คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตายบทที่ 318 เชื้อพระวงศ์

บทที่ 318 เชื้อพระวงศ์

อย่าง​ที่​ปู้จื้อ​โหย​ว​เคย​พูด​ไว้​ก่อนหน้านี้​ จิน​เฟย​เหยา​แทบจะ​ไม่ได้​เสียเวลา​ใดๆ​ ก็​หนี​ออก​มาจาก​เกาะ​เซียว​โม่ได้​

ใน​บรรดา​นั้น​ย่อม​มีฤทธิ์​ของ​ยันต์​ซ่อน​กาย​ มืดมิด​ไม่มีแสงไฟ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​เผ่า​มนุษย์​ล้วน​ชมดู​ความ​ครึกครื้น​ ทาง​เผ่า​มาร​จอม​มาร​หลง​ไม่ได้คิด​จะไปช่วยเหลือ​เลย​สักนิด​ เขา​จะช่วย​ทำไม​ ไม่ลงมือ​ก่อเรื่อง​อย่าง​อำมหิต​ก็​ถือว่า​ดีแล้ว​ เหลือ​เพียง​เผ่า​มาร​ของ​โลก​วิญญาณ​ซิงหลัว​ที่​ส่งเสียงร้อง​เอะอะโวยวาย​ให้​ผู้อื่น​ชมดู​

ทุกคน​ไล่ตาม​ปู้จื้อ​โหย​ว​ที่​นำ​ศิลา​วิญญาณ​เทียน​ฮุ่น​ไป แสงหลาก​สีสัน​กระพริบ​วาบ​ลื่น​ไหลผ่าน​ท้อง​นภา​ราวกับ​มังกร​ยาว​ตัว​หนึ่ง​ จิน​เฟย​เหยา​กลับ​หุบปาก​หลบหนี​มาถึงเกาะ​จวี้​เซียน​ ที่นี่​มีคน​มากมาย​ส่งเสียง​อึกทึก​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​นับ​แสน​เบียดเสียด​อยู่​รวมกัน​ เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​หา​คน​พบ​

นาง​หลบ​อยู่​ใน​ป่าเล็ก​ๆ ผลัดเปลี่ยน​ชุด​มังกร​แหวกว่าย​ธารา​ออก​และ​เปลี่ยน​รูปโฉม​ให้​กลับคืน​เป็น​ดังเดิม​ก่อน​หนี​กลับมา​ จากนั้น​คาย​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ออกมา​อย่าง​ยินดี​ ทำความสะอาด​ใน​ปาก​อย่าง​ละเอียด​รอบ​หนึ่ง​ ให้​แน่ใจ​ว่า​ไม่มีศิลา​เทียน​ฮุ่น​ติด​อยู่​ใน​ซอก​ฟัน​จากนั้น​จึงตรวจสอบ​ว่า​ตนเอง​แทะ​ลงมา​มาก​น้อย​เพียงใด​

ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ขนาด​เท่า​เม็ด​ถั่วลิสง​ก้อน​หนึ่ง​และ​ขนาด​เท่า​เมล็ดข้าว​เจ็ด​แปด​เม็ด​ ยังมี​บาง​อัน​หลังจาก​แห้ง​มีขนาด​ใกล้เคียง​กับ​ฝุ่นผง​ เล็ก​จน​เกรง​ว่า​หายใจ​แรง​หน่อย​เศษหิน​จะถูก​เป่าหาย​ไป

“แค่นี้​น่าจะ​ทำให้​เกาะ​ลอย​ได้​เล็ก​ๆ เพิ่ม​มาสอง​สามหมู่​ได้​นะ​ ถ้าไม่ได้​แม้แต่​หมู่​เดียว​ก็​เสียแรง​ที่​ข้า​เพียรพยายาม​” จิน​เฟย​เหยา​ใส่ศิลา​เทียน​ฮุ่นลง​ใน​ขวด​แก้ว​เล็ก​ๆ อย่าง​ระมัดระวัง​ สิ่งของ​แบบนี้​บรรจุ​ได้​สะดวก​กว่า​ ปาก​กล่อง​หยก​กว้าง​เกินไป​เดี๋ยว​ร่วง​กระจาย​หมด​

ไม่รู้​ว่า​ปู้จื้อ​โหย​ว​หลบหนี​ไปได้​แล้ว​หรือไม่​ ถึงอย่างไร​เจ้าหมอ​นั่น​ก็​มีมุก​เทียน​จี้ ถ้าเจอ​อันตราย​มุด​เข้าไป​อยู่​ใน​นั้น​ก็​พอ​ จิน​เฟย​เหยา​ยักไหล่​ คน​แบบนี้​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​สักนิด​ ตนเอง​ออกจาก​ที่นี่​เข้าไป​ปะปน​ใน​เมือง​ก่อน​ดีกว่า​

ยาม​ราตรี​ใน​อีก​ห้า​วัน​ต่อมา​ บน​เกาะ​จวี้​เซียน​ที่​มีผู้คน​พลุกพล่าน​ พอ​จิน​เฟย​เหยา​เข้าไป​ใน​ร้านอาหาร​ที่​มีทำเล​ดี​และ​สูงหลาย​ชั้น​แห่ง​หนึ่ง​ก็​ถูก​พา​เข้าไป​ใน​ห้องส่วนตัว​ชั้น​บนสุด​ทันที​ นาง​สั่งอาหาร​ขึ้นชื่อ​หลายอย่าง​ของ​ร้าน​นี้​ จากนั้น​ดื่ม​ชารอ​ปู้จื้อ​โหย​ว​มาส่งสุรา​

ขณะที่​จันทรา​ส่องสว่าง​ กลับ​หา​ดวง​ดารา​ได้​ยาก​ เป็น​วันดี​ๆ ที่​เหมาะ​แก่​การ​จิบ​สุรา​ชมแสงจันทร์​จริงๆ​ อาหาร​ก็​สั่งแล้ว​ ดวงจันทร์​ก็​ขึ้น​แล้ว​ ตอนนี้​ขาด​เพียง​สุรา​คืน​วิญญาณ​

มอง​ตะเกียง​หิน​แสงราตรี​ที่​สว่างไสว​บน​ถนน​ด้านล่าง​ เสียง​อึกทึก​ดัง​มารางๆ​ บางครั้ง​ไกล​บางครั้ง​ใกล้​ มองเห็น​ความเจริญรุ่งเรือง​กลับ​นั่ง​เดียวดาย​ใน​ตึกสูง​ อยู่​ท่ามกลาง​ผู้คน​กลับ​ห่างไกล​จาก​โลกียะ​ จิน​เฟย​เหยา​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​จันทร์​กระจ่าง​ ลม​ราตรี​พัด​เย็นสบาย​ ซ่องเสพ​ความโดดเดี่ยว​และ​เงียบเหงา​

กริ๋ง…​

กระดิ่ง​ลม​ที่​แขวน​ไว้​ตรง​หน้าต่าง​อีก​ด้าน​ดัง​ขึ้น​ ปู้จื้อ​โหย​ว​ปรากฏตัว​ขึ้น​ใน​ห้องส่วนตัว​

“เจ้ามาช้าเกินไป​ ข้า​รอ​อยู่​นาน​แล้ว​ สุรา​ล่ะ​?” จิน​เฟย​เหยา​ยัง​นอน​เกย​หน้าต่าง​ดังเดิม​และ​เอ่ย​ถามโดย​ไม่หันหน้า​มา

“ให้​เจ้า อย่า​แสร้ง​ทำเป็น​สง่างามเลย​ ไม่เหมาะกับ​เจ้า” ปู้จื้อ​โหย​วต​บ​ไห​สุรา​สูงเท่า​ฝ่ามือ​ลง​บน​โต๊ะ​ บน​นั้น​ยัง​ใช้กระดาษ​ยันต์​ผนึก​ไว้​ จากนั้น​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ที่​วาง​เบาะ​นุ่ม​ตรงข้าม​กับ​นาง​

จิน​เฟย​เหยา​หันหน้า​มามอง​เขา​อย่าง​ไม่พอใจ​ “ข้า​สร้าง​บรรยากาศ​เย็นชา​ขึ้น​อย่าง​ยากลำบาก​ รู้สึก​ว่า​ตนเอง​เป็น​บุคคล​สูงส่งและ​สำคัญ​ เจ้าก็​ลาก​ข้า​ลงมา​ทันที​”

“เช่นนั้น​ข้า​ไม่กวนใจ​เจ้าแล้ว​ เจ้าทำต่อ​ได้​เลย​ ให้​ข้า​ลิ้มรส​สุรา​คืน​วิญญาณ​ก่อน​” ปู้จื้อ​โหย​ว​เอ่ย​พลาง​ยื่นมือ​ไปหยิบ​ไห​สุรา​

จิน​เฟย​เหยา​รีบ​ใช้มือ​ชิงไห​สุรา​กลับมา​ อุ้ม​ไว้​ใน​อ้อม​อก​พลาง​เอ่ย​อย่าง​ไม่พอใจ​ “ไม่ได้​ ของ​สิ่งนี้​ข้า​ต้อง​ค่อยๆ​ ดื่ม​ เจ้าเคย​ดื่ม​แล้ว​มิใช่หรือ​ ยัง​เอา​ขวด​มาให้​ข้า​เลีย​เลย​ ยัง​บอ​กว่า​ชิมอะไร​อีก​ มิใช่ไม่เคย​ดื่ม​เสียหน่อย​”

ปู้จื้อ​โหย​ว​ส่าย​ศีรษะ​ หยิบ​กล่อง​หยก​ใบ​หนึ่ง​ออกมา​วาง​บน​โต๊ะ​ ทอดถอนใจ​อย่าง​เจ็บปวด​ “เลือดเย็น​ เจ้าเลือดเย็น​จริงๆ​ ข้า​ยัง​นำ​สิ่งของ​เช่นนี้​มาให้​เจ้า เจ้ากลับ​ไม่ให้​ข้า​ดื่ม​สุรา​สัก​จอก​”

จิน​เฟย​เหยา​มอง​กล่อง​หยก​ขนาด​ครึ่ง​ฝ่ามือ​แล้ว​กระพริบตา​ จากนั้น​มือหนึ่ง​อุ้ม​ไห​สุรา​แน่น​ อีก​มือ​คว้า​กล่อง​หยก​มา นาง​เปิด​กล่อง​หยก​ หลังจาก​เห็น​สิ่งของ​ใน​นั้น​ก็​ตะลึงงัน​

“ยา​คืนชีพ​กลับ​สวรรค์​…”

คิดไม่ถึง​ว่า​ใน​กล่อง​หยก​จะเป็น​ยา​คืนชีพ​กลับ​สวรรค์​สอง​เม็ด​ จิน​เฟย​เหยา​ถือ​กล่อง​หยก​มอง​ปู้จื้อ​โหย​วอ​ย่าง​ไม่เข้าใจ​

ปู้จื้อ​โหย​ว​เตรียม​จอก​สุรา​พร้อม​แล้ว​ เห็น​ใบ​หน้าที่​เต็มไปด้วย​ความสงสัย​ของ​นาง​ เขา​ก็​เอ่ย​อย่าง​ประหลาดใจ​ “ทำไม​เจ้าจึงมอง​ข้า​อย่าง​โง่งมแบบ​นั้น​ นี่​คือ​สิ่งของ​ที่​ข้า​บอ​กว่า​ถ้าเจ้าช่วย​ข้า​จะมีผลประโยชน์​ให้​ สิ่งของ​นี้​ยอดเยี่ยม​อย่างยิ่ง​ ขอ​เพียง​ยัง​เหลือ​ลมหายใจ​อยู่​ กิน​ลง​ไปก็​สามารถ​คืนชีพ​ได้​ ถ้าไม่ถึงตอน​ใกล้​ตาย​เจ้าอย่า​ใช้สุ่มสี่สุ่มห้า​นะ​ ใช้ช่วยชีวิต​”

“เจ้าไม่ได้​กำลัง​ใช้หนี้​แทน​ผู้อื่น​อยู่​หรือ​?” จิน​เฟย​เหยา​มอง​ปู้จื้อ​โหย​ว​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ใน​ใจเต็มไปด้วย​ความสงสัย​

“ใช้หนี้​อะไร​? ทำไม​ มีคน​ติดค้าง​ยา​คืนชีพ​กลับ​สวรรค์​เจ้าด้วย​! ข้า​ไม่เห็น​รู้​เลย​ เล่า​ให้​ข้า​ฟังหน่อย​ บางที​อาจจะ​สนุก​” ปู้จื้อ​โหย​ว​เอ่ย​พลาง​ล้วง​สมุด​ของ​เขา​ออกมา​จาก​ใน​อก​และ​นำ​พู่กัน​วิญญาณ​ออกมา​ เอ่ย​ถามอย่าง​กระตือรือร้น​

จิน​เฟย​เหยา​จ้องมอง​ดวงตา​เขา​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็​รั้ง​สาย​ตากลับ​ ปิด​ฝากล่อง​ยา​คืนชีพ​กลับ​สวรรค์​แล้ว​เก็บ​ลง​ใน​ถุงเฉียน​คุ​น​ ถึงจะบังเอิญ​ไปหน่อย​แต่​จอม​มาร​หลง​ต้อง​ไม่ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​แน่​ น่าจะเป็น​รางวัล​ที่​เขา​ให้​เสี่ยว​ปู้ นอกจาก​ยา​คืนชีพ​กลับ​สวรรค์​น่าจะ​มีสิ่งของ​อื่น​อีก​ แต่​ของ​สิ่งนี้​สามารถ​กลับมา​อยู่​กับ​นาง​ได้​ เป็นเรื่อง​ที่​คู่ควร​แก่​การ​ยินดี​จริงๆ​

นี่​เป็น​สิ่งที่​ใช้รักษา​ชีวิต​ ต้อง​เก็บ​ไว้​อย่าง​ดี​ ลืม​ไม่ได้​ ถ้าตอน​จะช่วยชีวิต​ลืม​ว่า​วาง​ไว้​ที่ใด​ คง​ต้อง​สูญเสีย​อย่าง​หนัก​

จิน​เฟย​เหยา​เก็บ​ยา​คืนชีพ​กลับ​สวรรค์​ ก็​เปิด​สุรา​คืน​วิญญาณ​อย่าง​เบิกบานใจ​และ​ให้​ปู้จื้อ​โหย​ว​ฟรี​ครึ่ง​จอก​ จากนั้น​นาง​โยน​พั่งจื่อ​ออกมา​ให้​มัน​ชิมนิดหน่อย​ แม้แต่​หวา​หวั่น​ซีก็​โวยวาย​อยาก​จะออกมา​ หลังจาก​ออกมา​ก็​เกี้ยวพาราสี​ปู้จื้อ​โหย​วต​ลอด​

เห็น​ปู้จื้อ​โหย​ว​ถูก​หวา​หวั่น​ซีเกี้ยว​พา​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​เบิกบานใจ​แทบตาย​ พวกเขา​ทั้ง​ดื่ม​ทั้ง​หัวเราะ​ ครึกครื้น​กัน​ทั้งคืน​

เช้าวัน​ที่สอง​ ปู้จื้อ​โหย​ว​ก็​ไป จิน​เฟย​เหยา​เก็บกวาด​ จากนั้น​พา​พั่งจื่อ​และ​หวา​หวั่น​ซีไปรอ​อยู่​บน​เกาะ​จวี้​เซียน​หลาย​วัน​ ตอน​ว่าง​ๆ ก็​ครุ่นคิด​ ถ้าต่อสู้​กับ​หลิน​ชิงเจียง​สมควร​กำจัด​นาง​อย่างไร​ดี​

ครุ่นคิด​อยู่​นาน​ นาง​พบ​ว่า​ไม่รู้​ว่า​อีก​ฝ่าย​ใช้เคล็ด​วิชา​อะไร​จึงไม่มีทาง​วางแผนการ​ได้​เลย​ ยิ่ง​ไม่ต้อง​เอ่ยถึง​สิ่งที่​ซับซ้อน​เช่นนี้​ครุ่นคิด​ขึ้น​มาก​็รู้สึก​ปวดศีรษะ​ ถึงเวลา​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​ดีกว่า​ พบ​กระบวนท่า​ทำลาย​กระบวนท่า​[1] อย่าง​มาก​ก็​กลายเป็น​เทา​เที่ย​แล้ว​กัด​

อีก​ทั้ง​ไม่รู้​ว่า​คน​ที่​หลิน​ชิงเจียง​พา​มาจะเป็น​คน​แบบ​ใด​ นี่​ก็​คือ​ตัวแปร​ใหญ่​ หวัง​ว่า​ถึงตอนนั้น​ปู้จื้อ​โหย​วจะ​สามารถ​สะกด​คน​ผู้​นั้น​ได้​ ไม่เช่นนั้น​ใคร​จะล่า​ใคร​ก็​ยัง​ไม่รู้​เลย​จริงๆ​

รอ​จนถึง​วัน​ออกเดินทาง​ จิน​เฟย​เหยา​เตรียมการ​พร้อมสรรพ​และ​ตกลง​กับ​บรรดา​หุ่นเชิด​แล้ว​ วันนี้​นอกจาก​หวา​หวั่น​ซีคนอื่น​อย่า​ออกมา​ อีก​ทั้ง​ยัง​เสริม​กู่​ห​ลิง​ซิน​ให้​นาง​ สิ่งของ​ชั้นต่ำ​บน​ร่าง​ก็​ซ่อม​ให้​ใหม่​ ถึงแม้พั่งจื่อ​เพิ่ง​ขั้น​เจ็ด​ แต่​เวลา​ที่​จำเป็น​สามารถ​นำมา​ใช้ประโยชน์​ได้​ก็​เตรียม​ใส่ไว้​ใน​ถุงสัตว์​ภูติ​เรียบร้อย​

ปู้จื้อ​โหย​ว​มอง​จิน​เฟย​เหยา​ที่​มีสีหน้า​เตรียมพร้อม​อย่าง​จริงจัง​จึงเอ่ย​ถามอย่าง​ไม่ใส่ใจ “เจ้ากำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​ ท่าทาง​ไม่เหมือน​ยาม​ปกติ​ ก็​แค่​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สอง​คน​ เจ้าตึงเครียด​เกินไป​แล้ว​กระมัง​”

“ข้า​ยัง​ไม่อยาก​ตาย​ อีก​ทั้ง​ไม่คิด​จะตาย​ด้วย​น้ำมือ​อาหาร​ เกี่ยวพัน​กับ​ความเป็นความตาย​จริงจัง​หน่อย​ก็​ไม่ผิด​อะไร​” จิน​เฟย​เหยา​ตรวจ​สอ​บท​งเทียน​หรู​อี้​อีกครั้ง​ เห็น​ทุกอย่าง​ไม่มีปัญหา​จึงหยุด​ลง​

“เจ้าวางใจ​เถอะ​ ไม่ตาย​หรอก​” ปู้จื้อ​โหย​ว​เอ่ย​อย่าง​เชื่อมั่น​ยิ่ง​

เห็น​เขา​เกิด​ความมั่นใจ​ขึ้น​มาอย่าง​บอก​ไม่ถูก​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​อยาก​จะด่าทอ​เขา​สัก​สอง​ประโยค​จริงๆ​ คน​ที่​มีมุก​เทียน​จี้ก็​มั่นใจ​แบบนี้​ อีกสักครู่​ไม่ต้อง​หนี​เข้าไป​ใน​นั้น​ก็​โชคดี​มหาศาล​แล้ว​

ไม่รู้​ว่า​เพราะอะไร​ จิน​เฟย​เหยา​มักจะ​รู้สึก​วิตกกังวล​ บางที​คง​เป็น​สัญชาตญาณ​ของ​เทา​เที่ย​ อาจ​เป็น​เพราะ​มีฉีหลิน​ให้​กิน​จึงตื่นเต้น​ขึ้น​มา ถึงอย่างไร​นาง​ก็​สงบ​จิตใจ​ไม่ได้​

เมื่อ​นาง​พา​ปู้จื้อ​โหย​ว​มาถึงศาลา​หลิว​เฟิงบน​เกาะ​ก้วนถิง​ หลังจาก​เห็น​หลิน​ชิงเจียง​นาง​จึงเข้าใจ​ว่า​เพราะเหตุใด​ตนเอง​จึงสงบใจ​ไม่ได้​

มีบุรุษ​ที่​สวม​เสื้อคลุม​สีทอง​ บน​เสื้อคลุม​มีมังกร​สีทอง​วิบวับ​ เอว​แขวน​กระบี่​ชั้นยอด​อัน​งดงาม​ บน​ศีรษะ​สวมมงกุฎ​สีทอง​ม่วง​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​หลิน​ชิงเจียง​

ชนชั้นสูง​! ถึงแม้ไม่มีกลิ่น​สัตว์​เทพ​ ทว่า​ก็​น่ากิน​อย่างยิ่ง​ อีก​ทั้ง​กลิ่น​ยัง​พิเศษ​มาก​ เป็น​รสชาติ​แห่ง​ความหรูหรา​

บน​ร่าง​บุรุษ​ผู้​นี้​มีปราณ​แห่ง​ราชัน​ออกมา​ หาก​มิได้​ถือกำเนิด​ใน​ตระกูล​กษัตริย์​ที่​มีประวัติศาสตร์​ยาวนาน​คง​ไม่มีกลิ่นอาย​แบบนี้​ ถ้าเป็น​ตระกูล​กษัตริย์​ใน​โลก​มนุษย์​ ต่อหน้า​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​ฝึก​ปราณ​คน​หนึ่ง​ก็​ราวกับ​ประชาชน​ธรรมดา​ที่​ปล่อย​ปราณ​แห่ง​ราชัน​ใดๆ​ ออกมา​ไม่ได้​ ทว่า​คน​ผู้​นี้​กลับ​ไม่เหมือนกัน​ เผชิญหน้า​กับ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​กลุ่ม​หนึ่ง​ เขา​ยัง​เชิด​ศีรษะ​สูงมอง​พวก​นาง​อย่าง​ดูแคลน​ แม้แต่​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ยัง​สะกด​ปราณ​แห่ง​ราชัน​บน​ร่าง​ไม่ได้​

แน่นอน​ว่า​ตัว​เขา​เอง​ก็​มีพลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ช่วง​ปลาย​

จิน​เฟย​เหยา​แนะนำ​ปู้จื้อ​โหย​ว​ก่อน​ “สหาย​เซียน​หลิน​ นี่​คือ​สหาย​ของ​ข้า​ ปู้จื้อ​โหย​ว​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​อันดับ​หก​บน​ผัง​สงคราม​วิญญาณ​จาก​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน”​

ปู้จื้อ​โหย​ว​เอง​ก็​ยิ้มแย้ม​ประสานมือ​ให้​พวกเขา​ เป็นไป​ตามที่​จิน​เฟย​เหยา​คาด​ไว้​ ผัง​สงคราม​วิญญาณ​เป็น​สิ่งที่​ทำให้​คน​เกิด​ความรู้สึก​ดี​จริงๆ​ แน่นอน​ว่า​เพียง​สำหรับ​เผ่า​มนุษย์​ ถ้าเจ้าพูด​กับ​เผ่า​มาร​ ต้อง​ถูก​ผู้อื่น​ชิงชังแทบตาย​และ​ทำให้เกิด​ความรู้สึก​เป็น​ศัตรู​อย่างยิ่ง​ หลิน​ชิงเจียง​ก็​คารวะ​ตอบ​อย่าง​มีมารยาท​ ส่วน​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ช่วง​ปลาย​ที่​นาง​พา​มากลับ​เพียงแค่​พยักหน้า​ด้วย​ท่าทาง​รับรู้​และ​ให้​ล่าถอย​ออก​ไปได้​

“นี่​คือ​สหาย​สนิท​ของ​ข้า​ องค์​ชาย​สามแห่ง​โลก​วิญญาณ​เทียน​ตี้”​ หลิน​ชิงเจียง​เอ่ย​แนะนำ​ เพียง​บอก​ความเป็นมา​และ​ลำดับ​ของ​ผู้อื่น​ กลับ​ไม่เอ่ย​แม้แต่​ชื่อ​ เห็นได้ชัด​อย่างยิ่ง​ว่า​จะให้​จิน​เฟย​เหยา​และ​ปู้จื้อ​โหย​ว​เรียก​คน​ผู้​นี้​ว่า​องค์​ชาย​สามหรือ​องค์​ชาย​

“ชิงเจียง​ เรา​เคย​บอก​เจ้านาน​แล้ว​ ต่อไป​เจ้าคือ​พระชายา​ของ​เรา​ เวลานี้​สมควร​เรียก​เรา​ว่า​ว่าที่​สามีของ​เจ้าจึงถูกต้อง​” องค์​ชาย​สามกลับ​มอง​หลิน​ชิงเจียง​ ใน​น้ำเสียง​กระด้าง​นิดๆ​ ทว่า​ใน​ดวง​ตากลับ​มีความอ่อนโยน​อยู่​ไม่น้อย​

ใบหน้า​ของ​หลิน​ชิงเจียง​แดง​นิดๆ​ ราวกับ​ขัดเขิน​ต่อหน้า​ผู้อื่น​และ​เอ่ย​อย่าง​ไม่ยินยอม​อยู่​บ้าง​ “องค์​ชาย​สาม ตอนนี้​มีธุระ​ต้อง​ไปทำ​ อย่า​เพิ่ง​พูด​เรื่อง​เหล่านี้​ก่อน​”

“เสี่ยว​ปู้ โลก​วิญญาณ​เทียน​ตี้​คือ​สถาน​ที่ใด​ เหตุใด​ยังมี​เชื้อพระวงศ์​ที่​อ้า​ปาก​ก็​เรา​หุบปาก​ก็​เรา​?” จิน​เฟย​เหยา​ไม่สนใจ​เรื่องไร้สาระ​ ไม่รู้​ว่า​โลก​วิญญาณ​เทียน​ตี้​คือ​สถาน​ที่ใด​ ฟังชื่อ​แล้ว​เหตุใด​จึงเหมือน​ที่อยู่​ของ​จักรพรรดิ​สวรรค์​ หรือว่า​เป็น​โลก​วิญญาณ​พิเศษ​?

ปู้จื้อ​โหย​ว​ก็​ถือว่า​เป็น​สายลับ​ สำหรับ​เขา​แล้ว​คำถาม​แบบนี้​เป็น​ความรู้​ทั่วไป​ “โลก​วิญญาณ​เทียน​ตี้​คือ​หนึ่ง​ใน​พันธมิตร​สิบสอง​โลก​วิญญาณ​ พื้นที่​โลก​วิญญาณ​ไม่กว้างใหญ่​ มีขนาด​เพียง​หนึ่ง​ใน​ห้า​ของ​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​ ทว่า​พวกเขา​ใช้ระบบ​กษัตริย์​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ล้วน​อยู่​ใน​กำมือ​ของ​พวกเขา​ คนธรรมดา​ห้าม​ฝึก​บำเพ็ญ​ เขา​เรียก​ตนเอง​ว่า​องค์​ชาย​สาม น่าจะเป็น​องค์​ชาย​ของ​แคว้น​โลก​วิญญาณ​เทียน​ตี้​ ทั้ง​ตระกูล​ล้วน​เป็น​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ระดับสูง​”

“ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ช่วง​ปลาย​ อีก​ทั้ง​ยังมี​กำลัง​ทรัพย์​ ท่าทาง​พวกเรา​เจอ​กระดูกแข็ง​แล้ว​” จิน​เฟย​เห​ยาถ่าย​ทอดเสียง​มาแบบ​หัวเราะ​ๆ

ปู้จื้อ​โหย​วก​ลับ​ยัง​ตอบ​เหมือนเดิม​ “ไม่ตาย​หรอก​ ไม่มีปัญหา​”

………………………………………

[1] พบ​กระบวนท่า​ ทำลาย​กระบวนท่า​ หมายถึง​ แก้ไข​ไปตาม​สถานการณ์​

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

Score 10

Options

not work with dark mode
Reset