คุณนายซูยิ้ม “ทำไมน้องสาวถึงคิดแบบนั้นล่ะ”
“พี่สาวมือหนึ่งมีอัญมณี อีกมือหนึ่งมีผู้ชายหล่อ ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย ดูแล้วไม่ได้ใช้ชีวิตเสียเปล่า แล้วทำไมถึงต้องอยากมาเดิมพันชีวิตกับฉันด้วย?” ซีเหมินจินเหลียนพูดอย่างเยือกเย็น “คนที่อยากจะเดิมพันกับฉันคงไม่อยากมีชีวิตยืนยาวสินะคะ เขาเรียกว่าอะไรนะ? รนหาที่ตาย?”
“ฮะๆ” คุณนายซูได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะยิ้ม “น้องสาวนี่ก็ตลกจริงๆ”
“ฉันว่าพี่สาวต่างหากค่ะที่ตลก” ซีเหมินจินเหลียนพูด “เดิมพันอะไรก็ช่างเถอะค่ะ แต่การเดิมพันชีวิตนั้น… ข้อแรกฉันยังใช้ชีวิตไม่เต็มที่ ข้อที่สองฉันยังไม่อยากได้ชีวิตของใคร การเล่นแบบนี้กินแทนข้าวยังไม่ได้ ขายก็ยังไม่ได้อีก เห็นเลือดของคนอื่นมันสนุกตรงไหนกัน?”
คุณนายซูปรบมือขึ้นชม “น้องสาวพูดได้น่าชื่นชม เพียงแต่ไม่ค่อยน่าตื่นเต้นเท่าไหร่ ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาเดิมพันอย่างอื่นกันไหมล่ะ”
“อืม ถ้าเป็นอย่างอื่นฉันยังพอพิจารณาได้ค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าพูด
“เรื่องนี้…” คุณนายซูเอียงคอคิดแล้วคิดอีก ก่อนจะยิ้มออกมา “เอาอย่างนี้แล้วกัน เมื่อกี้น้องบอกว่าพี่สาวมือหนึ่งมีอัญมณี มือหนึ่งมีผู้ชายหน้าตาดี ใช้ชีวิตอย่างสบายใช่ไหม? ผู้ชายหล่อน่ะก็เหมือนกับอัญมณี ไม่ว่าใครก็ไม่เกี่ยงที่จะมีเยอะใช่ไหมล่ะ?”
ซีเหมินจินเหลียนเล่นผมยาวของตนเอง คิดแล้วจึงพยักหน้า “ก็จริงค่ะ ผู้ชายหล่อก็เหมือนอัญมณี ไม่ว่าใครก็ไม่กลัวว่าจะมีเยอะไปหรอกค่ะ ผู้ชายที่ดูโดดเด่นก็เหมือนกับหยกชั้นดี ที่พบเจอได้แต่เรียกร้องไม่ได้”
“รู้ใจจริงๆ!”คุณนายซูยิ้มแก้มปริ ไม่ปิดบังความยากกระหายในผู้ชายของตน
“ฉันอยากจะได้คุณชายใหญ่ตระกูลจ่าน ฉันก็ไม่ขอปิดบังแล้ว ดูเหมือนน้องสาวก็น่าจะรู้?” คุณนายซูพูด
“ฉันก็พอได้ยินมาบ้างค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า ในเมื่อเธอพูดตรงๆ โดยไม่ปิดบัง เธอจะปั้นหน้าไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว…
“ฉันได้ยินมาว่า เขาแพ้ให้กับคุณ?” คุณนายซูนั่งลงข้างเธอแล้วยิ้ม “ถ้าหากเราเดิมพันเขาเป็นไง?”
ซีเหมินจินเหลียนยิ้มกริ่ม “เสียดายที่ผู้ชายรอบตัวพี่สาวไม่มีผู้ชายคนไหนที่โดดเด่นพอที่จะทำให้จินเหลียนชื่นชอบ” สิ่งที่คุณนายซูต้องการ เกรงว่าจะเป็นการสนับสนุนของจ่านมู่ฮวา แน่นอนว่าทำให้จ่านมู่ฮวากลายเป็นทหารใต้เรือนเบี้ยของเธอย่อมเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แต่สิ่งที่เธอต้องการกว่านั้นคือสมบัติและอำนาจของตระกูลจ่าน
คุณนายซูยิ้ม “มีคนหนึ่ง ฉันว่าน้องสาวน่าจะสนใจ”
“ใครคะ?” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้ว เธอเตรียมตัวมาดีจริงๆ ยังดีที่เธอเตรียมใจมาไว้ก่อนบ้าง ไม่อย่างนั้นคงถูกเธอจับทางได้แน่
คุณนายซูตบมือเบาๆ ก่อนที่จะมีชายหนุ่มผลักประตูเดินเข้ามา ไม่นานเมื่อเห็นซีเหมินจินเหลียน ผู้ชายคนนั้นก็นิ่งอึ้งไปนาน
ซีเหมินจินเหลียนให้ความสนใจไปที่ตัวของหวังหมิงเหยา คุณนายซูเตรียมการมาดีจริงๆ แม้แต่เขายังไปพามาได้?
จากนั้นเธอก็กวาดสายตาสำรวจไปที่หวังหมิงเหยายกใหญ่ ราวกับกำลังสอดส่องสินค้าราคาพิเศษเช่นนั้น
“คุณนายซู เธอ…” หวังหมิงเหยามองซีเหมินจินเหลียนอย่างสงสัย
“หุบปาก ที่นี่นายก็มีสิทธิ์พูดอะไรด้วยเหรอ?” คุณนายซูด่า จากนั้นหันไปพูดกับซีเหมินจินเหลียน “น้องสาวว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง”
“พี่สาว คุณก็ใช้เขามาเดิมพันกับคุณชายใหญ่ตระกูลจ่านเนี่ยนะคะ?” ซีเหมินจินเหลียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ถ้าหากให้จ่านมู่ฮวารู้เข้า เขาคงจะโกรธจนกระอักเลือดแน่ เขาเนี่ยนะ?”
“ในสายตาของคนอื่น เขาคงเทียบไม่ได้แม้แต่เส้นผมของจ่านมู่ฮวา ไม่สิๆ แม้แต่ปลายเส้นผมยังเทียบไม่ได้เลย แต่ในสายตาของน้องสาวก็คิดเช่นนี้เหมือนกันเหรอ?” คุณนายซูยิ้ม
ซีเหมินจินเหลียนสีหน้าเรียบเฉยเก็บอาการ ค่อยๆ มองไปที่หวังหมิงเหยาอย่างเยือกเย็นถึงพูดขึ้น “พี่สาวกำลังหักหน้าฉัน?” เธอก็รู้สึกโกรธอยู่บ้างจริงๆ รักครั้งแรกก็น่าขมขื่นพอแล้ว วันนี้ยังถูกคนมาแฉอีก ถ้าไม่ใช่ต้องแบกหน้ารับเอาไว้ เธอคงเปลี่ยนสีหน้าไปจริงๆ
หวังหมิงเหยาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ซีเหมินจินเหลียน ตั้งแต่ครั้งก่อนที่ตนถูกไล่ออกจากบริษัทอย่างไม่ทราบสาเหตุ จากนั้นเขาก็เริ่มหางานใหม่อีกรอบ เขียนประวัติไปที่กรมแรงงานและสัมภาษณ์ทีละงาน…
สมัครงานวนไปวนมา บริษัทสุดท้ายที่เห็นเขาก็มองอย่างกับเห็นงู แม้กระทั่งบางครั้ง เขายังไม่ได้ก้าวออกไป ฝ่ายนั้นเมื่อเห็นเรซูเม่ของเขาก็ทิ้งขว้างลงในที่บดกระดาษ
เพราะอย่างนั้นทุกวันนี้เขาก็ใช้ชีวิตอย่างไม่มีค่า ในบ้านไม่มีช่องทางการหาเงิน แฟนของตัวเองยังเลิกไปแล้ว ญาติมิตรพวกนั้นยิ่งแสดงท่าทีดูถูกเหยียดหยาม
แต่เมื่อวันก่อนเขาก็ไปเจอกับผู้หญิงสวยงดงามดั่งเทพธิดาเข้า แม้เขาจะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะอายุสามสิบกว่าปีแล้ว แต่ความสวยของเธอยังคงทำให้เขาลุ่มหลงจนแทบจะเป็นลม
อีกทั้งเขาก็ยังรู้มาว่าผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ เธอก็เป็นถึงหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่ บริษัทที่ขยับนิดขยับหน่อยก็ทำกำไรจากเครื่องประดับอัญมณีได้ถึงสิบๆ ล้านหยวน นึกไม่ถึงว่าเธอจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทนี้ นี่ทำให้เเขารู้สึกว่าตาพร่าลาย รู้สึกเบื้องบนกำลังให้โชคแก่เขา…
คุณนายซูให้เขามาอยู่ข้างกาย สั่งให้คนไปซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ดัง หมกมุ่นอยู่กับการแต่งตัวให้เขา ทำให้หวังหมิงเหยาตอนนี้เริ่มรู้สึกทำตัวไม่ถูก ถ้าหากสามารถแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ได้ ไม่สิๆ ถ้าหากสามารถเป็นเพื่อนกับผู้หญิงคนนี้ได้ จากนี้ไปเมื่ออยู่ต่อหน้าญาติมิตรเพื่อนฝูงก็สามารถภาคภูมิใจไม่อายใคร เพราะเธอเป็นถึงหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทจิวเวอรี่
แม้ว่าคุณนายซูจะไม่ได้ให้ความสนใจเขาเป็นพิเศษ แต่เขาก็ยอมที่จะอยู่ข้างกายเธอ คอยรับใช้ติดตามเธออย่างระมัดระวัง…
คุณนายซูบอกว่าจะให้เขาช่วยเธอเรื่องหนึ่ง เมื่อเสร็จเรื่องเธอจะให้เขาหนึ่งล้านหยวน
เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคุณนายซูจะให้เขาทำอะไร แต่ตอนนี้กลับเข้าใจได้อย่างชัดเจน เพียงแต่เขายังไม่เข้าใจว่าก็แค่ผู้หญิงชั้นต่ำที่คอยเกาะติดผู้ชายคนหนึ่ง ก็ควรค่าพอที่จะทำให้เธอต้องทำถึงขนาดนี้เชียวหรือ?
“พูดแบบนี้แล้ว แสดงว่าน้องสาวก็ไม่สนใจที่จะเดิมพันเขาเหรอ?” คุณนายซูรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง ข้อมูลของเธอไม่น่าจะผิดนี่นา ตอนแรกเป็นหวังหมิงเหยาที่ทิ้งซีเหมินจินเหลียน ถ้าเป็นเธอไม่ว่าพูดอย่างไร เธอก็จะต้องชนะกลับไปกู้หน้าคืน
“ใช้เขามาเดิมพันกับจ่านมู่ฮวาน่ะหรือคะ? ถ้าฉันพอจะมีสมองอยู่บ้าง ฉันคงไม่มีทางตอบตอบตกลงแน่!” ซีเหมินจินเหลียนพูด “ถ้าหากพี่สาวจริงใจที่จะเดิมพันกันสักหน่อย อย่างนั้นก็หาสิ่งที่สามารถคู่ควรกับการเดิมพันมาเถอะค่ะ” นี่ล้อเล่นอะไร ใช้เขามาเดิมพันกับจ่านมู่ฮวาเนี่ยนะ เธอคิดว่าคนอื่นโง่อย่างนั้นเหรอ?
หวังหมิงเหยาเริ่มเข้าใจขึ้นมาแล้ว ที่แท้ตนเองก็เป็นแค่ของวางเดิมพัน อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่ไม่เหมาะสมในการเป็นของเดิมพันด้วย เขามีสิ่งที่อยากพูด แต่เพราะว่าคุณนายซูอยู่เขาจึงรู้สึกหวาดกลัว ใช่ เขากลัวเธอ เวลาที่เธออยู่ตรงหน้า ความโกรธของเขาไม่กล้าที่จะสำแดงฤทธิ์เดชออกมา
ซีเหมินจินเหลียนคลายผมยาวในนิ้วมือออก แล้วพูดว่า “ความจริงฉันก็ไม่แนะนำให้เพิ่มของเดิมพันหรอกนะคะ หรือว่าพี่สาวก็มั่นใจในการเดิมพันขนาดนั้นเชียว?”
“คุณป้าของฉันมีฉายาว่าตำนานเทพที่ไม่เคยพ่ายแพ้” คุณนายซูพูด “เพราะอย่างนั้น ฉันจึงมั่นใจ!”
“ตำนานเทพที่ไม่เคยพ่ายแพ้? นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อก่อนเธอยังไม่เจอฉัน ซีเหมินจินเหลียนต่างหาก!” ซีเหมินจินเหลียนพูดพร้อมลุกขึ้นยืนและหันหน้าไปทางประตูทางออก “ถ้าหากพี่สาวจริงใจที่จะเดิมพันกันจริงๆ ภายในครึ่งชั่วโมง ให้หาคนที่เหมาะสมกับคุณชายจ่านมา และฉันจะไม่โต้แย้งในการเดิมพันผู้ชายเลยแม้แต่น้อย!”