หลินเสวียนหลานกับฉินเฮ่าเดิมทีก็เปรียบเสมือนเพื่อนตาย เมื่อทั้งสองปรึกษากันแล้ว ก็คิดจะบีบจ่านป๋ายกับจ่านมู่ฮวา ไม่ต่างอะไรกับการก่อสงคราม คิดจะเล่นสนุกสักสองสามล้าน
ส่วนจ่านป๋ายและจ่านมู่ฮวานั้นต่างไม่ถูกชะตาตากัน ต่อหน้าคนทั่วไปพวกเขายังคงรักษาความเกรงใจและมารยาทขั้นพื้นฐานเอาไว้ แต่ถ้าหากไม่มีใครอยู่คงจะเกลียดกันจนถึงขั้นคว้ามีดออกมาทิ่มแทงกันทั้งสองฝ่าย ไม่ตายไม่มีหยุดพัก
“น้องรัก!” จ่านมู่ฮวาเห็นซีเหมินจินเหลียนกำลังเดินไปทางกองหินหยก ไม่ได้สนใจพวกเขา ไม่นานก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ออกมา “พวกเราเดิมพันอีกสักครั้งดีไหม”
“เดิมพันอะไร” แน่นอนว่าจ่านป๋ายฟังออกถึงคำท้าทายนี้แล้วขมวดคิ้วขึ้น
“ด้วยเงินสิบล้าน แกมีพอหรือเปล่าล่ะ?” จ่านมู่ฮวาถามขึ้น
“ฉันไม่ได้จนถึงขั้นนั้น!” จ่านป๋ายแค่นเหอะเสียงใส่อย่างเย็นชา
“แกคอยตามติดคุณซีเหมินมาโดยตลอด คิดว่าคงมีความรู้เรื่องการเดิมพันหินอยู่ไม่น้อยเลยล่ะสิ?” จ่านมู่ฮวายิ้มอย่างมีเลศนัย “พวกเราต่างลงสิบล้านไว้ที่เดิมพันสี เดิมพันชนิด รวมถึงการเดิมพันครั้งใหญ่ด้านหลังด้วย วางได้ตามใจชอบ รอจนเปิดผลออกมา ใครชนะมากสุด คนนั้นก็เป็นผู้ชนะภายในคืนนี้ เป็นไง?”
“ไม่มีปัญหา จะวางเดิมพันอะไร” จ่านป๋ายถาม
“เดิมพันชีวิต!” จ่านมู่ฮวาข่มเสียงลง แล้วก็พูดคำนั้นมาจากคอ “ใครแพ้ ภายในสามวันนี้ ก็หาวิธีตายที่แปลกใหม่ของตัวเองก็แล้วกัน!”
จ่านป๋ายไม่ได้ตอบอะไร เดิมพันชีวิตเหรอ? ถ้าเป็นในอดีต เขาคงรับปากตกลงไปทันที แต่ตอนนี้เขากลับลังเลใจขึ้นมาบ้างแล้ว
“เป็นอะไรไปล่ะ น้องรัก หรือว่าแกไม่กล้า?” จ่านมู่ฮวาถามอย่างท้าทายออกไป
“ไม่ ฉันไม่เล่น” จ่านป๋ายส่ายหน้า เขาไม่ยอมตกอยู่ในแผนเขาหรอก จ่านมู่ฮวากับคุณนายซูมีความสัมพันธ์ไม่เลว ความสามารถในการเดิมพันของคุณนายซู แม้ว่าจะเทียบกับซีเหมินจินเหลียนไม่ติดแต่ก็ไม่ทำให้ขาดทุนย่อยยับง่ายๆ แน่ ตอนนั้นที่บริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่เกิดวิกฤตหนัก ก็เป็นเพราะคุณนายซูอาศัยความสามารถในการเดิมพันหินถึงทำให้บริษัทหมิงฮุยพยุงตัวเองขึ้นได้อีกครั้ง
แถมในระยะเวลาสั้นๆ ไม่ถึงสิบปี บริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่ก็กลายเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจ แบ่งกระจายบริษัทลูกรายย่อยนับไม่ถ้วน ทำให้บริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่มาพร้อมกับความสำเร็จและความร่ำรวยอย่างคาดไม่ถึง
คุณนายซูตัดใจจากคนเก่าได้ไม่นานก็เปิดตัวตามจีบจ่านมู่ฮวา ตอนนั้นจ่านมู่ฮวาเพิ่งจะยี่สิบต้นๆ ด้วยความที่เห็นคุณนายซูรูปลักษณ์สวยงามเข้าก็ตรึงตราใจ แต่ภายหลังไม่รู้ว่าทั้งคู่เป็นเพราะอะไรถึงทะเลาะกัน แม้ว่าจ่านมู่ฮวาอายุยังน้อย แต่ก็เกลียดจนสุดหัวใจ
แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่รู้กินยาอะไรผิดมา หลายปีมานี้ยังคอยตามติดกับจ่านมู่ฮวา จ่านป๋ายไม่ได้โง่ ผู้จัดงานรายใหญ่ของการเดิมพันหินใหญ่ครั้งนี้ก็เป็นบริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่ คลับหยกก็เป็นของจ่านมู่ฮวา แล้วภายในงานประมูล ถ้าจะมาเล่นกับเขา เกรงว่าคงไม่อยากมีอายุยืนยาวแล้ว?
“รู้จักทำตัวดีๆ แล้วสินะ คิดไม่ถึงว่าจะไม่กล้าเดิมพัน?” จ่านมู่ฮวาพูดยั่วยวนไม่หยุด
“คิดว่าฉันไม่อยากอายุยืนหรือไง ถึงจะได้มาเดิมพันในถิ่นงานประมูลของนาย?” จ่านป๋ายถอนหายใจ เขาไม่อยากจะรบกวนซีเหมินจินเหลียน เขาจึงเริ่มมองไปรอบด้านเพื่อเดิมพันสี เดิมพันหินหยกหลากหลายชนิด ข้างหน้าเห็นกลุ่มหนึ่ง ด้านหลังก็หันไปเจออีกกลุ่มหนึ่ง สุดท้ายสายตาของเขาก็อยู่ที่หินหยกผิวสีดำก้อนหนึ่งที่อยู่ในการเดิมพันใหญ่
หินหยกก้อนนี้ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ภายในสีดำกลับซ่อนสีฟ้าอ่อนๆ เอาไว้ น่าจะประมาณยี่สิบกิโลกรัมได้ เมื่อเอื้อมมือไปสัมผัส ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้เขาเจียระไนหินมานับไม่ถ้วน รวมถึงหยกราชางู หยกสีเลือด หยกแสงดาวระยิบระยับชั้นดีแบบนั้นล้วนแต่ผ่านการเจียระไนจากมือของเขามาทั้งนั้น เพราะฉะนั้นสำหรับเรื่องหินหยกก็ถือว่ามีปฏิกิริยาไวเช่นกัน
ของบางอย่าง ไม่ต้องมีคนสอน พอเริ่มสัมผัสพบเจอก็เริ่มเข้าใจ
ตามความรู้สึก หินหยกก้อนนี้น่าจะเผยสีเขียว สำหรับลักษณะจำพวกจุดหยก เส้นลายหยก เขาไม่มีทางที่จะดูออกได้ แม้ว่าซีเหมินจินเหลียนจะเคยพูดให้ฟังแต่เขาก็ฟังจนเลอะเลือน สุดท้ายเขาก็ได้แต่ใช้แรงงานในการเจียระไนหยกอย่างแข็งขัน ไม่รู้ว่าเป็นหินหยกชนิดไหนแล้ว
“คุณจ่าน!” หลินเสวียนหลานและฉินเฮ่าเดินเข้ามาพร้อมกันและถาม “คุณคิดจะเดิมพันเหมือนกันใช่ไหม”
“ผมก็ว่างๆ อยู่ อยากจะลองหาอะไรตื่นเต้นทำสักหน่อยเหมือนกัน” จ่านป๋ายพูด มองไปที่หมายเลข เห็นว่าเป็นเลขเก้า เดิมพันหินใหญ่วันนี้น่าจะได้รับอิทธิพลจากเมื่อวาน คิดไม่ถึงว่าจะร้อนแรงกว่าเดิม มีผู้ร่วมเล่นถึงยี่สิบเอ็ดคน
จ่านป๋ายเคยเสนอความคิดเห็น แนะนำให้ซีเหมินจินเหลียนมาเข้าร่วมเล่น แต่ซีเหมินจินเหลียนครุ่นคิดลังเลอยู่นาน ท้ายที่สุดก็ปฏิเสธ หยกของเธอส่วนใหญ่ล้วนเจียระไนเปิดออกมาหมดแล้ว พูดถึงเรื่องนี้จ่านป๋ายก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย ตนจะรีบร้อนเจียระไนไปทำไม ดูสิอยากจะเล่นเจียระไนต่อก็ไม่รู้จะหาหินหยกมาจากไหนแล้ว
“เบอร์เก้าสวยเหรอ” ฉินเฮ่าถาม การเดิมพันหินใหญ่ก็ไม่สามารถถามขึ้นมาแบบนี้ได้ ไม่อย่างนั้นถ้ามีคนตามทิศทางลมแล้ววางเดิมพันไปก็จะทำให้สับสนวุ่นวายได้ คนที่เดิมพันหินส่วนมากจะเคารพกฎที่ไม่มีบันทึกไว้พวกนี้ บางทีนี่อาจเป็นความลับของธุรกิจการค้า
แต่ฉินเฮ่ากับจ่านป๋ายเหมือนกัน สำหรับการเดิมพันหินพวกเขาก็ไม่มีความรู้เลยสักนิด ฉินเฮ่าเคยใช้เงินห้าล้านไปเล่นที่เจียหยางอยู่ครั้งหนึ่ง ผลสุดท้ายไม่เหลืออะไรกลับมา
“เดิมทีผมเตรียมตัวว่าจะวางเดิมพันลงแต่ละที่ แต่เห็นว่าผู้ร่วมงานวันนี้เยอะเกินไปแล้ว” จ่านป๋ายส่ายหน้า สายตามองไปรอบทิศแต่ไม่เห็นจ่านมู่ฮวา
อีกด้านในห้องด้านหลังที่ถูกจัดแต่งอย่างหรูหรา จ่านมู่ฮวามีสีหน้าอึมครึม มองไปยังคนข้างหน้าที่ยิ้มราวกับดอกไม้อย่างคุณนายซู พร้อมถามอย่างเยือกเย็นว่า “ให้คำตอบผมมา ไม่อย่างนั้นคุณจะต้องชดใช้ให้ผม!”
“เมื่อวานคุณทำให้ฉันเสียหายไปกว่าสองร้อยล้าน วันนี้คุณยังกล้ามาหาฉันเพื่อบอกว่าขอเงินอีกหรือ?” คุณนายซูโกรธจนตัวสั่น เมื่อคืนฝ่ายการเงินมารายงานว่ารายรับกับรายจ่ายไม่สมดุลกัน เธอมักจะได้รับผลประโยชน์และเอาออก คิดไม่ถึงว่าจะแพ้ไปเกือบหนึ่งร้อยล้าน จากนั้นเธอก็หาชื่อของคนที่วางเดิมพันไปอยู่ด้านหลัง คิดไม่ถึงว่าเป็นจ่านมู่ฮวาคนนี้ ที่ทำเงินได้สองร้อยกว่าล้านบาท…
นี่ยังเป็นหินหยกของบริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่ใช้เทคนิควิธีที่หลากหลายในการเปลี่ยนของของตน แถมหลังงานเธอยังให้คนเปิดเจียระไนหินออกมา เมื่อดูผลกลับเป็นหินสีขาวว่างเปล่าเท่านั้น จ่านมู่ฮวาวางเดิมพันลงไปสิบล้านก็ถูกเต็มๆ ถ้าหากคิดตามอัตราต่อรองราคาหนึ่งต่อสิบห้า เขาต้องชดเชยเป็นเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้าน
ตอนนั้นคุณนายซูใจเย็นเกินไป ดังนั้นคืนนี้เธอให้คนไปเฝ้าจับตามองซีเหมินจินเหลียน ระมัดระวังไว้ก่อน ถ้าหากเธอใจดำหน่อย เดิมพันครั้งหนึ่งไปถึงหลักหลายร้อยล้าน ให้เธอเล่นไปสองรอบ บริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่คงต้องล้มละลายลงแน่ๆ
ส่วนการเดิมพันหินใหญ่ ของเดิมพันก็ไม่มีจำกัด ในใจคุณนายซูรู้สึกไม่สงบเป็นอย่างมาก เวลานี้จ่านมู่ฮวายังกล้ามาหาเธอเพื่อขอเงิน
“เอาอย่างนี้แล้วกัน คุณให้คุณน้องซีเหมินจินเหลียนนั่นมาเดิมพันกับฉันสักครั้ง ถ้าชนะฉันจะให้สิ่งที่คุณควรจะได้ตั้งแต่แรก แต่ถ้าแพ้คุณก็น่าจะรู้เจตนาของฉันดี!” คุณนายซูยิ้มอย่างมีลับลมคมใน ในใจมีการเตรียมเฝ้าระวังไว้ ถ้าหากซีเหมินจินเหลียนกล้าเล่น คืนนี้เธอจะทำให้บริษัทจินเหลียนจิวเวอรี่ตกมาเป็นบริษัทลูกรายย่อยของหมิงฮุยแน่