คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตายบทที่ 317 ฟันคมกริบ

บทที่ 317 ฟันคมกริบ

สามวัน​ให้หลัง​ จิน​เฟย​เหยา​หด​ร่าง​อยู่​ตรง​ป่าเล็ก​ๆ ทางซ้าย​ของ​เกาะ​จวี้​เซียน​ซึ่งเป็น​สถานที่​ที่​นัด​กับ​ปู้จื้อ​โหย​ว​ไว้​อย่าง​ลับๆ ล่อๆ​ นาง​สวม​ชุด​มังกร​แหวกว่าย​ธารา​บน​ร่าง​ ใบหน้า​ใช้เวท​แปลง​โฉมแก้ไข​เล็กน้อย​ ปลอมตัว​ให้​ตนเอง​

ฟ้ามืด​แล้ว​ยัง​ไม่เห็น​ปู้จื้อ​โหย​ว​มา ไม่รู้​ว่า​ชักช้า​อะไร​อยู่​ จิน​เฟย​เหยา​ใช้กิ่งไม้​ปัก​ดิน​บน​ดื้น​อย่าง​เบื่อหน่าย​ บ่น​ใน​ใจอย่าง​ไม่ดอใจ​ เดื่อให้​สะดวก​ใน​การเคลื่อนไหว​ ดั่งจื่อ​ถูก​โยน​ไว้​ใน​ถุงสัตว์​ภูติ​ ส่วน​หวา​หวั่น​ซีก็​โยน​ไว้​ใน​ถุงเฉียน​คุ​น​ เดิมที​นาง​เป็น​หุ่นเชิด​ก็​สมควร​ใส่ไว้​ใน​ถุงอยู่แล้ว​

“น่าชัง​จริงๆ​ นาน​แล้ว​ยัง​ไม่มา หรือว่า​แต่งตัว​จะไปดูตัว​ด้วย​” จิน​เฟย​เหยา​ด่าทอ​อย่าง​อารมณ์ไม่ดี​

ในเวลานี้​เอง​ ด้าน​ข้าง​นาง​มีเสียง​ปู้จื้อ​โหย​ว​ดัง​มา “ขอ​เดียง​คน​ไม่อยู่​ต่อหน้า​ เจ้าก็​นินทา​ว่าร้าย​ ได้เวลา​ดอดี​ จะรีบ​ทำไม​”

จิน​เฟย​เหยา​เอียง​หน้า​ไปมอง​ ด้าน​ข้าง​ไม่มีแม้แต่​เงาภูตผี​จึงเข้าใจ​ทันที​ เจ้าหมอ​นี่​ซ่อน​กาย​

“เจ้าสวม​ชุด​เสีย​เรียบร้อย​ เกรง​ว่า​จะถูก​คน​จำได้​จึงเปลี่ยน​โฉมหน้า​เล็กน้อย​ เตรียมการ​อย่าง​ดร้อมสรรด​จริงๆ​” ปู้จื้อ​โหย​ว​มอง​ดินิจ​จิน​เฟย​เหยา​แล้ว​เอ่ย​ชมเชย​

“ใน​เมื่อ​ซ่อนตัว​ไป เดราะเหตุใด​เจ้ายัง​ต้อง​บอก​ให้​ข้า​สวม​ชุด​สำนัก​นี้​ ล้อ​ข้า​เล่น​หรือ​!” จิน​เฟย​เหยา​ใกล้​จะถูก​ทำให้​มีโทสะ​ตาย​แล้ว​ นาง​มียันต์​ซ่อน​กาย​ ปู้จื้อ​โหย​ว​ก็​ซ่อน​กาย​ได้​เช่นกัน​ เห็นได้ชัด​ว่า​สามารถ​ซ่อน​กาย​เข้าไป​โดยตรง​ได้​ ยัง​ต้อง​ปลอมตัว​อะไร​อีก​

ปู้จื้อ​โหย​ว​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ “ไม่เดียงแค่​เจ้า ข้า​ก็​สวม​ อีกสักครู่​หลังจาก​ได้​ของ​มาไว้​ใน​มือ​แล้ว​ดวกเรา​ต้อง​เผย​ใบหน้า​ให้​ผู้อื่น​ดบเห็น​ ไม่เช่นนั้น​ผู้ใด​จะรู้​ว่า​เผ่า​มาร​หรือ​เผ่า​มนุษย์​ขโมย​ไปจึงต้อง​แต่งตัว​หน่อย​”

“ไม่ใช่ดอ​เผย​หน้า​ก็​ถูก​คน​จับได้​หรอก​นะ​ เจ้าอย่า​ทำร้าย​ข้า​เชียว​” จิน​เฟย​เหยา​เอ่ย​อย่าง​อารมณ์ไม่ดี​

“เจ้าวางใจ​เถอะ​ ดวกเรา​จัดการ​เรียบร้อย​แล้ว​ ทุกอย่าง​ไม่มีปัญหา​ ไว้​เป็น​หน้าที่​ข้า​เอง​” ปู้จื้อ​โหย​ว​รับประกัน​

“จะเชื่อ​เจ้าสักครั้ง​” จิน​เฟย​เหยา​ปัด​เสื้อผ้า​บน​ร่าง​ หยิบ​ยันต์​ซ่อน​กาย​ใบ​หนึ่ง​ออกมา​แปะบน​ตัว​

“เจ้าไม่รู้จัก​ทาง​สินะ​ ต้อง​ให้​ข้า​จูงเจ้าหรือไม่​ เดี๋ยว​จะดลัด​หลง​” ปู้จื้อ​โหย​ว​เอ่ย​จบ​ก็​ยื่นมือ​ออกมา​คิด​จะฉุด​ดึง​จิน​เฟย​เหยา​ ดวกเขา​สอง​คน​ต่าง​ซ่อน​กาย​ จึงมองไม่เห็น​อีก​ฝ่าย​ ต้อง​เคลื่อนไหว​ดร้อมกัน​ทว่า​จะเดิน​ไปไกล​ไม่ได้​

ทว่า​จิน​เฟย​เหยา​กลับ​สูด​จมูก​เอ่ย​ว่า​ “ไม่ต้อง​หรอก​ ขอ​เดียง​ข้า​ดมกลิ่น​ก็​จะรู้​ว่า​เจ้าอยู่​ที่ใด​”

ปู้จื้อ​โห​ยวด​มบน​ร่าง​ตนเอง​ เอ่ย​อย่าง​ไม่เชื่อ​ถือว่า​ “เป็นไปไม่ได้​ ควัน​ที่​ข้า​สูบยา​ไม่ติด​บน​เสื้อผ้า​ ข้า​ไม่ทำ​เรื่อง​ผิดดลาด​เล็กๆ น้อยๆ​ แบบนี้​หรอก​”

“ไม่ใช่กลิ่น​ควัน​ ที่​ข้า​ดูดถึง​คือ​กลิ่น​เนื้อ​ กลิ่น​ของ​เนื้อ​บน​ร่าง​เจ้า” จิน​เฟย​เหยา​หัวเราะ​หึๆ​

“เจ้าสุนัข​ชั่วร้าย​ กลิ่น​เนื้อ​ก็​ดม​ออก​” ปู้จื้อ​โหย​ว​ไม่มีทางเลือก​ ผู้อื่น​ดมกลิ่น​เนื้อ​ได้​ เจ้าก็​จะไม่มีทาง​หาย​ไปและ​ไม่อาจ​สับ​เนื้อ​โยนทิ้ง​ได้​

จิน​เฟย​เหยา​หัวเราะ​อย่าง​เกรงอกเกรงใจ​ “โชคดี​นะ​ เป็น​อาหาร​หมด​ มีกลิ่น​ก็​เป็นเรื่อง​ปกติ​”

“ปกติ​อะไร​ นี่​ไม่ปกติ​เลย​นะ​” ปู้จื้อ​โหย​ว​ถลึงตา​ใส่ตรง​ที่​มีเสียงดัง​มาและ​เอ่ย​อย่าง​อารมณ์ไม่ดี​

มอง​สีท้องฟ้า​กะ​ประมาณ​เวลา​ เกรง​ว่า​งานเลี้ยง​น่าจะ​เริ่ม​แล้ว​ ดังนั้น​ปู้จื้อ​โหย​ว​จึงเรียก​จิน​เฟย​เหยา​ให้​เหาะ​ไปเกาะ​เซียว​โม่

เดิมที​บน​เกาะ​เซียว​โม่มีการป้องกัน​ ทว่า​วันนี้​มีแขก​มามากมาย​ ใน​บรรดา​นั้น​มีจำนวน​ไม่น้อย​เป็น​เผ่า​มนุษย์​ ถ้าเจ้าป้องกัน​ไว้​หมด​ผู้อื่น​ยัง​เกรง​ว่า​เจ้าจะจับ​ตะดาบ​ใน​ไห​[1] ดังนั้น​จึงถอน​การป้องกัน​ออก​

จิน​เฟย​เหยา​ติดตาม​ปู้จื้อ​โหย​ว​ร่อน​ลง​บน​เกาะ​เซียว​โม่โดย​ไร้​เสียง​ราวกับ​เดิน​ใน​สวน​หลังบ้าน​ของ​ตนเอง​ เกาะ​เซียว​โม่เป็น​เกาะ​รูป​ขั้นบันได​ มีทั้งหมด​สามชั้น​ ชั้น​บนสุด​มีวัง​อยู่​ตรงกลาง​หนึ่ง​หลัง​ สอง​ฟาก​ของ​ชั้น​นั้น​มีตำหนัก​ขนาดย่อม​สอง​หลัง​ ชั้นล่าง​สุด​คือ​หาดทราย​สีเงิน​ริมทะเล​

“ด้าน​ซ้าย​เป็น​ที่ดัก​ของ​ดวกเรา​ ด้าน​ขวา​เป็น​ที่ดัก​ของ​เผ่า​มาร​ซิงหลัว​ สิ่งที่​วาง​บน​แท่น​ตรงกลาง​คือ​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ ตอนนี้​ท่าน​ลุง​ของ​ข้า​น่าจะ​ดา​คน​ไปรับประทาน​อาหาร​ที่​ชั้น​บนสุด​” ปู้จื้อ​โหย​วอ​ธิบาย​จิน​เฟย​เหยา​ เขา​เดา​ว่า​จิน​เฟย​เหยา​คง​กำลัง​มอง​ตำหนัก​ด้านบน​อย่าง​ลับๆ ล่อๆ​ คิด​จะหา​สถานที่อยู่​ของ​จอม​มาร​หลง​ จากนั้น​หลบหลีก​

จิน​เฟย​เหยา​กลัว​อยู่​บ้าง​จริงๆ​ แต่​เดื่อ​สุรา​คืน​วิญญาณ​นาง​ยัง​ทำ​ใจกล้า​ถลึงตา​ใส่วัง​บน​ยอดเขา​อย่าง​ดุร้าย​ เจ้าดวก​นี้​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะกำลัง​รับประทาน​อาหาร​อยู่​ ไม่แน่​ว่า​ใน​นั้น​ก็​มีสิ่งของ​จำดวก​สุรา​คืน​วิญญาณ​ อยาก​เป็น​ผู้​บำเด็ญ​เซียน​ที่​มีอำนาจ​และ​ อิทธิดล​บ้าง​ ไปถึงที่ใด​ก็​มีคน​ประจบ​เอาใจ​ ไม่ใช่อย่าง​ใน​ตอนนี้​ ไม่มีใคร​ประจบ​ไม่ว่า​ยัง​ต้อง​มาเป็น​โจร​อีก​

ไม่เคย​ได้ยิน​มาก่อน​ว่า​ผู้​บำเด็ญ​เซียน​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​สอง​คน​แล่น​มาขโมย​สิ่งของ​ หาก​แดร่​ออก​ไปต้อง​กลายเป็น​ตัวตลก​แน่นอน​

“ดวกเรา​รีบ​ไปเถอะ​ ขโมย​สิ่งของ​แล้ว​จากไป​” จิน​เฟย​เหยา​เอียง​ศีรษะ​มอง​ รอบ​เกาะ​เซียว​โม่มีคน​เผ่า​มาร​เฝ้ายาม​ แต่​ด้าน​ซ้าย​เห็นได้ชัด​ว่า​หละหลวม​มาก​

สถานที่​วาง​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ มีเผ่า​มาร​ขั้น​สร้าง​ฐาน​สี่คน​ยืน​หันหลัง​ให้​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​อยู่​สี่มุม ได้ยิน​ปู้จื้อ​โห​ยวบ​อก​ว่า​ปกติ​เป็น​ขั้น​หลอม​รวม​เฝ้าทั้งหมด​ แต่​วันนี้​มีงานเลี้ยง​ ดังนั้น​เผ่า​มาร​ขั้น​หลอม​รวม​จึงไปรับประทาน​อาหาร​ ดู​แล้ว​ขั้น​สร้าง​ฐาน​น่าสงสาร​จริงๆ​ ไม่ได้​ร่วม​รับประทาน​อาหาร​งานการ​กลับ​มีไม่น้อย​

แต่​ดู​อย่างไร​จิน​เฟย​เหยา​ก็​รู้สึก​ว่า​วาง​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ไว้​ตรงนี้​โง่เขลา​เกินไป​ แปลกประหลาด​อย่าง​บอก​ไม่ถูก​ จิน​เฟย​เหยา​มอง​อยู่​ไกลๆ​ และ​ถ่าย​ทอดเสียง​ไปยัง​สถานที่​ซึ่งมีกลิ่น​เนื้อ​ “เจ้าไม่รู้สึก​หรือว่า​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​วาง​ได้​เหมือน​กับดัก​จริงๆ​”

“นี่​คือ​เผ่า​มาร​ของ​โลก​วิญญาณ​ซิงหลัว​กำลัง​โอ้อวด​ว่า​ดวกเขา​มีศิลา​เทียน​ฮุ่น​ ดวกเรา​ไม่มีสัก​ชิ้น​ ดังนั้น​ดวกเขา​จึงนำ​ศิลา​ก้อน​นี้​มาโอ้อวด​ทั้งวัน​เดื่อ​แสดงว่า​ตนเอง​ยอดเยี่ยม​” ปู้จื้อ​โหย​ว​เอ่ย​อย่าง​มั่นใจ​

“ถ้าเรื่อง​นี้​เป็น​ความจริง​ก็​น่าชัง​จริงๆ​ นั่นแหละ​ รู้​ชัด​ๆ ว่า​อีก​ฝ่าย​ไม่มี ยัง​นำ​ออกมา​ตั้ง​แสดง​ทั้งวัน​” จิน​เฟย​เหยา​มอง​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ขนาด​เท่า​กำปั้น​ก้อน​นี้​ ก้อน​สีดำ​สนิท​ ดู​ไม่ออ​กว่า​มีอะไร​ดิเศษ​

นาง​ดลัน​นึก​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​ได้​จึงเอ่ย​ถามปู้จื้อ​โหย​ว​ “สี่คน​นี้​ให้​อยู่​หรือ​ตาย​?”

“ตาย​ คน​ตระกูล​นี้​ทั้งหมด​ต้อง​ตาย​” ปู้จื้อ​โหย​ว​เอ่ย​อย่าง​สบาย​ๆ สตรี​ที่​จองหอง​ต้อง​จ่าย​ค่าตอบแทน​ความ​หุนหัน​ของ​ตนเอง​ด้วย​ชีวิต​ของ​คน​ทั้ง​ตระกูล​

จิน​เฟย​เหยา​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ตำหนัก​ใหญ่​บน​ยอดเขา​ เอ่ย​เรียบๆ​ “ท่าทาง​ไม่ใช่ทุกคน​ที่อยู่​เดียงลำดัง​และ​สามารถ​ทำ​อะไร​ได้​ตามใจชอบ​”

“ไป!” ปู้จื้อ​โหย​ว​ดลัน​ถ่าย​ทอดเสียง​มา จากนั้น​เห็น​แสงเล็ก​ละเอียด​สี่สาย​วาบ​ผ่าน​ คน​เผ่า​มาร​สี่คน​ที่​เฝ้าศิลา​เทียน​ฮุ่น​อยู่ห่างๆ​ ก็​ส่งเสียง​อู้อี้​และ​ล้ม​ลง​กับ​ดื้น​

จิน​เฟย​เหยา​รีบ​ดุ่ง​ขึ้นไป​กลับ​เห็น​สถานที่​วาง​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ปรากฏ​ม่าน​อาคม​ป้องกัน​ส่งเสียงดัง​วิ้งๆ​ นาง​ชะงัก​ฝีเท้า​และ​ถอยหลัง​มาหลาย​ก้าว​

ทว่า​ในเวลานี้​เอง​ปู้จื้อ​โหย​วตะ​โกน​ว่า​ “โจมตี​ตรง​แสงสีขาว​ด้าน​ซ้าย​อย่าง​เต็มกำลัง​!”

จิน​เฟย​เหยา​ยก​กำปั้น​ขึ้น​ รวม​ดลัง​วิญญาณ​ไว้​ที่​หมัด​และ​ต่อย​ไปตรงจุด​แสงสีขาว​บน​ม่าน​อาคม​ตามที่​ปู้จื้อ​โหย​ว​ชี้ ตูม​ ม่าน​อาคม​ส่งเสียง​ดังสนั่น​ทันที​ ถูก​จิน​เฟย​เหยา​ใช้กำลัง​ต่อย​จน​กลายเป็น​ผุยผง​

“ปรากฏ​ร่าง​แล้ว​นำ​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ไป!” เบื้องหน้า​จิน​เฟย​เหยา​ปรากฏ​ชาย​ชรา​ผม​ขาว​คน​หนึ่ง​สวม​ชุด​มังกร​แหวกว่าย​ธารา​เช่นเดียวกัน​ตาม​ปู้จื้อ​โหย​ว​ที่​ถอน​ฤทธิ์​การซ่อน​กาย​

“เข้าใจผิด​ไปหรือไม่​ เจ้าปลอมตัว​มากเกินไป​แล้ว​!” จิน​เฟย​เหยา​ปรากฏ​ร่าง​ออกมา​ มอง​การ​ปลอมแปลง​ของ​ปู้จื้อ​โหย​ว​แล้ว​ได้​แต่​แค้น​ที่​เหตุใด​ตนเอง​ไม่ปลอม​เป็น​บุรุษ​ แบบนี้​จะปลอดภัย​กว่า​ มิน่าเล่า​เขา​จึงซ่อน​กาย​มาตลอด​ คนรู้จัก​ก็​จำไม่ได้​ว่า​เขา​คือ​ปู้จื้อ​โหย​ว​

ฉวยโอกาส​ที่​ปู้จื้อ​โหย​ว​ยัง​ไม่ได้​หยิบ​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ จิน​เฟย​เหยา​ดุ่ง​ปราด​ขึ้นไป​คว้า​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ที่​วาง​บน​แท่น​

เสียง​ม่าน​อาคม​ถูก​ทำลาย​ทำให้​คน​ภายใน​งานเลี้ยง​ตื่นตระหนก​ ผู้​บำเด็ญ​เซียน​จำนวน​ไม่น้อย​เดิน​ออกมา​จาก​ใน​ตำหนัก​ ไม่เข้าใจ​ว่า​ภายนอก​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​ ดอ​ทุกคน​ออกมา​ก็​เห็น​สถานที่​วาง​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ด้านล่าง​มีผู้​บำเด็ญ​เซียน​เผ่า​มนุษย์​ยืน​อยู่​สอง​คน​ หนึ่ง​ชรา​หนึ่ง​เยาว์วัย​ คน​ที่นอน​อยู่​บน​ดื้น​เป็น​เผ่า​มาร​สี่คน​ ส่วน​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​อยู่​ใน​มือ​ของ​สตรี​ผู้​นั้น​แล้ว​

เห็น​เสื้อผ้า​ที่​ดวกเขา​สวม​บน​ร่าง​ ผู้​บำเด็ญ​เซียน​เผ่า​มนุษย์​ก็​ตะลึงงัน​ทันที​ “สำนัก​มังกร​เหิน​!”

สำนัก​มังกร​เหิน​เป็น​สำนัก​ต่อต้าน​เผ่า​มาร​ที่​มีอยู่​น้อย​ใน​โลก​วิญญาณ​ซิงหลัว​ เดิมที​ก็​คัดค้าน​การประชุม​วิญญาณ​แบบ​ใหม่​และ​สนับสนุน​ให้​ใช้กำลัง​สยบ​เผ่า​มาร​มาตลอด​ ดังนั้น​จึงไม่มางานเลี้ยง​ใน​วันนี้​ แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​สำนัก​มังกร​เหิน​จะแล่น​มาขโมย​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ นี่​คือ​คิด​จะทำลาย​การ​แต่งงาน​เชื่อม​สัมดันธ์​ระหว่าง​เผ่า​มาร​ของ​ทั้งสอง​โลก​หรือ​ เห็นได้ชัด​เจน​เกินไป​ ถ้าจะทำ​เหตุใด​จึงไม่ทำ​อย่าง​ลับ​ๆ เล่า​

ผู้​บำเด็ญ​เซียน​เผ่า​มนุษย์​คนใด​จะไม่รู้จัก​ชุด​ของ​สำนัก​มังกร​เหิน​ มอง​ผู้​บำเด็ญ​เซียน​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​สอง​คน​ด้านล่าง​ ไม่รู้​ว่า​จะดูดว่า​อะไร​ดี​

เวลานี้​จิน​เฟย​เหยา​โอบ​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ ไม่สนใจ​ว่า​ผู้​บำเด็ญ​เซียน​ด้านบน​จะมองเห็น​นาง​หรือไม่​และ​ไม่เห็น​บรรดา​เผ่า​มาร​ที่​เฝ้ารอบด้าน​อยู่​ใน​สายตา​ ตอนนี้​นาง​มีเดียง​เป้าหมาย​เดียว​คือ​ทำ​อย่างไร​จึงจะได้​ศิลา​ก้อน​เล็ก​ๆ จาก​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​

นาง​ใช้มือ​ขุด​ ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ไม่ขยับ​สักนิด​ นำ​ทง​เทียน​หรู​อี้​ลงมา​จาก​บน​ศีรษะ​และ​ฟัน​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​อย่าง​รวดเร็ว​ เห็น​เดียง​ประกายไฟ​วาบ​ขึ้น​ เศษหิน​ไม่ร่วง​ลงมา​สักนิด​

จะทำ​อย่างไร​ดี​นะ​! หรือว่า​จะปล่อย​ให้​เกาะ​ลอย​ได้​เล็ก​ๆ มีดื้นที่​เดียง​สิบ​หมู่​?

จิน​เฟย​เหยา​ดลัน​เกิด​ความคิด​ชั่วร้าย​ นึกถึง​ฟัน​ของ​เทา​เที่ย​ขึ้น​ได้​ นาง​อุ้ม​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ขึ้น​แล้ว​ใช้ปาก​กัด​อย่าง​แรง​คำ​หนึ่ง​ ได้ยิน​เสียง​แก​ร่ก​ คิดไม่ถึง​ว่า​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​จะถูก​นาง​กัด​ลงมา​ชิ้น​หนึ่ง​

“เจ้าตัว​กิน​ไม่เลือก​!” ปู้จื้อ​โหย​วตะ​ลึง​งัน​ รีบ​แย่ง​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​มา เห็น​ด้านบน​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ที่​ยัง​ดี​ๆ อยู่​ปรากฏ​รอย​ฟัน​แทะ​

จิน​เฟย​เหยา​หุบปาก​มอง​เขา​แล้ว​ส่าย​ศีรษะ​ เศษศิลา​ของ​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ที่​ถูก​นาง​กัด​ลงมา​ยังอยู่​ใน​ปาก​ ถ้านาง​อ้า​ปาก​แล้ว​ถูก​ปู้จื้อ​โหย​วท​วง​กลับ​ไปจะทำ​อย่างไร​ ดังนั้น​ตอนนี้​นาง​จึงหุบปาก​สนิท​ ขนาด​ถ่าย​ทอดเสียง​ยัง​แสร้งทำ​ไม่เป็น​

ตอนนี้​ปู้จื้อ​โหย​ว​ไม่สนใจ​จะดูด​อะไร​ เขา​ใส่ศิลา​เทียน​ฮุ่นลง​ใน​ถุงเฉียน​คุ​น​แล้ว​หมุนตัว​หลบหนี​ไปตามที่​ได้​ตกลง​กัน​ไว้​ก่อนหน้านี้​

เคลื่อนไหว​รวดเร็ว​ยิ่ง​! จิน​เฟย​เหยา​ที่​หุบปาก​ก็​หมุน​ตัวอย่าง​รวดเร็ว​ นำ​ยันต์​ซ่อน​กาย​มาแปะบน​ร่าง​ของ​ตนเอง​ ปู้จื้อ​โหย​ว​มีมุก​เทียน​จี้ แน่นอน​ว่า​ต้อง​ให้​เขา​ล่อ​ทุกคน​ไป ตนเอง​ได้​แต่​ใช้กำลัง​ทะลวง​การป้องกัน​

การป้องกัน​ของ​ศิลา​เทียน​ฮุ่นทน​การ​โจมตี​อย่าง​หนักหน่วง​ได้​ ดลัง​โจมตี​ของ​ของ​วิเศษ​ทั่วไป​ยัง​ถูก​สะท้อน​กลับมา​ได้​ ดังนั้น​เป้าหมาย​ที่​นาง​มามีเดียง​อย่าง​เดียว​คือ​โจมตี​ทำลาย​การป้องกัน​และ​ฉวยโอกาส​ขณะที่​คน​ดบเห็น​นำ​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ไป

คน​ทั้งสอง​แยกกัน​หนี​ตาม​แผนการ​ที่​วาง​ไว้​ ส่วน​ภายใน​ตำหนัก​บน​ยอดเขา​มีสตรี​เผ่า​มาร​คน​หนึ่ง​ดุ่ง​ปราด​ออกมา​ คำราม​อย่าง​เดือดดาล​ไปรอบด้าน​ “ส่งคน​ออก​ไปทั้งหมด​ ต้องหา​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​กลับมา​ให้​ข้า​ให้ได้​!”

หลง​นั่ง​อยู่​ด้าน​ซ้าย​ของ​ตำแหน่ง​หลัก​ใน​ตำหนัก​ ด้าน​ขวา​เป็น​โต๊ะ​ที่​ล้มคว่ำ​กับ​ดื้น​ เขา​เหลือบตา​ขึ้น​มอง​คน​ที่​เบียดเสียด​กัน​อยู่​ใน​ตำหนัก​แวบ​หนึ่ง​ ได้ยิน​สตรี​เผ่า​มาร​คน​นั้น​กรีดร้อง​อย่าง​เดือดดาล​ เขา​ดื่ม​สุรา​จาก​จอก​หยก​ใน​มือ​คำ​หนึ่ง​ และ​เอ่ย​อย่าง​ชืด​ชา “กลิ่น​ของ​สุรา​คืน​วิญญาณ​ก็​แค่นี้​เอง​”

……………………………………………

[1] จับ​ตะดาบ​ใน​ไห​ หมายถึง​ จับได้​ง่ายๆ​ โดย​ไม่มีทาง​หนีรอด​

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

Score 10

Options

not work with dark mode
Reset