คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตายบทที่ 289 โห่ว

บทที่ 289 โห่ว

“ทำ​เรื่อง​ชั่ว​ก็​ต้อง​ใช้สมอง​ จะเปิดเผย​ตนเอง​ออกมา​อย่าง​โง่เขลา​ได้​อย่างไร​ เรื่อง​ชั่ว​ต้อง​ให้​คนอื่น​ไป​ทำ​ อีก​ทั้ง​ยิ่ง​มาก​ก็​ยิ่ง​ดี​ ใน​เมือง​จุ้ย​เทียน​แห่ง​นี้​ ผู้ฝึก​วิชา​ชั่วร้าย​ต่าง​ช่วยเหลือ​ซึ่งกันและกัน​ ยังมี​เมตตา​มากกว่า​ระหว่าง​สำนัก​อัน​เที่ยงธรรม​อีก​ ข้า​เป็น​คน​สร้าง​บรรยากาศ​นี้​ขึ้น​มา เป้าหมาย​มีเพียง​หนึ่งเดียว​คือ​ยกระดับ​พลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​ผู้ฝึก​วิชา​ชั่วร้าย​ แบบนี้​จึงสามารถ​ไป​ต่อกร​กับ​คน​ของ​สำนัก​อัน​เที่ยงธรรม​ได้ดี​ยิ่งขึ้น​” เห​ริน​เซวียนจือ​เดิน​อยู่​บน​ถนน​กระจก​อัน​เรียบ​ลื่น​ พลาง​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ ดวง​ตากลับ​กวาด​มอง​ภาพ​ใต้​กระโปรง​ที่​สะท้อน​ออกมา​บน​พื้น​ราวกับ​ไม่มีอะไร​

จิน​เฟย​เหยา​กลับ​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​บน​ต้นไม้​ข้างทาง​ ที่นั่น​มีผลไม้​ขนาด​เท่า​กำปั้น​พวง​หนึ่ง​ ผิว​หนา​สีเขียว​ดู​ไม่ค่อย​น่ากิน​เท่าใด​ นาง​มอง​ผลไม้​เหล่านี้​แล้ว​เอ่ย​พึมพำ​กับ​ตนเอง​ว่า​ “นี่​ใช่ผล​ลั่ว​หม่า​หรือไม่​? ดู​แล้ว​ไม่น่าอร่อย​เหมือน​ที่​พวก​เจ้าพูด​เลย​”

เห​ริน​เซวียนจือ​มอง​ท่าทาง​เกียจคร้าน​ของ​นาง​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​เคร่งขรึม​ “เจ้าตั้งใจฟัง​ข้า​พูด​หน่อย​ได้​หรือไม่​ สิ่งที่​ข้า​พูด​สำคัญ​มาก​นะ​ มีแต่​ประโยชน์​ไม่มีโทษ​กับ​เจ้า หรือว่า​เจ้าไม่รู้สึก​ฮึกเหิม​และ​มีอารมณ์​อยาก​เข้าร่วม​?”

“ไม่เลย​ เรื่อง​ที่​เจ้าพูด​ยุ่งยาก​เกินไป​ ข้า​ไม่รู้สึก​สนใจ​เลย​สักนิด​ ถึงอย่างไร​พวกเรา​สอง​คน​ก็​ไม่มีความสัมพันธ์​ใดๆ​ ต่อกัน​ ตอนนี้​มาถึงเมือง​จุ้ย​เทียน​แล้วก็​ต่าง​คน​ต่าง​แยกย้าย​” จิน​เฟย​เหยา​มอง​เห​ริน​เซวียนจือ​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ไม่ใส่ใจ

เพิ่ง​เข้า​เมือง​ ยัง​นึก​ว่า​จะสร้างความสัมพันธ์​กับ​เจ้าตัว​กิน​จุได้​เล็กน้อย​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะไล่​คน​ไป​ทันที​ เห​ริน​เซวียนจือ​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ว่า​ “ข้าม​แม่น้ำ​แล้ว​รื้อ​สะพาน​[1]ก็​ยัง​ไม่รวดเร็ว​เหมือน​เจ้าเลย​ หรือ​เจ้าไม่อยากรู้​สาเหตุ​ว่า​เพราะเหตุใด​ฮุ่นตุ้น​จึงอยู่​ที่​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ช่วง​ปลาย​มาตลอด​หลาย​ร้อย​ปี​ แต่กลับ​มิอาจ​เลื่อน​เป็น​ขั้น​แปลง​จิต​ได้​?”

“นาง​เลื่อน​เป็น​ขั้น​แปลง​จิต​ไม่ได้​แล้ว​เกี่ยว​อะไร​กับ​ข้า​ด้วย​?” จิน​เฟย​เหยา​มอง​เขา​อย่าง​งุนงง​ จะเลื่อนขั้น​ได้​หรือไม่​ก็​ต้อง​ดู​ที่​พลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​และ​คุณสมบัติ​ของ​นาง​สิ เกี่ยว​อะไร​กับ​ข้า​ด้วย​?

เห​ริน​เซวียนจือ​ยิ้ม​นิดๆ​ “เดิน​ไป​คุย​ไป​เถอะ​ เรื่อง​นี้​สำคัญ​กับ​พวกเรา​อย่างยิ่ง​”

เห็น​ท่าทาง​ลึกลับ​ของ​เขา​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​สงสัย​ขึ้น​มา จึงตัดสินใจ​ลอง​ฟังดู​ว่า​เขา​จะพูด​อะไร​ ถ้าพูดจา​เหลวไหล​หลอกลวง​ก็​จะจากไป​

รอ​จน​ฟังคำพูด​ของ​เห​ริน​เซวียนจือจบ​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​เงียบงัน​ สิ่งที่​เจ้าหมอ​นี่​พูด​เป็น​ความจริง​หรือไม่​

ตามที่​เห​ริน​เซวียนจือ​เล่า​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ที่​ถูกร่าง​แยก​ของ​สัตว์ร้าย​เลือก​ หลัง​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ยาก​จะบรรลุ​ขั้น​แปลง​จิต​ และ​สาเหตุ​ง่ายดาย​อย่างยิ่ง​ เพียงแค่​พวกเขา​ไม่ได้รับ​โลหิต​ของ​สัตว์​เทพ​

นอกจาก​สัตว์ร้าย​ทั้ง​สี่แล้ว​ ใน​โลก​นี้​ยังมี​ร่าง​แยก​สัตว์​เทพ​หรือ​ทายาท​ที่​มีสายโลหิต​ของ​สัตว์​เทพ​จำนวนมาก​ ขอ​เพียง​จับ​พวก​มัน​ได้​ แล้ว​กิน​โลหิต​สด​หรือ​ตาน​ศักดิ์สิทธิ์​ลง​ไป​ก็​สามารถ​ทำให้​ร่าง​แยก​ที่​ถูก​กักขัง​หลอม​รวม​เข้าด้วยกัน​ ที่​เลื่อนขั้น​ไม่ได้​เนื่องจาก​ยังมี​ระยะห่าง​ระหว่าง​ร่างกาย​ของ​มนุษย์​และ​ร่าง​แยก​ ไม่ว่า​ร่าง​แยก​ยึดครอง​กาย​เนื้อ​หรือ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​กลืน​กิน​ร่าง​แยก​ล้วน​สามารถ​ควบคุม​อีก​ฝ่าย​ได้​เพียง​ฝ่าย​เดียว​

ผลสุดท้าย​คือ​ทำให้​ทั้งสองฝ่าย​ไม่ได้​หลอม​รวมกัน​อย่าง​แท้จริง​ ขณะที่​เลื่อน​เป็น​ขั้น​แปลง​จิต​ ร่างกาย​จะผ่าน​การเปลี่ยนแปลง​อย่าง​พลิก​ฟ้าคว่ำ​ดิน​ ถ้าไม่สามารถ​หลอม​รวม​เป็นหนึ่งเดียว​ก็​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​เลื่อนขั้น​สำเร็จ​

ทายาท​หรือ​ร่าง​แยก​ของ​สัตว์​เทพ​เหล่านี้​เป็น​สิ่งล้ำค่า​สำหรับ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​เช่นเดียวกัน​ ถึงตกใน​มือ​พวกเขา​จะมีอานุภาพ​ไม่เบา​ ทว่า​กลับ​มีประโยชน์​สู้ตก​อยู่​ใน​มือ​ของ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ที่​ถูก​สัตว์ร้าย​ยึดครอง​ร่าง​ไม่ได้​ ขอ​เพียง​กิน​โลหิต​หรือ​ตาน​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พวก​มัน​ พลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​พวกเขา​ก็​จะพุ่ง​ทะยาน​

มีผู้​บำเพ็ญ​เซียน​จำนวน​ไม่น้อย​นำ​ตาน​ศักดิ์สิทธิ์​มาหลอม​เป็น​ยา​หรือ​ดื่ม​โลหิต​ของ​ทายาท​สัตว์​เทพ​โดยตรง​ ยิ่ง​มีคน​ถูกร่าง​แยก​ของ​สัตว์​เทพ​หมายตา​และ​ให้​เขา​หยิบยืม​พลัง​มาใช้ คน​เหล่านี้​ล้วน​ใช้วิธีการ​ต่างๆ​ นานา​เพื่อ​ยึดครอง​สัตว์​เทพ​ แต่กลับ​มิได้​เลื่อนขั้น​ไม่ได้​หาก​ปราศจาก​พวก​มัน​

เทียบ​กัน​แล้ว​ จิน​เฟย​เหยา​และ​เห​ริน​เซวียนจือ​ต้องการ​สิ่งเหล่านี้​มากกว่า​

จิน​เฟย​เหยา​ยัง​ไม่สนใจ​ก่อน​ว่า​คำพูด​ของ​เห​ริน​เซวียนจือ​จะเป็น​ความจริง​หรือไม่​ คิด​ถึงว่า​ตนเอง​เพิ่ง​เลื่อน​เป็น​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ช่วงต้น​ ครุ่นคิด​เรื่อง​นี้​ในเวลานี้​ดูเหมือน​จะเร็ว​เกินไป​ อีก​ทั้ง​ทายาท​และ​ร่าง​แยก​ของ​สัตว์​เทพ​ไหน​เลย​จะหา​ได้​ง่ายดาย​ คง​มิอาจ​ไป​ค้นหา​ฉีหลิน​[2]แล้ว​บอก​มัน​ว่า​เอา​ตาน​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​เจ้ามาให้​ข้า​ยืม​ใช้หน่อย​หรือ​เอา​โลหิต​มาให้​ข้า​ทำ​สุรา​นิดหนึ่ง​?

เรื่อง​นี้​แค่​คิด​ก็​เป็นไปไม่ได้​แล้ว​ ตาน​ของ​ผู้อื่น​ก็​เรียก​ว่า​ตาน​ศักดิ์สิทธิ์​ และ​นี่​ยัง​ไม่ใช่หนทาง​สาย​เดียว​ อีก​ทั้ง​ของ​สิ่งนี้​ยัง​หา​ได้​ยาก​ ถึงหา​พบ​ก็​ไม่แน่​ว่า​จะเอาชนะ​ได้​ จิน​เฟย​เหยา​รู้สึก​ว่า​รอ​ให้​ตนเอง​บรรลุ​ขั้น​ฝึก​ปราณ​ช่วง​ปลาย​ และ​ไม่มีทาง​บรรลุ​ขั้น​แปลง​จิต​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​

จิน​เฟย​เหยา​ครุ่นคิด​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​หมด​ความอดทน​ “จะทำ​อะไร​ ข้า​แค่​อยาก​เป็น​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ธรรมดา​คน​หนึ่ง​ สัตว์​เทพ​สัตว์ร้าย​อะไร​ข้า​ไม่สนใจ​เลย​สักนิด​ นี่​เป็นเรื่อง​ที่​เกินกำลัง​ ข้า​ไม่ใช่คน​ที่​มีความทะเยอทะยาน​ต้อง​ไป​เอา​สิ่งของ​เหล่านี้​มา ให้​ข้า​กิน​พวก​ยา​ตาน​เหมือน​คนอื่น​ไม่ได้​หรือ​?”

เห็น​ท่าทาง​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ เห​ริน​เซวียนจือ​ก็​รู้​ว่า​นาง​ต้อง​รู้สึก​ยุ่งยาก​แน่​ ดังนั้น​จึงเอ่ย​เบา​ๆ “เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​ทำไม​ข้า​ต้อง​อยู่​ที่​โลก​วิญญาณ​หนาน​เฟิงมาตลอด​? เนื่องจาก​ข้า​รู้​ว่า​ที่นี่​มีโห่​ว[​3]ตัว​หนึ่ง​ เจ้าจะไม่เชื่อ​คำพูด​ของ​ข้า​ก็ได้​ แต่​ถ้าเลื่อน​เป็น​ขั้น​แปลง​จิต​ไม่ได้​จริงๆ​ เจ้าอาจจะ​เสียใจ​ที่​ไม่ได้​โห่​ว​ตัว​นี้​”

“โห่​ว​อยู่​ที่​โลก​วิญญาณ​หนาน​เฟิง?” จิน​เฟย​เหยา​มอง​เขา​อย่าง​ตกตะลึง​อยู่​บ้าง​ ถ้าเป็น​โห่​ว​ก็​น่าจะ​ไป​ลองดู​ ไม่ว่า​กิน​ทายาท​สัตว์​เทพ​แล้​วจะ​เลื่อน​เป็น​ขั้น​แปลง​จิต​ได้​จริง​หรือไม่​ เจ้าสิ่งนี้​ก็​เป็น​ของดี​

เห​ริน​เซวียนจือ​พยักหน้า​ “ใช่ แต่​ไม่ได้​อยู่​ใน​อาณาเขต​ของ​ข้า​ แต่​ข้า​แน่ใจ​ว่า​มัน​ต้อง​อยู่​ที่นี่​แน่​”

“สัตว์​ตัว​ยาว​แค่​หนึ่ง​ฉื่อ​ ทำไม​เจ้าไม่ไป​จับ​เอง​ นัดหมาย​ข้า​มาทำไม​?” จิน​เฟย​เหยา​พลัน​นึกถึง​ปัญหา​ข้อ​นี้​ได้​ โห่​ว​ตัว​แค่​ฉื่อ​กว่า​ๆ ต่อให้​ดุร้าย​และ​ร้ายกาจ​ เห​ริน​เซวียนจือ​ก็​น่าจะ​จัดการ​ได้​

“มัน​อยู่​ใน​มือ​ของ​เจ้าเมือง​แห่ง​เมือง​ลั่วรื่อ​ ข้า​ไม่มีทาง​เข้าใกล้​นาง​ได้​ นาง​ไม่ชอบ​บุรุษ​” เห​ริน​เซวียนจือ​เอ่ย​ช้าๆ

ไม่ง่ายดาย​จริงๆ​ ด้วย​ จิน​เฟย​เหยา​กลอกตา​ใส่เขา​ “ฟังจาก​น้ำเสียง​ของ​เจ้า เจ้าเมือง​แห่ง​เมือง​ลั่วรื่อคง​เป็น​สตรี​สินะ​?”

“ใช่ และ​ยัง​เป็น​สาวงาม​ที่​หา​ได้​ยาก​คน​หนึ่ง​ ทว่า​นาง​ไม่ชอบ​บุรุษ​ ห้าม​บุรุษ​เข้าใกล้​ภายใน​รัศมี​รอบตัว​ร้อย​จั้ง ข้า​คิด​จะเข้าใกล้​นาง​ไม่ง่ายดาย​ เจ้าเป็น​สตรี​ สามารถ​เข้าใกล้​นาง​ได้​พอดี​” เห​ริน​เซวียนจือ​หรี่ตา​ยิ้มแย้ม​มอง​จิน​เฟย​เหยา​

จิน​เฟย​เหยา​มีความรู้สึก​เหมือน​ติดกับ​ทันที​ จึงเอ่ย​อย่าง​เย็นชา​ “หรือว่า​เจ้าคิด​จะให้​ข้า​ไป​เข้าใกล้​นาง​ จากนั้น​ทำให้​นาง​เชื่อใจ​ แล้ว​หลอก​นาง​มายัง​สถานที่​ที่​เจ้าลงมือ​ได้​ จากนั้น​พวกเรา​สอง​คน​แบ่ง​โห่​ว​กัน​คนละ​ครึ่ง​ ส่วน​คน​เจ้าก็​เอา​ไป​สูบ​พลัง​หยิน​”

“เจ้าคาดเดา​ได้​ใกล้เคียง​ มีเพียง​อย่าง​เดียว​ที่​คาดเดา​ผิด​?” เห​ริน​เซวียนจือ​ยิ้มแย้ม​ ถือว่า​เทา​เที่ย​ตัว​นี้​ไม่ใช่ตัว​โง่งมที่​รู้จัก​แต่​กิน​อย่าง​เดียว​ ไม่เช่นนั้น​คง​ไม่เหมาะ​จะร่วมมือ​กัน​จริงๆ​ เขา​ชะงัก​ แย้มยิ้ม​อย่าง​เจิด​จรัส​ผิดปกติ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “นาง​ไม่เข้าใกล้​บุรุษ​ แต่กลับ​ชอบ​สตรี​”

“ชอบ​สตรี​!” จิน​เฟย​เหยา​ชะงัก​ฝีเท้า​ มอง​เขา​ด้วย​สีหน้า​ประหลาดใจ​

ทว่า​เห​ริน​เซวียนจือ​กลับ​หยุด​ลง​เบื้องหน้า​ตำหนัก​หลัง​หนึ่ง​ และ​ทำ​ท่าทาง​เชื้อเชิญ​ “ที่นี่​คือ​จวน​จุ้ย​เทียน​ สหาย​เซียน​จิน​ก็​ฝืนใจ​อาศัย​อยู่​ที่นี่​ชั่วคราว​เถอะ​ ให้​ข้า​ช่วย​สอน​ว่า​ต้อง​ยั่วยวน​สตรี​อย่างไร​อีก​แรง​”

จิน​เฟย​เหยา​มอง​เขา​อย่าง​ปาก​อ้า​ตาค้าง​ ตกตะลึง​ที่​เขา​คิด​จะให้​นาง​ไป​ยั่วยวน​ แล้ว​นาง​ก็​ถูก​เห​ริน​เซวียนจือ​ลาก​เข้า​จวน​จุ้ย​เทียน​ทันที​

จวน​จุ้ย​เทียน​ไม่มีอะไร​แตกต่าง​กับ​บ้าน​ที่อยู่​ภายนอก​ ทั้งหมด​สร้าง​ขึ้น​จาก​แก้ว​เช่นเดียวกัน​ เพียงแต่​มีขนาดใหญ่​กว่า​บ้าน​หลัง​อื่นๆ​ มาก​ พูด​อีก​อย่างหนึ่ง​ก็​คือ​ใหญ่​ราวกับ​วังหลวง​

เจ้าของ​เมือง​สามารถ​อยู่​บ้าน​หลัง​ใหญ่​จริงๆ​ ทว่า​ใหญ่​ขนาด​นี้​ก็​เกินไป​ เดิน​เข้า​ประตู​ใหญ่​ทำ​จาก​แก้ว​ที่สูง​เกิน​ห้า​จั้ง ด้านใน​เป็น​สวนดอกไม้​กว้างขวาง​ รอบ​สวน​เป็น​ห้อง​แก้ว​ชั้น​แล้ว​ชั้น​เล่า​ สิ่งที่​ทำให้​จิน​เฟย​เหยา​ตกตะลึง​ไม่ใช่จวน​จุ้ย​เทียน​ที่​กว้างขวาง​ ทว่า​เป็น​กลุ่ม​สตรี​สวม​ชุด​กระโปรง​เบาบาง​ที่​ยืน​อยู่​ใน​สวนดอกไม้​

มอง​กลุ่ม​สตรี​ที่​อย่าง​น้อยที่สุด​มีห้า​ร้อย​กว่า​คน​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​เกือบจะ​ถูก​กระโปรง​บางเบา​อัน​เซ็กซี่​ของ​พวก​นาง​ทำให้​ตาลาย​ มอง​อ้าปากค้าง​เหมือน​คน​โง่งม จากนั้น​ได้ยิน​เห​ริน​เซวียนจือ​เอ่ย​ว่า​ “สตรี​เหล่านี้​คือ​อนุภรรยา​ของ​ข้า​”

“ทั้งหมด​เลย​? นี่​กิน​หมด​หรือ​!” จิน​เฟย​เหยา​ได้สติ​กลับคืน​มา วัน​ละ​คน​ก็​ต้อง​ใช้เวลา​ตั้งปี​กว่า​ บรรดา​สตรี​เหล่านี้​คง​ไม่หนี​ไป​หรอก​นะ​?

เห​ริน​เซวียนจือ​มอง​นาง​อย่าง​หมด​วาจา​ “ใน​สมอง​ของ​เจ้านอกจาก​เรื่อง​กิน​แล้ว​ไม่คิดถึง​เรื่อง​อื่น​เลย​หรือ​? สาว​ๆ พวก​นี้​เป็น​อนุภรรยา​ของ​ข้า​ เคล็ด​วิชา​ดึง​หยิน​เสริม​หยาง​ไม่ได้​ต้อง​เอาชีวิต​ทั้งหมด​”

“อ้อ​ เข้าใจ​ล่ะ​ กระต่าย​ไม่กิน​หญ้า​ข้าง​รัง​ แต่​สตรี​มากมาย​ขนาด​นี้​คง​ไม่ได้​อยู่​เฝ้าห้อง​อย่าง​เดียวดาย​นะ​?” จิน​เฟย​เหยา​พยักหน้า​ด้วย​ท่า​ทางเข้า​อก​เข้าใจ​ก่อน​ จากนั้น​ถามเพิ่ม​อีก​ประโยค​

เห​ริน​เซวียนจือ​มอง​นาง​อย่าง​ดูแคลน​ จากนั้น​เชิดหน้า​ขึ้น​เอ่ย​เรียบๆ​ “คืนหนึ่ง​ข้า​สามารถ​ดึง​พลัง​หยิน​ได้​ยี่สิบ​คน​”

“เจ้า…ร่างกาย​แข็งแรง​จริงๆ​” เวลานี้​นอกจาก​ประโยค​นี้​แล้ว​ นาง​ก็​คิด​คำ​อื่นๆ​ มากล่าว​ชมเขา​ไม่ออก​จริงๆ​

สตรี​เหล่านี้​ล้วน​เป็น​ขั้น​สร้าง​ฐาน​และ​ขั้น​ฝึก​ปราณ​ ใน​บรรดา​นั้น​มีผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​ขั้น​หลอม​รวม​สามคน​ คน​ที่​มีพลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​สูงเกินไป​ย่อม​กลายเป็น​อนุภรรยา​ไม่ได้​ เพียงแต่​เหตุใด​จึงยังมี​ขั้น​หลอม​รวม​ จิน​เฟย​เห​ยากวาด​มอง​กลุ่มคน​แวบ​หนึ่ง​ รู้สึก​งุนงง​เล็กน้อย​

จิน​เฟย​เหยา​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​ของ​เห​ริน​เซวียนจือ​ พริบตา​ก็​รู้สึก​ได้​ถึงสายตา​ที่​ทำให้​รู้สึก​ไม่สบายใจ​จำนวนมาก​ พลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​นาง​อยู่​ตรงนั้น​ ทำให้​ผู้​บำเพ็ญ​สตรี​เหล่านี้​แค่​แอบ​ใช้สายตา​ทิ่มแทง​นาง​

ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​บางคน​ถึงกับ​สงสัย​ว่า​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ผู้​นี้​เป็น​คู่​บำเพ็ญ​ของ​เห​ริน​เซวียนจือ​ นั่น​เป็น​ภรรยา​เอก​นะ​ ถ้าล่วงเกิน​นาง​อาจจะ​รักษา​ชีวิต​น้อย​ๆ ไว้​ไม่ได้​

จิน​เฟย​เหยา​ตั้งใจ​คิด​จะอธิบาย​ว่า​ตนเอง​กับ​เจ้าบ้ากาม​ไม่ได้​เป็น​อะไร​กัน​เลย​สักนิด​ แต่​ถ้าพูด​ออกมา​ มิใช่ยิ่ง​กินปูนร้อนท้อง​หรือ​ ขณะ​กำลัง​ครุ่นคิด​ว่า​ถ้าแผ่​อานุภาพ​กดดัน​เล็กน้อย​จะทำให้​พวก​นาง​หลับตา​ทันที​หรือไม่​

“จิน​…จิน​เฟย​เหยา​?” ใน​กลุ่มคน​พลัน​มีเสียง​เล็ก​ๆ ดัง​มา ทำให้​นาง​สลาย​พลัง​ทันที​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะมีคนรู้จัก​?

“ใคร​น่ะ​?” จิน​เฟย​เหยา​จำไม่ได้​จริงๆ​ ว่า​ตนเอง​ยัง​รู้จัก​สตรี​คนใด​อีก​ คง​ไม่ใช่จิน​เฟยเยี่ยน​หรอก​นะ​ ถ้าเป็น​นาง​จริงๆ​ จะให้​เห​ริน​เซวียนจือ​ดึงดูด​พลัง​หยิน​ของ​นาง​ให้​หมด​ทันที​ เป็น​เงื่อนไข​ที่​ตนเอง​รับปาก​ไป​ยั่วยวน​เจ้าเมือง​ลั่วรื่อ​

สตรี​เยอะ​เกินไป​จริงๆ​ เนิ่นนาน​จึงเห็น​มีคน​เบียด​จาก​ด้านหลัง​มาด้านหน้า​ จิน​เฟย​เหยา​นิ่งอึ้ง​ คน​ผู้​นี้​…คือ​ใคร​กัน​?

“สหาย​เซียน​จิน​ ไม่ถูกสิ​ ตอนนี้​ข้า​สวม​ควร​เรียก​เจ้าว่า​ผู้อาวุโส​ จากกัน​ครา​หนึ่ง​เป็นเวลา​หนึ่งร้อย​กว่า​ปี​ คิดไม่ถึง​ว่า​ยังมี​วาสนา​ได้​พบกัน​อีก​” ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​ที่​เดิน​ออกมา​เพิ่ง​มีพลัง​ขั้น​สร้าง​ฐาน​ช่วง​ปลาย​ ดู​แล้ว​คุ้นตา​อยู่​บ้าง​

พินิจ​ดู​อย่าง​ละเอียด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ จิน​เฟย​เหยา​จึงกระพริบตา​เอ่ย​ถามว่า​ “ข้า​นึกไม่ออก​ว่า​เจ้าเป็น​ใคร​?”

สตรี​ผู้​นั้น​ตะลึงงัน​ ทว่า​กลับ​รู้สึก​ว่า​นี่​เป็นเรื่อง​ปกติ​ยิ่ง​ จึงถอน​ใจเบา​ๆ พลาง​เอ่ย​ว่า​ “วันนั้น​ต้อง​ขอบคุณ​ที่​เจ้าให้ยา​ตาน​เม็ด​นั้น​กับ​ข้า​ ตอนนี้​เจ้าเป็น​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​แล้ว​ ทว่า​ข้า​กลับเป็น​เพียง​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​สร้าง​ฐาน​ช่วง​ปลาย​ที่​ไร้ประโยชน์​ เจ้าจำข้า​ไม่ได้​ก็​เป็นเรื่อง​ปกติ​”

“ยา​ตาน​?” พอ​พูด​แบบนี้​ จิน​เฟย​เหยา​จึงค้นหา​ใน​ความดี​อันน้อย​นิด​จน​น่าสงสาร​ที่​ตนเอง​เคย​ทำ​ทันที​ นาง​ทำ​ความดี​ไม่กี่​เรื่อง​ อีก​ทั้ง​ปกติ​ยัง​ยากจน​สุด​ๆ เรื่อง​มอบ​ยา​ให้​คนอื่น​ฟรี​ๆ นาง​จะจำไม่ได้​ได้​อย่างไร​

สิ้น​เสียง​ของ​ตนเอง​ นาง​ก็​นึกออก​ทันที​ ดังนั้น​จึงชี้คน​ผู้​นี้​แล้ว​ตะโกน​ว่า​ “หลิ่ว​ฉี่ปอ​!”

……………………………….

[1] ข้าม​แม่น้ำ​แล้ว​รื้อ​สะพาน​ หมายถึง​ พอ​ถึงจุดหมาย​แล้วก็​ถีบหัวส่ง​คน​ที่​เคย​ช่วยเหลือ​ทิ้ง​

[2] ฉีหลิน​ คือ​ กิเลน​

[3] โห่​ว​ ชื่อ​สัตว์​ใน​ตำนาน​เทพ​ กิน​คน​ เป็น​ดาว​ข่ม​ของ​มังกร​ มีนิสัย​ชอบ​เฝ้ามอง​

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

Score 10

Options

not work with dark mode
Reset