จ่านป๋ายคิดดูแล้ว จู่ๆ ก็พูดขึ้นยิ้มๆ “ผมรู้สึกว่าคนที่สามารถทำเรื่องพิลึกพิลั่นขนาดนี้ได้ ก็มีแค่คนเดียว”
“ผู้อาวุโสหู?” ซีเหมินจินเหลียนตอนที่กำลังดูหยกสีแดงประกายม่วง ในสมองก็คิดถึงคนคนหนึ่งอยู่เช่นกัน นั่นก็คือผู้อาวุโสหู ผู้อาวุโสคนนั้นอยู่ในวงการเดิมพันหยก มีหินหยกอยู่ในมือ นอกจากนี้ก็มีแค่ผู้อาวุโสหูที่ไม่เห็นว่าเงินเป็นเงิน ชอบผลาญเงินเล่นอย่างสนุกสนาน
“ผมก็คิดว่าน่าเป็นเขา!” จ่านป๋ายยกยิ้มขึ้น “นอกจากเขาแล้ว ถ้าคนอื่นอยากจะเล่นเรื่องพิเรนทร์ขนาดนี้ก็คงไม่มีความสามารถขนาดนั้น ไม่ใช่แค่ปัญหาแค่เรื่องเงิน แต่เขาไปหาหินหยกลักษณะดีแบบนี้มาจากที่ไหน แถมยังมองข้ามผ่านเปลือกนอกได้อย่างแม่นยำ เรื่องนี้มีจินเหลียนที่ทำได้ ส่วนคนอื่นๆ เท่าที่ผมรู้ก็มีแค่ผู้อาวุโสหูแปลกประหลาดคนนั้น” เขาไม่เคยลืมตอนที่ผู้อาวุโสหูมอบทุเรียนให้ซีเหมินจินเหลียนถึงสิบกว่าลูก เรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้เกรงว่ามีแค่ผู้อาวุโสแปลกท่านนี้ที่ทำได้
“แต่ผู้อาวุโสคิดจะทำอะไรกันแน่?” ซีเหมินจินเหลียนยู่ปากอย่างน่าเอ็นดู “ฉันไม่สนใจถ้าจะต้องเรียกเขาว่าคุณปู่ แต่เขาก็เป็นคนแปลกๆ คนหนึ่ง” เธอไม่เคยลืมเรื่องที่น่ากระอักกระอ่วนอย่างการที่ผู้อาวุโสหูพยายามที่อยากจะให้เธอเป็นหลานของเขา
“ถ้าเขาไม่แปลก แล้วมันจะมีอะไรน่าเซอร์ไพรส์” จ่านป๋ายพูด
“ถ้าหากเป็นผู้อาวุโสจริงๆ ก็มีโอกาสเป็นไปได้” จ่านมู่ฮวาพูด “เพียงแต่การที่ผู้อาวุโสท่านนั้นเล่นแบบนี้ เขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่? ถ้าเขาอยากจะให้หยกแก่ซีเหมินจินเหลียน ทำไมเขาไม่เอามาให้ตรงๆ เลยล่ะ”
“ถ้าหากเขาเอามาให้เองตรงๆ จินเหลียนคงไม่กล้ารับหรอก” จ่านป๋ายยิ้มออกมาบางๆ ถ้าหากผู้อาวุโสเอามาให้เธอโดยตรง ซีเหมินจินเหลียนคงปฏิเสธท่าเดียว
“ถึงตอนนี้จะยังไม่แน่ใจว่าเป็นฝีมือของผู้อาวุโสแปลกประหลาดท่านนั้น แต่ถึงแม้จะยืนยันแล้ว ฉันก็ไม่กล้าทำอะไรหินหยกนั่นอยู่ดี ถ้าเกิดมีวันหนึ่งเขามาขอทวงของคืนถึงหน้าบ้าน ตอนนั้นฉันจะทำอย่างไรล่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูดไปแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงหลินเสวียเหวิน
แน่นอนหลินเสวียเหวินกับนิสัยของเธอไม่เหมือนกันแน่ เขาขโมยหินหยกของผู้อาวุโสหูมา ส่วนเธอเป็นคนที่ถูกบีบบังคับให้รับของที่เขาส่งมา
“ผู้อาวุโสคนนั้นอยู่ที่ไหนกันแน่?” จ่านมู่ฮวาถามหยั่งเชิง เขาไม่เชื่อว่าซีเหมินจินเหลียนและผู้อาวุโสหูจะไม่มีความสัมพันธ์ข้องเกี่ยวกัน
“ใครจะรู้?” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจพร้อมส่ายหน้า “ผู้อาวุโสคนนี้ก็แปลกประหลาดอย่างที่เราคิดไม่ถึงเชียวล่ะ” เพียงแต่วันนี้ได้รับหินหยกกลับมาแล้ว เงินก็เข้าบัญชีเรียบร้อย ไม่สนว่านามสมมุติที่ใช้เป็นชื่อเฉาเสวี่ยฉินจะเป็นผู้อาวุโสหูหรือไม่ แต่คนคนนี้น่าจะไม่ได้มีจุดประสงค์ชั่วร้ายอะไร สู้เก็บหินหยกมาไว้กอน ภายหลังถ้าเจอผู้อาวุโสหูแล้วค่อยถามให้ชัดเจน
“เสี่ยวป๋าย คุณช่วยย้ายหินหยกพวกนี้ไปที่ห้องใต้ดินก่อนได้ไหม” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม “ไม่ว่าใครจะเล่นอะไรอยู่ แต่ถ้าในอนาคตเขามาทวงของคืนขึ้นมา ฉันจะได้คืนให้ง่ายๆ”
“ได้ครับ” จ่านป๋ายรับปากแล้วขนย้ายหยกสีแดงประกายม่วงก้อนนั้นไปที่ห้องใต้ดินอย่างระมัดระวัง
จ่านมู่ฮวาเองก็จะเข้าไปช่วย แต่ซีเหมินจินเหลียนเรียกเขาขึ้นก่อน “คุณจ่านมู่ฮวา”
จ่านมู่ฮวาหยุดฝีเท้าลงก่อนจะมองไปที่ซีเหมินจินเหลียน ซีเหมินจินเหลียนเพียงแค่ยิ้มออกมา “คุณไม่ต้องไปหรอก ให้จ่านป๋ายจัดการคนเดียวก็ได้แล้ว เรื่องวันนี้ฉันยังไม่ได้ขอบคุณคุณเลย แล้วฉันจะกล้ารบกวนคุณอีกได้ยังไงกัน”
ในใจของจ่านมู่ฮวารู้สึกย่ำแย่อย่างเห็นได้ชัด ห้องใต้ดินเป็นสถานที่สำคัญในการเก็บสะสมหยกของซีเหมินจินเหลียน และเพราะเธอไม่ไว้ใจเขา ถึงได้ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา เพราะอย่างนั้นถึงได้พูดจาหว่านล้อมให้น่าฟังแค่ว่าขอโทษที่รบกวนคุณมามากอย่างนั้นสินะ?
ตอนนี้เอง เสียงโทรศัพท์ในห้องรับแขกก็ดังขึ้นมา
ซีเหมินจินเหลียนรีบเดินเข้าไปรับโทรศัพท์ “คุณซีเหมินหรือเปล่าครับ?”
“คะ คุณคือ?” ซีเหมินจินเหลียนถามอย่างเอะใจ
“สวัสดีครับ ผมเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของย่านหลานกุ้ย มีผู้ชายคนหนึ่งชื่อว่าคุณ เจียหยวนฮวาอยากพบคุณเวลานี้ คุณสะดวกที่จะพบเขาหรือเปล่าครับ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถามอย่างสุภาพอ่อนน้อม
“โอเค คุณให้เขาเข้ามาเถอะ ขอบคุณมากค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนกล่าวขอบคุณอย่างนอบน้อม เวลานี้เจียหยวนฮวามาทำอะไรกัน? ถ้าหากเธอไม่ให้เจียหยวนฮวาเข้ามา แล้วให้เขารออยู่ข้างนอก ใครจะไปรู้ว่าเขาอาจจะเหมือนจ่านมู่ฮวาครั้งนั้น ที่ยอมฟาดเงินเพื่อให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเปิดทางให้ก็ได้
เมื่อวางสายแล้ว ผ่านไปไม่กี่นาทีที่หน้าประตูก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น จ่านมู่ฮวารีบเดินออกไปเปิดประตู
ซีเหมินจินเหลียนเห็นท่าทางเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา คนคนนี้ก็ทำตัวคุ้นเคยอย่างรวดเร็วเหลือเกิน เขาคงไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นแขกสินะ? เขาคงไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้านไปแล้วหรอกใช่ไหม
เจียหยวนฮวาไม่ได้รู้จักจ่านมู่ฮวา เมื่อเห็นเขาก็ค่อนข้างมึนงง ถามขึ้นอย่างสงสัยว่า “คุณคือ?”
“คุณเจียใช่ไหมครับ ผมชื่อจ่านมู่ฮวา เป็นแฟนของจินเหลียน เชิญเข้ามาในบ้านก่อนครับ” จ่านมู่ฮวาพูดอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“ใครเป็นแฟนของคุณกัน?” ซีเหมินจินเหลียนได้ยินเช่นนั้นก็จ้องมองไปที่เขาอย่างหมดอารมณ์ นี่เธอก็เสียหายนะ เธอเคยพูดว่าเขาเป็นแฟนเธอตั้งแต่เมื่อไหร่?
“จินเหลียน คุณอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลย” จ่านมู่ฮวาแสดงสีหน้าอย่างเจ็บปวด “ยังไงพวกเราก็เป็นเพื่อนกัน แถมผมเป็นผู้ชาย แน่นอนว่าต้องเป็นเพื่อนชาย[1]ของคุณสิ!”
“คุณเจีย คุณอย่าฟังเขาพูดจาไร้สาระเลย รีบเข้ามาเถอะค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูดพลางในขณะที่เชื้อชวนให้เจียหยวนฮวาเข้ามาข้างใน
เจียหยวนฮวามองไปที่จ่านมู่ฮวาแล้วยิ้ม “คนที่ชอบพูดย้ำๆ ว่าตัวเองเป็นผู้ชายนั้น…ส่วนใหญ่แล้วจะมีปัญหา!”
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินอย่างนั้นก็เข้าใจได้ในทันที เจียหยวนฮวาคงจะบอกเป็นนัยสินะ เช่นนั้นเธอก็อดไม่ได้จนต้องหัวเราะออกมา ดูไม่ออกจริงๆ ว่าท่าทางของเจียหยวนฮวาที่เคยเห็นต่อหน้าผู้คน จะมีมุมตลกแบบนี้ด้วย แต่เมื่อคิดดูว่าเขาก็เป็นลูกศิษย์ของผู้อาวุโสหูคนแปลกประหลาด ถ้าไม่ติดนิสัยแปลกๆ มาบ้าง นั่นแหล่ะถึงเรียกว่าผิดปกติ!
จ่านมู่ฮวานิ่งไปนานเกือบนาที ถึงจะได้สติกลับคืนมา จู่ๆ เขาก็อยากจะด่าขึ้นมา สมควรตายยิ่งนัก! คนรอบตัวของซีเหมินจินเหลียนไม่มีใครที่ปกติสักคนเลยเหรอ? แต่ดูออกว่าคนที่ชอบเดิมพันจะมีนิสัยที่พิลึกพิลั่น อย่างเช่นคุณนายซูคนนั้น…
ส่วนผู้อาวุโสที่อยู่ตรงหน้า ก็เป็นถึงราชาแห่งนักเดิมพันหยก ไม่ปกติถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพียงแต่ถูกเขาข่มเหงไปแบบนั้น เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ จากนั้นก็พูดตอบกลับไปอย่างเสียดแทง “ได้ยินมาว่า คนแบบนั้นเมื่อเห็นผู้ชายปกติก็มักจะคิดว่าเป็นเหมือนกับตัวเอง หรือว่าคุณเจียก็เป็นแบบนั้นครับ? ฮะๆ ราชาแห่งนักเดิมหยก คิดไม่ถึงว่าคุณจะชอบ..แบบนั้น? ไม่ยักรู้ว่าคุณจะมีความชอบพิเศษแบบนี้ด้วย”
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วหน้าแดง แค่เจียหยวนฮวาก็ช่างเถอะ เพราะเขาอายุปูนนี้แล้ว แต่จ่านมู่ฮวาเป็นผู้ชายหนุ่มแน่นหน้าตาดี พอพูดถึงหัวข้อนี้เลยทำให้เธอรู้สึกทำตัวไม่ถูก
“คนแก่อย่างผมก็มีความชอบพิเศษจริง” เจียหยวนฮวาเจตนาโต้กลับจ่านมู่ฮวา “ผู้ชายหน้าตาสวยๆ อย่างคุณ ผมก็ชอบมากเลย หึๆ…”
ฟ้าดินเป็นพยาน เทพเจ้าซานชิงหยั่งรู้…
จ่านมู่ฮวาเดินถอยหลังออกไปเล็กน้อย ผู้อาวุโสท่านนี้พูดจริงหรือว่าเล่นกันแน่?
เมื่อเห็นจ่านมู่ฮวามีท่าทางหวาดผวา จ่านป๋ายที่พึ่งขนย้ายหินหยกเสร็จจากห้องใต้ดินก็เดินออกมา เมื่อได้ยินก็ยิ้มขึ้น ซีเหมินจินเหลียนยิ้มทั้งตาเกือบจะหัวเราะจนน้ำตาร่วงแล้ว
“ผมล้อเล่นน่ะๆ!” เจียหยวนฮวาพูด “คุณซีเหมิน ที่ผมมาหาคุณก็เพราะมีเรื่องอยากจะพูดอย่างเป็นทางการ” พูดพลางเขาก็เหลือบไปมองจ่านมู่ฮวา คนนี้ไม่รู้ว่ามีความสัมพันธ์อย่างไรกับซีเหมินจินเหลียน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่แฟนของเธออย่างแน่นอน เคยจำได้ว่าที่เมืองเจียหยางครั้งก่อน ซีเหมินจินเหลียนก็เคยบอกว่าจ่านป๋ายเป็นแฟนของเธอ
คนนี้บางทีอาจจะเป็นคนที่มาตามจีบเธออยู่ ผู้หญิงอย่างซีเหมินจินเหลียน ถ้าไม่มีใครมาตามจีบก็แปลกแล้ว!
แถมเรื่องที่เป็นความลับแบบนี้ก็สำคัญมาก เขาไม่อยากบอกให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับรู้
จ่านมู่ฮวาเห็นท่าทีเช่นนั้นก็รู้ว่าตนเองเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ เขาถอนหายใจแล้วหันไปบอกลากับซีเหมินจินเหลียน “จินเหลียน ผมก็ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีก ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนแล้วกัน เจอกันพรุ่งนี้ การเดิมพันใหญ่ในคืนพรุ่งนี้ คุณอย่าลืมเสียล่ะ”
“คุณวางใจเถอะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มออกมา เธอเคยพลาดผู้ชายหน้าตาดี แต่ไม่เคยพลาดหยก ตอนนี้เดินไปส่งเขาที่หน้าประตูแล้วรู้สึกขอโทษ เพราะว่าวันนี้จ่านมู่ฮวาเป็นคนส่งเธอกลับมา ในงานเดิมพันหินก็คอยช่วยเหลือเธออยู่ไม่น้อย คิดไม่ถึงว่าจะถูกเจียหยวนฮวาข่มเหงดูถูก จนกระทั่งหน้าเปลี่ยนสีจนรีบกลับไป
เมื่อเห็นจ่านมู่ฮวาขึ้นรถไปแล้ว ซีเหมินจินเหลียนก็รู้สึกค้างคาใจ “ขอโทษด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าอยากจะจีบคุณ ผมรู้ว่าต้องมีอุปสรรคใหญ่หลวงมาขวางกั้น แต่ผมไม่ยอมถอยหรอกนะ” จ่านมู่ฮวาโบกมือแล้วกล่าวลาเธอ “เจอกันพรุ่งนี้ เจ้าหญิงหยกของผม!”
ซีเหมินจินเหลียนอึ้งอยู่ ฉายาตอนที่เธออยู่ในเมืองเจียหยาง เขารู้ได้อย่างไรกัน? แต่จ่านมู่ฮวากลับขับรถออกไปแล้ว
เธอถอนหายใจอย่างแผ่วเบาแล้วหมุนตัวกลับเข้าไป พร้อมเห็นจ่านป๋ายยืนอยู่ที่ปากประตูกำลังมองมาที่เธอ เธอจึงถามพลางยิ้มน้อยๆ ว่า “เป็นอะไรไป”
จ่านป๋ายถามขึ้นว่า “เขามาเพื่อหยกราชางูเหรอครับ”
“อือ” ซีเหมินจินเหลียนพูดขึ้น “เดี๋ยวคุณไปห้องใต้ดินนำมันออกมาให้เขาดูหน่อยได้ไหม ฉันคงต้องรบกวนคุณอีกแล้ว”
“จินเหลียน คุณไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นก็ได้ครับ” จ่านป๋ายพูดขึ้น “คุณว่า จ่านมู่ฮวาเป็นยังไงบ้าง?”
“ถ้าใช้คำพูดของคุณก็คือเขาสำอางเกินผู้ช่ย เชื่อถือไม่ได้!” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม ในใจแอบด่าพึมพำอยู่บ้าง “ไม่รู้ว่าวันนี้เขาไปกินยาผิดอะไรมากันแน่”
เมื่อคิดได้เท่านี้ เธอก็ไม่เพียงแต่บ่นพึมพำ จ่านป๋ายแอบได้ยิน ไม่เพียงแค่นิ่งอึ้งอยู่นาน แต่ในใจก็รู้สึกเบิกบาน เมื่อเห็นซีเหมินจินเหลียนเดินเข้าไปก็รีบปิดประตู ดีใจอย่างบอกไม่ถูก…
“คุณเจียอยากจะดูหยกราชางูใช่ไหมคะ” ซีเหมินจินเหลียนรินน้ำชามาให้ สามคนนั่งอยู่บนโซฟา เธอยิ้มถามเจียหยวนฮวา
“เรื่องหยกราชางูผมไม่รีบร้อนหรอก แต่เรื่องที่สำคัญก็คือ ผมมีข้อมูลของราชาหยกมาบอก!” เจียหยวนฮวาพูด
“อ๊ะ?” ซีเหมินจินเหลียนสงสัย เขารู้เรื่องราชาหยกได้อย่างไรกัน หรือว่าเขากับผู้อาวุโสหูจะติดต่อกันแล้ว?
“เมื่อสักครู่ ผู้มีพระคุณโทรหาผม” เจียหยวนฮวาดูออกถึงท่าทีสงสัยของซีเหมินจินเหลียน จึงรีบพูดอธิบายขึ้นว่า “ความจริงแล้วหลายวันที่ผ่านมาผู้มีพระคุณก็อยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้มาโดยตลอด เพียงแต่ค้นพบสิ่งใหม่ขึ้น เกรงว่าจะดึงดูดความสนใจคนเลยตั้งใจหลบหลีก”
[1] เพื่อนชาย คำว่าแฟนหนุ่ม (男朋友) ในภาษาจีน ถ้าแปลตามตัวอักษรตรงตัวแล้ว จะแปลว่าเพื่อนชาย