คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตายบทที่ 280 หมอกขาวแห่งมี่ตี้

บทที่ 280 หมอกขาวแห่งมี่ตี้

เทือกเขา​อู​อวิ๋น​ทอดตัว​ยาว​เกือบ​ห้า​ร้อย​ห​ลี่​ เนื่องจาก​มีสัตว์​ปิศาจ​มากมาย​ สำนัก​เทียน​ตี้​ที่​เลี้ยงสัตว์​เป็นหลัก​จึงเลือก​ที่นี่​เป็น​สถาน​ที่ตั้ง​สำนัก​ เพื่อ​ความปลอดภัย​ของ​ศิษย์​ใน​สำนัก​และ​เพื่อให้​สะดวก​ใน​การ​รับ​ศิษย์​ สำนัก​เทียน​ตี้​จึงสร้าง​อยู่​บน​หน้าผา​ของ​เทือกเขา​อู​อวิ๋น​

หน้าผา​เป็น​ยอดเขา​สูงถึงร้อย​จั้ง ด้านหลัง​เป็น​เทือกเขา​อู​อวิ๋น​ซึ่งทอดตัว​ยาว​ต่อเนื่อง​ ส่วน​ด้านหน้า​กลับเป็น​หน้าผา​ที่​ดูเหมือน​ถูก​คม​ดาบ​ฟัน​อย่าง​ประณีต​

บน​ผนัง​ศิลา​เรียบ​ลื่น​สุด​เปรียบ​ปาน​ ไม่มีหญ้า​ขึ้น​เลย​สักนิด​ ถูก​เจ้าสำนัก​เทียน​ตี้คน​แรก​ใช้เวทมนตร์​เขียน​อักษร​ไว้​บน​นั้น​สี่ตัว​ว่า​สำนัก​เทียน​ตี้​ อักษร​สี่ตัว​นี้​ลึก​ครึ่ง​จั้ง แต่ละ​อักษร​กว้าง​สิบ​จั้ง ขอ​เพียง​เห็น​เทือกเขา​อู​อวิ๋น​ก็​ต้อง​เห็น​อักษร​ขนาดใหญ่​สี่ตัว​ว่า​สำนัก​เทียน​ตี้บ​น​ผนัง​ผา​

หน้าผา​แห่ง​นี้​ก็​ถูก​เรียก​ว่า​ หน้าผา​เทียน​ตี้​ และ​สำนัก​เทียน​ตี้​ก็​สร้าง​อยู่​บน​ยอด​หน้าผา​ เนื่องจาก​สำนัก​เทียน​ตี้​ใช้การขับขี่​สัตว์​เป็นหลัก​ สัตว์​ภูติ​ต้องการ​พื้นที่​ขนาดใหญ่​ ดังนั้น​ที่อยู่อาศัย​ของ​บรรดา​ศิษย์​ส่วนมาก​จึงเรียบง่าย​และ​เข้ากับ​ธรรมชาติ​เป็นหลัก​ บ้าน​และ​ตำหนัก​ใหญ่​ที่​สร้าง​จาก​หิน​หยก​ อิฐ​ และ​กระเบื้อง​มีไม่มาก​ อาคาร​ที่​สร้าง​ขึ้น​จาก​อิฐ​และ​กระเบื้อง​เพียง​แห่ง​เดียว​คือ​ ตำหนัก​เทียน​ตี้ห​ลิง​ ซึ่งเป็น​ตำหนัก​หลัก​ของ​สำนัก​เทียน​ตี้​

บน​หน้าผา​เทียน​ตี้​เต็มไปด้วย​เรือน​เล็ก​ๆ นานา​ชนิด​ราวกับ​มีเห็ด​งอก​ แม้แต่​ศิษย์​ขั้น​ฝึก​ปราณ​ที่​เพิ่ง​เข้าสู่​สำนัก​ก็​สามารถ​กั้น​พื้น​ที่อยู่อาศัย​และ​เลี้ยงสัตว์​ภูติ​ของ​ตนเอง​ได้​

สัตว์​ภูติ​ที่​ศิษย์​สำนัก​เทียน​ตี้​ใช้งาน​ส่วนมาก​อาศัย​อยู่​ใน​เทือกเขา​อู​อวิ๋น​ ใน​เทือกเขา​อู​อวิ๋น​มีสัตว์​ปิศาจ​มาก​ถึงสอง​ร้อย​กว่า​ชนิด​และ​เป็น​สถานที่​ซึ่งมีสัตว์​ปิศาจ​มาก​ที่สุด​ใน​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​ ถึงส่วนมาก​จะเป็น​สัตว์​ปิศาจ​ระดับ​ต่ำ​ ทว่า​การ​เลี้ยงดู​สัตว์​ปิศาจ​ล้วน​ต้อง​เริ่ม​ตั้งแต่​เป็น​ไข่​หรือ​ลูก​สัตว์​ สัตว์​ที่​โต​เต็ม​วัย​แล้ว​ถึงไม่ค่อย​มีประโยชน์​ แต่​ก็​ไม่มีผลกระทบ​กับ​สำนัก​เทียน​ตี้​

นอกจาก​สัตว์​ปิศาจ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​เทือกเขา​อู​อวิ๋น​ยังมี​หญ้า​วิญญาณ​ที่​ขึ้น​ใน​ป่า​และ​วัตถุดิบ​หลอม​สร้าง​อาวุธ​เวท​ ทำให้​สำนัก​เทียน​ตี้​สามารถ​เลี้ยงดู​ศิษย์​ระดับ​ล่าง​ใน​สำนัก​ได้​อย่าง​เพียงพอ​

เพียงแต่​ส่วนลึก​ของ​เทือกเขา​อู​อวิ๋น​จะมีสัตว์​ปิศาจ​ขั้น​ห้า​ขั้น​หก​ไปมา​ สถานที่​บางแห่ง​ยัง​เป็น​สถานที่​อันตราย​ซึ่งมีไอพิษ​สะสม สถานที่​เหล่านี้​ต่อให้​สัตว์​ปิศาจ​เข้าไป​ก็​ไม่เหลือ​แม้แต่​ซาก​จึงกลายเป็น​เขต​ต้องห้าม​ของ​สำนัก​เทียน​ตี้​

โดยเฉพาะ​สอง​ปี​นี้​ เทือกเขา​อู​อวิ๋น​ปราก​ฎหุบเขา​ต้องห้าม​แห่ง​หนึ่ง​ซึ่งถูก​เรียก​ว่า​มี่ตี้[​1] ที่นั่น​กิน​พื้นที่​ห้าสิบ​กว่า​หมู่​ ถูก​หมอก​ขาว​ปกคลุม​ตลอดปี​ หุบเขา​แห่ง​นี้​มีสระน้ำ​และ​ด้านใน​มีของเหลว​สีขาว​น้ำนม​ชนิด​หนึ่ง​ซึ่งมีกลิ่นหอม​หวาน​สุด​เปรียบ​ปาน​ไม่เหมือน​สถานที่​ซึ่งมีไอพิษ​อื่นๆ​

ถึงดม​แล้​วจะ​มีกลิ่นหอม​มาก​ ทว่า​ขอ​เพียง​สัมผัส​ของเหลว​เหล่านี้​ก็​สามารถ​ทำให้​สัตว์​ปิศาจ​ถูก​พิษ​ตาย​ได้​ทันที​ เนื้อหนัง​ของ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​เน่า​เฟะ ส่วน​สระน้ำ​ซึ่งมีรูปร่าง​เป็น​แถบ​ยาว​สามหมู่​กว่า​ พอดี​สกัดกั้น​ทางเข้า​หุบเขา​ไว้​ หมอก​ขาว​ลอย​อยู่​เหนือ​สระน้ำ​ ทำให้​คน​ไม่ทราบ​กระจ่าง​ว่า​สระน้ำ​พิษ​แห่ง​นี้​กว้าง​เพียงใด​

มีศิษย์​ขั้น​สร้าง​ฐาน​ของ​สำนัก​เทียน​ตี้​บุก​ทะลวง​เข้าไป​ และ​ติด​อยู่​ใน​หมอก​ขาว​หลาย​วัน​ออกมา​ไม่ได้​ ส่วน​น้ำ​พิษ​อัน​หอม​หวาน​เหล่านั้น​ก็​ราวกับ​ไม่มีขอบเขต​ สุดท้าย​พวกเขา​เดิน​วน​อยู่​หลาย​วัน​ราวกับ​แมลงวัน​โดน​คลุม​หัว​จึงเดิน​ออกมา​จากหมอก​ขาว​ผืน​นี้​ได้​

ด้านใน​ไม่มีสิ่งใด​ อีก​ทั้ง​น้ำ​พิษ​เหล่านี้​ก็​ยัง​ดุร้าย​ผิดปกติ​ นอกจาก​บางครั้ง​มีผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สำนัก​เทียน​ตี้​บางคน​ที่​แล่น​พิษ​มาเอา​น้ำ​พิษ​ไป​บ้าง​ ที่นี่​ก็​กลายเป็น​สถานที่​ซึ่งผ่าน​ไป​หลาย​เดือน​ก็​ไม่มีคน​ปรากฏตัว​ขึ้น​สัก​คน​

จิน​เฟย​เหยา​พอใจ​การป้องกัน​ที่​ตนเอง​สร้าง​ขึ้น​อย่างยิ่ง​ กลาง​หุบเขา​วาง​เกาะ​ลอย​ได้​เล็ก​ๆ ได้​พอดี​ เพื่อ​ไม่ให้​ศิษย์​สำนัก​เทียน​ตี้​พบเห็น​ที่นี่​ นาง​จึงให้​พั่งจื่อ​และ​ต้า​นิว​เค้น​น้ำ​พิษ​สิบ​กว่า​วัน​ตรง​ทางเข้า​หุบเขา​ จากนั้น​กา​งวง​เวท​วิญญาณ​สิบสอง​ปิศาจ​ทำให้​ภายใน​หุบเขา​ทั้งหมด​เต็มไปด้วย​หมอก​ขาว​ปกคลุม​บดบัง​เกาะ​ลอย​ได้​เล็ก​ๆ ไว้​

ศิษย์​สำนัก​เทียน​ตี้​ซึ่งแล่น​มาสำรวจ​ความลึกลับ​ทั้งหมด​ถูก​นาง​กักขัง​ไว้​ใน​วง​เวท​วิญญาณ​สิบสอง​ปิศาจ​ วง​เวท​วิญญาณ​ปิศาจ​ที่​บรรจุ​มังกร​ขั้น​เจ็ด​สิบสอง​ตัว​ อานุภาพ​ไม่เหมือนกับ​ตอน​บรรจุ​สัตว์​ปิศาจ​ขยะ​ขั้น​สอง​ขั้น​สามใน​วันวาน​ ทำให้​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​เหล่านี้​หลงทาง​จน​สับสน​และ​แยก​ทิศทาง​ไม่ออก​ ทั้ง​ยัง​สร้าง​ภาพมายา​เป็นพิเศษ​ทำให้​พวกเขา​เข้าใจผิด​นึก​ว่า​มาถึงใน​หุบเขา​ และ​ทุก​แห่งหน​ใน​หุบเขา​แห่ง​นี้​เต็มไปด้วย​น้ำ​พิษ​ ไม่มีหญ้า​วิญญาณ​หรือ​สิ่งพิเศษ​เฉพาะ​อะไร​

การสังหาร​พวกเขา​ง่ายดาย​ยิ่ง​ แค่​เกรง​ว่า​หลังจาก​สังหาร​แล้ว​ คน​เหล่านี้​จะอับอาย​จน​กลายเป็น​โทสะ​จน​ต้อง​รู้​สิ่งที่อยู่​ใน​หมอก​ขาว​ให้​กระจ่าง​ชัด​ให้ได้​ ถ้าแล่น​มาที่นี่​ทั้งวัน​คง​น่ารำคาญ​แทบตาย​ ดังนั้น​จิน​เฟย​เหยา​จึงให้​พวกเขา​เข้ามา​ได้​อย่าง​สบาย​ๆ หลังจาก​ขัง​ไว้​สามสี่วัน​ค่อย​ปล่อย​ออกมา​

ทำ​เช่นนี้​หลายครั้ง​ คน​ของ​สำนัก​เทียน​ตี้​จึงไม่ค่อย​ชอบ​มาที่นี่​อีก​ บางครั้ง​ยังมี​คน​มาเก็บ​น้ำ​พิษ​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​คร้าน​จะยุ่งเกี่ยว​

วัน​เวลา​เงียบสงบ​ จิน​เฟย​เหยา​จึงสามารถ​ฝึก​บำเพ็ญ​ได้​อย่าง​สบายใจ​

นาง​ยืน​อยู่​ข้าง​สระน้ำ​ของ​เกาะ​ลอย​ได้​มอง​พั่งจื่อ​ใช้ศิลา​วิญญาณ​ชั้นล่าง​เป็น​ก้อนอิฐ​และ​กระเบื้อง​ปู​ก้น​สระ​ทีละ​ชิ้น​ ก็​ด่าทอ​อย่าง​ไม่พอใจ​ว่า​ “พั่งจื่อ​ พวก​เจ้าฉวยโอกาส​ที่​ข้า​ไม่อยู่​ใน​เกาะ​ ทำ​อะไร​ไป​ทั่ว​! เจ้าถึงกับ​ทำ​ต้า​นิว​ท้อง​โต​ ก่อนหน้านี้​ข้า​ก็​บอก​แล้ว​ว่า​เลี้ยง​ไท่จื่อ​โซ่ว​มากมาย​ไม่ไหว​ แต่​เจ้ากลับ​ถือเป็น​เสียง​ลม​พัดผ่าน​หู​”

มอง​พั่งจื่อ​ก้มหน้าก้มตา​ทำงาน​โดย​ไม่ส่งเสียง​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​เดือดดาล​อย่างยิ่ง​ นาง​ตำหนิ​พั่งจื่อ​ไม่หยุด​ “เกาะ​ลอย​ได้​มีขนาด​เพียง​สิบ​หมู่​ ยัง​ขุด​แปลง​สมุนไพร​ของ​ข้า​เป็น​สระน้ำ​อีก​สอง​หมู่​ เจ้าเอา​ศิลา​วิญญาณ​ปู​ด้านล่าง​ทำไม​? ต่อให้​ศิลา​วิญญาณ​ชั้นล่าง​ไม่มีค่า​ใน​โลก​ระดับ​วิญญาณ​ ข้า​ก็​มีแค่​ถุงนี้​ถุงเดียว​ เจ้าคิด​จะสร้าง​รัง​ลูก​ๆ ให้​ดี​หน่อย​ ไม่ไป​เก็บ​ก้อนหิน​ข้างนอก​มาเล่า​!”

“มด​หนึ่ง​ผลึก​ก็​เป็น​เจ้าตัว​น่า​ผิดหวัง​ ผ่าน​ไป​หลาย​วัน​ข้า​ได้​ศิลา​วิญญาณ​มาใหม่​แค่​หลาย​สิบ​ก้อน​ ต่อไป​มีเจ้าตัว​กิน​เก่ง​มากมาย​ขนาด​นี้​ มิกิน​จน​ข้า​ล้มละลาย​หรือ​!” จิน​เฟย​เหยา​บ่น​อย่าง​ไม่พอใจ​ เอ่ยปาก​พูด​ไม่หยุด​

“นี่​ เจ้าว่า​เมีย​เจ้าจะคลอด​เมื่อใด​ นี่​ก็​สอง​ปี​แล้ว​นะ​ ตอน​ข้า​ไม่อยู่​ยัง​ไม่แน่ใจ​ว่า​ท้อง​เมื่อไร​ คง​มิใช่ไม่มีลูก​แต่​กิน​มากเกินไป​จน​อ้วน​หรือไม่​?” มอง​พั่งจื่อ​ถูก​ด่าทอ​อยู่​นาน​กลับ​ไม่ส่งเสียง​สัก​แอะ​ จิน​เฟย​เหยา​จึงเอ่ย​ถามอย่าง​สงสัย​

ในที่สุด​พั่งจื่อ​ที่​กำลัง​ปู​ศิลา​วิญญาณ​ก็​ทนไม่ไหว​ ใช้ศิลา​วิญญาณ​ใน​ฝ่ามือ​กบ​ขว้าง​ก้น​สระ​ แล้ว​คำราม​ใส่จิน​เฟย​เหยา​ “อ๊บ​ อ๊บๆ!​ อ๊บ!”​

จิน​เฟย​เหยา​ฟังอยู่​นาน​ จากนั้น​จึงหลุบ​ตา​ลง​เอ่ย​ถามอย่าง​อย่าง​สงสัย​ยิ่ง​ “เจ้าว่า​อะไร​นะ​? ต้า​นิว​บังคับ​ผลัก​เจ้าล้ม​ จากนั้น​บีบบังคับ​ให้​เจ้าล่วงเกิน​ เจ้าแค่​ถูก​ภูตผี​ดลใจ​ไป​ชั่วขณะ​จึงไม่ได้​ดิ้นรน​ เจ้าไป​หลอก​ผี​เถอะ​ เจ้านึก​ว่า​ข้า​ไม่รู้​หรือ​ ว่า​กบ​ทำ​จาก​ด้านหลัง​…หรือว่า​ต้า​นิว​สามารถ​กด​เจ้าลง​กับ​พื้น​ จากนั้น​หันหลัง​ให้​เจ้าแล้ว​ขึ้น​คร่อม​?”

“อ๊บ!”​ พั่งจื่อ​พลัน​ตะโกน​ลั่น​อย่าง​ตื่นเต้น​ ใน​ดวงตา​เต็มไปด้วย​หยาด​น้ำตา​

จิน​เฟย​เหยา​หมด​วาจา​ มอง​มัน​อย่าง​สงบนิ่ง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​ส่าย​หาง​หมุนตัว​จากไป​ นาง​ไม่อยาก​เข้าใจ​พั่งจื่อ​จริงๆ​ ขอ​เพียง​เป็น​ภาพ​ที่​จินตนาการ​ไว้​ใน​สมอง​ นาง​ก็​รู้สึก​ว่า​ไม่มีอะไร​จะพูด​ หมด​วาจา​จะตอบ​ ทำให้​คนรับ​ไม่ได้​โดยสิ้นเชิง​

พั่งจื่อ​เห็น​จิน​เฟย​เหยา​ทิ้ง​มัน​ไว้​แล้ว​เดิน​จากไป​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​ตะโกน​ลั่น​ใส่ท้องฟ้า​อย่าง​เศร้าโศก​

“ไม่ต้อง​ตะโกน​แล้ว​ ได้เปรียบ​แล้ว​ยัง​อวด​ฉลาด​อีก​ ฝัน​ไป​เถอะ​ เจ้าก็ได้​ลิ้มรส​จุดสุดยอด​ของ​กบ​ไป​แล้ว​ ยังมี​อะไร​ไม่พอใจ​อีก​ ถ้ายัง​ไม่ทำงาน​ระวัง​ต้า​นิ​วจะ​อัด​เจ้า” จิน​เฟย​เหยา​หมุนตัว​มาคำราม​ใส่มัน​หลาย​ประโยค​ จากนั้น​ก็​กลับ​กระท่อม​

ตอนนี้​จิน​เฟย​เหยา​อาศัย​อยู่​ใน​กระท่อม​ที่​จอม​มาร​หลง​อาศัย​อยู่​ใน​อดีต​ กระท่อม​ของ​ตนเอง​ให้​ต้า​นิว​ยึดครอง​ เป็น​กบ​สอง​ตัว​และ​สุนัข​หนึ่ง​ตัว​ยัง​จะอาศัย​อยู่​กระท่อม​อีก​ แต่​ต้า​นิว​กลับ​ต้อง​อยู่​ใน​กระท่อม​ ทั้ง​ยังมี​พวก​โต๊ะ​เก้าอี้​เตียง​ฟูก​พร้อมสรรพ​ แม้แต่​อ่าง​อาบน้ำ​ก็​ให้​มัน​ยึดครอง​

เนื่องจาก​อ้วน​เกินไป​ ต้า​นิว​จึงมีสีหน้า​อัปลักษณ์​ ดุร้าย​ และ​เกียจคร้าน​ทั้งวัน​

ไม่รู้​ว่า​พั่งจื่อ​ไร้​มโนธรรม​หรือ​จิตใจ​ได้รับ​ความกระทบกระเทือน​สุดขีด​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะหด​ลีบ​ ถ้ามีเวลาว่าง​ก็​หดตัว​อยู่​ใต้​ต้นไม้​ทั้งวัน​ มอง​ดอกไม้​สีแดง​สีขาว​เหล่านี้​อย่าง​เหม่อลอย​ ดวงตา​ไร้​ชีวิตชีวา​ แต่​พอ​ครุ่น​คิดดู​อย่าง​ละเอียด​ ปกติ​ดวงตา​ของ​เจ้านี่​ก็​ไม่ค่อย​มีชีวิตชีวา​อยู่แล้ว​ ตอนนี้​เป็น​แบบนี้​ก็​สมน้ำหน้า​มัน​ ใคร​ให้​ใน​อดีต​มัน​ใช้งาน​ต้า​นิว​เป็น​ทาส​ทั้งวัน​

เก้าอี้นอน​ที่​จิน​เฟย​เหยา​สั่งทำ​เมื่อ​ร้อย​ปีก่อน​ตกเป็นของ​ต้า​นิว​ เห็น​มัน​ยัด​ร่าง​อ้วน​ๆ ลง​ไป​นอน​โยก​บน​เก้าอี้​ นาง​ก็​ถอนหายใจ​ชื่นชม​ใน​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​เก้าอี้​ตัว​นี้​ ของ​หนัก​ขนาด​นี้​ยัง​วาง​ลง​ไป​ได้​ คิดไม่ถึง​ว่า​มัน​แค่​ส่งเสียงดัง​เอี๊ยด​อ๊าด​ ทว่า​ไม่ได้​หลุด​เป็น​ชิ้นๆ​

จิน​เฟย​เหยา​ปิดประตู​กระท่อม​ ทอดถอนใจ​ชื่นชม​พี่​สยง​ ดูเหมือน​เขา​จะคาดเดา​ได้​ว่า​ตนเอง​จะกลายเป็น​เช่นนี้​ จึงท่องจำ​เวท​หุ่นเชิด​มาให้​ตนเอง​โดยเฉพาะ​ ถ้าไม่มีเสี่ยว​หง​กับ​เสี่ยว​ลวี่​ ทั้ง​ต้า​นิว​ยัง​ถูก​พั่งจื่อ​ทำ​ท้อง​โต​ คง​ไม่มีใคร​ทำงาน​จิปาถะ​บน​เกาะ​

คิด​ถึงว่า​ต่อไป​ภายใน​สระน้ำ​สอง​หมู่​จะเต็มไปด้วย​ลูกอ๊อด​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​รู้สึก​ศีรษะ​พอง​โต​ มีเพียง​เสี่ยว​หง​กับ​เสี่ยว​ลวี่​เกรง​ว่า​คง​ทำงาน​ไม่ทัน​ ท่าทาง​ตนเอง​ต้อง​หลอม​หุ่นเชิด​พวก​เสี่ยว​ห​ลัน​เสี่ยว​หวง​ออกมา​ ไม่เช่นนั้น​ในอนาคต​คงอยู่​ไม่ไหว​

ในขณะที่​นาง​รู้สึก​หงุดหงิด​ คิด​จะต่อย​อาชญากร​ตัวสำคัญ​อย่าง​พั่งจื่อ​สัก​ยก​ นอก​หุบเขา​ก็​มีเสียงร้อง​ของ​สัตว์​ภูติ​ดัง​มา สัตว์​ภูติ​ของ​ลี่​เหนียง​มากินข้าว​ฟรี​อีกแล้ว​

ตั้งแต่​จิน​เฟย​เห​ยามา​ตั้งรกราก​ใน​เทือกเขา​อู​อวิ๋น​และ​ยัง​ล่าสัตว์​ปิศาจ​หลาย​ตัว​โยน​ให้​พวก​สัตว์​หลัว​ซิงกิน​ฟรี​ๆ บางครั้งบางคราว​เจ้าพวก​นี้​ก็​มาขอ​ข้าว​กิน​ แต่​ไม่ได้มา​มือเปล่า​ ทุกครั้ง​ที่มา​ล้วน​นำ​ข่าวสาร​ที่​ได้ยิน​จาก​โลก​ภายนอก​หรือ​ขโมย​ซื่อ​เต้า​จิงมาให้​จิน​เฟย​เหยา​

พวก​มัน​มีข้าว​กิน​ จิน​เฟย​เหยา​ก็ได้​รู้​ข่าวสาร​ภายนอก​ เรียก​ได้​ว่า​ยิง​นัด​เดียว​ได้​นก​สอง​ตัว​

จิน​เฟย​เหยา​นำ​ถุงเฉียน​คุ​น​ใบ​หนึ่ง​ลง​มาจาก​บน​กำแพง​ ด้านใน​มีสัตว์​ปิศาจ​สามตัว​ที่​ออก​ไป​ล่า​มาเมื่อวันก่อน​ นาง​คาบ​ถุงเฉียน​คุ​น​ใบ​นี้​ไว้​ใน​ปาก​แล้ว​กระโดด​ออกจาก​เกาะ​ลอย​ได้​เล็ก​ๆ ออกจาก​หมอก​ขาว​ และ​เหาะ​ข้าม​น้ำ​พิษ​ร่อน​ลง​นอก​หุบเขา​

วันนี้​สัตว์​ภูติ​ที่มา​มียี่สิบ​กว่า​ตัว​ มีสัตว์​หลัว​ซิงเป็น​ผู้นำ​ดังเดิม​ มัน​ช่วย​เอา​ซื่อ​เต้า​จิงฉบับ​ล่าสุด​มาให้​จิน​เฟย​เหยา​

จิน​เฟย​เหยา​โยน​สัตว์​ปิศาจ​สูงหนึ่ง​ถึงสอง​จั้งจำนวน​สามตัว​ใน​ถุงเฉียน​คุ​น​ไป​ให้​ แล้ว​งับ​ซื่อ​เต้า​จิงมาอ่าน​ด้าน​ข้าง​ ส่วน​พวก​สัตว์​หลัว​ซิงล้อมวง​กิน​สัตว์​ปิศาจ​สามตัว​นี้​อย่าง​เต็มที่​

จิน​เฟย​เหยา​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ท่า​ทางการ​กิน​ของ​พวก​มัน​ก็​ส่าย​ศีรษะ​ เจ้าพวก​นี้​จะออกมา​ก็​ต้องหา​โอกาส​ ลี่​เหนียง​เฝ้าพวก​มัน​อย่าง​เข้มงวด​ อีก​ทั้ง​สัตว์​หลัว​ซิงยัง​พา​สัตว์​ภูติ​ใน​สำนัก​เดียวกัน​มาจำนวน​ไม่น้อย​ หาก​ไม่รู้​ยัง​นึก​ว่า​นาง​เป็น​สัตว์​ภูติ​มีความรัก​เมตตา​อย่าง​ล้นเหลือ​

เป็น​สัตว์​ภูติ​ไม่ง่ายดาย​เลย​ ปกติ​ต้อง​ออก​ไป​ล่าสัตว์​กับ​เจ้านาย​ เหยื่อ​ที่​จับได้​ก็​ต้อง​ส่งมอบให้​เจ้านาย​ ปกติ​ได้รับ​อาหารสัตว์​เพียง​เล็กน้อย​ บางครั้งบางคราว​หา​โอกาส​หนี​ออกมา​สักครั้ง​ก็​ไม่มีเวลา​ไป​ล่า​ อีก​ทั้ง​สัตว์​ภูติ​เหล่านี้​ยัง​ดื้อรั้น​ รู้สึก​ว่า​เหยื่อ​ที่​ตนเอง​ล่า​ได้​จะมอบให้​คนอื่น​ไม่ได้​ ต้อง​มอบให้​เจ้านาย​ของ​ตนเอง​ทั้งหมด​จึงสบายใจ​

จิน​เฟย​เหยา​คิดถึง​เรื่อง​นี้​ก็​ไม่เข้าใจ​ สิ่งของ​ที่​พวก​เจ้าล่า​เอง​ยัง​ต้อง​ส่งมอบให้​เจ้านาย​ สิ่งของ​ที่​ผู้อื่น​ล่า​มาสามารถ​แบ่ง​ให้​พวก​เจ้ากิน​ฟรี​ได้​ งุนงง​จริงๆ​ ไม่มีเหตุผล​เลย​สักนิด​ ค่าตอบแทน​ใน​การ​รู้​ข่าวสาร​โลก​ภายนอก​แพง​จริงๆ​ ให้​เจ้าพวก​นี้​ได้เปรียบ​แล้ว​

………………………………

[1] มี่ตี้​ หมายถึง​ สถานที่​อัน​หอม​หวาน​

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

Score 10

Options

not work with dark mode
Reset