ดปลา หนังปลา ก้างปลา เครื่องใน…
เธอรับรองได้ว่าภายในหนึ่งเดือนนี้ เธอจะไม่กินปลาแน่นอน
แต่เรื่องนี้ก็ทำให้เธอสามารถพิสูจน์ได้อย่างหนึ่งเลยว่า ความสามารถของเธอนั้นจะไม่มีประโยชน์สำหรับสิ่งที่มีชีวิต แต่หากเป็นสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วเธอจะสามารถมองทะลุผ่านได้ ในระหว่างนั้นเธอก็คิดขึ้นมาได้ว่า…นี่ก็เป็นแค่สัตว์จำพวกปลาเท่านั้น สำหรับร่างกายมนุษย์จะมีผลลัพธ์เหมือนกันหรือเปล่า?
ความคิดเลื่อนลอยไปไกล สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นหัวคนตายที่แช่สารละลายไว้อยู่ เธอจะลองดูดีไหมนะ?
“คุณสวี่ ฉันขอน้ำสักแก้วได้ไหม” ซีเหมินจินเหลียนรีบเก็บมือพร้อมยิ้ม
“โอเค รอสักครู่นะ” สวี่อี้หรานได้ยินเช่นนั้นเขาก็รีบลุกจากเก้าอี้เดินออกไปข้างนอก
จ่านป๋ายถาม “จินเหลียน คุณจะทำอะไรหรือครับ”
“ฉันจะศึกษาดูของทดลองของเขาสักหน่อยน่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูดพลางเดินไปทางสถานที่วางสารละลายนั่น
“จินเหลียน อย่า…” จ่านป๋ายรีบจับมือเธอส่ายหน้าพูด “ของพวกนั้น…สกปรกเกินไป”
“ตอนที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ก็เหมือนพวกเรานี่ล่ะ ไม่ได้สกปรกอะไรสักหน่อย!” ซีเหมินจินเหลียนพูดพลางสูดลมหายใจลึก
“ห้ามเปิดออกนะ!” จ่านป๋ายรีบเตือนสติ
“คุณวางใจได้ ฉันไม่ได้กล้าถึงขนาดนั้นหรอกนะ!” ซีเหมินจินเหลียนพูดพลางเดินไปทางขวดแก้วที่ใส่หัวคนตายข้างหน้า จากนั้นก็ยื่นมือออกไปแตะ เธออยากจะดูว่ากายวิภาคของมนุษย์กับสัตว์อื่นๆ มีอะไรที่ไม่เหมือนกัน?