คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตายบทที่ 331 ความหวาดกลัวที่หยั่งรากฝังลึก

บทที่ 331 ความหวาดกลัวที่หยั่งรากฝังลึก

จิน​เฟย​เหยา​ตะลึงงัน​ จากนั้น​มอง​ราชัน​ภูติ​อย่าง​ดูแคลน​และ​เอ่ย​อย่าง​อารมณ์ไม่ดี​ “นึก​ว่า​เจ้าได้รับ​ความนิยม​เสีย​อีก​ คิดไม่ถึง​ว่า​คน​จะรังเกียจ​ขนาด​นี้​ เพิ่ง​ปรากฏตัว​ทุกคน​ก็​ตะโกน​ว่า​จะฆ่าเจ้า”

“คน​ที่​พวกเขา​พูดถึง​คือ​เจ้า!” ราชัน​ภูติ​มีโทสะ​แทบตาย​ ยาย​คน​หน้าไม่อาย​

“มีเรื่อง​เช่นนี้​ด้วย​? ชิ เจ้าพวก​โง่เขลา​” จิน​เฟย​เหยา​ยักไหล่​ เอ่ย​อย่าง​ไม่เห็น​เป็น​อะไร​

ในเวลานี้​เอง​คาถา​บน​แผ่น​หลัง​ราชัน​ภูติ​สว่าง​วาบ​ขึ้น​ เขา​รีบ​รวบรวม​ปราณ​มาร​ไว้​ที่​มือขวา​ ขวา​นยักษ์​ที่​มีไอ​ดำ​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​มือ​ จากนั้น​เขา​ยก​ขวาน​ขึ้น​เอ่ย​ว่า​ “ตอนนี้​ข้า​ไม่มีทาง​ปกป้อง​เจ้าได้​ เจ้าระวัง​ตัวเอง​ให้​ดี​”

จิน​เฟย​เหยา​ไม่ได้​ฟังเลย​ เพียง​จับ​จ้องมอง​แผ่น​หลัง​ของ​เขา​ “อ้อ​ ที่แท้​ให้​เจ้าปล่อยของ​วิเศษ​แก่น​ชีวิต​ออกมา​แบบนี้​เอง​ เจ้าวางใจ​เถอะ​ ข้า​บอก​แล้ว​ว่า​จะคุ้มครอง​เจ้า เจ้าไปรอ​ด้านหลัง​ก็​พอ​ แค่​วง​เวท​หมื่น​อสรพิษ​ พอ​ฟังชื่อ​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​ต้อง​โยน​งูฝูงหนึ่ง​ออกมา​แน่ๆ​ ไม่มีอะไร​น่ากลัว​เลย​สักนิด​” จิน​เฟย​เหยา​ตบ​บ่า​ราชัน​ภูติ​แปะๆ ให้​เขา​ถอย​ไปด้านหลัง​ อย่า​มาเกะกะ​ข้างหน้า​

ราชัน​ภูติ​ถือ​ขวา​นยักษ์​ ไม่ได้​ถอย​ไปด้านหลัง​ทว่า​มอง​นาง​อย่าง​จนใจ​ เจ้าสิเกะกะ​

“ฟุ่บ​!” สี่มุมของ​ลาน​ประลอง​ดัง​ขึ้น​ งูพุ่ง​ออกมา​ราวกับ​ระลอกคลื่น​ ขนาดเล็ก​ใหญ่​เพียง​นิ้วมือ​ ขนาดใหญ่​ตัว​หยาบ​เท่า​ต้นไม้​เก่าแก่​อายุ​ร้อย​ปี แลบลิ้น​ส่งเสียงดัง​ชี่ๆ เลี้อย​เข้ามา​

งูถูก​ปล่อย​ออก​มาจาก​สี่ด้าน​ พริบตา​ก็​ล้อม​พวกเขา​ไว้​ตรงกลาง​ทั้ง​ยัง​กดดัน​เข้ามา​ใกล้​ทุกที​ จิน​เฟย​เหยา​กลับ​ถูก​ราชัน​ภูติ​ลาก​ให้​ถอย​มาอยู่​ข้างๆ​ เสาต้น​ใหญ่​

“เจ้าชิด​ด้านหลัง​ไว้​ งูพวก​นี้​มีพิษ​ อย่า​เข้าใกล้​เด็ดขาด​!” ราชัน​ภูติ​ให้​จิน​เฟย​เหยา​อยู่​ด้านหลัง​ ยก​ขวาน​ขึ้น​เผชิญหน้า​กับ​ฝูงงู

จิน​เฟย​เหยา​กระพริบตา​ เดา​ว่า​เจ้าหมอ​นี่​คง​เป็นกอง​รั้งท้าย​เสีย​แปด​ส่วน​ดังนั้น​จึงถูก​เผ่า​มนุษย์​จับ​มา เป็น​คน​สัตย์ซื่อ​ตรงไปตรงมา​จริงๆ​ ถ้ารู้​ว่า​ตนเอง​เป็น​เผ่า​มนุษย์​ ต้อง​หมุน​ขวาน​ด้าม​นั้น​มาฟัน​แน่​ อย่า​บอก​ดีกว่า​

นาง​รีบ​ฉุด​ดึง​ราชัน​ภูติ​ที่​กำลังจะ​พุ่ง​ออก​ไป “งูมากมาย​ปานนี้​เจ้าไม่มีปราณ​มาร​เสียหน่อย​ หรือ​เจ้าจะใช้ขวาน​ฟัน​ตรงๆ​?”

“ไม่ฟัน​แล้ว​จะทำ​อย่างไร​?” ราชัน​ภูติ​ตอบ​อย่าง​หมด​ความอดทน​ งูใกล้​จะเลื้อย​มาถึงเบื้องหน้า​แล้ว​ ยัง​พูดมาก​อีก​

จิน​เฟย​เหยา​โบกมือ​ “ไม่ต้อง​ไป ข้า​มีสิ่งของ​จัดการ​งู เจ้ารอ​ก่อน​” เอ่ย​จบ​นาง​ก็​ล้วง​เข้าไป​ใน​อก​ หิ้ว​พั่งจื่อ​ออกมา​จากนั้น​เขย่า​อย่าง​แรง​ พั่งจื่อ​ตื่น​จาก​การ​หลับใหล​ จากนั้น​นาง​ก็​โยน​พั่งจื่อ​เข้าไป​กลาง​ฝูงงูโดย​ไม่ส่งเสียง​

พั่งจื่อ​กำลัง​ฝันหวาน​ ลืมตา​ขึ้น​เห็น​ตนเอง​กำลัง​ร่วง​ลง​ใน​ฝูงงู ก็​ตื่น​เต็มตา​ทันที​ พลิกตัว​กลางอากาศ​เปลี่ยนเป็น​สูงสามจั้งใน​พริบตา​ ร่าง​ยัง​ไม่ร่วง​ลงพื้น​มัน​ก็​อ้า​ปาก​ตวัดลิ้น​โจมตี​ฝูงงูอย่าง​ว่องไว​ ภายใน​ชั่วพริบตา​ กลาง​ฝูงงูก็​ปรากฏ​ช่องว่าง​ขนาดใหญ่​ทันที​ งูอย่าง​น้อย​ร้อย​ตัว​ลงท้อง​พั่งจื่อ​ไปแล้ว​

มัน​พลิกตัว​กลับมา​อ้า​ปากกว้าง​แล้ว​ตวัด​ฝูงงูเข้า​ปาก​ ทั้ง​ยัง​หา​เวลา​นำ​ป้าย​ออกมา​เขียน​ จากนั้น​โยน​ใส่ศีรษะ​จิน​เฟย​เหยา​

จิน​เฟย​เหยา​หยิบ​ป้าย​ขึ้น​มาอ่าน​ บน​นั้น​เขียน​ประโยค​เดียว​ ‘ยาย​โง่!’

“เชอะ​ เจ้าบ้า​พั่งจื่อ​ ให้​เจ้ากิน​งูทั้งหมด​แล้ว​ยัง​มาด่าทอ​ข้า​อีก​ หวัง​ดีแต่​ไม่ได้รับ​การตอบแทน​จริงๆ​” งูพวก​นี้​ระดับ​สูงสุด​ก็​เพียง​ขั้น​ห้า​ จิน​เฟย​เหยา​ไม่สนใจ​จะกิน​ ตอนนี้​นาง​เลือก​กิน​มาก​ สิ่งของ​แบบนี้​ไม่เข้าตา​ ดังนั้น​จึงโยน​ให้​พั่งจื่อ​ที่​ชอบ​กิน​งู

พั่งจื่อ​กิน​อย่าง​รวดเร็ว​ ราชัน​ภูติ​ถือ​ขวาน​ยืน​โง่งมอยู่​ตรงนั้น​ วง​เวท​หมื่น​อสรพิษ​อัน​น่ากลัว​เปลี่ยนเป็น​อาหาร​อัน​โอชะ​ของ​ผู้อื่น​ เผ่า​มนุษย์​ที่​ชมการ​ประลอง​ตะลึงงัน​ นี่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​ น่าเกลียด​และ​ไร้รสชาติ​มากกว่า​การแสดง​สังหาร​สัตว์​ปิศาจขั้น​สอง​ของ​เผ่า​มาร​ขั้น​ฝึก​ปราณ​เสีย​อีก​

อีก​ทั้ง​งูพวก​นี้​ยัง​ถูก​กบ​ยักษ์​กิน​ราวกับ​เส้น​บะหมี่​ทำให้​คน​ที่​เมื่อเช้า​เพิ่ง​กิน​บะหมี่​มาเกิด​อาการ​มวน​ท้อง​ ภาพ​นี้​ยัง​ทำให้​คน​อยาก​จะอาเจียน​มากกว่า​เครื่องใน​กระจาย​เกลื่อน​พื้น​อีก​

ขณะที่​ราชัน​ภูติ​ยืน​ถือ​ขวาน​อยู่​ว่าง​ๆ บน​เวที​และ​ไม่รู้​จะทำ​อย่างไร​ดี​ ก็​ได้ยิน​จิน​เฟย​เหยา​ตะโกน​บอก​เขา​ “ราชัน​ภูติ​ เจ้าดู​สิคิดไม่ถึง​ว่า​ตรงนี้​จะมีดอกไม้​งอก​ด้วย​”

ราชัน​ภูติ​ก้มหน้า​ลง​มอง​ จิน​เฟย​เหยา​กำลัง​ย่อ​กาย​อยู่​ข้าง​เสาและ​ชี้ดอกไม้​ป่าเล็ก​ๆ ที่​โคน​เสา นั่น​เป็น​ดอกไม้​ป่าสีขาว​เล็ก​ๆ หนึ่ง​ดอก​ ไม่รู้​ว่า​โลหิต​ของ​ผู้ใด​กระเซ็น​โดน​กลีบดอกไม้​ ทิ้ง​เป็น​คราบ​โลหิต​แห้ง​กรัง​หยด​หนึ่ง​

จิน​เฟย​เหยา​จุปาก​เอ่ย​ว่า​ “ใน​สภาพแวดล้อม​อัน​เลวร้าย​ขนาด​นี้​มัน​ยัง​งอก​ได้​ ทั้ง​ยัง​ออกดอก​งดงาม​ พลัง​ชีวิต​แข็งแกร่ง​จริงๆ​”

จ้องมอง​ดอกไม้​ป่าที่​พลิ้วไหว​กลาง​สายลม​แผ่วเบา​ ราชัน​ภูติ​นึกถึง​คนใน​เผ่า​ภายใน​ป้อมปราการ​ชายแดน​เขตภูเขา​อัน​ห่างไกล​ ยังมี​ฤดูใบไม้ผลิ​ที่​ดอกไม้​ป่าผลิบาน​เต็ม​ภูเขา​ รู้สึก​ว่า​ตนเอง​จะหดหู่​ไม่ได้​ ต้อง​มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​อย่าง​แข็งแกร่ง​เพื่อ​ทำให้​คนใน​ชน​เผ่า​สามารถ​อยู่​อย่าง​สงบสุข​และ​เห็น​ดอกไม้​ป่าอัน​งดงาม​เหล่านั้น​ไปนานๆ​ ตนเอง​ต้อง​มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​!

ในขณะที่​เขา​เปี่ยม​ไปด้วย​จิตวิญญาณ​แห่ง​การต่อสู้​และ​มอง​ดอกไม้​ป่าต้น​นั้น​อย่าง​มีอารมณ์​ความรู้สึก​ก็​เห็น​จิน​เฟย​เหยา​เด็ด​ดอกไม้​ป่าลงมา​

จากนั้น​จิน​เฟย​เหยา​ก็​เสียบ​ดอกไม้​ป่าไว้​บน​เรือน​ผม​และ​เอ่ย​กับ​ราชัน​ภูติ​ “เจ้าก็​เหมือน​ดอกไม้​ป่าดอก​นี้​ ต้อง​มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​ให้​ดี​ อย่า​รนหาที่​ตาย​ง่ายๆ​ องค์​หญิง​ยัง​รอ​เจ้าอยู่​นะ​ เผ่า​ของ​เจ้าก็​กำลัง​รอ​เจ้าอยู่​ ขนาด​ดอกไม้​ยัง​พยายาม​มีชีวิต​อยู่​ เจ้าจะแพ้​ดอกไม้​ป่าดอก​นี้​ไม่ได้​นะ​”

ราชัน​ภูติ​มีเสียงดัง​วิ้งๆ​ ใน​หู​ รู้สึก​ว่า​ใน​ใจมีบางอย่าง​ขาด​ผึง​ร่วง​ลง​บน​พื้น​และ​ถูก​คน​เหยียบย่ำ​เป็น​ชิ้นๆ​ เขา​พลัน​เงยหน้า​ขึ้น​คำราม​เสียงดัง​ ยก​ขวา​นยักษ์​พุ่ง​เข้าใส่​ฝูงงูและ​ฟาดฟัน​งูภูติ​เหล่านั้น​อย่าง​สุด​ชีวิต​ ถ้าไม่ฟัน​งูพวก​นี้​ เขา​รู้สึก​ว่า​จะควบคุม​ความอยาก​ฟัน​คน​ร่วม​เผ่า​ที่​น่าชัง​ผู้​นี้​ให้​ตาย​ไม่ได้​

“จริงๆ​ เลย​ แค่​กิน​งูของ​เจ้าไม่กี่​ตัว​ จำเป็นต้อง​เสี่ยงชีวิต​แบบนี้​ด้วย​หรือ​?” จิน​เฟย​เหยา​มอง​เขา​อย่าง​ประหลาดใจ​ รู้สึก​ว่า​ราชัน​ภูติ​คน​นี้​นิสัย​เป็น​เด็ก​ๆ เกินไป​ ไม่ใช่ของดี​อะไร​เสียหน่อย​ ต้อง​ถึงขั้น​นี้​เลย​หรือ​

ใช้เวลา​เพียง​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ จิน​เฟย​เหยา​แค่​เด็ด​ดอก​ไม้ดอก​เดียว​ พั่งจื่อ​และ​ราชัน​ภูติ​ที่​ราวกับ​คนบ้า​ก็​สังหาร​วง​เวท​อสรพิษ​จน​เกลี้ยง​ พั่งจื่อ​กิน​แต่​งูมีชีวิต​ นอกจาก​บรรดา​งูที่​ถูก​ราชัน​ภูติ​สังหาร​กระจาย​เกลื่อน​พื้น​ งูอื่นๆ​ อีก​หก​เจ็ด​ส่วน​ล้วน​ลงท้อง​ของ​พั่งจื่อ​ แต่​มัน​ไม่พอใจ​เขา​เนื่องจาก​บน​พื้น​มีงูที่​ถูก​ราชัน​ภูติ​ฟัน​เป็น​ชิ้นๆ​ หลังจาก​ตบ​พุง​มัน​ก็​ชูป้าย​ให้​ราชัน​ภูติ​ เห็น​บน​นั้น​เขียน​ว่า​ ‘แย่ง​สัตว์​ภูติ​กิน​ หน้าไม่อาย​’

ป้าย​นี้​ใช้กับ​จิน​เฟย​เหยา​ ในที่สุด​ครั้งนี้​ก็ได้​ใช้กับ​คนอื่น​ หลังจาก​พั่งจื่อ​ชูป้าย​อย่าง​อารมณ์ไม่ดี​ก็​เดิน​กลับ​ไปข้าง​กาย​จิน​เฟย​เหยา​

มอง​สตรี​เผ่า​มาร​ที่​เสียบ​ดอกไม้​ป่าบน​ศีรษะ​มีสีหน้า​น่ารัก​ไร้เดียงสา​และ​ยังมี​กบ​สีขาว​ที่​ชูป้าย​ใส่ร้าย​คน​ตัว​นั้น​ ราชัน​ภูติ​ก็​กำ​ขวา​นยักษ์​แน่น​ โทสะ​ไม่มีที่​ให้​ระบาย​ออก​

ในเวลานี้​มีเสียงดัง​ขึ้น​ ลาน​ประลอง​ปล่อย​สัตว์​ชื่อ​โหย​ว​ขั้น​เจ็ด​ตัว​หนึ่ง​ออกมา​อีก​ สัตว์​ชื่อ​โหย​ว​ที่​ทั่ว​ร่าง​เต็มไปด้วย​หนาม​แหลมคม​น้ำลายไหล​และ​พุ่ง​เข้าใส่​พวกเขา​

มาได้เวลา​พอดี​ ราชัน​ภูติ​ถือ​ขวา​นยักษ์​ปราด​เข้าใส่​มัน​โดย​ไม่พูดพร่ำทำเพลง​ คม​ขวาน​พกพา​คลื่น​อากาศ​ฟัน​ขา​หน้า​สัตว์​ชื่อ​โหย​ว​หัก​ใน​ขวาน​เดียว​ จากนั้น​เขา​กระโดด​เหิน​ร่าง​ขึ้น​ใช้สอง​มือถือ​ขวาน​จามลง​บน​หัว​ของ​สัตว์​ชื่อ​โหย​ว​ ทั้ง​ลาน​ประลอง​ส่งเสียง​ฮือฮา​ ยิ่ง​มีสาวน้อย​ร้อง​อย่าง​ตกใจ​ “ราชัน​ภูติ​!”

“เชอะ​ ข้า​ถึงว่า​ทำไม​เขา​จึงไม่พอใจ​ ที่แท้​ไม่มีคน​ให้​ระบาย​โทสะ​นี่เอง​ จริงๆ​ เลย​ ข้า​อยาก​ให้​เขา​พักผ่อน​มาก​ๆ หน่อย​ จึงไม่ให้​เขา​ลงมือ​ ต่อไป​ถ้าไม่ถึงตาย​ก็​ไม่ต้อง​สนใจ​เขา​!” เห็น​ราชัน​ภูติ​ฟัน​สัตว์​ชื่อ​โหย​ว​เบื้องหน้า​อย่าง​ดุร้าย​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​กอดอก​เอ่ย​อย่าง​ไม่พอใจ​

พั่งจื่อ​ก็​เห็นด้วย​เช่นกัน​ “อ๊บ!”​

“เจ้าพูด​ได้​ถูกต้อง​ พวกเรา​ไม่ไปแย่งชิง​อาหาร​กับ​เขา​ จะได้​ไม่ทำให้​คน​นึก​ว่า​พวกเรา​ไม่มีอาหาร​กิน​ ฮึ!” ทั้งสอง​คน​หนึ่ง​ร้อง​ตัว​หนึ่ง​รับ​ หาก​มิใช่ราชัน​ภูติ​เข่นฆ่า​อยู่​ด้านหน้า​จน​ลืมตัว​ ถ้าให้​เขา​ได้ยิน​คำพูด​แบบนี้​ต้อง​มีเพลิง​โทสะ​เต็ม​ท้อง​อีก​แน่​

เดิมที​ท่าน​อ๋อง​จื้อ​นึก​ว่า​ไม่ต้อง​ให้​คน​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​ลงมือ​เขา​ก็​สามารถ​ทรมาน​สอง​คน​นี้​จนตาย​ได้​ แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​วง​เวท​อสรพิษ​ที่​เขา​ปล่อย​ออก​ไปจะถูก​กบ​สีขาว​ตัว​หนึ่ง​กินเกลี้ยง​ สัตว์​ปิศาจระดับสูง​ที่​ซื้อ​มาด้วย​ราคา​สูงลิ่ว​ก็​ถูก​สังหาร​ทิ้ง​ แม้แต่​ตาน​สัตว์​ปิศาจด้านใน​ก็​ถูก​สตรี​เผ่า​มาร​ผู้​นั้น​เก็บ​ไป ท่าน​อ๋อง​จื้อ​ฟังรายงาน​ของ​ลูกน้อง​ก็​มีโทสะ​จน​เนื้อ​ร่วง​ไปหลาย​ชั่ง

“ปล่อย​! ปล่อย​สัตว์​ปิศาจทั้งหมด​ออก​ไป! ข้า​ไม่เชื่อ​ว่า​วันนี้​จะสังหาร​ทาส​ชั้นต่ำ​สอง​คน​นี้​ไม่ตาย​!” ท่าน​อ๋อง​จื้อ​ได้​ฟังรายงาน​ก็​ตบ​เตียง​แล้ว​ลุกขึ้น​ยืน​ ตูม​ เตียง​พัง​เป็น​ชิ้นๆ​ ทันที​

ถ้าองค์​หญิง​ผิง​อัน​ไม่รับปาก​ว่า​จะให้ผล​โสมแก่​เขา​หนึ่ง​ผล​ เขา​คง​ให้​คน​สังหาร​ทาส​สาว​คน​นั้น​แต่แรก​ คิด​ถึงว่า​ตนเอง​ยังมี​อายุขัย​อีก​หกสิบ​กว่า​ปี ก่อนหน้านี้​คิด​จะได้ผล​โสมสัก​ผล​จาก​องค์​หญิง​ผิง​อัน​มาตลอด​ ตอนนี้​มีโอกาส​ส่งมาให้​ฟรี​ๆ แล้ว​

องค์​หญิง​ปัญญาอ่อน​คน​นี้​คิด​จะให้​ข้า​เห็นแก่หน้า​องค์​ชาย​หก​ อย่า​สังหาร​ทาส​สาว​และ​ราชัน​ภูติ​ แต่​เรื่อง​ขึ้น​ลาน​ประลอง​กลับ​ไม่ได้​ขอร้อง​ ถ้าตาย​บน​ลาน​ประลอง​ก็​ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​ข้า​ สำหรับ​ราชัน​ภูติ​ก็​เหลือ​ไว้​ให้​องค์​ชาย​ใหญ่​

คิดถึง​การค้า​สอง​ทาง​ก้อน​นี้​ ท่าน​อ๋อง​จื้อ​ก็​หัวเราะ​ชั่วร้าย​อย่าง​กระหยิ่ม​ใจ

ทว่า​สิ่งที่​ทำให้​เขา​คิดไม่ถึง​ก็​คือ​ หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ต่อมา​ คน​ที่มา​รายงาน​ไม่ใช่ลูกน้อง​ของ​ตนเอง​ ทว่า​เป็น​สัตว์​ปิศาจทั้งหมด​ที่​ถูก​สังหาร​เกลี้ยง​จน​ไม่มีสิ่งใด​ให้​สังหาร​แล้ว​ บน​เวที​ยัง​ไม่มีที่​ให้​ยืน​เนื่องจาก​มีซากสัตว์​ปิศาจกองพะเนิน​ ราชัน​ภูติ​และ​จิน​เฟย​เหยา​จึงได้​แต่​จบ​งาน​และ​กลับมา​

จิน​เฟย​เหยา​เห็น​เตียง​ของ​ตนเอง​ถูก​ฟาด​จน​กลายเป็น​ชิ้นๆ​ เงยหน้า​ขึ้น​มอง​เจ้าคน​ใช้ไม่ได้​ภายใน​นั้น​ ปราณ​เข่นฆ่า​บน​ร่าง​ปะทุ​ออกมา​และ​บีบ​คอ​ท่าน​อ๋อง​จื้อ​ไว้​ราวกับ​มาร​ร้าย​

ราชัน​ภูติ​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​นาง​ตกตะลึง​กับ​ปราณ​อัน​ดุร้าย​ที่​พุ่ง​ทะยาน​ ตั้งแต่​เขา​เกิด​มาจนถึง​ตอนนี้​นับ​ได้​หนึ่ง​พัน​กว่า​ปีเคย​เห็น​บุคคล​ที่​เข่นฆ่า​สังหาร​มานับไม่ถ้วน​ ทว่า​กลับ​ไม่เคย​เห็น​คน​ที่​มีปราณ​แห่ง​การเข่นฆ่า​มาก​ถึงขั้น​นี้​ นี่​สังหาร​คน​มามากมาย​เพียงใด​ หนึ่ง​พัน​ หนึ่ง​หมื่น​ หรือ​หนึ่ง​แสน​!

เขา​คิดมาก​ไป หลัก​ๆ คือ​จิน​เฟย​เหยา​สังหาร​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​มาเยอะ​ ตอน​กลายเป็น​เทา​เที่ย​ยิ่ง​กิน​มากกว่า​นั้น​ คน​จำนวน​มหาศาล​ล้วน​ตก​ลงท้อง​นาง​ ดังนั้น​ปราณ​แห่ง​การเข่นฆ่า​จึงหนาแน่น​และ​เข้มข้น​มากกว่า​คนอื่นๆ​ ถ้านับ​เพียงแค่​ฆ่าคน​ เกรง​ว่า​ปราณ​แห่ง​การเข่นฆ่า​บน​ร่าง​นาง​ต้อง​ใช้ชีวิต​คน​หลาย​แสน​สร้าง​ขึ้น​

เวลานี้​ท่าน​อ๋อง​จื้อ​หวาดกลัว​สุดขีด​ เขา​ไม่ใช่แม่ทัพ​ ไม่ต้อง​เข้า​สนามรบ​ ฝึก​บำเพ็ญ​ตั้งแต่​เล็ก​จน​โต​เพียง​เพื่อให้​มีชีวิต​ยืนยาว​ ปกติ​สังหาร​แค่​ทาส​และ​สนม​ที่​ไม่เชื่อฟัง​เล่น​ๆ ไม่กี่​คน​ ไม่เคย​ประมือ​กับ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​เลย​ แม้แต่​องค์​ชาย​สามผู้​โง่งมยัง​มีประสบการณ์​มากกว่า​เขา​ อย่างไร​ผู้อื่น​ก็​เคย​ต่อสู้​กับ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ ถึงตาย​แล้วแต่​ก็​นับว่า​มีประสบการณ์​

“ไสหัวออก​ไป อย่า​ให้​ข้า​เห็น​เจ้าอีก​ ไม่เช่นนั้น​ข้า​จะทำให้​มังกร​ทอง​คุ้ม​กาย​ปรากฏตัว​” จิน​เฟย​เหยา​ด่าทอ​อย่าง​ดุร้าย​

ท่าน​อ๋อง​จื้อ​ถูก​ลูกน้อง​พยุง​ออก​ไปแบบ​เสียหน้า​อย่าง​หนัก​ จิน​เฟย​เหยา​หันมา​ถลึงตา​ใส่ราชัน​ภูติ​ “เจ้าคน​ไร้ประโยชน์​ ราชวงศ์​สวะ​ปัญญาอ่อน​แบบนี้​ถึงกับ​ทำให้​พวก​เจ้าเป็น​ทา​สมาสี่พัน​กว่า​ปี พวกเขา​มีพลัง​บำเพ็ญ​เพียร​เสียเปล่า​ ยัง​สู้เด็กน้อย​ที่​ถือ​ดาบ​ฆ่าฟัน​คน​หนึ่ง​ไม่ได้​เลย​ ไม่รู้​ว่า​พวก​เจ้าทำ​บ้า​อะไร​อยู่​!”

“…” ราชัน​ภูติ​ถูก​ด่าทอ​จน​พูดไม่ออก​สัก​ประโยค​ เขา​แค้น​เผ่า​มนุษย์​ แค้น​เข้า​กระดูก​ แต่​ใน​ใจของ​พวกเขา​กลับ​เต็มไปด้วย​ความหวาดกลัว​อานุภาพ​ของ​ราชวงศ์​ โดยเฉพาะ​เชื้อพระวงศ์​ พวกเขา​มีพลัง​บำเพ็ญ​เพียร​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ ไม่ต้อง​ลงมือ​ก็​ทำให้​พวกเขา​ขลาด​เขลา​แล้ว​ มิใช่คน​เผ่า​มาร​จำนวนมาก​ต่อต้าน​เผ่า​มนุษย์​ที่​ทำให้​ตนเอง​เป็น​ทาส​ไม่ได้​ ทว่า​หวาดกลัว​จน​เป็นนิสัย​

กลัว​เผ่า​ของ​ตนเอง​จะถูก​ฆ่า หวาดกลัว​ความสามารถ​ของ​เชื้อพระวงศ์​อย่าง​ที่สุด​ หวาดกลัว​จน​ทาส​เผ่า​มาร​ไม่กล้า​ต่อต้าน​คุณหนู​เผ่า​มนุษย์​ที่​มือ​ไม่มีเรี่ยวแรง​มัด​ไก่​เหล่านั้น​ มีความหวาดกลัว​หยั่งราก​ฝังลึก​ใน​กระดูก​เสียแล้ว​ จะต่อต้าน​สำเร็จ​ได้​อย่างไร​

…………………………………………..

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

Score 10

Options

not work with dark mode
Reset