คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตายบทที่ 288 คนใจบุญแห่งเมืองจุ้ยเทียน

บทที่ 288 คนใจบุญแห่งเมืองจุ้ยเทียน

จิน​เฟย​เหยา​ติดตาม​เห​ริน​เซวียนจือ​มาถึงเมือง​จุ้ย​เทียน​ด้วย​ความสงสัย​ เห็น​เมือง​ที่​ตั้งอยู่​ใน​โอเอซิส​ทะเลทราย​เบื้องหน้า​ นาง​ก็​โล่งอก​ นับว่า​เจ้าหมอ​นี่​ไม่ได้​โกหก​

เดิมที​เห​ริน​เซวียนจือ​อาศัย​อยู่​ใน​เมือง​จุ้ย​เทียน​ ย่อม​ไม่จำเป็นต้อง​หลอกลวง​จิน​เฟย​เหยา​และ​ไม่มีความรู้สึก​ซื่อสัตย์​อยู่เลย​

เห็น​เมือง​จุ้ย​เทียน​มีขนาด​ไม่ถือว่า​เล็ก​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​ทอดถอนใจ​ ไม่รู้​ว่า​ใคร​เป็น​คน​ทำ​ ใช้เงิน​มหาศาล​เกินไป​แล้ว​

เมือง​จุ้ย​เทียน​ทั้งหมด​สร้าง​ขึ้น​จาก​แก้ว​ที่​หลอม​จาก​ทราย​ กำแพง​ หลังคา​ แม้แต่​ประตู​และ​พื้น​ก็​ปู​ด้วย​แก้ว​ ส่อง​ประกาย​ระยิบระยับ​จับตา​ภายใต้​แสงอาทิตย์​

ถ้าบอ​กว่า​เมือง​จุ้ย​เทียน​เป็น​เมือง​ที่​ตั้งอยู่​บน​โอเอซิส​ บอ​กว่า​ตัว​มัน​คือ​โอเอซิส​จะดีกว่า​ นอก​กำแพง​กระจก​ที่​เรียบ​ลื่น​เป็นประกาย​คือ​ทะเลทราย​อัน​เวิ้งว้าง​ มียอด​ต้นไม้​ทะเลทราย​ต้น​สูงใหญ่​โผล่​ออก​มาจาก​บน​กำแพงแก้ว​ มองออก​ว่า​ใน​เมือง​ต้อง​มีทั้ง​น้ำ​ทั้ง​พืชพรรณ​

“ผู้ใด​เป็น​สร้าง​เมือง​จุ้ย​เทียน​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะใช้ทราย​หลอม​เป็น​แก้ว​ ว่างงาน​เกินไป​แล้ว​ ต้อง​ใช้เวลา​มากมาย​เพียงใด​?” จิน​เฟย​เหยา​เหาะ​เข้าไป​ใกล้​เมือง​จุ้ย​เทียน​ หยุด​ลง​ตรง​ประตูเมือง​และ​ เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ ดวงตา​ถูก​แสงสะท้อน​ของ​แก้ว​สาด​ใส่ตลอดเวลา​

“สิ่งนี้​ง่ายดาย​ยิ่ง​ ใช้ลม​พัด​ให้​ทราย​มากอง​เป็น​รูปร่าง​ที่​ต้องการ​จากนั้น​จุดไฟ​เผา​ก็​พอ​” เห​ริน​เซวียนจือ​เดิน​มาด้าน​ข้าง​ต่อ​บทสนทนา​

จิน​เฟย​เหยา​เบิกตา​มอง​เขา​ราวกับ​มองดู​สัตว์​ปิศาจ​เฒ่าแล้ว​เอ่ย​ถาม “พูด​นั้น​ง่ายดาย​ ฟังจาก​น้ำเสียง​ของ​เจ้าหรือว่า​เจ้าเป็น​คน​สร้าง​?”

เห​ริน​เซวียนจือ​พยักหน้า​อย่าง​ไม่เกรงใจ​ “ข้า​ย่อม​เป็น​คน​สร้าง​ ใน​โลก​นี้​ยังมี​ใคร​ใช้สายลม​ได้ดี​เท่า​ข้า​”

“เจ้าโกหก​” จิน​เฟย​เหยา​คร้าน​จะฟังเขา​พูดเหลวไหล​ คน​เช่นนี้​พอ​เห็น​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​ไม่ทำ​เรื่อง​แบบนี้​ อีก​ทั้งคน​ผู้​นี้​พูดจา​เหลวไหล​ไม่เชื่อ​ไว้​ก่อน​เป็น​ดี​

จิน​เฟย​เหยา​เดิน​บน​พื้น​แก้ว​ที่​เรียบ​ลื่น​ดุจ​กระจก​ ยัง​ปรับตัว​ไม่ได้​อยู่​บ้าง​ ลื่น​และ​สว่าง​เกินไป​ เดิน​ไป​ได้​ไม่กี่​ก้าว​ก็​ได้ยิน​เห​ริน​เซวียนจือ​เอ่ย​ว่า​ “กระโปรง​ที่​เจ้าสวม​ยาว​เกินไป​ ที่นี่​อยู่​ใน​ทะเลทราย​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​ที่​รังเกียจ​ความร้อน​ส่วนมาก​จะสวม​กระโปรง​ยาว​ครึ่ง​เดียว​ ขอ​เพียง​มอง​บน​กระจก​ก็​จะเห็นภาพ​ใต้​กระโปรง​ได้​”

จิน​เฟย​เหยา​หยุด​ฝีเท้า​ทันที​ มอง​ไป​บน​พื้น​กระจก​ บน​พื้น​หลาก​สีสัน​สามารถ​ส่อง​เห็น​เงาคน​ได้​ ทว่า​เนื่องจาก​สีสัน​ซับซ้อน​ จึงมองเห็น​ไม่ชัดเจน​ เห็นได้ชัด​ว่า​พร่า​เลือน​อย่างยิ่ง​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​ไม่ใช่คนโง่​เสียหน่อย​ แค่​มองเห็น​ไม่ชัด​จึงสวม​กระโปรง​สั้น​

ทว่า​เห​ริน​เซวียนจือ​กลับ​อธิบาย​อย่าง​ไม่ทำให้​คน​ผิดหวัง​ “อย่า​เห็น​ว่า​พื้น​กระจก​ลายตา​เกินไป​ ทว่า​สำหรับ​การ​มองเห็น​ของ​ข้า​กลับ​ใสกระจ่าง​ราวกับ​กระจก​วารี​ เพียงแต่​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​มีน้อย​เกินไป​ ข้า​ทุ่มเท​ความคิด​สร้าง​เมือง​จุ้ย​เทียน​จน​งดงาม​ขนาด​นี้​ ก็​เพียง​เพื่อให้​มีผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​มากกว่า​เมือง​อีก​สอง​แห่ง​ เพราะเหตุใด​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​ที่​ฝึก​วิชา​ชั่วร้าย​จึงมีน้อย​นัก​!”

เห็น​ท่าทาง​แค้นเคือง​ของ​เห​ริน​เซวียนจือ​ ในที่สุด​จิน​เฟย​เหยา​ก็​เชื่อ​ว่า​เจ้าหมอ​นี่​เป็น​คน​สร้าง​เมือง​จุ้ย​เทียน​ที่​สัปดน​แห่ง​นี้​ จงใจทำให้​เมือง​และ​พื้น​ทั้งหมด​สว่างไสว​ก็​เพื่อให้​เขา​แอบมอง​ภาพ​ใต้​กระโปรง​ได้​ทุกที่​ถ้าผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​ไม่สวม​กางเกง​

บางที​อาบน้ำ​แบบ​ไม่สวม​อะไร​เลย​ใน​ห้องน้ำ​กระจก​คง​ถูก​เจ้าหมอ​นี่​เห็น​หมด​ บ้า​ผู้หญิง​มาก​เพียงใด​กัน​แน่​ จึงทำ​เรื่อง​เช่นนี้​ออกมา​ได้​?

“ฉยงฉี​เป็น​สัตว์​ลามก​หรือ​?” ในที่สุด​จิน​เฟย​เหยา​ก็​อด​เอ่ย​ถามไม่ได้​

“เป็นไปได้​อย่างไร​ ข้า​ชอบ​สตรี​ก็​เป็นเรื่อง​ธรรมชาติ​ ข้า​ได้​เคล็ด​วิชา​ดึง​พลัง​หยิน​มาจาก​สิ่งตกทอด​ของ​ผู้อาวุโส​ที่​ล่วงลับ​ท่าน​หนึ่ง​โดยบังเอิญ​ นี่​เป็น​ของ​วิเศษ​ที่​สวรรค์​มอบให้​ข้า​ ทำให้​ข้า​สามารถ​สำเริงสำราญ​กับ​เรื่อง​ที่​ดีงาม​ที่สุด​ใน​โลก​มนุษย์​ได้​” เห​ริน​เซวียนจือ​มอง​จิน​เฟย​เหยา​อย่าง​สง่างาม ราวกับ​สิ่งที่​พูด​เป็นเรื่อง​จริงจัง​บางอย่าง​

จิน​เฟย​เหยา​รีบ​เก็บ​หู​กลับ​ ไม่คิด​จะฟังคำพูด​สัปดน​ของ​เจ้าหมอ​นี่​ สายตา​ของ​นาง​มอง​ไป​ยัง​ทิวทัศน์​รอบด้าน​ ไม่สนใจ​เจ้าบ้ากาม​ที่​มีท่าทาง​ยินดี​ด้าน​ข้าง​

เมือง​จุ้ย​เทียน​ใช้ทราย​หลอม​สร้าง​ จึงไม่มีพืช​สามารถ​งอก​บน​ดิน​ได้​ ดังนั้น​ใน​เมือง​ทั้งหมด​ล้วน​เป็น​แก้ว​ที่​เสียดแทง​นัยน์ตา​ ถ้าไม่คิด​เรื่อง​เห​ริน​เซวียนจือ​เป็น​คน​บ้ากาม​ เขา​ก็​เป็น​อัจฉริยะ​ด้าน​สุนทรียศาสตร์​และ​ความ​หลักแหลม​จริงๆ​

ใน​บ้าน​ทั้งหมด​เขา​เหลือ​สถานที่​ซึ่งสามารถ​ปลูก​ดอกไม้​ไว้​ให้​ ข้างทาง​มีแปลง​ดอกไม้​ที่สูง​หนึ่ง​คน​กว่า​และ​กว้าง​สอง​คน​ เดิน​ไป​สิบ​ก้าว​ข้างทาง​ก็​มีต้น​ไป๋​ลู่​หยาง​สูงใหญ่​หนึ่ง​ต้น​ ยอด​อัน​มโหฬาร​พอดี​บดบัง​แสงอาทิตย์​อัน​ร้อนแรง​ไว้​

บน​หลังคา​ หน้าต่าง​รูปสี่เหลี่ยม​และ​ครึ่งวงกลม​ล้วน​ปลูก​พืชสีเขียว​ ออกดอก​สีสัน​สดใส​ สีแดง​สีเหลือง​สีม่วง​มีทุก​เฉดสี​ ไม่มีใคร​คิด​จะปลูก​หญ้า​วิญญาณ​ใน​สถานที่​เหล่านี้​ ไม่ต้อง​โต​ก็​ถูก​ขโมย​ไป​ก่อน​

ใน​เมือง​ย่อม​มีวง​เวท​ป้องกัน​กั้น​ฝุ่น​ทราย​ไว้​นอกเมือง​อย่าง​หลีกเลี่ยง​ไม่ได้​ เมือง​จุ้ย​เทียน​สะอาด​เอี่ยม​ผิดปกติ​ราวกับ​เพิ่ง​ใช้น้ำ​ล้าง​

“เมือง​จุ้ย​เทียน​งดงาม​จริงๆ​ ทำให้​คน​คิดไม่ถึง​ว่า​จะสร้าง​ขึ้น​ด้วย​น้ำมือ​คน​บ้ากาม​” จิน​เฟย​เหยา​อด​เอ่ย​ชื่นชม​ไม่ได้​ เมือง​แห่ง​นี้​งดงาม​อย่างยิ่ง​ สร้าง​ขึ้น​เพื่อให้​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​ชมชอบ​โดยแท้​

“ตอน​เจ้าพูด​ไม่ต้อง​เอ่ยถึง​คำ​ว่า​บ้ากาม​ก็ได้​ ข้า​มีชื่อเสียง​ใน​เมือง​จุ้ย​เทียน​ดี​ยิ่ง​” เห​ริน​เซวียนจือ​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​

จิน​เฟย​เหยา​ยักไหล่​อย่าง​ช่วยไม่ได้​พลาง​เอ่ย​ถาม “ถ้าไม่มีคำ​ว่า​บ้ากาม​ ก็​ไม่สามารถ​แสดงออก​ว่า​ข้า​ตกตะลึง​ใน​ความ​ตรงกันข้าม​ของ​เจ้าได้​”

คน​ทั้งสอง​เดิน​เข้าสู่​ถนนสายหลัก​แล้ว​ คน​บน​ถนน​เพิ่มมากขึ้น​ คน​ที่​เดิน​ไปมา​บน​ถนน​ที่​กว้าง​เกิน​สามจั้งล้วน​เป็น​ผู้ฝึก​วิชา​ชั่วร้าย​ จำนวน​คน​น้อยกว่า​ที่​จิน​เฟย​เหยา​คิด​ไว้​ ทำให้​เมือง​จุ้ย​เทียน​เงียบเหงา​อยู่​บ้าง​ ทว่า​เห​ริน​เซวียนจือ​กลับ​บอก​นาง​ว่า​ ผู้ฝึก​เคล็ด​วิชา​ชั่วร้าย​ส่วนมาก​ชอบ​ความมืด​และ​หนาวเย็น​ ตอนกลางคืน​คน​จะเยอะ​ขึ้น​ กลางวัน​ล้วน​หลบซ่อน​อยู่​ใน​ที่พัก​ของ​ตนเอง​

ทว่า​คน​ที่​เดิน​อยู่​บน​ถนน​เหมือนกับ​ที่​จิน​เฟย​เหยา​คิด​ไว้​ก่อนหน้านี้​จริงๆ​ ซากศพ​แข็งทื่อ​เกลื่อน​พื้น​ ผู้ฝึก​วิญญาณ​ยัง​สู้สุนัข​ไม่ได้​ ครึ่งหนึ่ง​เป็น​คน​เป็น​ อีก​ครึ่งหนึ่ง​เป็น​คนตาย​ ทาง​ด้าน​นั้น​มีผู้​บำเพ็ญ​เซียน​เจ็ด​แปด​คน​ที่​ไม่รู้​ว่า​สังกัด​สำนัก​ชั่วร้าย​อะไร​ ด้านหลัง​แต่ละคน​มีโลงศพ​ใบ​หนึ่ง​ลอย​อยู่​ ใบหน้า​มีไอ​แห่ง​ความตาย​หนักหน่วง​ รอบ​ดวงตา​เป็น​สีดำ​

ส่วน​ประตู​ร้าน​อาวุธ​เวท​แห่ง​หนึ่ง​ คน​ที่​เข้าออก​ทั้งหมด​ล้วน​เป็น​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​ที่​แต่งกาย​หยาดเยิ้ม​สวม​ชุด​บางเบา​ บางเบา​จน​หน้าอก​แทบจะ​ทะลัก​ออกมา​ แปด​ส่วน​ต้อง​ฝึก​เวท​เสน่ห์​ดึง​พลัง​หยาง​เสริม​พลัง​หยิน​โดยเฉพาะ​

พอ​จิน​เฟย​เหยา​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ป้าย​ร้านค้า​ของ​ร้าน​อาวุธ​แห่ง​นี้​ เห็น​บน​นั้น​เขียน​อักษร​ตัว​ใหญ่​ไว้​ ‘ร้าน​อาวุธ​ลามก​’ อหังการ​จริงๆ​ หรือว่า​มีผู้ฝึก​เวท​เสน่ห์​เข้าออก​มากมาย​ขนาด​นี้​ อาวุธ​เวท​และ​ของ​วิเศษ​ที่​ขาย​ด้านใน​ทั้งหมด​สามารถ​ใช้ยั่วยวน​บุรุษ​ได้​

นาง​และ​เห​ริน​เซวียนจือ​เพิ่ง​เดิน​ไป​ ก็​รู้สึก​ว่า​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​เบื้องหน้า​แต่ละคน​เปลี่ยนเป็น​สาวงาม​หยาด​ฟ้า ภาพ​บุรุษ​สตรี​รักใคร่​กัน​ลอย​มาราวกับ​ภูติ​พราย​ เห​ริน​เซวียนจือ​ที่​มีสีหน้า​วิญญูชน​อัน​เที่ยงธรรม​ถูก​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​เหล่านี้​ห้อมล้อม​ ทว่า​เขา​กลับ​มีสีหน้า​ขัดเขิน​ คิด​จะสลัด​หลุด​จาก​ผู้ฝึก​เวท​เสน่ห์​แบบ​มือ​ไม้เงอะงะ​

จิน​เฟย​เหยา​ตกตะลึง​อย่าง​หนัก​ เห​ริน​เซวียนจือ​แสร้ง​ทำได้​เหมือน​มาก​ ถ้าก่อนหน้านี้​ไม่ได้​เห็น​เขา​สูบ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​คน​หนึ่ง​จน​แห้ง​กับ​ตา​ นาง​ยัง​นึก​ว่า​นี่​คือ​บุคคล​จำพวก​ไป๋​เจี่ยน​จู๋คน​ที่สอง​ สีหน้า​และ​ความเคลื่อนไหว​นั่น​เลียนแบบ​ได้​เหมือน​จริง​ราวกับ​มีชีวิต​ เป็น​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ที่​ฝึก​บำเพ็ญ​เพียง​อย่าง​เดียว​ตัว​เป็น​ๆ

มอง​เขา​ถูก​บรรดา​ผู้ฝึก​เวท​เสน่ห์​กด​ศีรษะ​ลง​บน​ทรวงอก​ของ​พวก​นาง​แล้ว​ผลัก​มาเบียด​ไป​ด้วย​สีหน้า​ไม่ยินยอม​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​อยาก​จะจิ้มตา​ตนเอง​ เวท​เสแสร้ง​ของ​เจ้าหมอ​นี่​ร้ายกาจ​กว่า​ตนเอง​แสร้ง​ทำเป็น​ใสซื่อ​หลายเท่า​นัก​

สลัด​หลุด​จาก​ผู้ฝึก​เวท​เสน่ห์​กลุ่ม​นั้น​ได้​อย่าง​ยากเย็น​ จิน​เฟย​เหยา​มอง​เห​ริน​เซวียนจือ​ที่​มีสีหน้า​สงบนิ่ง​แล้ว​เอ่ย​ถามว่า​ “เมื่อ​ครู่​มีสตรี​มากมาย​ขนาด​นั้น​ยั่วยวน​เจ้า ทำไม​เจ้าไป​พา​กลับ​ไป​สูบ​พลัง​ให้​หมด​”

เห​ริน​เซวียนจือ​มอง​จิน​เฟย​เหยา​ด้วย​สีหน้า​ประหลาดใจ​ “ถ้าข้า​สูบ​พลัง​ของ​พวก​นาง​ สตรี​ฝึก​วิชา​ชั่วร้าย​ที่​ทำ​เรื่อง​ชั่ว​ดูด​พลัง​หยาง​ของ​บุรุษ​โดยเฉพาะ​จะลดลง​ไป​หลาย​คน​ เดิมที​จำนวน​ก็​มีไม่มาก​อยู่แล้ว​ ถ้าข้า​ยัง​ไป​ทำร้าย​พวก​นาง​อีก​ จะหน่วงเหนี่ยว​โอกาส​การ​ทำ​เรื่อง​ชั่วช้า​ไป​มากมาย​เพียงใด​ ข้า​เป็น​คน​มีหลักการ​ไม่ได้​สังหาร​หมด​ทุกคน​”

ในเวลานี้​ ด้าน​ข้าง​พลัน​มีผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​ฝึก​ปราณ​คน​หนึ่ง​เดิน​มา เขา​หยุด​อยู่​ข้างทาง​อย่าง​ระมัดระวัง​ ประสานมือ​คารวะ​เห​ริน​เซวียนจือ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “คารวะ​เจ้าเมือง​เห​ริน​ ข้า​เป็น​ผู้ฝึก​วิญญาณ​ที่​เพิ่ง​เข้า​เมือง​มาใหม่​ รอ​เจ้าเมือง​อยู่​หลาย​วัน​แล้ว​”

“มาใหม่​? พลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​เจ้าเพิ่ง​ขั้น​ฝึก​ปราณ​ช่วงต้น​ เพิ่ง​ฝึก​บำเพ็ญ​สินะ​” เห​ริน​เซวียนจือ​หยุด​ฝีเท้า​ เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​เมตตา​

ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​ฝึก​ปราณ​คน​นั้น​แม้แต่​หน้า​ยัง​ไม่กล้า​เงย​ ก้ม​ศีรษะ​เอ่ย​ว่า​ “ตอบ​เจ้าเมือง​ ข้า​เพิ่ง​เริ่ม​ฝึก​บำเพ็ญ​จริงๆ​”

“เอา​แบบนี้​ เจ้านำ​ป้าย​ชิ้น​นี้​ไป​ซั่น​ฟาถัง ไป​เอา​เคล็ด​วิชา​เล่ม​หนึ่ง​ วิญญาณ​ร้อย​ดวง​ และ​ศิลา​วิญญาณ​ชั้นล่าง​สอง​ร้อย​ก้อน​ ธงวิญญาณ​นิล​ที่​เป็น​อาวุธ​เวท​ชั้น​กลาง​เจ้าก็​เอา​ไป​ผืน​หนึ่ง​ หลอม​วิญญาณ​เป็น​เหล่านั้น​เข้าไป​ รับประกัน​ว่า​ใช้ควบคุม​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​ฝึก​ปราณ​ช่วงต้น​ฝ่าย​ธรรมะ​ได้​อย่าง​ไม่มีปัญหา​ ถ้าเจ้าสามารถ​หา​วิธี​จับ​วิญญาณ​ผู้ฝึก​บำเพ็ญ​ขั้น​ฝึก​ปราณ​ช่วงต้น​เก็บ​ลง​ใน​ธงวิญญาณ​นิล​ได้​ แม้แต่​ผู้ฝึก​ปราณ​ช่วง​กลาง​ก็​ยาก​จะหนี​ครา​เคราะห์​พ้น​” เห​ริน​เซวียนจือ​ล้วง​ป้าย​หยก​ชิ้น​หนึ่ง​โยน​ไป​ให้​

จิน​เฟย​เหยา​มอง​ฉาก​นี้​แบบ​ปาก​อ้า​ตาค้าง​ มอง​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​ฝึก​ปราณ​ช่วงต้น​คน​นี้​จากไป​หลังจาก​ขอบคุณ​ซ้ำแล้วซ้ำอีก​ สำหรับ​นาง​ที่​ยากจน​แทบตาย​ตอน​ขั้น​ฝึก​ปราณ​ รู้​ราคา​สิ่งของ​ที่​เห​ริน​เซวียนจือ​มอบให้​เป็น​อย่าง​ดี​

นี่​คือ​การ​ช่วยเหลือ​ผู้​เริ่ม​ฝึก​บำเพ็ญ​อย่าง​ใหญ่หลวง​ ทำให้​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​คน​นี้​เริ่มต้น​ดี​ยิ่งกว่า​เข้าสู่​สำนัก​อัน​เที่ยงธรรม​เสีย​อีก​ อีก​ทั้ง​ที่นี่​ยัง​เป็น​เมือง​จุ้ย​เทียน​ กลับ​ปรากฏ​คนดี​ๆ และ​เรื่อง​ดี​ๆ แบบนี้​ แม้แต่​สำนัก​อัน​เที่ยงธรรม​ก็​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​ใจกว้าง​ขนาด​นี้​ นี่​ยัง​เป็น​เพียงแค่​คน​ที่​เดิน​มาบน​ถนน​คน​หนึ่ง​ ถ้ารู้จัก​กัน​จะช่วยเหลือ​ถึงเพียง​ไหน​

เห​ริน​เซวียนจือ​มอง​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​คน​นี้​ แล้ว​เอ่ย​อย่าง​ปลาบปลื้ม​ “แบบนี้​ บน​โลก​นี้​ก็​มีผู้ฝึก​วิชา​ชั่วร้าย​เพิ่มขึ้น​อีก​คน​ และ​ยัง​สามารถ​ทำร้าย​คนดี​ได้​”

“ใน​ใจเจ้าดำมืด​จน​ถึงขั้น​ไหน​? ข้า​ไม่เข้าใจ​เจ้าเลย​สักนิด​ เจ้าช่วย​ผู้ฝึก​วิชา​ชั่วร้าย​โดยเฉพาะ​ คิด​จะให้​โลก​นี้​มีผู้ฝึก​วิชา​ชั่วร้าย​มาก​หน่อย​ ให้​พวกเขา​ทำร้าย​คนธรรมดา​ได้​ง่ายๆ​ หรือ​? เจ้าก็​ถือว่า​กำเนิด​ใน​สำนัก​ใหญ่​ที่​มีชื่อเสียง​ อีก​ทั้ง​ตามที่​เจ้าว่า​มา ตอนนี้​ยัง​อยู่ดี​มีสุข​ใน​สำนัก​ การกระทำ​แปลกประหลาด​เกินไป​แล้ว​ เหตุใด​จึงมีคน​ชั่วร้าย​ขนาด​เจ้าได้​!” จิน​เฟย​เหยา​มอง​เขา​ รู้สึก​ว่า​ไม่เข้าใจ​คน​ผู้​นี้​เลย​

เห​ริน​เซวียนจือ​กลับ​ยิ้ม​ให้​จิน​เฟย​เหยา​ “พลัง​ของ​คน​เพียง​คนเดียว​นั้น​น้อย​มาก​ มีผู้ฝึก​วิชา​ชั่วร้าย​เพิ่มขึ้น​หลาย​คน​ ต่อให้​มีพลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ต่ำ​ พวกเขา​ก็​กระทำ​เรื่อง​ผิด​มนุษยธรรม​ได้​หลาย​เรื่อง​ รวม​น้อย​กลายเป็น​มาก​ ข้า​ลำบาก​เพียงแค่​ยกมือ​ ช่วย​พวกเขา​อีก​แรง​เท่านั้น​”

จิน​เฟย​เหยา​ยอมรับ​ว่า​ตนเอง​เป็น​คนเห็นแก่ตัว​ ไม่เคย​คิด​จะช่วย​ใคร​อีก​แรง​ มอบ​ศิลา​วิญญาณ​และ​อาวุธ​เวท​ให้​ผู้อื่น​ฝึก​บำเพ็ญ​ฟรี​ๆ เลย​ เพียง​เพื่อ​เพิ่ม​คนชั่ว​ใน​โลก​นี้​อีก​คน​เห​ริน​เซวียนจือ​จึงให้​วิญญาณ​ อาวุธ​เวท​ และ​ศิลา​วิญญาณ​แก่​ผู้อื่น​ นี่​ถือว่า​มีความสุข​ที่​ได้​ช่วยเหลือ​คน​หรือ​ช่วย​คนเลว​ทำความ​ชั่ว​?

มอง​จาก​มุมของ​ผู้ฝึก​วิชา​ชั่วร้าย​ เห​ริน​เซวียนจือ​น่าจะ​ถือว่า​เป็น​คนดี​สินะ​ ทั้ง​สร้าง​เมือง​ทั้ง​ให้​สิ่งของ​ฟรี​ๆ ทว่า​มอง​จาก​มุมของ​สำนัก​อัน​เที่ยงธรรม​ เจ้าหมอ​นี่​เป็น​คน​ชั่วร้าย​สุดขีด​

นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​จิน​เฟย​เหยา​ได้​พบ​คน​แบบนี้​ แม้แต่​คน​เลือดเย็น​เช่น​นาง​ก็​รู้สึก​สับสน​ขึ้น​มา

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

Score 10

Options

not work with dark mode
Reset