คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตายบทที่ 316 วางแผนการร้าย

บทที่ 316 วางแผนการร้าย

จิน​เฟย​เหยา​ขบคิด​อย่าง​ละเอียด​ ยิ่ง​คิด​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​ของ​ปู้จื้อ​โหย​วก​ระ​ทำได้​ยาก​

บน​เกาะ​เซียว​โม่มีเผ่า​มาร​ของ​ทั้งสอง​โลก​อาศัย​อยู่​ บุคคล​สำคัญ​ก็​มีไม่น้อย​ เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​วาง​สิ่งของ​เช่น​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ไว้​สะเปะสะปะ อีก​ทั้ง​สิ่งที่​สำคัญ​ที่สุด​ไม่ใช่ปัญหา​เหล่านี้​ ทว่า​ใกล้​ที่อยู่​ของ​จอม​มาร​หลง​มากเกินไป​ แทบจะ​ขโมย​สิ่งของ​ภายใต้​หนังตา​ของ​เขา​ ถึงแม้เขา​จะเป็น​คน​สั่ง แต่​ผู้ใด​จะรู้​ว่า​เขา​จะเกิด​บ้า​ไม่ยอม​รับรู้​ขึ้น​มากะทันหัน​หรือไม่​

สุรา​คืน​วิญญาณ​ก็​เพียงแค่​ได้ยิน​มาว่า​เลิศ​รส​ จะเลิศ​รส​ขนาด​นั้น​จริง​หรือไม่​กลับ​ไม่มีผู้ใด​รู้​ ไปเสี่ยงอันตราย​เพื่อ​สิ่งที่​ไม่รู้​รสชาติ​ ไม่ค่อย​คุ้มค่า​เท่าใด​

นาง​โยน​เรื่อง​ที่​ปู้จื้อ​โห​ยวบ​อก​ว่า​มีรางวัล​ทิ้ง​ไปนอก​สมอง​ทันที​ เทียบ​กับ​ของกิน​แล้ว​ สิ่งอื่นๆ​ ล้วน​เป็น​เมฆาอัน​ล่องลอย​ ตอนนี้​ที่​จิน​เฟย​เหยา​สับสน​คือ​จอม​มาร​หลง​หรือ​สุรา​คืน​วิญญาณ​มีน้ำหนัก​มากกว่า​กัน​

ปู้จื้อ​โหย​ว​ก็​ไม่ได้​เร่งเร้า​ นั่ง​สูบยา​อยู่​ใน​ศาลา​หลิว​เฟิงมอง​บรรดา​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขึ้น​ลง​ภูเขา​และ​หุ่นเชิด​ของ​จิน​เฟย​เหยา​

เขา​รอ​ได้​แต่กลับ​มีบาง​ตัว​รอ​ไม่ได้​ พั่งจื่อ​พ่น​น้ำลาย​ใส่จิน​เฟย​เหยา​ทันที​ “อ๊บ​ อ๊บ​ อ๊บ”​

จิน​เฟย​เหยา​ได้ยิน​คำพูด​ของ​มัน​ก็​ด่าทอ​อย่าง​อารมณ์ไม่ดี​ “เจ้าตัว​ไร้ประโยชน์​ เจ้าไม่เคย​ดื่ม​สุรา​คืน​วิญญาณ​เสียหน่อย​ รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​อร่อย​ หรือว่า​ใกล้เคียง​กับ​บน​แผง​ข้างทาง​ เป็น​สิ่งที่​คน​มีอำนาจ​และ​เงินทอง​แสร้ง​ทำท่า​ไปอย่างนั้น​เอง​ ที่จริง​ไม่อร่อย​เลย​สักนิด​”

จิน​เฟย​เหยา​เคย​ตกหลุมพราง​แบบนี้​มาแล้ว​ นาง​ตัดสินใจ​ออก​ท่อง​เที่ยวหา​ประสบการณ์​ใน​โลก​วิญญาณ​ทั้งหมด​ เรื่องสำคัญ​ที่สุด​ที่​ต้อง​ทำ​คือ​ลิ้มลอง​อาหาร​อร่อย​สิบ​อันดับ​แรก​ของ​แต่​ละโลก​วิญญาณ​ ดังนั้น​นาง​เคย​เดินทาง​ไปค้น​หาอาหาร​เหล่านั้น​ที่​โลก​วิญญาณ​ซิงหลัว​โดยเฉพาะ​

ทว่า​สิ่งที่​ทำให้​นาง​ตกหลุมพราง​คือ​ต่อ​แถว​ซื้อ​ซาลาเปา​นางฟ้า​เป็น​คน​ที่​สิบ​เจ็ด​ ได้ยิน​ว่า​เป็น​ของว่าง​ที่​ต้อง​มีใน​งานเลี้ยง​น้ำชา​ของ​สำนัก​ใหญ่​ที่​สูงส่งมีอำนาจ​ เป็น​สูตร​เฉพาะ​ อีก​ทั้ง​มีขาย​แค่​ที่​เกาะ​นางฟ้า​เท่านั้น​ คิด​จะซื้อ​ต้อง​ไปเข้าคิว​ทุกวัน​ วันหนึ่ง​ขาย​เพียง​ยี่สิบ​ชุด​

จิน​เฟย​เหยา​ส่งตัว​จาก​เกาะ​ปาจิ่งเจ็ด​ครั้ง​แล่น​ไปที่​เกาะ​นางฟ้า​โดยเฉพาะ​ ต่อ​คิว​อยู่​สิบ​หก​วัน​จึงซื้อ​ซาลาเปา​นางฟ้า​ได้​หนึ่ง​ชุด​

ซาลาเปา​นางฟ้า​ทำ​อย่าง​สัปดน​ ซาลาเปา​สีขาว​ใบ​ขนาด​เท่า​กำปั้น​คู่​หนึ่ง​ จงใจทำให้​ปลาย​ซาลาเปา​แหลม​ ด้านบน​ยัง​แต้ม​สีชมพู​ ดู​แล้ว​เหมือน​หน้าอก​ของ​สตรี​ เห็น​ซาลาเปา​สัปดน​ขนาด​นี้​ จิน​เฟย​เหยา​ยัง​พา​พั่งจื่อ​นั่งลง​กิน​บน​ม้าหิน​ข้าง​ร้าน​ซาลาเปา​

นาง​แบ่ง​กับ​พั่งจื่อ​คนละ​ใบ​ นำ​ซาลาเปา​นางฟ้า​ที่​ทำให้​บุรุษ​ชื่นชอบ​ใส่ปาก​กัด​คำ​หนึ่ง​ พั่งจื่อ​และ​จิน​เฟย​เหยา​คาย​ออกมา​ตรงนั้น​ทันที​ รสชาติ​แปลกประหลาด​อย่างยิ่ง​ หวาน​ก็​ไม่หวาน​เปรี้ยว​ก็​ไม่เปรี้ยว​ ทั้ง​ยัง​มีรส​ขม​และ​เหม็นคาว​อีก​

ถ้าพั่งจื่อ​ไม่ห้าม​ไว้​ จิน​เฟย​เหยา​เกือบจะ​ถล่ม​ร้าน​ซาลาเปา​ที่​มีชื่อ​ที่สุด​ของ​โลก​วิญญาณ​ซิงหลัว​แล้ว​ นาง​ต่อ​คิว​คน​ที่​สิบ​เจ็ด​ เสีย​ศิลา​วิญญาณ​ส่งตัว​ไปมากมาย​จึงซื้อ​ซาลาเปา​ได้​ แต่​รสชาติ​เป็น​ยาพิษ​ชัด​ๆ จะไม่ให้​นาง​มีโทสะ​ได้​อย่างไร​

จิน​เฟย​เหยา​จำเรื่อง​ซาลาเปา​นางฟ้า​ได้​ แต่​พั่งจื่อ​กลับ​จำไม่ได้​ ตอนนี้​มัน​พัวพัน​จิน​เฟย​เหยา​จะให้​นาง​รับปาก​ให้ได้​ แม้แต่​เสี่ยว​หวั่น​ก็​กัด​นิ้ว​ตามมา​ปะเหลาะ​ด้วย​บอ​กว่า​ต้องการ​ดื่ม​สุรา​คืน​วิญญาณ​

ดื่ม​อะไร​เล่า​! ไม่มีแม้แต่​กระเพาะ​ ชิมรสชาติ​ไม่ได้​ ยัง​คิด​จะดื่ม​สุรา​คืน​วิญญาณ​ มอง​เสี่ยว​หวั่น​ที่​เข้ามา​ปะเหลาะ​ด้วย​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​บ่น​ใน​ใจ นาง​ไม่กล้า​พูด​ต่อหน้า​เสี่ยว​หวั่น​ว่า​เจ้าเป็น​หุ่นเชิด​ที่​รับรู้​รสชาติ​ไม่ได้​ ยัง​จะกิน​อาหาร​อะไร​อีก​ ตอน​กิน​ถังหู​ลู​ครั้ง​ที่แล้ว​นาง​เคย​พูด​ไปครั้งหนึ่ง​ เสี่ยว​หวั่น​ร้องไห้​อยู่​สามวัน​เต็มๆ​ ทำเอา​ฮูหยิน​หวา​และ​เนี่ย​น​ซีแล่น​ออกมา​ทอดถอนใจ​ปลงชีวิต​ด้วย​สีหน้า​เศร้าสร้อย​ หวา​หวั่น​ซีกลับ​ออกมา​กรีด​มือ​วาด​เท้า​ด่าทอ​ทั้งวัน​ทรมาน​จิน​เฟย​เหยา​จน​ศีรษะ​พอง​โต​ราวกับ​โอ่ง​

มอง​พั่งจื่อ​พา​หุ่นเชิด​มาก่อกวน​จิน​เฟย​เหยา​ ปู้จื้อ​โหย​ว​ก็​อด​ยิ้ม​ไม่ได้​ นำ​ขวด​หยก​เล็ก​ๆ ขนาด​เท่า​นิ้วมือ​ออกมา​โยน​ให้​จิน​เฟย​เหยา​

“นี่​อะไร​?” จิน​เฟย​เหยา​นิ่งอึ้ง​ เปิด​ขวด​หยก​ออก​อย่าง​สงสัย​

พอ​เปิด​ขวด​หยก​ กลิ่นหอม​ที่​ทำให้​คน​รู้สึก​สดชื่น​ก็​ลอย​ออกมา​ เมื่อ​คน​ได้กลิ่น​จะมีความรู้สึก​สูญเสีย​จิตใจ​ทันที​ ทว่า​หลังจาก​หลงใหล​แล้ว​ จิตใจ​ก็​จะรู้สึก​สดชื่น​ราวกับ​สูญเสีย​การควบคุม​

“นี่​คือ​สุรา​คืน​วิญญาณ​?” จิน​เฟย​เหยา​ประหลาดใจ​กับ​กลิ่นหอม​นี้​ สังเกตเห็น​สายตา​ของ​พั่งจื่อ​ดุร้าย​ นาง​จึงรีบ​ส่งขวด​เข้า​ปาก​ทันที​ จากนั้น​ชะงักงัน​

ปู้จื้อ​โหย​วก​ระ​พริบตา​เอ่ย​ว่า​ “นี่​คือ​ขวด​ที่​เคย​บรรจุ​สุรา​คืน​วิญญาณ​ ข้า​นำ​ออกมา​ให้​เจ้าลอง​ดม​”

สายตา​ของ​จิน​เฟย​เหยา​จ้องมอง​ปู้จื้อ​โหย​ว​ราวกับ​อยาก​ฆ่าคน​ เวลานี้​อยาก​จะฉีก​เจ้าคน​ชอบ​แกล้ง​ให้​เป็น​ชิ้นๆ​ จากนั้น​โปรย​ลง​ไปจาก​ศาลา​หลิว​เฟิง

“อย่า​มีโทสะ​ สุรา​นี้​มีจริงๆ​ เพียงแต่​ข้า​ดื่ม​หมด​แล้ว​ ถ้าเจ้าอยาก​ชิมจริงๆ​ ก็​เลีย​เถอะ​ ถึงจะดื่ม​หมด​แล้ว​ ทว่า​เลีย​ดู​ก็​ยังมี​รสชาติ​” ปู้จื้อ​โหย​ว​หัวเราะ​ฮ่าๆ หยอกล้อ​จิน​เฟย​เหยา​อย่าง​สนุกสนาน​

“ถือว่า​เจ้าอำมหิต​ ถ้าเจ้าไม่นำ​สุรา​คืน​วิญญาณ​ทั้ง​ไห​มา ดู​สิว่า​ข้า​จะจัดการ​เจ้าอย่างไร​” ใต้เท้า​หลง​พ่ายแพ้​ให้​กับ​สุรา​คืน​วิญญาณ​ต่อหน้า​ขวด​หยก​เล็ก​ๆ ที่​เคย​บรรจุ​สุรา​ใบ​หนึ่ง​

ขอ​เพียง​มีสุรา​คืน​วิญญาณ​ ใต้เท้า​หลง​ก็​เป็น​เพียง​เมฆาล่องลอย​ ตะกละ​ตาย​ขลาด​เขลา​ ท้อง​แตก​ตาย​เปี่ยม​ความกล้า​จริงๆ​[1] สุดท้าย​ก็​ยัง​กลัว​ความตาย​

จิน​เฟย​เหยา​โยน​ขวด​หยก​ให้​พั่งจื่อ​เลีย​ และ​เริ่ม​ใช้การ​ถ่าย​ทอดเสียง​หารือ​เรื่อง​ขโมย​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ นี่​ไม่ใช่เรื่องเล็ก​ๆ ย่อม​ต้อง​หารือ​ให้​ดี​

พวกเขา​สอง​คน​หารือ​เรื่อง​ไร้​คุณธรรม​กัน​ ส่วน​พั่งจื่อ​และ​เสี่ยว​หวั่น​นำ​ขวด​หยก​ไปเจ้าดม​ที​ข้า​ดม​ที​และ​เริ่ม​เลีย​ด้วย​ท่าทาง​ตะกละ​ราวกับ​หิวโหย​มาหลาย​ชาติ​ ความเคลื่อนไหว​ที่​เสี่ยว​หวั่น​เลีย​ขวด​หยก​กลับ​ทำให้​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​จำนวนมาก​ที่​เดินผ่าน​มามีนิสัย​สัตว์ป่า​ปะทุ​ขึ้น​ เกิด​ความคิด​สัปดน​ พลัง​ทำลายล้าง​มาก​เพียง​พอที่จะ​ใช้ยิ้ม​เดียว​ล่ม​เมือง​ได้​

จิน​เฟย​เหยา​ที่​ไม่ได้​ดื่ม​สุรา​คืน​วิญญาณ​และ​ยัง​ขัดเขิน​ที่จะ​เลีย​ขวด​แผ่​พลัง​กดดัน​ออก​ไปทำให้​บรรดา​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ที่​กาง​กระโจม​เล็ก​ๆ ล้อมวง​ดู​เสี่ยว​หวั่น​เลีย​ขวด​หวาดกลัว​จน​ไร้​สามารถ​ หลังจาก​ขับไล่​คน​ไปนาง​ก็​แย่ง​ขวด​หยก​จาก​มือ​เสี่ยว​หวั่น​มาเก็บ​ ทำให้​เสี่ยว​หวั่น​ทั้ง​ร่ำไห้​ทั้ง​อาละวาด​

สุดท้าย​จิน​เฟย​เหยา​ไร้​หนทาง​ ได้​แต่​พา​พวกเขา​ไปจาก​เกาะ​ก้วนถิง​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​

ปู้จื้อ​โหย​ว​ใช้ศักดิ์​ฐานะ​ของ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​เผ่า​มนุษย์​เข้าร่วม​งานประชุม​วิญญาณ​แบบ​ใหม่​ ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ เขา​จึงไม่ละทิ้ง​การประชุม​วิญญาณ​มาตลอด​ คน​ที่​มีอิสร​เสรี​อย่าง​เขา​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะยอม​มาเข้าร่วม​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ ทำตัว​เป็น​ปริศนา​

เดิมที​จิน​เฟย​เหยา​คร้าน​จะถามไถ่ แต่​ปู้จื้อ​โหย​วก​ลับ​เป็น​ฝ่าย​เล่า​ออกมา​ เข้าร่วม​งานเลี้ยง​ประชุม​วิญญาณ​ก่อนหน้านี้​ก็​เพื่อ​มาโลก​วิญญาณ​ซิงหลัว​ นอกจาก​ฉวยโอกาส​แอบดู​เรื่อง​เล็กน้อย​ขาย​ให้​ซื่อ​เต้า​จิงแล้วก็​เพื่อ​ติดต่อ​เผ่า​มาร​ซิงหลัว​ให้​เผ่า​มาร​เป่ยเฉิน​

ก่อนหน้านี้​ไปมาไม่สะดวก​ การสื่อสาร​ก็​น้อย​ โลก​อื่นๆ​ ก็​เช่นเดียวกัน​ ถึงกับ​คิด​จะสร้าง​วง​เวท​ส่งตัว​ระหว่าง​สอง​โลก​สาย​หนึ่ง​ เนื่องจาก​หา​สถานที่​สร้าง​วง​เวท​ส่งตัว​ที่​ปลอดภัย​บน​ทะเล​หรู​เมิ่งไม่พบ​จึงล่าช้า​ออก​ไป

การ​ค้นพบ​วง​เวท​ส่งตัว​ใน​ครั้งนี้​แก้ไขปัญหา​การติดต่อสื่อสาร​ระหว่าง​สอง​โลก​แล้ว​ ปู้จื้อ​โหย​ว​ก็​ไม่ต้อง​เป็น​คนกลาง​อีก​ แต่​ต่อ​มายัง​เข้า​ร่วมงาน​ประชุม​วิญญาณ​เพราะ​มีเป้าหมาย​ คน​เผ่า​มาร​ทั้งสอง​เผ่า​คิด​จะใช้การ​ประลอง​ใน​งาน​ประชุม​วิญญาณ​มาแก้ไข​ความขัดแย้ง​ การ​ประลอง​รอบ​ที่​ปู้จื้อ​โหย​วอ​ยู่​จึงมีความสำคัญ​อย่างยิ่ง​ เขา​สามารถ​ควบคุม​ผลลัพธ์​ได้​อย่าง​น้อยที่สุด​เรื่อง​หนึ่ง​

ถึงอย่างไร​จิน​เฟย​เหยา​ก็​ไม่เชื่อ​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ระดับสูง​จำนวนมาก​รู้​ฐานะ​ของ​ปู้จื้อ​โหย​ว​ ถ้าใน​บรรดา​นั้น​ไม่ได้​มีแผนการ​ร้าย​และ​ผลประโยชน์​ จะปล่อย​ให้​ลูกนอกสมรส​ของ​เผ่า​มาร​คน​หนึ่ง​เป็นตัวแทน​เผ่า​มนุษย์​ลง​ประลอง​อย่าง​เปิดเผย​ได้​อย่างไร​ ไม่เช่นนั้น​ก็​เป็น​เพราะ​พลัง​อำนาจ​ของ​ตระกูล​เขา​มหาศาล​จน​ผู้อื่น​ไม่กล้า​เอ่ย​วาจา​

เนื่องจาก​ปู้จื้อ​โหย​ว​เข้า​ร่วมงาน​ประชุม​วิญญาณ​จึงต้อง​อาศัย​อยู่​บน​เกาะ​ฮวา​เยวี่ย​เหมือน​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ของ​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​คนอื่นๆ​ ที่​ติด​ตามมา​ จิน​เฟย​เหยา​ไม่กล้า​ไปสถานที่​แห่ง​นี้​ เกรง​ว่า​ด้านใน​จะมีคนรู้จัก​มากมาย​ อยู่ห่างๆ​ ไว้​ก่อน​ดีกว่า​

ทั้งสอง​คน​นั่ง​พรม​บิน​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ปล่อย​ให้​พรม​บิน​เหาะ​เหิน​สะเปะสะปะกลางอากาศ​พลาง​วิเคราะห์​ว่า​จะขโมย​สิ่งของ​อย่างไร​จึงไม่แหวก​หญ้า​ให้​งูตื่น​

ได้ยิน​ปู้จื้อ​โหย​ว​เอ่ย​แนะนำ​ จิน​เฟย​เหยา​จึงรู้​ว่า​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​เป็น​ศิลา​ที่​เกิดขึ้น​เอง​ใน​ฮุ่นตุ้น​แห่ง​ฟ้าดิน​ขณะ​เบิก​ฟ้าผ่า​พิภพ​ ตัว​มัน​เอง​เดิมที​เป็น​ของ​วิเศษ​ชั้นยอด​ชิ้น​หนึ่ง​ ไม่เคย​ผ่าน​กระบวนการ​ โยน​ออกมา​ก็​ใหญ่​ถึงร้อย​ห​ลี่​ สามารถ​ทับ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​แปลง​จิต​ตาย​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ราวกับ​ใช้นิ้วมือ​บี้​มด​เล็ก​ๆ

เล่าขาน​กัน​ว่า​ใน​อดีต​มีศิลา​เทียน​ฮุ่น​จำนวนมาก​ แต่​ตาม​วัน​เวลา​ที่​เคลื่อน​คล้อย​ไป ศิลา​เทียน​ฮุ่น​จำนวนมาก​ถูก​ใส่ลง​ไปใน​พื้นที่​มิติ​ และ​หลอม​ให้​กลายเป็น​พื้นที่​มิติ​วิเศษ​ที่​ใช้เป็น​ของ​วิเศษ​ชั้นยอด​ได้​ทั้ง​ยังมี​พื้นที่​กว้างขวาง​ ตอนนี้​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​เหลือ​น้อยลง​ทุกที​ อย่าง​ครั้งนี้​เผ่า​มาร​ซิงหลัว​ยอม​นำ​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ชิ้น​หนึ่ง​มาเป็น​สินเดิม​เจ้าสาว​นับว่า​มือเติบ​แล้ว​

ที่แท้​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​สามารถ​หลอม​สร้าง​พื้นที่​มิติ​ได้​ จิน​เฟย​เหยา​พลัน​นึกถึง​เกาะ​ลอย​ได้​ของ​ตนเอง​ ถ้าเพิ่ม​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​เข้าไป​จะสามารถ​เปลี่ยน​จาก​พื้นที่​สิบ​หมู่​ให้​กลายเป็น​ร้อย​หมู่​ได้​หรือไม่​?

ระหว่าง​ที่​คิด​นาง​เริ่ม​หมายตา​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ ต่อให้​เอา​ไปทั้ง​ก้อน​ไม่ได้​ก็​ต้อง​ได้​เศษศิลา​เล็กน้อย​มา เพิ่ม​ได้​อีก​หนึ่ง​หมู่​นับ​เป็นเรื่อง​ดี​ ตอนนี้​เบียดเสียด​จน​ไม่ไหว​แล้ว​

พูด​เรื่อง​ศิลา​เทียน​ฮุ่นจบ​ ปู้จื้อ​โหย​ว​ก็​นำ​แผนที่​ของ​เกาะ​เซียว​โม่ฉบับ​หนึ่ง​ออกมา​ชี้ให้​นาง​ดู​ว่า​ที่ใด​คือ​สถานที่​ซึ่งเผ่า​มาร​ซิงหลัว​อาศัย​ ที่ใด​คือ​สถานที่​ซึ่งเผ่า​มาร​เป่ยเฉิน​อาศัย​ ส่วน​เรื่อง​ศิลา​เทียน​ฮุ่น​กลับ​ไม่เหมือน​ที่​จิน​เฟย​เหยา​คิด​ ไม่ได้​ซ่อน​ไว้​ใน​สถานที่​ซึ่งมีคน​เฝ้าแน่นหนา​ ทว่า​วาง​ไว้​ใน​ตำแหน่ง​สะดุดตา​ที่สุด​บน​เกาะ​เซียว​โม่

“เพราะเหตุใด​จึงวาง​ไว้​ตรงนี้​ ไม่กลัว​คน​ขโมย​หรือ​?” นาง​มอง​บน​แผนที่​ ศิลา​เทียน​ฮุ่น​ถูกวาง​ไว้​ตรง​ประตู​ใหญ่​ของ​ที่พัก​เผ่า​มาร​ซิงหลัว​ จิน​เฟย​เหยา​หาง​ตา​กระตุก​ เอ่ย​ถามอย่าง​หมด​วาจา​

ปู้จื้อ​โหย​วอ​ธิบาย​ว่า​ “สถานที่​ยิ่ง​กว้างขวาง​ยิ่ง​ขโมย​ไม่สะดวก​ ตรง​ประตู​ใหญ่​เห็นได้ชัด​ขนาด​นี้​จะมีใคร​กล้า​ไปขโมย​ เป็นไปไม่ได้​ที่​เผ่า​มาร​หลัว​ซิงจะขโมย​สิ่งของ​ของ​ตนเอง​ เผ่า​มนุษย์​ไม่กล้า​ไปขโมย​ เผ่า​มาร​เป่ยเฉิน​ก็​ขัดเขิน​ที่จะ​ไปขโมย​ ดังนั้น​ที่นี่​จึงเป็น​สถานที่​ที่​ปลอดภัย​ที่สุด​”

“ปลอดภัย​อะไร​ ผู้ใด​บอ​กว่า​ไม่มีใคร​ไปขโมย​ ตรงนี้​ก็​มีนั่ง​อยู่​สอง​คน​กำลัง​เตรียม​จะไปขโมย​มัน​” จิน​เฟย​เหยา​ยักไหล่​และ​หัวเราะ​เสียดสี​

“อย่า​พูดจา​เหลวไหล​ พวกเรา​สอง​คน​จะไปขโมย​สิ่งของ​ได้​อย่างไร​ ไม่หรอก​ เลือก​วัน​มิสู้สบ​วัน​[2] สามวัน​ให้หลัง​มีงานเลี้ยง​ขนาดใหญ่​ที่​เผ่า​มนุษย์​ต้อง​มา ถึงตอนนั้น​พวกเรา​สอง​คน​ปะปน​เข้าไป​หยิบฉวย​สิ่งของ​ นี่​คือ​เสื้อผ้า​จำไว้​ว่า​ต้อง​ผลัดเปลี่ยน​” ปู้จื้อ​โหย​ว​เอ่ย​แล้ว​หยิบ​ชุด​มังกร​แหวกว่าย​ธารา​อัน​งดงาม​ออก​มาจาก​ถุงเฉียน​คุ​น​

จิน​เฟย​เหยา​มอง​ชุด​นี้​เห็นได้ชัด​ว่า​เป็น​ชุด​เครื่องแบบ​สำนัก​จึงเอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ขมขื่น​ “เวลานี้​ใต้เท้า​หลง​คิด​จะให้​สำนัก​นี้​แบกรับ​ความผิด​สินะ​ ขนาด​ชุด​ก็​เตรียม​ไว้​เรียบร้อย​ คง​ไม่ได้คิด​จะเริ่ม​สงคราม​หรอก​นะ​”

“จะเป็นไปได้​อย่างไร​ อย่าง​มาก​ที่สุด​ก็​ให้​เผ่า​มนุษย์​ของ​โลก​วิญญาณ​ซิงหลัว​ทำลาย​สำนัก​แห่ง​นี้​เอง​” ปู้จื้อ​โหย​ว​ส่าย​ศีรษะ​ เอ่ย​เพียง​ผิวเผิน​

“พวก​เจ้าเป็น​คน​ทำการ​ใหญ่​จริงๆ​ ความคิด​ของ​คน​อย่าง​ข้า​ตาม​ไม่ทัน​เลย​สักนิด​ ถึงอย่างไร​ข้า​ก็​ไม่สนใจ​ว่า​พวก​เจ้าจะมีแผนการ​ร้าย​อะไร​ ขอ​เพียง​มอบ​สิ่งของ​ที่​ตกลง​กัน​ไว้​ให้​ข้า​ได้​ เรื่อง​อื่น​ก็​ไม่เกี่ยวกับ​ข้า​” จิน​เฟย​เหยา​กอดอก​เอ่ย​วาจา​

ปู้จื้อ​โหย​ว​แย้มยิ้ม​ขึ้น​ “เจ้าวางใจ​เถอะ​ ไม่มีใคร​คาดหวัง​ให้​เจ้าใช้สมอง​ช่วยเหลือ​หรอก​”

……………………………………………..

[1] มาจาก​ หิว​ตาย​ขลาด​เขลา​ อิ่ม​ตาย​เปี่ยม​ความกล้า​ หมายถึง​ คน​ที่​กล้า​เสี่ยงอันตราย​ย่อม​ได้​ผลประโยชน์​ ส่วน​คน​ที่​ไม่กล้า​ย่อม​ไม่ได้​อะไร​

[2] เลือก​วัน​มิสู้สบ​วัน​ หมายถึง​ ปล่อย​ให้​เป็น​ตาม​ธรรมชาติ​ มาเจอ​กัร​แล้วก็​ทำ​เสีย​เลย​

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

Score 10

Options

not work with dark mode
Reset