คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตายบทที่ 299 จากไป

บทที่ 299 จากไป

จิน​เฟย​เหยา​มอง​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​สร้าง​ฐาน​สามคน​เหาะ​มาก็​รู้สึก​หงุดหงิด​แทบตาย​ ภายใน​สามสิบ​วัน​มีผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ปรากฏ​ขึ้น​สิบ​เจ็ด​ระลอก​

ความเคลื่อนไหว​ของ​กระจก​สภาพ​โลก​วิญญาณ​ใหญ่โต​เกินไป​ เสาแสงแบบนี้​ไม่ต้อง​เดิน​ทางผ่าน​มาก็​สามารถ​มองเห็น​ได้​แต่ไกล​ หาก​มิใช่จิน​เฟย​เหยา​มีพลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ เสาแสงและ​เกาะ​ลอย​ได้​เล็ก​ๆ ก็​เพียงพอ​จะทำให้​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ที่​มาตา​แดงก่ำ​ด้วย​ความริษยา​ บังเกิด​ความคิด​ปล้น​ชิง ยิ่ง​ไม่ต้อง​เอ่ย​ถึงว่า​ที่นี่​คือ​โลก​วิญญาณ​หนาน​เฟิงที่​มีคน​ชั่วร้าย​อยู่​เต็มไปหมด​

“พั่งจื่อ​ อานุภาพ​ของ​เจ้าใช้ไม่ได้​เลย​ ทำ​อย่างไร​จึงสามารถ​เลื่อนขั้น​ได้​เร็ว​ขึ้น​หน่อย​ ขนาด​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​หลอม​รวม​ก็​ยัง​ไม่กลัว​เจ้าเลย​ นำ​พลัง​ที่​ทำ​ลูก​ออกมา​ ตั้งใจ​เลื่อนขั้น​หน่อย​” จิน​เฟย​เหยา​ยืน​เท้าสะเอว​อยู่​ข้าง​พั่งจื่อ​ สั่งสอน​อย่าง​อารมณ์ไม่ดี​

พั่งจื่อหด​ร่าง​ให้​มีขนาด​เท่า​นาง​และ​มอง​นาง​ด้วย​สีหน้า​โง่งม ไม่รู้​ว่า​มัน​ได้ยิน​หรือไม่​ ไม่เห็น​ขยับเขยื้อน​สักนิด​

จิน​เฟย​เหยา​มองดู​อย่าง​ละเอียด​ พลัน​พบ​ว่า​มัน​กำลัง​นอนหลับ​ทั้งๆ ที่​ลืมตา​อยู่​ครึ่งหนึ่ง​ มิน่าเล่า​จึงไม่มีปฏิกิริยา​กับ​การ​สั่งสอน​ของ​นาง​ กลายเป็น​ว่า​เมื่อ​ครู่​พูด​อย่าง​เสียเปล่า​อยู่​นาน​ จิน​เฟย​เหยา​ยก​ขา​ขึ้น​เตะ​พั่งจื่อ​ไป​กระแทก​เกาะ​ลอย​ได้​เล็ก​ๆ อย่าง​เดือดดาล​

พั่งจื่อ​หัว​กระแทก​เกาะ​ลอย​ได้​จน​ตื่นขึ้น​มา มัน​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ไป​รอบด้าน​ เมื่อ​พบ​ว่า​ตนเอง​อยู่​บน​เกาะ​ลอย​ได้​จึงวางใจ​ ก็​หัว​เอียง​หลับ​ลง​กับ​พื้น​อีก​

“น่า​โมโห​ยิ่งนัก​!” จิน​เฟย​เหยา​ด่าทอ​อย่าง​เดือดดาล​ หันหน้า​ไป​มอง​กระจก​สภาพ​โลก​วิญญาณ​ คำนวณ​วัน​ดู​น่าจะ​ใกล้​เสร็จ​แล้ว​

เสียงดัง​วิ้งๆ​ รัศมี​แสงที่​กระจก​สภาพ​โลก​วิญญาณ​ยิง​ออก​ไป​ค่อยๆ​ ถูก​เก็บ​กลับมา​ หลังจาก​แสงรัศมี​หาย​ไป​หมด​ วง​เวท​บน​พื้น​ก็​หดกลับ​เข้ามา​อยู่​ใน​กระจก​สภาพ​โลก​วิญญาณ​ หลังจาก​บาน​กระจก​กระพริบ​แสงก็​กลับคืน​สู่ความเงียบสงบ​

จิน​เฟย​เหยา​หยิบ​กระจก​สภาพ​โลก​วิญญาณ​ขึ้น​ หลังจาก​ใช้การรับรู้​ถ่ายเท​เข้าไป​แล้ว​มองดู​ ใน​แผนที่​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​ปรากฏ​แผนที่​โลก​วิญญาณ​หนาน​เฟิงแล้ว​ โลก​วิญญาณ​หนาน​เฟิงบน​แผนที่​มีขนาด​แค่​เส้น​เล็ก​ละเอียด​ สามด้าน​ติดกับ​แผ่นดินใหญ่​ อีก​ด้าน​หนึ่ง​ติด​ทะเล​ แม้แต่​เมือง​หยวน​และ​เมือง​จุ้ย​เทียน​ก็​มีสัญลักษณ์​อยู่​บน​นั้น​

ส่วน​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​กลับ​เปลี่ยนเป็น​มีขนาดเล็ก​อย่าง​น่าสงสาร​ ท่าทาง​สามพันปี​มานี้​ไม่เคย​เกิด​เรื่องใหญ่​ขึ้น​มาก่อน​

การ​สู้รบ​ครั้ง​ที่แล้ว​เกิดขึ้น​ที่​โลก​ระดับ​เทพ​ จุด​นี้​เนื่องจาก​ไม่ได้​ไป​โลก​ระดับ​เทพ​ ดังนั้น​แผนที่​ยัง​เป็น​เหมือนเดิม​ ส่วน​ที่​มีสีขาว​คือ​โลก​ระดับ​วิญญาณ​ ส่วน​เล็ก​ๆ สีเขียว​ที่​ปรากฏ​ขึ้น​รางๆ​ บน​นั้น​คือ​โลก​ระดับ​เทพ​ บน​นั้น​ไม่ได้​เขียน​ชื่อ​เป็นพิเศษ​ เพียงแต่​เนื่องจาก​อยู่​เหนือ​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​ ดังนั้น​จึงเขียน​ด้วย​อักษร​แบบ​เดียวกัน​ว่า​โลก​เทพ​เป่ยเฉิน​

“ข้า​อยาก​ไป​โลก​วิญญาณ​ซิงหลัว​ แต่​ข้า​ไม่รู้​ว่า​จะไป​อย่างไร​ จะส่งนก​ปีก​สวรรค์​ไป​ถามเสี่ยว​ปู้​หรือไม่​” จิน​เฟย​เหยา​มอง​กระจก​สภาพ​โลก​วิญญาณ​อย่าง​ละเอียด​ รู้สึก​สงสัย​อยู่​บ้าง​

ทันใดนั้น​ นาง​ก็​สังเกตเห็น​ตรง​ริมทะเล​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​มีจุด​สีแดง​ ส่วน​บน​โลก​วิญญาณ​ซิงหลัว​ก็​มีจุด​สีแดง​เล็ก​ๆ สามแห่ง​ จิน​เฟย​เหยา​รีบ​เลื่อน​แผน​ที่มา​ดู​ พบ​สถานที่​บน​ทะเล​ที่​นำไปสู่​โลก​วิญญาณ​ซิงหลัว​ยังมี​จุด​สีแดง​เล็ก​ๆ หลาย​จุด​

“หรือว่า​นี่​คือ​วง​เวท​ส่งตัว​หรือ​อุโมงค์​?” จิน​เฟย​เหยา​คิดถึง​ความเป็นไปได้​นี้​ก็​รู้สึก​ตื่นเต้น​ขึ้น​มา ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ต้อง​ไป​ดูก่อน​

นาง​หาย​ร่าง​กลับมา​ที่​เกาะ​ลอย​ได้​ เตะ​พั่งจื่อ​ปลุก​ให้​มัน​ตื่น​ จากนั้น​รีบ​เดิน​เข้าไป​หน้า​กระท่อม​ที่​ต้า​นิว​อาศัย​อยู่​ก่อนหน้านี้​แล้ว​ตะโกน​บอก​ข้างใน​ว่า​ “พวกเรา​จะไป​แล้ว​ เจ้าอยู่​ที่นี่​คนเดียว​ก่อน​ชั่วคราว​ รอ​ให้​ข้า​หา​สถานที่​ปลอดภัย​ได้​จะมาจัดการ​ร่าง​ให้​เจ้า ตอนนี้​เจ้าใช้ไป​ก่อน​ชั่วคราว​”

ใน​กระท่อม​เงียบกริบ​ ไม่มีคน​ตอบรับ​คำพูด​นาง​ ทว่า​จิน​เฟย​เหยา​ไม่ใส่ใจเลย​สักนิด​ มอบหมาย​ให้​เสี่ยว​หง​และ​เสี่ยว​ลวี่​ดูแล​เกาะ​ลอย​ได้​ จากนั้น​นาง​ก็​หิ้ว​พั่งจื่อ​เดิน​ออกจาก​เกาะ​

จิน​เฟย​เหยา​เก็บ​เกาะ​ลอย​ได้​แล้ว​พา​พั่งจื่อ​รุด​ไป​ยัง​สถานที่​ที่​มีจุด​สีแดง​

สถานที่​ที่​มีจุด​สีแดง​อยู่​ใน​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​ นาง​ออกจาก​โลก​วิญญาณ​หนาน​เฟิงก่อน​ หลีกเลี่ยง​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ที่​ลาดตระเวน​ชายแดน​ก็​เข้า​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​อย่าง​ง่ายดาย​

ถึงแม้นาง​มีชื่อเสียง​เลวร้าย​ แต่​ทุกคน​ไม่ได้​มีภาพเหมือน​ของ​นาง​อยู่​ใน​มือ​ อีก​ทั้ง​ตอนนี้​นาง​มีพลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ ขอ​เพียง​ไม่ใช่ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​กลุ่ม​ใหญ่​มาสกัด​ขัดขวาง​ ต่อให้​มีคน​เห็น​ก็ได้​แต่​กิน​ฝุ่น​ด้านหลัง​ของ​นาง​

จิน​เฟย​เหยา​เหาะ​เหิน​ครึ่ง​เดือน​ก็​มาถึงสถานที่​ที่​มีจุด​สีแดง​ ที่นี่​เป็น​แหลม​อัน​ไร้​ผู้คน​แห่ง​หนึ่ง​

นี่​คือ​แหลม​ที่​สร้าง​ขึ้น​จาก​เศษหิน​และ​หาดทราย​ เวลานี้​พอดี​เป็น​ฤดู​ที่​เต่า​เจ็ด​สีขึ้นฝั่ง​มาวางไข่​ บน​ทราย​จึงมีเต่า​เจ็ด​สีจำนวนมาก​กำลัง​ขุด​หลุม​ทราย​วางไข่​ ส่วน​ตำแหน่ง​ของ​จุด​สีแดง​ก็​อยู่​ใกล้​ๆ

จิน​เฟย​เหยา​นำ​กระจก​สภาพ​โลก​วิญญาณ​มาเปรียบเทียบ​ มอง​ลง​ไป​จาก​กลางอากาศ​ จุด​สีแดง​อยู่​ที่นี่​ ทว่า​นาง​ค้นหา​อยู่​นาน​ก็​ไม่พบ​สถานที่​ที่​น่าสงสัย​บน​แหลม​แห่ง​นี้​

“จริงๆ​ เลย​ ใช้ศิลา​วิญญาณ​ชั้น​กลาง​ของ​ข้า​ไป​ห้า​หมื่น​กว่า​ก้อน​ เจ้าจะบอก​ให้​ละเอียด​หน่อย​ไม่ได้​หรือ​?” จิน​เฟย​เหยา​เก็บ​กระจก​สภาพ​โลก​วิญญาณ​ลง​ใน​ถุงเฉียน​คุ​นอ​ย่าง​ไม่พอใจ​ จากนั้น​เก็บ​ไข่เต่า​เจ็ด​สีหลาย​สิบ​ใบ​ ใช้เวท​อัคคี​ย่าง​แล้​วหา​ก้อนหิน​นั่งลง​รับประทาน​

พั่งจื่อ​ก็​นั่ง​ปอก​ไข่เต่า​อยู่​ด้าน​ข้าง​แล้ว​ยัด​ใส่ปาก​ไม่หยุด​ จิน​เฟย​เหยา​เห็นท่า​ทางการ​กิน​ของ​มัน​ก็​อด​ด่าทอ​ไม่ได้​ “เจ้ากิน​ช้าๆ หน่อย​ได้​หรือไม่​ เป็น​ผี​หิวโหย​กลับชาติมาเกิด​หรือ​ หาดทราย​แห่ง​นี้​เต็มไปด้วย​ไข่เต่า​ กิน​เสร็จ​ค่อย​ย่าง​อีก​ ดูท่า​ทางการ​กิน​ของ​เจ้าสิ แค่​ชั่วพริบตา​ก็​กิน​ไป​สามสี่สิบ​ฟอง​แล้ว​”

“อ๊บ!​ อ๊บๆๆ”​ พั่งจื่อ​ชี้ไข่เต่า​แล้ว​ร้อง​อย่าง​ไม่ยินยอม​

จิน​เฟย​เหยา​ก็​เห​ล่ม​มอง​มัน​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​สงบนิ่ง​ว่า​ “ข้า​เคย​พูด​เช่นนั้น​หรือ​? ดูเหมือน​ข้า​จะจำได้​ว่า​จะไม่กิน​อาหาร​ที่​ไม่อร่อย​เยอะ​ๆ อีก​ แต่​ข้า​ไม่ได้​บอ​กว่า​จะไม่กิน​อาหาร​อร่อย​มาก​ๆ ไข่เต่า​เจ็ด​สีเลิศ​รส​อย่างยิ่ง​ ข้า​กิน​มาก​หน่อย​จะกลัว​อะไร​ อีก​ทั้ง​ข้า​ก็​ไม่ได้​กิน​มาก​เท่าไร​ แค่​ห้าสิบ​หกสิบ​ฟอง​เท่านั้นเอง​”

พั่งจื่อ​กลอกตา​ใส่นาง​ ไข่เต่า​ถือเป็น​ของ​เลิศ​รส​อะไร​ เห็นได้ชัด​ว่า​มีของกิน​ก็​กิน​จน​พุงกาง​เหมือน​เมื่อก่อน​ ยัง​มีหน้า​มาบอ​กว่า​ต่อไป​ตนเอง​จะกิน​แต่​อาหาร​อร่อย​และ​ไม่กิน​มาก​ๆ อีก​

จิน​เฟย​เหยา​ยัด​ไข่เต่า​ใบ​หนึ่ง​ใส่ปาก​ต่อ​แล้ว​พูดจา​อู้อี้​ว่า​ “พั่งจื่อ​ อีกสักครู่​เจ้าลง​ทะเล​ไปดู​หน่อย​ว่า​ใน​ทะเล​มีสถานที่​แปลกประหลาด​อะไร​หรือไม่​ บน​ฝั่งข้า​หา​แล้ว​ ไม่พบ​สถานที่​ที่​น่าสงสัย​”

พั่งจื่อ​ที่​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​ยัด​ไข่เต่า​ใส่ปาก​พยักหน้า​ตอบรับ​

เต่า​เจ็ด​สีหลั่ง​น้ำตา​มอง​พวก​นาง​กิน​อย่าง​รวดเร็ว​และ​ดุร้าย​ กิน​จน​เปลือกไข่​กอง​เป็น​ภูเขา​ลูก​ย่อมๆ​ เห็น​พวก​มัน​หลั่ง​น้ำตา​ จิน​เฟย​เหยา​ถือ​น้ำเต้า​เฉียน​คุ​น​ดื่ม​น้ำ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ทำ​เสีย​เหมือน​กำลัง​ร้องไห้​ ข้า​รู้​นะ​ว่า​พวก​เจ้าร้องไห้​ตอน​วางไข่​ ทราย​เข้าตา​สินะ​ เช่นนั้น​ก็​ร้องไห้​มาก​ๆ ล้าง​ดวงตา​เถอะ​ ว่า​ไป​แล้ว​ ไข่แดง​แห้ง​เกินไป​ ไข่ขาว​อร่อย​กว่า​ รู้​แต่แรก​จะเอา​ไข่แดง​ทั้งหมด​ให้​พั่งจื่อ​ แล้ว​ข้า​กิน​ไข่ขาว​ก็​พอ​”

น่าเสียดาย​ที่​เวลานี้​พั่งจื่อลง​ทะเล​ไป​แล้วจึง​ไม่ได้ยิน​คำพูด​พึมพำ​กับ​ตนเอง​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ ไม่เช่นนั้น​มัน​ต้อง​ชี้หน้า​นาง​ด่าว่า​เห็นแก่ตัว​แน่​ ไม่ได้​มีนาง​คนเดียว​ที่​ไข่แดง​ติดคอ​เสียหน่อย​

จิน​เฟย​เหยา​ที่​กิน​ไข่เต่า​จน​มีกลิ่น​อุจจาระ​เต่า​นั่ง​มอง​ทะเล​หรู​เมิ่งอยู่​บน​ก้อนหิน​ริมทะเล​รอคอย​พั่งจื่อ​ นาง​อยู่​ว่าง​ไม่มีอะไร​ทำ​จึงครุ่นคิด​ว่า​ เหตุใด​ทะเล​ผืน​นี้​จึงชื่อว่า​ทะเล​หรู​เมิ่ง[1] ชื่อ​ไม่ดุร้าย​เลย​สักนิด​

หรือว่า​ทะเล​ผืน​นี้​ดุร้าย​จน​เหมือน​ความฝัน​ ไม่มีใคร​สยบ​มัน​ได้​ ดังนั้น​จึงเรียก​มัน​ว่า​ทะเล​หรู​เมิ่ง มีความหมาย​โดยนัย​รางๆ​

“อ๊บๆๆ”​ ในเวลานี้​เอง​ พั่งจื่อ​พลัน​โผล่​ขึ้น​จาก​ทะเล​แล้ว​ตะโกนเรียก​จิน​เฟย​เหยา​อย่าง​ตื่นเต้น​

“อะไร​นะ​! ด้านล่าง​มีถ้ำน่าสงสัย​แห่ง​หนึ่ง​?” จิน​เฟย​เหยา​รีบ​ลุกขึ้น​ยืน​ หรือว่า​จุด​สีแดง​อยู่​ใต้​ทะเล​จริงๆ​?

ตอนนี้​นาง​เป็น​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​แล้ว​ คิด​จะลง​ทะเล​ขอ​เพียง​ไม่อยู่​เป็น​ระยะเวลา​นาน​หลาย​วัน​ก็​สามารถ​ไม่หายใจ​ชั่วคราว​ได้​ ดังนั้น​จิน​เฟย​เหยา​จึงดำ​ลง​ทะเล​ไป​กับ​พั่งจื่อ​ทันที​โดย​ไม่ได้​ครอบ​ฟอง​แสงนรก​ให้​ตนเอง​

ว่าย​ติดตาม​พั่งจื่อ​ใน​ทะเล​ครู่หนึ่ง​ ก้น​ทะเล​เปลี่ยน​จาก​ทางลาด​เป็น​หน้าผา​ที่ตั้ง​ตระหง่าน​ใต้​ทะเล​ทันที​ บน​หน้าผา​มีถ้ำอัน​มืดมิด​สูงเท่า​สอง​ตัว​คน​แห่ง​หนึ่ง​ นาง​ลอย​อยู่​ตรง​ปาก​ถ้ำ นึกถึง​ความทรงจำ​ที่​ไม่ค่อยดีขึ้น​ได้​ ตอนนั้น​ก็​เป็น​ถ้ำแบบนี้​ ทำให้​ตนเอง​เดิน​อยู่​ใน​นั้น​หนึ่ง​ปี​จึงมาถึงโลก​ระดับ​วิญญาณ​ ตอนนี้​คง​ไม่ใช่แบบ​นั้น​หรอก​นะ​?

ใช้การรับรู้​เข้าไป​สำรวจ​ดู​ด้านใน​ ดวงตา​ของ​จิน​เฟย​เหยา​พลัน​เปล่งประกาย​ หยิบ​หิน​แสงราตรี​ออกมา​พา​พั่งจื่อ​ว่าย​เข้าไป​ข้างใน​

ว่าย​เข้าไป​ได้​ประมาณ​หนึ่ง​ห​ลี่​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​โผล่​ออกมา​จาก​ใน​น้ำทะเล​ภายใต้​แสงสว่าง​ของ​หิน​แสงราตรี​ ที่แท้​ใน​นี้​มีถ้ำใต้ดิน​ที่​มีช่องว่าง​ น้ำทะเล​เต็ม​อุโมงค์​กลับ​ไม่ได้​ท่วม​ขึ้น​มา ด้านใน​มืดสนิท​ ระดับ​ความสว่าง​ของ​หิน​แสงราตรี​ก้อน​เดียว​ไม่เพียงพอ​ จิน​เฟย​เหยา​จึงนำ​เปลวเพลิง​สูงครึ่งตัว​คน​ออกมา​ส่องสว่าง​ภายใน​ถ้ำ

จิน​เฟย​เหยา​วน​ดู​รอบ​หนึ่ง​ พบ​ว่า​ถ้ำแห่ง​นี้​มีขนาด​ไม่ใหญ่​นัก​กว้าง​เพียง​สามสี่จั้งกว่า​เท่านั้น​ ไม่มีสิ่งใด​เลย​นอกจาก​ก้อนหิน​ หรือว่า​นี่​คือ​ถ้ำที่​เกิดขึ้น​ตาม​ธรรมชาติ​ ที่จริง​ไม่มีอะไร​เลย​ แต่​ถ้าไม่ใช่ที่นี่​จุด​สีแดง​จะอยู่​ที่ใด​!

ทันใดนั้น​ ดูเหมือน​นาง​จะเห็น​อะไร​บางอย่าง​บน​พื้น​ นาง​ชูบอล​ไฟแล้ว​เดิน​เข้า​ไปดู​ ใน​ใจไม่รู้​ว่า​ยินดี​หรือ​กังวล​

บน​พื้น​มีวง​เวท​ส่งตัว​อัน​หนึ่ง​ ความแตกต่าง​จาก​วง​เวท​อื่นๆ​ เพียง​อย่าง​เดียว​คือ​เป็น​สีเทา​ตุ่น​ๆ นอกจาก​สกปรก​แล้ว​ อีก​ความหมาย​หนึ่ง​คือ​บน​นั้น​ไม่มีศิลา​วิญญาณ​ นี่​แสดงว่า​จิน​เฟย​เหยา​ต้อง​เสีย​ศิลา​วิญญาณ​อีกแล้ว​

“ทาง​ที่​ดี​เจ้าใช้ศิลา​วิญญาณ​น้อย​ๆ หน่อย​ ไม่เช่นนั้น​เกรง​ว่า​ถึงข้า​อยาก​จะใช้เจ้าก็​คง​ใช้ไม่ไหว​” จิน​เฟย​เหยา​ถอนหายใจ​อย่าง​จนปัญญา​ ปกติ​ไม่ค่อย​รู้สึก​ว่า​ศิลา​วิญญาณ​สำคัญ​ เวลานี้​จึงพบ​ว่า​ศิลา​วิญญาณ​ยัง​สำคัญ​กว่า​อาหาร​อีก​!

สะบัด​แขน​เสื้อ​ สายลม​ก็​พัด​มาแล้ว​กวาด​ฝุ่น​ทั้งหมด​บน​วง​เวท​ส่งตัว​ไป​ ลวดลาย​ขอ​งวง​เวท​ส่งตัว​ทั้งหมด​จึงเผย​ออกมา​

วง​เวท​ส่งตัว​อันนี้​มีขนาด​ไม่ใหญ่​นัก​ ดู​ขนาด​แล้ว​อย่าง​มาก​ที่สุด​ก็​ส่งตัว​ได้​สอง​คน​ แต่​ที่​ทำให้​คน​สบายใจ​คือ​ใช้ศิลา​วิญญาณ​ไม่มาก​นัก​ อีก​ทั้ง​วง​เวท​ส่งตัว​ก็​อยู่​ใน​สภาพ​สมบูรณ์​ ข้อ​นี้​สำคัญ​ที่สุด​ ถ้าวง​เวท​เสียหาย​ ผู้ใด​จะรู้​ว่า​จะถูก​ส่งตัว​ไป​ที่ใด​ระหว่างทาง​ ไม่แน่​ว่า​จะโยนทิ้ง​ไว้​ใน​รอยแยก​อวกาศ​[2] ตก​ตาย​อย่างไร​ก็​ยัง​ไม่รู้​เลย​

จิน​เฟย​เหยา​ยัง​นำ​ศิลา​วิญญาณ​ชั้นล่าง​ออกมา​ทดลอง​ดูก่อน​ ใช้ไม่ได้​เหมือนเดิม​อย่าง​ที่​คาด​ไว้​จริงๆ​ วง​เวท​ส่งตัว​ไม่มีแสงรัศมี​เลย​สักนิด​ นาง​จึงนำ​ศิลา​วิญญาณ​ชั้น​กลาง​ออกมา​อย่าง​ไม่พอใจ​และ​วาง​ลง​ไป​อย่าง​แสน​เสียดาย​ วง​เวท​ส่งตัว​ส่งเสียง​วิ้งๆ​ ตรง​ที่​วาง​ศิลา​วิญญาณ​ก็​สว่าง​ขึ้น​

“ศิลา​วิญญาณ​ของ​ข้า​!” จิน​เฟย​เหยา​ด่าทอ​ประโยค​หนึ่ง​แล้ว​เริ่ม​วาง​ศิลา​วิญญาณ​

โชคดี​ที่​วง​เวท​ส่งตัว​อันนี้​มีขนาด​ไม่ใหญ่​ ใช้ศิลา​วิญญาณ​เพียง​หกร้อย​ก้อน​ก็​วาง​เต็ม​ จิน​เฟย​เหยา​มอ​งวง​เวท​ส่งตัว​อัน​สว่าง​เจิดจ้า​ที่​ใช้เพียง​ศิลา​วิญญาณ​ขับเคลื่อน​ก็​สามารถ​ส่งตัว​ได้​ แล้ว​กลืนน้ำลาย​อึก​หนึ่ง​

“ไป​เถอะ​ ไม่ว่า​มัน​จะส่งตัว​ไป​สถาน​ที่ใด​ ขอ​เพียง​ไม่ใช่ใน​รอยแยก​อวกาศ​ก็​ใช้ได้​!” จิน​เฟย​เหยา​ผลัก​พั่งจื่อ​แล้ว​สาวเท้า​ยาว​ๆ ก้าว​เข้าไป​ใน​วง​เวท​ส่งตัว​และ​ถ่ายเท​พลัง​วิญญาณ​ลง​ไป​ วง​เวท​ส่งตัว​ส่งเสียงดัง​วิ้งๆ​ หลัง​แสงรัศมี​ผ่านพ้น​ ภายใน​ถ้ำก็​กลับคืน​สู่ความเงียบสงบ​และ​มืดมิด​ทันที​ ราวกับ​ไม่เคย​มีอะไร​เกิดขึ้น​มาก่อน​

…………………………………

[1] หรู​เมิ่ง แปล​ว่า​ ดั่ง​ความฝัน​

[2] รอยแยก​อวกาศ​ หมายถึง​ รู​หนอน​ที่​ไม่เสถียร​อย่างยิ่ง​ รู​หนอน​ คือ​ อุโมงค์​ใน​กาล​-อวกาศ​

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

Score 10

Options

not work with dark mode
Reset