แต่สิ่งที่ทำให้ซีเหมินจินเหลียนยิ่งสงสัยมากขึ้นก็คือ อาชีพหมอแต่ไม่ได้รักษาคนเนี่ยนะ? แปลกจริง! แต่การมายืนฟังคนอื่นพูดกันแบบนี้ มันก็ดูไม่ค่อยมีมารยาทเท่าไหร่ เพราะอย่างนั้นเธอจึงหามุมเงียบๆ ที่ไม่สะดุดตาใครนั่งลงเพื่อรอให้งานเลี้ยงเริ่มขึ้น
เดิมทีจินอ้ายหัวให้เธอเป็นเพื่อนเจ้าสาว แต่เธอเห็นว่ารอบกายของจินอ้ายหัวรุมล้อมไปด้วยเพื่อนฝูงมากมาย คิดดูแล้วคงไม่ใช่แค่เธอคนเดียวแน่ๆ
จู่ๆ เธอก็รู้สึกหดหู่ใจขึ้นมา ตั้งแต่ที่ตัวเธอเองเริ่มเข้ามาเดิมพันหยก ก็ราวกับตัวเธอและเพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็ยิ่งห่างไกลกันออกไป ถึงขนาดไม่มีหัวข้อสนทนาที่จะพูดคุยด้วยกันได้
เมื่อเห็นเพื่อนร่วมตัวเกาะกันเป็นกลุ่ม พูดคุยกันเรื่องความยากลำบากในการทำงาน เจ้านายที่ชอบกดดันกลั่นแกล้ง แม้แต่เจ้านายผู้ชายที่ชอบแต๊ะอั๋ง ไหนจะบ่นอุบอิบเรื่องเงินเดือนที่น้อยนิด การทำงานหนักหน่วง รายรับกับรายจ่ายที่ไม่สอดคล้องกัน ทำให้เพื่อนบางคนที่ไม่เคยเจอต่างคิดภาพ ถ้าตัวเองเจอการกดขี่ข่มเหงจากเจ้านายจะเป็นอย่างไร
ถัดมาเป็นหัวข้อสนทนาของผู้หญิง ที่หนีไม่พ้นเรื่องความสวยความงาม ลดน้ำหนัก สถานที่เสริมความงามที่ไหนดี เครื่องสำอางถูกต่างๆ นานา ใครซื้อรถแล้ว ใครซื้อบ้าน…ใครจะแต่งงาน ใครยังไม่มีบ้านต่างๆ จนกระทั่งบางคนที่ไม่มีบ้านไม่มีรถก็ถูกคนถกประเด็นถามขึ้น
ซีเหมินจินเหลียนผ่อนลมหายใจออกมา ทั้งรถทั้งบ้านเธอก็มีหมดแล้ว เงินหรือ…ชั่วชีวิตนี้ก็ใช้ไม่หมด เป้าหมายท้าทายที่คนอื่นตั้งเอาไว้ เธอก็ทำมันให้เป็นจริงหมดแล้ว ส่วนเรื่องผู้ชาย ผู้ชายที่ตามติดรอบข้างของเธอก็ดีพร้อมเลิศเลอไปหมด
คนเราหลังจากที่มีเงินมากมาย ความคิดก็เริ่มไม่เข้าใกล้ความจริง คิดไม่ถึงว่าเธอจะกระตือรือร้นที่อยากจะตามหาหินปิดฟ้าของเทพธิดา ตามหาชั้นอารายะธรรมที่เคยหล่นหายไป ผู้คนในตอนนั้นมีพลังเทพจริงไหม? เมื่อใช้สมองครุ่นคิด จู่ๆ ก็รู้สึกว่าด้านข้างก็มีดวงตาคู่หนึ่งมองเธออยู่
ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกแปลกใจจึงได้หันไปมอง ก่อนที่จะเห็นว่าหมอแปลกประหลาดที่เมื่อครู่คุยคุณลุงจินนั้นกำลังมองมาที่เธอจริงๆ เธอก็กลอกตาเล็กน้อย เขาก็ไม่รู้หรือว่าการใช้สายตาจ้องมองคนอื่นแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่เสียมารยาท
“อ้อ…ไม่ทราบว่าคุณแซ่อะไรหรือครับ” ชายหนุ่มเมื่อเห็นเธอก็กลอกตาใส่ เขาก็แสยะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
“เรียกฉันว่าซีเหมินก็ได้ค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูด ตอนที่พูดนั้นเธอก็กำลังใช้โอกาสยืนขึ้นเพื่อหนีห่าง
“คุณซีเหมิน เดี๋ยวก่อนสิครับ!” ชายหนุ่มคนประหลาดพูดขึ้นฉับพลัน
“คุณคะ พวกเราไม่ได้รู้จักกันเสียหน่อย” ซีเหมินจินเหลียนพูด
“อืม ก็จริง พวกเราก็ไม่ได้รู้จักกันจริงๆ ผมทำตัวบุ่มบ่ามเอง” ชายหนุ่มคนประหลาดพูด “ผมเพียงแค่รู้สึกว่าคุณดูแปลก”
“คุณต่างหากที่แปลก!” ซีเหมินจินเหลียนแค่นเสียงใส่ ในใจแอบพูดว่า คุณมันตัวประหลาด นิสัยประหลาด สัตว์ประหลาด
“เรื่องนี้…” ชายหนุ่มประหลาดรีบพูด “คุณ…คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ ผมอาจจะไม่ถนัดในเรื่องการใช้คำพูด แต่…ผมก็ไม่รู้จะบอกยังไง…ยังไงคุณก็ดูแปลกสำหรับผมอยู่ดี”
“คุณอย่ามาด่าอ้อมไปอ้อมมาว่าฉันไม่ใช่คนปกติได้ไหม?” ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกว่าเธอเริ่มจะหมดความอดทนกับชายหนุ่มแปลกประหลาดคนนี้แล้ว จริงๆ เลย กินข้าวให้เสร็จก็จบ งานแต่งงานฤกษ์งามยามดีของเพื่อน คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอคนแบบนี้ “ฉันว่าคุณน่าจะไปโรงพยาบาลดูสักหน่อยนะ ตรวจดูว่าสมองมีปัญหาหรือเปล่า” พูดจบเธอก็รีบหันตัว ออกห่างเขา
ถ้าขืนเธอยังคุยกับคนแปลกๆ แบบนี้ต่อไป ใครจะไปรู้ว่าเขาจะพูดจาอะไรไม่น่าฟังขึ้นมาอีก?
แต่ซีเหมินจินเหลียนกลับคิดไม่ถึงว่าตอนที่เธอลุกขึ้นเดินออกห่างจากเขา ชายแปลกประหลาดคนนั้นก็ยังตามติดเธอมา ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเจอผู้ชายมาคุกคามแบบนี้ แต่ผู้ชายคุกคามอีกทั้งยังหน้าด้านแบบนี้ น้อยนักที่จะได้เจอ
“คุณจะทำอะไร?” ซีเหมินจินเหลียนหยุดฝีเท้าลง ก่อนหันกลับไปพูด “ถ้าคุณยังตามฉันมาอีก ฉันจะร้องตะโกนให้ดู!” วันนี้เป็นวันดีของจินอ้ายหัว คนในโรงแรมก็มากมาย เธอก็ไม่กลัวว่าเขาจะมาทำเรื่องบ้าบอยุ่มย่ามกับเธอ
ชายหนุ่มท่าทีแปลกพูดขึ้นมา “คุณไม่ต้องคิดมากหรอก ผมไม่ได้สนใจผู้หญิง แม้ว่าคุณจะสวยก็ตาม!”
ซีเหมินจินเหลียนนิ่งอึ้งไป ไม่ทันไรเธอก็หัวเราะออกมาไม่หยุด เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าจะไม่เคยได้ยินเรื่องรักร่วมเพศอะไรแบบนี้ แต่ภายใต้ความกดดันในสังคม ความรักแบบนี้จึงอยู่ในรูปแบบหลบๆ ซ่อนๆ เสียมากกว่า ถึงจะมีคนที่รักเพศเดียวกันจริง แต่พวกเขาก็มักจะปิดซ่อนมันไว้ แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับพูดออกมาได้ไม่อายปาก
“คุณสนใจผู้ชาย?” ซีเหมินจินเหลียนตั้งใจถามขึ้นเสียงดัง แน่นอนก็เพื่อให้เป็นเป้าสายตาของผู้คน
“ฮะๆ…” ชายหนุ่มแปลกประหลาดหัวเราะร่า ส่ายศีรษะพูด “ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย!”
“เอาเถอะ ถึงคุณจะชอบผู้หญิงหรือผู้ชายฉันก็ไม่สน หรือคุณจะเป็นสัตว์ประหลาด มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน ขอแค่คุณอย่าตามฉันมาก็พอแล้ว!” ซีเหมินจินเหลียนพูด แปลกคนจริง
“เดี๋ยวก่อน…” ชายหนุ่มแปลกคนนั้นยังคงพูดต่อ “คุณซีเหมินเคยได้ยินเรื่องการฝังเข็มจับชีพจรหรือเปล่าครับ?”
“ห๊ะ?” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้ว “เหมือนกับในละคร ที่ใช้เข็มฝังไปที่มือของผู้ป่วยก็สามารถจับชีพจรได้น่ะหรือ”
“ใช่!” ชายหนุ่มแปลกประหลาดพูด “ถ้าคุณคิดว่าผมคุกคามคุณ ถ้าอย่างนั้นพวกเราใช้วิธีจับชีพจรเป็นอย่างไร?”
“คุณทำเป็น?” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าพูด “คุณก็เป็นปีศาจเหรอไง?” เธอไม่เชื่อว่าบนโลกนี้ยังจะมีคนสามารถใช้เข็มในการจับชีพจรได้ ตอนนี้คนที่รู้แพทย์แผนจีนเช่นการจับชีพจรมีไม่เยอะแล้ว
“ผมชื่อสวี่อี้หราน ปกติก็ไม่พูดโกหก แต่ถ้าคุณไม่เชื่อ คุณก็ลองไปถามคุณลุงจินดูก็ได้!” หนุ่มแปลกสวี่อี้หรานพูด
“ฉันขี้เกียจจะสนใจคุณแล้ว!” ซีเหมินจินเหลียนไม่มีคำพูดอะไรกับคนคนนี้อีก
ชายหนุ่มคนนั้นบ่นพึมพำ เขาคงจะด่าเธอที่ไม่เข้าใจ ซีเหมินจินเหลียนแอบได้ยินแต่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“จินเหลียน เธอก็อยู่นี่เอง!” จินอ้ายหัวยกชายกระโปรงชุดแต่งงานและรีบวิ่งเหยาะๆ เข้ามาหา “ฉันตามหาเธอซะทั่ว อ๊ะ คุณสวี่ก็อยู่ด้วยเหรอ?”
“ตามหาฉัน มีเรื่องอะไรเหรอ” ซีเหมินจินเหลียนเห็นจินอ้ายหัว ก็สงบอารมณ์ลงก่อนถามออกไป
“เดี๋ยวอีกสักพักเธอก็มานั่งกับพวกเราก็ได้ ฉันกลัวเธอจะเบื่อน่ะสิ” จินอ้ายหัวพูด “อีกเดี๋ยวพี่ฉันจะตามมา คุณสวี่ตามสบายนะคะ” พูดจบเธอก็จูงมือซีเหมินจินเหลียนไป
“เดี๋ยวก่อนครับ…ผมขอนั่งกับพวกคุณด้วยได้ไหม?” สวี่อี้หรานยิ้มประจบขึ้น
“คุณ…” จินอ้ายหัวมองไปที่สวี่อี้หราน ในใจไม่ค่อยยินดีเท่าไหร่นัก โต๊ะของพวกเธอมีแต่เพื่อนร่วมรุ่นทั้งนั้น ถ้าคนแปลกหน้าอย่างเขาเข้าไปนั่งร่วมด้วย มันก็ดูเกร็งๆ พูดคุยไม่ค่อยสะดวก
“ตกลงนะครับ นานๆ ทีผมจะได้คึกคักด้วย” สวี่อี้หลานพูดเองเออเอง ไม่ได้สนใจคำตอบรับของ จินอ้ายหัว รีบตัดสินใจเอง
จินอ้ายหัวมองไปที่ซีเหมินจินเหลียนและยิ้มออกมา “คุณสวี่จะจีบจินเหลียนหรือคะ? ฉันจะบอกอะไรให้นะ จินเหลียนน่ะ เธอมีเจ้าของแล้ว” เธอและสวี่อี้หรานไม่ได้คุ้นเคยกัน เคยเจอกันเพียงแค่ครั้งเดียว แต่เพราะว่าความสัมพันธ์ของพ่อเธอกับอาจารย์ของเขาไม่เลว อีกอย่างคืนนี้เขาก็มาอวยพรกับตัวเอง เธอจึงไม่กล้าพูดอะไร
พูดจบก็ไม่ได้สนใจสวี่อี้หราน คล้องมือซีเหมินจินเหลียนแล้วเดินไป ซีเหมินจินเหลียนกดเสียงต่ำถามขึ้นว่า “เขาเป็นใคร”
“ลูกศิษย์ของเพื่อนคุณพ่อน่ะ ได้ยินว่าฝีมือทางการแพทย์ไม่เลวเลย!” จินอ้ายหัวพูดจีบปากยิ้มร่า “จินเหลียน ดวงความรักของเธอช่วงนี้มาแรงจริงๆ คิดไม่ถึงว่าเขาจะตามติดเธอไม่ปล่อยเลย?”
“อย่าพูดเลย ไม่รู้ว่าเขาประสาทไปแล้วหรือเปล่า” ซีเหมินจินเหลียนพูด “ฉันรู้ตัวว่าฉันไม่ได้สวยถึงขั้นใครจะมาตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่พบได้หรอกนะ”
“ผมไม่ได้จะจีบคุณ!” สวี่อี้หรานไม่ได้มีความละอายที่จะแอบฟังพวกเธอซุบซิบกันแม้แต่น้อย
“คุณอย่าตามพวกเรามาได้ไหมค่ะ คุณสวี่!” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจแล้วพูด ขึ้น
“อ้ายหัว…” ทางนั้นหลิงซูฟางและคนอื่นๆ ก็เดินเข้ามา “เกิดอะไรขึ้น?”
“ไม่มีอะไรหรอก” จินอ้ายหัวยิ้มขมขื่น “คุณสวี่แค่อยากจะจีบจินเหลียนเท่านั้นเอง”
“คุณสวี่ ฉันแนะนำว่าอย่าไปชอบคุณซีเหมินเลย ฮ่าๆ…” หลิงซูฟางพูด “คนเขามีเจ้าของแล้ว”
“สุดหล่อ ไม่งั้นมาคบกับพวกเราดีไหมคะ?” เถียนเถียนยิ้ม
สวี้อี้หรานมองไปที่เถียนเถียนและส่ายหน้าพูดขึ้น “ผมไม่ได้สนใจคุณ!”
ใครๆ ต่างรู้ว่าเถียนเถียนแค่ล้อเล่น ถ้าหากอีกฝ่ายฉลาดพอแค่ยิ้มก็ได้แล้ว แต่สวี่อี้หรานเป็นคนตรงๆ เพียงไม่นานใบหน้าของเถียนเถียนก็มืดครึ้ม ส่งเสียงเหอะใส่พร้อมพูดว่า “ก็แค่คุณสนใจเธอ ไม่จำเป็นว่าเธอจะสนใจคุณเสียหน่อย”
“นั่นเป็นเรื่องของผม ไม่เกี่ยวกับคุณ!” สวี่อี้หรานพูดโผงผางตรงไปตรงมา ทำให้คนอื่นๆ รับไม่ได้ เมื่อพูดจบเขาก็หันหน้าไปพูดกับซีเหมินจินเหลียนว่า “คุณซีเหมิน ผมจะให้ของคุณบางอย่าง คุณก็รับปากคำขอของผมเมื่อสักครู่ เป็นไง?”
“ฉันไม่ได้ขาดเหลืออะไร!” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้า ชายคนนี้ก็น่าเบื่อจริงๆ
สวี่อี้หรานคิดไปมาก็กัดฟันพูด “คุณซีเหมิน ตอนนี้คุณอาจจะไม่ขาดเหลืออะไร ตอนยังสาวคุณยังสวยสะพรั่ง แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ความสวยของคุณจะค่อยๆ เ**่ยวเฉาลง ผิวเริ่มตายด้าน ถึงตอนนั้นจะเป็นยังไงครับ? ผมเป็นหมอ แถมยังวิจัยยามาหลายขนาน ถ้าหากคุณยอมรับข้อเสนอของผมเมื่อครู่ ผมจะจัดยาชะลอความแก่ให้คุณยังคงสวยดั่งสาววัยแรกแย้มตลอดกาล!”
เมื่อคำพูดของสวี่อี้หรานลั่นออกไป ผู้คนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ ยาชะลอความแก่…เขาพูดออกมาได้ยังไงกัน? ถ้าบนโลกนี้มียาที่ทำให้ไม่แก่ได้จริงๆ นั่นก็คงต้องมีคนแก่งแย่งกันนานแล้ว ต้องรอให้เขามานำเสนอเองเหรอ?
ท่าทางคำพูดที่จริงจังของสวี่อี้หราน ทำให้เถียนเถียนที่ยังคงตกใจกับคำพูดของเขาเมื่อสักครู่ได้แต่หัวเราะ
“คุณนี่เป็นคนตลกจัง มีเรื่องให้พูดตั้งเยอะแยะ ทำไมถึงพูดถึงยาชะลอความแก่ขึ้นมา?” หลิงซูฟางพูด “ถ้าบนโลกมียาที่กินแล้วเป็นอมตะ คงไม่ตกมาถึงมือคุณหรอกมั้ง!”
“ผมไม่ได้บอกว่าเป็นยาอมตะ ผมไม่มีวิธีขนาดจัดทำยาอมตะแบบนั้น!” สวี่อี้หลานส่ายหน้าพูด “คุณเข้าใจผิดแล้ว ความหมายของผมก็คือผมสามารถจัดยาที่ทำให้คนสวยตลอดกาลไม่มีทางแก่ได้”
“พวกเราไปเถอะ อย่าสนใจเขาเลย คนคนนี้ดูท่าจะประสาทไปแล้ว!” เถียนเถียนพูดเสียงดัง พูดจบก็ทักเรียกให้ซีเหมินจินเหลียนและจินอ้ายหัวรวมถึงคนอื่นๆ ให้เตรียมตัวเดินเข้าไปในห้องที่ถูกจองไว้
“เดี๋ยวก่อน!” สวี่อี้หรานกระวนกระวายถามขึ้น “คุณซีเหมิน คุณเคยได้ยินเรื่องเล่าหินปิดฟ้าของเทพธิดาไหม?”
ซีเหมินจินเหลียนไม่อยากจะสนใจเขาเช่นเดียวกับเถียนเถียนและหลิงซูฟาง เธอก็คิดว่าคนคนนี้คงเพี้ยนไปแล้ว แต่ประโยคสุดท้ายของเขากลับทำให้เธออดไม่ได้ที่จะหยุดฝีเท้าลง “คุณว่าอะไรนะ?”