คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตายบทที่ 287 วิญญูชนอันเที่ยงธรรม

บทที่ 287 วิญญูชนอันเที่ยงธรรม

เห​ริน​เซวียนจือ​กลับคืน​สู่ร่าง​มนุษย์​ นั่ง​อย่าง​อ่อนล้า​อยู่​บน​พื้นทราย​และ​เอ่ย​วาจา​กับ​จิน​เฟย​เหยา​ “ใน​เมื่อ​สู้เสมอกัน​ พวกเรา​สอง​คน​มาพูดคุย​กัน​ดี​ๆ เถอะ​ เรื่อง​ก่อนหน้านี้​เป็นการ​เข้าใจผิด​”

“คุย​อะไร​?” จิน​เฟย​เหยา​ถอนหายใจ​ยาว​พลาง​เอ่ย​ถาม

“รบกวน​เจ้าเปลี่ยน​กลับเป็น​ร่าง​มนุษย์​ก่อน​ได้​หรือไม่​? พอ​เจ้าพูด​ก็​มีไอ​ร้อน​พุ่ง​ออกมา​ เดิมที​ที่นี่​ก็​ร้อน​อยู่แล้ว​” เห​ริน​เซวียนจือ​ยืน​ขึ้น​และ​เดิน​มาข้าง​ดวงตา​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ มอง​หัว​อัน​ใหญ่โต​ของ​นาง​

ยืน​อยู่​ใกล้​ขนาด​นี้​ ทั้ง​ยัง​ยืน​อยู่​ต่อหน้าต่อตา​ จิน​เฟย​เหยา​ไม่อยาก​มอง​เขา​เปลือยกาย​ก็​ไม่ได้​ ดังนั้น​นาง​จึงพ่น​ลมหายใจ​ร้อนผ่าว​แล้ว​เอ่ย​ “เจ้าสวม​เสื้อผ้า​ก่อน​เถอะ​ ยัง​นำ​ของ​แบบนี้​มาโอ้อวด​ ข้า​เคย​เห็น​ที่​ใหญ่​กว่า​ของ​เจ้ามาเยอะ​”

เห​ริน​เซวียนจือ​นิ่งอึ้ง​จากนั้น​ยิ้มแย้ม​ทันที​ “เด็กน้อย​อย่าง​เจ้ามาพูด​เรื่อง​เคย​เห็น​อะไร​ เห็นแก่​ที่​เป็น​พวก​เดียวกัน​ จะให้​ข้า​สอน​เจ้าหรือไม่​”

“ไป​ตาย​เสียเถอะ​!” จิน​เฟย​เหยา​ใช้อุ้งเท้า​ตบ​ลง​ไป​ เห​ริน​เซวียนจือ​หายวับ​ไป​ปรากฏ​บน​ผิว​ทะเลสาบ​ที่​ถูก​พวกเขา​สอง​คน​ทุบ​ออกมา​ หันหลัง​ให้​จิน​เฟย​เหยา​รวบ​เส้น​ผม​ขึ้น​ “เจ้าอารมณ์​ขนาด​นี้​ต่อไป​จะแต่ง​ไม่ออก​นะ​”

จากนั้น​เขา​ก็​ยื่นมือ​ไป​เอ่ย​กับ​กลางอากาศ​ “นำ​ถุงเฉียน​คุ​นข​อง​ข้า​มา”

มีเสียงดัง​ฟุ่บ​ เด็กหญิง​มีปีก​ขนาด​เท่า​ฝ่ามือ​มุด​ออก​มาจาก​ใต้​กอง​ทราย​ บน​ร่าง​นาง​ไร้​อาภรณ์​ กลับ​มีแสงเจ็ด​สีโอบล้อม​ส่อง​ประกาย​วิบวับ​ หิ้ว​ถุงเฉียน​คุ​น​บิน​มาข้าง​กาย​เห​ริน​เซวียนจือ​

จากนั้น​ได้ยิน​นาง​ใช้น้ำเสียง​อ่อนหวาน​เอ่ย​ว่า​ “ใต้เท้า​ ครั้งหน้า​ท่าน​อย่า​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​อีก​เลย​ นี่​เป็น​สิ่งไม่ดี​”

“เสี่ยว​เตี๋ย​ ข้า​ต้อง​กลายเป็น​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ที่​มีพลัง​สูงส่งจึงเป็นประโยชน์​ต่อ​คน​ส่วนมาก​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​คน​นี้​ยินยอม​สละ​ตนเอง​เพื่อ​ความปรารถนา​นี้​ นาง​ตาม​ข้า​มาจนถึง​ที่นี่​ เจ้าก็​เห็นด้วย​ตา​ตนเอง​ ข้า​ไม่อยาก​ใช้วิธี​นี้​เพิ่ม​พลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​เลย​สักนิด​ แต่​นาง​มีความปรารถนา​เช่นนี้​ ข้า​จะปฏิเสธ​นาง​ได้​อย่างไร​ ข้า​ช่างเป็น​คน​บาป​จริงๆ​” เห​ริน​เซวียนจือ​หลุบ​ตา​ลง​ เงาหลัง​แลดู​อ้างว้าง​ยิ่ง​

“ใต้เท้า​ ข้า​ผิด​ไป​แล้ว​ ข้า​ไม่สมควร​ว่า​ท่าน​แบบนี้​ สตรี​พวก​นี้​น่าชัง​ยิ่ง​ ทำให้​ใต้เท้า​ต้อง​ลำบาก​แล้ว​” คน​ตัวเล็ก​ๆ ขยับปีก​กระพริบ​แสง เอ่ย​กับ​เห​ริน​เซวียนจือ​อย่าง​อ่อนโยน​

จิน​เฟย​เหยา​มอง​สัตว์​ภูติ​ตัว​นี้​ด้วย​สีหน้า​ประหลาดใจ​ นี่​คือ​ตัว​อะไร​ ลักษณะ​แปลกประหลาด​ อีก​ทั้ง​สิ่งที่​เห​ริน​เซวียนจือ​พูด​เมื่อ​ครู่​เป็น​คำ​โกหก​ทั้งหมด​ เนื่องจาก​จอมปลอม​เกินไป​ กลับ​ทำให้​คน​สงสัย​ว่า​นี่​ไม่ใช่ความจริง​

มอง​เห​ริน​เซวียนจือ​หันหลัง​ให้​นาง​แล้ว​อาบน้ำ​สวม​เสื้อผ้า​ คน​ตัวเล็ก​ๆ ช่วย​เขา​เกล้าผม​สวม​ก้วน​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​รีบ​คืน​สู่ร่าง​มนุษย์​ทันที​

นาง​ทำให้​ตนเอง​หด​เล็ก​ลง​ก่อน​ค่อย​กลาย​เป็นไฟ​นรก​ ถึงแม้จะไม่รู้สึก​อะไร​ แต่​สวม​เสื้อผ้า​ต่อหน้า​คน​บ้ากาม​ก็​ไม่ดี​นัก​ จากนั้น​นาง​นำ​เสื้อผ้า​ที่​เตรียม​ไว้​ใน​ถุงเฉียน​คุ​น​ซึ่งถูก​ไฟนรก​ห่อหุ้ม​ออกมา​สวม​ จิน​เฟย​เหยา​ยัง​เกล้าผม​ไม่เสร็จ​ ก็​เห็น​เห​ริน​เซวียนจือ​สวม​ก้วน​เสร็จ​ยืน​อยู่​บน​ทะเลสาบ​แล้ว​

ถอน​ไฟนรก​รอบกาย​ออก​ จิน​เฟย​เหยา​มัด​ผม​ตามสบาย​ มอง​เห​ริน​เซวียนจือ​อย่าง​ตกตะลึง​พลาง​เอ่ย​ว่า​ “คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้าจะหน้าตา​เหมือน​มนุษย์​แต่​การกระทำ​กลับ​เหมือน​สุนัข​ เหนือ​ความคาดหมาย​ของ​ข้า​โดยสิ้นเชิง​”

เห​ริน​เซวียนจือบน​ผิว​ทะเลสาบ​ สวม​ชุด​นักพรต​สีเขียว​ที​มีสีอ่อน​เข้ม​แตก​ต่างกัน​ บน​ศีรษะ​สวม​ก้วน​สีเขียว​เข้ม​ออก​ดำ​ ใบหน้า​ขาว​ดุจ​หิมะ​ ริมฝีปาก​แดง​ชุ่มชื้น​เป็นประกาย​ ใน​ดวงตา​ที่​ชี้ขึ้น​นิดๆ​ มีความอ่อนโยน​เล็กน้อย​ บน​เอว​แขวน​กระบี่​บิน​เล่ม​หนึ่ง​ แลดู​เป็น​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ที่​มีบุคลิก​ของ​สำนัก​ใหญ่​ที่​มีชื่อเสียง​ เป็น​สำนัก​อัน​เที่ยงธรรม​จน​มิอาจ​เที่ยงธรรม​ไป​กว่า​นี้​ได้​อีก​

ชุด​นักพรต​? เพราะเหตุใด​เจ้าหมอ​นี่​จึงสวม​ชุด​นักพรต​!

“เพราะเหตุใด​สหาย​เซียน​จิน​จึงมีสีหน้า​เช่นนี้​ หรือว่า​ชุด​ที่​ข้า​สวม​มีอะไร​ไม่ถูกต้อง​?” เห​ริน​เซวียนจือ​ราวกับ​เปลี่ยนเป็น​คนละ​คน​ เอ่ย​ถามอย่าง​สง่างาม

จิน​เฟย​เหยา​มอง​เขา​อย่าง​พูดไม่ออก​ ภาพลักษณ์​ของ​เห​ริน​เซวียนจือ​ใน​ตอนนี้​กับ​เรื่อง​ที่​กระทำ​เมื่อ​ครู่​เป็น​คนละ​คน​กัน​โดยสิ้นเชิง​ หรือว่า​เจ้าคน​ที่​ดึง​หยิน​เสริม​หยาง​จะซ่อนตัว​อยู่​? นาง​ชี้เห​ริน​เซวียนจือ​แล้ว​เอ่ย​ถามอย่าง​ไม่อยาก​จะเชื่อ​ “ทำไม​เจ้าจึงสวม​ชุด​นักพรต​? แสร้งทำ​เหมือน​สำนัก​อัน​เที่ยงธรรม​เกินไป​แล้ว​”

มือซ้าย​ของ​เห​ริน​เซวียนจือ​จับ​กระบี่​บน​เอว​ มือขวา​ยกขึ้น​อย่าง​สง่างามแล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​คือ​ซั่นอวี่เจิน​เห​ริน​แห่ง​สำนัก​หมิง​เยวี่ย​ใน​โลก​วิญญาณ​ซั่งเยี่ย​ สิ่งที่​พวกเรา​ฝึก​คือ​วิถี​เซียน​ ไม่สวม​ชุด​นักพรต​แล้ว​จะสวม​อะไร​”

“เจ้าน่าจะ​หนี​ออก​มาจาก​สำนัก​สินะ​ สวม​แบบนี้​ไม่กลัว​ว่า​จะถูก​คน​พบเห็น​ร่องรอย​หรือ​?” ฟังดูเหมือน​เป็น​สำนัก​ใหญ่​ที่​มีชื่อเสียง​ของ​โลก​วิญญาณ​อื่น​ จิน​เฟย​เหยา​จึงรู้แจ้ง​ มิน่าเล่า​บุคลิก​จึงเต็มไปด้วย​ความ​เที่ยงธรรม​เหมือน​พวก​ที่​มีพลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​สูงๆ ของ​สำนัก​ตง​อวี้​หวง​

เที่ยงธรรม​? คิดไม่ถึง​ว่า​ข้า​จะรู้สึก​ถึงความ​เที่ยงธรรม​ได้​จาก​ตัว​เจ้าหมอ​นี่​ สวรรค์​ช่างเล่นตลก​จริงๆ​…

“ทำไม​ต้อง​หนี​ออกมา​” เห​ริน​เซวียนจือ​เอ่ย​อย่าง​ไม่เข้าใจ​ “ข้า​ออกมา​ท่อง​เที่ยวหา​ประสบการณ์​พอดี​ได้ยิน​ว่า​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​มีเทา​เที่ย​ ทั้ง​ยัง​เป็น​สตรี​ ดังนั้น​จึงคิด​จะมาดู​สักหน่อย​?”

“ท่อง​เที่ยวหา​ประสบการณ์​?”

“อืม​ ภายใน​ร่าง​ของ​ข้า​มีร่าง​แยก​ของ​ฉยงฉี​ จะอยู่​เจี๋ย​ตัน​เจี๋ย​หยวน​อิง​ใน​สำนัก​ได้​อย่างไร​ ย่อม​ต้อง​ออกมา​ข้างนอก​ คำนวณ​ดู​ข้า​ไม่ได้​กลับ​ไป​เกือบ​ห้า​ร้อย​ปี​แล้ว​ อยู่​โลก​วิญญาณ​หนาน​เฟิงอย่าง​สุขสบาย​เกินไป​หน่อย​ ยัง​ตัดใจ​จากไป​ไม่ได้​ชั่วคราว​” เห​ริน​เซวียนจือ​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ

“คน​โกหก​!” จิน​เฟย​เหยา​ชี้หน้า​ด่าทอ​เขา​ “เมื่อ​ครู่​เจ้าเพิ่ง​บอ​กว่า​ได้ยิน​ว่า​ที่นี่​มีเทา​เที่ย​จึงมาชัด​ๆ ตอนนี้​กลับ​บอ​กว่า​อยู่​โลก​วิญญาณ​หนาน​เฟิงอย่าง​สุขสบาย​เกินไป​หน่อย​ ฟังดู​ก็​รู้​ว่า​เจ้าอยู่​ที่นี่​มานาน​แล้ว​”

“เอ๋​? เสี่ยว​เตี๋ย​ ข้า​เคย​พูด​เช่นนั้น​หรือ​?” เห​ริน​เซวียนจือ​หันหน้า​ไป​ถามคน​ตัวเล็ก​ๆ ที่​บิน​อยู่​ด้าน​ข้าง​

เสี่ยว​เตี๋ย​พยักหน้า​ยืนยัน​คำพูด​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ ดังนั้น​เห​ริน​เซวียนจือ​จึงเอ่ย​ตอบ​ด้วย​สีหน้า​ผู้บริสุทธิ์​ “ข้า​ไม่ได้​พูด​ผิด​ ข้า​อยู่​ที่​โลก​วิญญาณ​หนาน​เฟิงได้ยิน​ว่า​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​ปรากฏ​เทา​เที่ย​ ดังนั้น​จึงคิด​จะไปดู​สักหน่อย​ เจ้าดู​สิ ข้า​กำลัง​อยู่​ระหว่างทาง​ไปหา​เจ้า บังเอิญ​พบ​ผู้​บำเพ็ญ​ซียน​สตรี​คน​นี้​บังคับ​ให้​ข้า​มีความสัมพันธ์​ด้วย​”

“โลก​วิญญาณ​หนาน​เฟิงและ​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​อยู่​ใน​สถานที่​เดียวกัน​ชัด​ๆ เพียงแต่​สิ่งแวดล้อม​ที่นี่​แย่​ไป​หน่อย​เท่านั้น​ พอ​เห็น​สตรี​ผู้​นี้​ก็​รู้​ว่า​ถูก​เจ้าหลอก​มาจาก​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​ขั้น​สร้าง​ฐาน​ของ​สำนัก​อัน​เที่ยงธรรม​คน​หนึ่ง​จะแล่น​มาหา​ที่​ตาย​ยัง​ดินแดน​โลก​วิญญาณ​หนาน​เฟิงหรือ​” จิน​เฟย​เหยา​คำราม​ใส่เขา​ เจ้าหมอ​นี่​พูดจา​เหลวไหล​เก่ง​จริงๆ​ บวก​กับ​ใบหน้า​ของ​เขา​จึงดูเหมือน​เป็น​ความจริง​ ทำให้​จิน​เฟย​เหยา​อด​คิด​จะด่าทอ​เขา​ไม่ได้​

แต่​เห​ริน​เซวียนจือ​กลับ​ไม่ตอบ​ แต่​เปลี่ยน​หัวข้อ​สนทนา​เอ่ย​ถามว่า​ “สหาย​เซียน​จิน​ เห็น​เจ้าเร่งรุด​เดินทาง​ ทั้ง​ยัง​เสียเวลา​ชมละคร​อยู่​ด้าน​ข้าง​เป็นเวลา​นาน​เพื่อ​ถามทาง​ เจ้าน่าจะ​หนี​ออกมา​สินะ​”

“เหลวไหล​ เห็นได้ชัด​เจน​อยู่แล้ว​ ข้า​ไม่เชื่อ​ที่​เจ้าบอ​กว่า​ออกมา​ท่อง​เที่ยวหา​ประสบการณ์​หรอก​ ถ้าคน​อย่าง​เจ้าอยู่​ใน​สำนัก​อัน​เที่ยงธรรม​ คง​นำ​ศิษย์​พี่​ศิษย์​น้อง​มาเสริม​พลัง​หมด​แล้ว​ แม้แต่​อาจารย์​ป้า​ก็​อาจจะ​ไม่ละเว้น​ สำนัก​ใด​จะรับ​เจ้าไว้​ได้​ ไม่จัดการ​ชำระ​สำนัก​ก็​นับว่า​ดีแล้ว​” ตอนนี้​จิน​เฟย​เหยา​มั่นใจ​อย่างยิ่ง​ คำพูด​ของ​เห​ริน​เซวียนจือ​เชื่อถือ​ไม่ได้​แม้แต่​ประโยค​เดียว​ สิ่งที่​พูด​มาทั้งหมด​ล้วน​เป็น​คำ​โกหก​ อย่า​ถูก​เปลือกนอก​ของ​เขา​หลอก​เอา​เด็ดขาด​

เห​ริน​เซวียนจือ​ส่าย​ศีรษะ​ทอดถอนใจ​เบา​ๆ “กระต่าย​จะกิน​หญ้า​ข้าง​รัง​ได้​อย่างไร​ ข้า​จะลงมือ​กับ​คนใน​สำนัก​ตนเอง​ได้​อย่างไร​ คาด​ว่า​เรื่อง​กิน​คนใน​สำนัก​ตนเอง​จน​เกลี้ยง​ ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​เทา​เที่ย​สหาย​เซียน​จิน​คง​ไม่กระทำ​”

จิน​เฟย​เหยา​รู้สึก​ใบ​หน้าร้อน​ซู่ ดูเหมือน​ตนเอง​เคย​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​ กิน​หญ้า​ข้าง​รัง​จน​ถูก​คน​ไล่​ไป​โลก​ระดับ​เทพ​ ตอนนี้​ครุ่น​คิดดู​อย่าง​ละเอียด​ ดูเหมือน​จะเป็นเรื่อง​โง่เขลา​จริงๆ​

“ถ้าสหาย​เซียน​จิน​ไม่มีที่​ไป​ ไป​เมือง​จุ้ย​เทียน​ซึ่งเป็นหนึ่ง​ใน​สามเมือง​ใหญ่​ของ​โลก​หนาน​เฟิงชั่ว​คราวก่อน​ คน​ที่นั่น​ล้วน​ฝึก​วิชา​ชั่วร้าย​ คาด​ว่า​ฐานะ​อย่าง​สหาย​เซียน​จิน​คง​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​เมือง​จุ้ย​เทียน​ได้​ไม่เลว​” เห​ริน​เซวียนจือ​เดิน​จาก​บน​ผิวน้ำ​ขึ้นฝั่ง​ เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ทะเลสาบ​ผืน​นี้​แล้​วอด​ทอดถอนใจ​ไม่ได้​ “ผ่าน​ไป​อีก​หลาย​ปี​ ที่นี่​จะเป็น​โอเอซิส​ที่​ใหญ่​กว่า​นี้​ มีน้ำ​และ​พื้นที่​สีเขียว​ให้​คน​จำนวนมาก​”

จะเชื่อ​สิ่งที่​ได้ยิน​และ​ได้​เห็น​เบื้องหน้า​ไม่ได้​เป็นอันขาด​ เจ้าหมอ​นี่​เป็น​คนชั่ว​ อย่า​ติดกับ​เด็ดขาด​ จิน​เฟย​เหยา​สูด​ลมหายใจ​ลึก​ๆ ไม่อยาก​มอง​ท่าทาง​จริงจัง​และ​สูงส่งของ​เจ้าหมอ​นี่​ตรงๆ​

“เสี่ยว​เตี๋ย​ พวกเรา​ก็​สวม​ควร​กลับ​ไป​แล้ว​ ไม่ได้​กิน​ผล​ลั่ว​หม่า​ผลผลิต​ท้องถิ่น​ของ​เมือง​จุ้ย​เทียน​มานาน​ แค่​คิดถึง​รสชาติ​ก็​ทำให้​คน​น้ำลายไหล​” เห​ริน​เซวียนจือ​ไม่ได้​พูด​กับ​จิน​เฟย​เหยา​ต่อ​ ทว่า​พูด​กับ​เสี่ยว​เตี๋ย​แทน​

เสี่ยว​เตี๋ย​บินวน​หลาย​รอบ​อย่าง​ดีอกดีใจ​พลาง​เอ่ย​ว่า​ “นาย​ท่าน​พูด​ได้​ถูกต้อง​ เสี่ยว​เตี๋ย​ออกมา​นาน​มาก​อยาก​จะกลับ​ไป​เช่นกัน​ ข้า​เกือบจะ​ลืม​รสชาติ​ของ​ปิ่ง​ย่าง​สมุนไพร​แล้ว​ กลับ​ไป​ข้า​ต้อง​กิน​สอง​ชิ้น​ ไม่ ข้า​จะกิน​สามชิ้น​”

จิน​เฟย​เหยา​ยืน​มอง​สอง​คน​นี้​พูดคุย​กัน​อย่าง​เบิกบาน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ คน​หนึ่ง​มีท่าทาง​เที่ยงธรรม​ อีก​คน​ก็​ใสซื่อ​น่ารัก​ ตัวเล็ก​มีเสน่ห์​ เป็นการ​รวม​ทีม​ลักพาตัว​สตรี​หลอก​เด็ก​ที่​ยอดเยี่ยม​ที่สุด​

เมือง​จุ้ย​เทียน​…จิน​เฟย​เหยา​ลังเล​ นาง​เคย​ได้ยิน​ชื่อ​สถานที่​นี้​ ซื่อ​เต้า​จิงเรียก​สถานที่​แห่ง​นี้​ว่า​เป็นหนึ่ง​ใน​สามเมือง​ใหญ่​ของ​พวก​ชั่วร้าย​ เดิมที​นาง​คิด​จะไปดู​สักหน่อย​ ได้ยิน​ว่า​มีผู้ฝึก​วิชา​ชั่วร้าย​ที่​ซื้อ​วิญญาณ​จำนวนมาก​ จิน​เฟย​เหยา​คิด​จะใช้วิญญาณ​ของ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​แลกเปลี่ยน​กับ​สิ่งของ​ฝึก​บำเพ็ญ​บางอย่าง​ หลัง​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​นาง​ไม่ค่อย​มีอารมณ์​อยาก​กิน​คน​มาก​นัก​ รู้สึก​ว่า​เริ่ม​กิน​ยา​ดีกว่า​

เพียงแต่​ใน​มือ​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ไม่มีหญ้า​วิญญาณ​ อยาก​จะหลอม​ยา​ก็​ทำ​ไม่ได้​ อีก​ทั้ง​ยัง​ต้อง​ซื้อ​สิ่งของ​ที่​ใช้วาด​ยันต์​เพิ่ม​ พูด​ไป​พูด​มาอย่างไร​ก็​ต้อง​ไป​สัก​ครา​

อีก​ทั้ง​จิน​เฟย​เหยา​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​พวกเขา​สอง​คน​ ผล​ลั่ว​หม่า​และ​ปิ่ง​ย่าง​สมุนไพร​คือ​สิ่งใด​ เลิศ​รส​ถึงปาน​นั้น​จริงๆ​ หรือ​?

“ใน​เมื่อ​พวก​เจ้าเชิญข้า​ไป​ เช่นนั้น​ข้า​ก็​จะฝืนใจ​ไป​สักครั้ง​ ขอ​บอก​เจ้าไว้​ก่อน​ อย่า​คิด​จะหลอก​ข้า​ไป​สถานที่​ใดๆ​ ถ้าข้า​พบ​ว่า​มีอะไร​ไม่ถูกต้อง​ ข้า​จะกิน​พวก​เจ้าสอง​คน​ทันที​” จิน​เฟย​เหยา​เชิดหน้า​ขึ้น​เอ่ย​อย่าง​ดุร้าย​

เห​ริน​เซวียนจือ​แย้มยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ถึงแล้ว​เจ้าก็​จะรู้​เอง​ว่า​ข้า​หลอก​เจ้าหรือไม่​”

ดังนั้น​พวกเขา​จึงหยุดพัก​อยู่​ริม​ทะเลสาบ​ครู่หนึ่ง​ รอ​จน​พลัง​วิญญาณ​ใน​ร่าง​กลับคืน​มา จิน​เฟย​เหยา​ก็​เหยียบ​พรม​บิน​เหาะ​ติดตาม​เห​ริน​เซวียนจือ​ไป​เมือง​จุ้ย​เทียน​

เห​ริน​เซวียนจือ​รู้สึก​สนใจ​พรม​บิน​ของ​จิน​เฟย​เหยา​จึงจ้องมอง​พรม​บิน​อยู่​นาน​ จิน​เฟย​เหยา​นึก​ว่า​เขา​รู้สึก​ว่า​เหยียบ​กระบี่​บิน​เหาะ​เหิน​เหน็ดเหนื่อย​เกินไป​จึงคิด​จะขอ​อาศัย​นั่ง​

คิดไม่ถึง​เห​ริน​เซวียนจือ​กลับ​ชมเชย​ว่า​ “ของ​วิเศษ​บิน​ได้​ชิ้น​นี้​ยอดเยี่ยม​จริงๆ​ ถ้าทำ​เรื่อง​อย่างว่า​บน​นั้น​ การ​เดินทาง​ก็​ไม่ล่าช้า​ และ​ยัง​สามารถ​มองเห็น​ทิวทัศน์​โดยรอบ​ ทำไม​ข้า​จึงไม่คิดถึง​สิ่งนี้​ตั้งแต่แรก​นะ​ หลัง​กลับ​ไป​ต้อง​หลอม​สร้าง​ชิ้น​หนึ่ง​ เพียงแต่​สหาย​เซียน​จิน​ ถึงเจ้าวาง​หมอนอิง​ไว้​ แต่​เกรง​ว่า​ร่ม​เล็ก​ๆ นี้​คง​บดบัง​สายตา​ของ​ผู้อื่น​ไม่ได้​ หรือว่า​เจ้ามีงานอดิเรก​ชอบ​ถูก​คน​มอง​?”

“ไสหัวไป​เลย​ ปาก​สุนัข​ไม่มีงาช้างงอกเงย​[1] เจ้าพูด​เรื่องเหลวไหล​ไร้สาระ​อะไร​ ไป​ไกลๆ​ หน่อย​ ห้าม​เข้าใกล้​ข้า​ภายใน​รัศมี​สามจั้ง!” จิน​เฟย​เหยา​ด่าทอ​เขา​ เจ้าหมอ​นี่​เป็น​คน​บ้ากาม​จริงๆ​ ลักษณะ​ภายนอก​ล้วน​แสร้งทำ​ขึ้น​ บ้า​ราคะ​เกินไป​จริงๆ​!

……………………………………………..

[1] ปาก​สุนัข​ไม่มีงาช้างงอกเงย​ หมายถึง​ ปาก​ของ​คนชั่ว​ก็​พูด​แต่​เรื่อง​ชั่วช้า​ พูด​เรื่อง​ดี​ไม่ได้​

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

Score 10

Options

not work with dark mode
Reset