คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย 265 เจ้าเป็นของข้าแล้ว

ตอนที่ 265 เจ้าเป็นของข้าแล้ว

ใน​ช่วง​วิกฤติ​ แสงสีม่วง​ทาง​ด้าน​ข้าง​พุ่ง​มาโจมตี​ศีรษะ​ของ​เทา​เที่ย​อย่าง​หนักหน่วง​ เทา​เที่ย​หันหน้า​ไป​คำราม​ บน​ศีรษะ​มีโลหิต​สด​ไหล​ลงมา​ทันที​

จู๋ซวี​อู๋​ฉวยโอกาส​นี้​บน​ร่าง​ปรากฏ​แสงสีเขียว​สาย​หนึ่ง​ลอย​ออก​ไป​พัน​บน​ต้นไม้​ด้าน​ข้าง​แล้ว​ฉุด​ลากตัว​เขา​ออกห่าง​จาก​ปาก​เทา​เที่ย​

“ขอบคุณ​อาจารย์​” จู๋ซวี​อู๋​ร่าง​กระแทก​พื้น​ เอ่ย​ขอบคุณ​เบา​ๆ

พอใช้​การรับรู้​ตรวจสอบ​ดู​อีกครั้ง​ จู๋ซวี​อู๋​ก็​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​ กระดูก​ทั่ว​ร่าง​หัก​เจ็ดสิบ​สามแห่ง​ นี่​แค่​กรงเล็บ​เดียว​ของ​เทา​เที่ย​เท่านั้น​ หรือว่า​เพื่อให้​กิน​สะดวก​จึงทุบ​กระดูก​ให้​หัก​ก่อน​

“เจ้าอย่า​ทำ​เรื่อง​น่าขำ​อีก​ ตอนนี้​ไม่ใช่เรื่อง​ที่​เจ้าสามารถ​สอด​มือ​ได้​แล้ว​” ข้าง​กาย​จู๋ซวี​อู๋​มีสาวน้อย​อายุ​สิบ​ขวบ​คน​หนึ่ง​ปรากฏตัว​ขึ้น​ เกล้าผม​เป็น​มวย​สาวน้อย​น่ารัก​ สวม​ชุด​กระโปรง​ลาย​ดอกไม้​เล็ก​ๆ สีม่วง​ แต่งหน้า​ทา​แป้ง​งดงาม​อย่างยิ่ง​ นาง​มอง​จู๋ซวี​อู๋​ด้วย​สายตา​ตาข่าย​ลม​คม​ รัศมี​สีม่วง​โอบล้อม​ทั่ว​ร่าง​ กระพริบ​แสงสีม่วง​วิบวับ​

เวลานี้​เทา​เที่ย​ถูก​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​คนอื่นๆ​ ล้อม​ไว้​ จู๋ซวี​อู๋​มอง​สาวน้อย​ข้าง​กาย​อย่าง​จนใจ​ เอ่ย​พึมพำ​ว่า​ “อาจารย์​ ถึงอย่างไร​ข้า​กับ​นาง​ก็​เคย​รู้จัก​กัน​”

“เจ้ากำลัง​พูดเหลวไหล​อะไร​! เพราะเหตุใด​เจ้าจึงเข้าสู่​หนทาง​แห่ง​การ​บำเพ็ญ​เซียน​ หรือว่า​เพื่อ​ใจอ่อน​เหมือน​สตรี​? ถ้าเป็น​เช่นนี้​ เจ้าสลาย​พลัง​ฝึกปรือ​แล้ว​กลับ​ลง​ไป​อยู่​โลก​มนุษย์​เถอะ​” สาวน้อย​มอง​เขา​อย่าง​เย็นชา​แล้ว​ตวาด​

“อาจารย์​ ศิษย์​ทราบ​ความผิด​แล้ว​” จู๋ซวี​อู๋​ถอนหายใจ​ยาว​ เอ่ย​เสียง​แผ่วเบา​

พอมือ​ของ​สาวน้อย​ถอย​ไป​ จู๋ซวี​อู๋​ก็​ถูก​ผลัก​เข้าไป​ใน​วง​เวท​การป้องกัน​ที่​เตรียม​ไว้​นาน​แล้ว​ นี่​คือ​สถานที่​ซึ่งให้​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ที่​ได้รับบาดเจ็บ​หลบ​ชั่วคราว​โดยเฉพาะ​ จากนั้น​นาง​ก็​ก้าว​เข้าไป​ใกล้​เทา​เที่ย​อย่าง​สง่างาม

เทา​เที่ย​ถูก​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​หลาย​สิบ​คน​ล้อม​ไว้​ ราวกับ​มัน​รู้​ว่า​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​เหล่านี้​คิด​จะจับ​เป็นมัน​ จึงไม่ได้​ลงมือ​อย่าง​อำมหิต​ ดังนั้น​เทา​เที่ย​จึงไม่กลัว​พวกเขา​สักนิด​ ถึงกับ​คิด​ฉวยโอกาส​ที่​พวกเขา​ไม่กล้า​ลงมือ​รุนแรง​ ซ้อน​แผน​คิด​จะกิน​คน​เพิ่ม​อีก​หลาย​คน​

ความ​ตะกละ​และ​เจริญอาหาร​ของ​มัน​ทำให้​คน​ทอดถอนใจ​ เพิ่ง​ถูก​เชือก​ทอง​เส้น​หนึ่ง​ล่าม​ไว้​ มัน​ก็​ร้อง​คำราม​แล้ว​เอา​หัว​พุ่งชน​ ทำเอา​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​แปลง​จิต​สอง​คน​ถูก​ชน​ลอย​ออก​ไป​ สะบัด​หาง​ที​หนึ่ง​ สายลม​คลั่ง​ก็​พัด​ม้วน​ขึ้น​ ผิว​ดิน​หนา​หลาย​จั้งถูก​ตัดออก​ไป​ทันที​ เทา​เที่ย​ฉวยโอกาส​ที่​ตนเอง​มีเรี่ยวแรง​เยอะ​ทำลาย​เวท​ป้องกัน​นานา​ชนิด​ที่​บรรดา​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ใช้อย่าง​ต่อเนื่อง​

มีตาข่าย​ขนาด​ยักษ์​ลอย​มาปกคลุม​มัน​ไว้​จาก​หัว​จรด​เท้า​อีก​ เทา​เที่ย​พยายาม​ดึง​ตาข่าย​และ​ส่งเสียงร้อง​คำราม​ขึ้น​ฟ้า จากนั้น​ฉีก​กระชาก​อย่าง​แรง​ คิดไม่ถึง​ว่า​ของ​วิเศษ​ชั้นบน​ชิ้น​นี้​จะถูก​มัน​ฉีก​จน​ขาด​และ​มุด​ออก​มาจาก​ข้างใน​ครึ่งตัว​

“เก็บ​!” ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​ว่างเปล่า​ที่​โยน​ของ​วิเศษ​ชิ้น​นี้​ออกมา​ สายตา​ของ​เขา​เคร่งเครียด​ ทำ​มุทรา​แล้ว​ถ่ายเท​พลัง​วิญญาณ​ลง​ไป​ ตาข่าย​ขนาด​ยักษ์​ที่​ขาด​ก็​เริ่ม​รวบ​เข้าหา​กัน​และ​รัด​บน​ร่าง​ของ​เทา​เที่ย​แน่น​

“โฮก​!” เทา​เที่ย​คำราม​อย่าง​เดือดดาล​ ร่าง​ถูก​ตาข่าย​ขนาด​ยักษ์​รัด​จน​โลหิต​สด​ไหล​ ขา​หน้า​ก้าว​มาข้างหน้า​ ไอ​ปิศาจ​สีดำ​แผ่​ออกมา​ ใน​ไอ​ปิศาจ​มีเปลวเพลิง​สีดำ​ปะปน​อยู่​ เปลวเพลิง​สีดำ​แล่น​ไป​ตาม​ตาข่าย​ขนาด​ยักษ์​ และ​เผา​ตาข่าย​ขนาด​ยักษ์​ขาด​ทันที​

ถ้าจิน​เฟย​เหยา​เจอ​ของ​วิเศษ​ชั้นบน​เช่นนี้​ ต่อให้​นาง​ใช้เรี่ยว​แรงดูด​น้ำนม​มารดา​ก็​ไม่มีทาง​ใช้ไฟนรก​เผา​ตาข่าย​ขาด​ ทว่า​ใน​มือ​ของ​เทา​เที่ย​มีปริมาณ​ไฟนรก​มากกว่า​ตอนที่​จิน​เฟย​เหยา​ใช้หลายเท่า​

“ทำให้​มัน​บาดเจ็บ​แล้ว​ค่อย​จับ​!” เห็น​ว่า​ถ้าเป็น​เช่นนี้​ต่อไป​คง​ไม่ดี​แน่​ ถ้าถูก​คน​เผ่า​มาร​พบเห็น​ก็​ยุ่ง​แล้ว​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​ว่างเปล่า​อีก​คน​หนึ่ง​โยน​กระบี่​บิน​ที่​มีแสงสีแดง​กระพริบ​ออกมา​ฟัน​เทา​เที่ย​

เทา​เที่ย​ก็​อ้า​ปาก​ยิง​แสงสีขาว​สาย​หนึ่ง​ออกมา​ แล้ว​กลายเป็น​โล่​ขนาด​ยักษ์​อย่าง​รวดเร็ว​ไป​สกัด​กระบี่​บิน​เล่ม​นั้น​ไว้​เสียงดัง​เค​ร้ง​ โล่​ยักษ์​เห็นได้ชัด​ว่า​โปร่งใส​ ตรงกลาง​มีริ้ว​สีแดง​และ​สีทอง​ปะปน​อยู่​เล็กน้อย​ โล่​ยักษ์​และ​กระบี่​บิน​ปะทะ​กัน​เสียงดัง​

นี่​คือ​อะไร​! ทุกคน​ตะลึงงัน​ เทา​เที่ย​ยังมี​ของ​วิเศษ​แก่น​ชีวิต​ด้วย​?

ในเวลานี้​เอง​ เทา​เที่ย​อ้า​ปาก​ แสงสีขาว​อีก​สาย​หนึ่ง​ก็​ลอย​ออกมา​ ค้อน​หัว​สุนัขป่า​อัน​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​กลางอากาศ​ ทุบ​กระบี่​บิน​ที่​กำลัง​ต่อกร​กับ​โล่​ยักษ์​ กระบี่​บิน​ส่งเสียงดัง​ติง​แล้วก็​ถูก​ค้อน​หัว​สุนัขป่า​กระแทก​ออก​ไป​

ทง​เทียน​หรู​อี้​ภายใต้​เจตจำนง​ของ​เทา​เที่ย​กลายเป็น​รูปร่าง​นานา​ชนิด​โจมตี​ใส่ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​รอบด้าน​ จากนั้น​มัน​ก็​สลัด​หลุด​ออกจาก​เวท​ป้องกัน​ กระโดด​ขึ้น​งับ​แขน​ของ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​ว่างเปล่า​คน​หนึ่ง​ขาด​จึงหลบหนี​ออกจาก​วงล้อม​

“โจมตี​! โจมตี​! อย่า​ให้​มัน​หนี​ไป​ได้​!” เสียง​เร่งเร้า​อย่าง​รีบร้อน​ดัง​ขึ้น​ใน​หมู่​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​

จู๋ซวี​อู๋​นอน​อยู่​บน​พื้น​ มอง​แขน​ของ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​ว่างเปล่า​ที่​ถูก​มัน​คาบ​หนี​ไป​ พลัน​เอ่ย​ว่า​ “ถ้าตอนนั้น​ข้า​บอก​นาง​ตรงๆ​ จากนั้น​เลี้ยง​อาหาร​นาง​ เกรง​ว่า​คง​ไม่กลายเป็น​เช่นนี้​ อ้อมค้อม​ก็​เป็น​ความผิด​อย่างหนึ่ง​สินะ​ หึหึ​หึ​”

นอกจาก​เขา​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​คนอื่นๆ​ ต่าง​หัวเราะ​ไม่ออก​ เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​ล้อม​ไว้​ทันที​ จะทุบตี​ก็​ต้อง​ควบคุม​ระดับ​พลัง​ ใช้พลัง​เบา​ไป​ก็​ไม่ได้ผล​ ถ้าลง​มือหนัก​ไป​ฟาด​ตาย​ทันที​จะทำ​อย่างไร​ คน​หลาย​สิบ​คน​ลงมือ​พร้อมกัน​อาจจะ​ทำให้​มัน​ตาย​ได้​ใน​กระบวน​ท่าเดียว​

“ทุกคน​ระวัง​ อย่า​ทุบตี​ให้​ตาย​เด็ดขาด​! ต่ำกว่า​ขั้น​แปลง​จิต​ลง​ไป​ให้​เฝ้าและ​กักขัง​เป็นหลัก​ เลือก​ขั้น​ว่างเปล่า​ออกมา​โจมตี​คน​หนึ่ง​ก็​พอ​!” ใน​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ยาก​นัก​ที่จะ​มีผู้นำ​ปรากฏ​ขึ้น​ออกคำสั่ง​กรีด​มือ​วาด​เท้า​อยู่​ตรงนั้น​

พอ​ทุกคน​เห็น​ เป็น​เพียง​ชนชั้น​ไร้​นาม​ขั้น​แปลง​จิต​คน​หนึ่ง​ ทว่า​ตอนนี้​สับสนวุ่นวาย​จึงได้​แต่​เชื่อฟัง​เขา​ ขั้น​แปลง​จิต​ลงมา​ต่าง​ถอน​การ​โจมตี​ ส่วน​ขั้น​ว่างเปล่า​ยาม​กะทันหัน​ไม่รู้​ว่า​สมควร​เลือก​ใคร​ดี​

“ข้า​เอง​!” ในเวลานี้​มีเสียง​นุ่มนวล​ดัง​มา พอ​ทุกคน​เห็น​ เป็น​อาจารย์​ของ​จู๋ซวี​อู๋​ สาวน้อย​หน้าตา​อ่อนเยาว์​คน​หนึ่ง​ก้าว​ออกมา​

“ถงเมิ่งเจิน​เห​ริน​ ขอ​มอบให้​ท่าน​” พอ​ทุกคน​เห็น​นาง​ก็​มอบ​งาน​นี้​ให้​ทันที​ คนอื่นๆ​ ไป​กัก​เทา​เที่ย​ต่อ​ ไม่ให้​มัน​ทำร้าย​คน​และ​หลบหนี​ไป​

การ​โจมตี​สะเปะสะปะ​เมื่อ​ครู่​ทุบตี​จน​เทา​เที่ย​โลหิต​อาบ​ร่าง​แล้ว​ ขน​ยา​วสี​ดำ​ถูก​โลหิต​สด​แปะ​ติด​ไว้​ด้วยกัน​เป็น​ก้อน​ๆ สูญเสีย​ความ​มันวาว​ใน​ยาม​ปกติ​ไป​นาน​แล้ว​ ราวกับ​เทา​เที่ย​ตระหนัก​ได้​ถึงอันตราย​ สายตา​ของ​มัน​มอง​สาวน้อย​ที่​ไร้​พิษภัย​คน​นั้น​

“วายุ​บงกช​ม่วง​” ถงเมิ่งเจิน​เห​ริน​กาง​สอง​มือ​ออก​ ก้อน​สีม่วง​ใน​มือ​นาง​บิน​ร่ายรำ​ อานุภาพ​กดดัน​และ​พลัง​วิญญาณ​ที่​ทำให้​คน​ใจเต้น​รัว​แผ่ขยาย​ออกมา​

ม่านตา​ของ​เทา​เที่ยหด​เล็ก​ลง​ หลัง​โก่ง​ขน​สีดำ​ชี้ชัน​ จับจ้อง​ถงเมิ่งเจิน​เห​ริน​ด้วย​สายตา​ดุร้าย​

ถงเมิ่งเจิน​เห​ริน​เป่า​เบา​ๆ ก้อน​สีม่วง​ก็​เตรียม​ลอย​ออก​ไป​

ทันใดนั้น​ เจตนา​สังหาร​ก็​แล่น​ปราด​มาจาก​รอบด้าน​ ทุกคน​ต่าง​พบ​เจตนา​สังหาร​ที่มา​อย่าง​ไม่คาดฝัน​จึงรีบ​มอง​ไป​โดยรอบ​ เห็น​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​เผ่า​มนุษย์​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​สอง​ร้อย​กว่า​คน​และ​สัตว์​ปิศาจ​ขั้น​แปด​กระโดด​ออกมา​ เจตนา​สังหาร​พุ่ง​เข้าใส่​ทุกคน​

“แย่​แล้ว​! เผ่า​มาร​มาแล้ว​” ฉาก​นี้​คุ้นตา​เกินไป​จริงๆ​ เป็น​เวท​หุ่นเชิด​ของ​จอม​มาร​หง​ที่​น่าชัง​ของ​เผ่า​มาร​มิใช่หรือ​! คิดไม่ถึง​ว่า​จะได้ข่าว​และ​แล่น​มาชิงเทา​เที่ย​

ถงเมิ่งเจิน​เห​ริน​เห็น​ฉาก​นี้​ก็​รีบ​ใช้วายุ​บงกช​ม่วง​โจมตี​เทา​เที่ย​ ขอ​เพียง​ชิงจับ​เทา​เที่ย​ได้​ก่อน​เผ่า​มาร​ ครั้งนี้​ก็​ถือว่า​เผ่า​มนุษย์​ชนะ​!

ก้อน​สีม่วง​ที่​มีขนาดใหญ่​เพียง​กำปั้น​ลอย​ไปหา​หน้าผาก​ของ​เทา​เที่ย​และ​แปรเปลี่ยน​อย่าง​รวดเร็ว​ แสงสีม่วง​สาย​แล้ว​สาย​เล่า​หมุน​วน​ตาม​ด้านหลัง​มัน​ ขณะที่​แลเห็น​ว่า​กำลังจะ​โจมตี​โดน​เทา​เที่ย​ พลัน​มีเงาดำ​สาย​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​เบื้องหน้า​หน้าผาก​ของ​เทา​เที่ย​

ชุด​ยา​วสี​ดำ​ล่องลอย​ เส้น​ผม​สีดำ​ปลิว​ไสว​ ผู้​มาพอดี​เป็น​จอม​มาร​หลง​ มือ​ของ​เขา​ผนึก​คาถา​อย่าง​รวดเร็ว​จน​ดวงตา​เห็น​เพียง​เงาตกค้าง​ ชั่วพริบตา​ที่​วายุ​บงกช​ม่วง​เข้ามา​ใกล้​เขา​ก็​ผนึก​คาถา​เสร็จสิ้น​ แสงรัศมี​ลวดลาย​ซับซ้อน​สาย​หนึ่ง​โจมตี​เข้าไป​ใน​สมอง​ของ​เทา​เที่ย​

ชั่วเวลา​ครึ่ง​อึดใจ​ วายุ​บงกช​ม่วง​จู่โจมใส่อากาศ​และ​บิน​ออก​มาจาก​สถานที่​ซึ่งเดิมที​มีเทา​เที่ย​ ส่วน​จอม​มาร​หลง​หิ้ว​เทา​เที่ย​ที่สูง​เพียง​ครึ่งตัว​คน​ปรากฏตัว​ขึ้น​กลางอากาศ​ เทา​เที่ย​สูญเสีย​ลักษณะ​ก่อนหน้านี้​ไป​ ดวงตา​ใต้​วงแขน​หาย​ไป​ ลำตัว​อวบอ้วน​ราวกับ​สุนัข​ขนาดใหญ่​ แทบจะ​ไม่มีพลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​และ​ทั่ว​ร่าง​มีโลหิต​สด​หยด​ลงมา​ไม่หยุด​

หลง​หิ้ว​เทา​เที่ย​ที่​เหมือน​สุนัข​ขนาดใหญ่​ตัว​นี้​ เอ่ย​กับ​ถงเมิ่งเจิน​เห​ริน​อย่าง​เย็นชา​ “นี่​เป็น​สัตว์​เฝ้าบ้าน​ของ​ข้า​ พวก​เจ้าจะจับ​มัน​เคย​ถามข้า​แล้ว​หรือยัง​” สิ้น​เสียง​ เกาะ​ลอย​ได้​ทั้ง​เกาะ​พลัน​เปลี่ยนเป็น​มืดมิด​

ภายใน​ห้วง​การรับรู้​ ลวดลาย​ที่​จู่โจมเข้า​สมอง​ของ​เทา​เที่ย​ปรากฏ​ขึ้น​กลางอากาศ​ของ​ห้วง​การรับรู้​ หลังจาก​กระพริบ​อยู่​หลายครั้ง​ก็​หาย​ไป​ จากนั้น​กลางอากาศ​ปรากฏ​จุด​สีดำ​เล็ก​ๆ เทา​เที่ย​น้อย​ตัว​หนึ่ง​ร่วง​ลง​มาจาก​ท้องฟ้า​ พุ่ง​หัว​ทิ่ม​ลง​ไป​ใน​น้ำทะเล​สีดำ​ จากนั้น​มัน​ก็​ขึ้น​มาบน​ผิวน้ำ​และ​ตะกุย​ขา​ว่ายน้ำ​

จิน​เฟย​เหยา​ที่​ลอย​อยู่​ใน​ห้วง​การรับรู้​ค่อยๆ​ ลืมตา​และ​ลุกขึ้น​นั่ง​บน​ผิว​ทะเล​ ลูบ​ศีรษะ​แล้ว​มอง​ไป​รอบด้าน​ ทันใดนั้น​ นาง​รีบ​ลูบคลำ​บน​ร่าง​ หลังจาก​พบ​ว่า​ครบ​สมบูรณ์​ไม่มีสิ่งใด​บุบสลาย​จึงโล่งอก​และ​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ตกใจ​แทบตาย​ ข้า​นึก​ว่า​จะถูก​หยวน​เห​มิ่งที่​น่าชัง​คน​นั้น​สังหาร​ทิ้ง​เสียแล้ว​ ข้า​ว่า​หา​วิธี​กลับ​โลก​ระดับ​วิญญาณ​ดีกว่า​ ที่นี่​น่ากลัว​เกินไป​”

จิน​เฟย​เหยา​ลุกขึ้น​มอง​และ​รู้สึก​สงสัย​อยู่​บ้าง​ “ข้า​มาอยู่​ใน​การรับรู้​ได้​อย่างไร​ หรือว่า​กาย​เนื้อ​ของ​ข้า​ตาย​แล้ว​? ไม่ถูกสิ​ ถ้าข้า​ตาย​คง​ไม่มีห้วง​การรับรู้​แล้ว​”

ในเวลานี้​เอง​ เทา​เที่ย​ก็​ว่าย​มาถึงข้าง​เท้า​นาง​และ​กระโดด​ขึ้น​บน​ผิว​ทะเล​ สะบัด​ขน​ทั่ว​ร่าง​และ​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​จิน​เฟย​เหยา​

“เอ๋​? เหตุใด​เจ้าจึงมีเลือด​เต็มตัว​ อยู่​ที่นี่​เจ้าก็​กลายเป็น​แบบนี้​ได้​ มีความสามารถ​มากเกินไป​แล้ว​ เจ้าได้มา​อย่างไร​?” จิน​เฟย​เหยา​เห็น​มัน​อ่อนโยน​ใจดี​จึงลูบ​หลัง​มัน​ พอ​พบ​ว่า​บน​มือ​เต็มไปด้วย​โลหิต​สด​ก็​อด​เอ่ย​อย่าง​ตกตะลึง​ไม่ได้​

เทา​เที่ย​ได้ยิน​คำพูด​ของ​นาง​ก็​บิด​กาย​อย่าง​เย่อหยิ่ง​ดำ​ลง​ไป​ใน​น้ำทะเล​สีดำ​ทันที​และ​หาย​ไป​โดย​ไร้​ร่องรอย​

“เชอะ​ เสียศักดิ์ศรี​” อารมณ์​ของ​มัน​ถ่ายทอด​มาถึงจิน​เฟย​เหยา​ทันที​ นา​งอด​ด่าทอ​ยิ้ม​ๆ ไม่ได้​

“จะว่า​ไป​แล้ว​ข้า​สมควร​ออก​ไปดู​หน่อย​ สัตว์​ปิศาจ​ภายนอก​มากมาย​ขนาด​นั้น​ คง​ไม่ได้​กิน​ข้า​ต่าง​เนื้อ​ย่าง​หรอก​นะ​ แต่​เพลิง​ใหญ่​ขนาด​นั้น​ ต่อให้​ย่าง​สุก​ก็​คงจะ​ดำ​เป็น​ถ่าน​ ใคร​จะกิน​ลง​” จิน​เฟย​เหยา​สั่น​ศีรษะ​พลาง​หัวเราะ​ คิด​จะนำ​การรับรู้​ออกจาก​ห้วง​การรับรู้​

เดิมที​เพียงแค่​คิด​ก็​สามารถ​ออก​ไป​ได้​ นาง​กลับ​พบ​ว่า​ตนเอง​ถึงกับ​ออก​ไป​ไม่ได้​ ทดลอง​อยู่​หลายครั้ง​ก็​ไม่ได้​ จิน​เฟย​เหยา​ยืน​อึ้ง​อยู่​บน​ผิว​ทะเล​ ไม่เข้าใจ​ว่า​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​

ในขณะที่​นาง​กังวล​ว่า​ตนเอง​ต้อง​อยู่​ที่นี่​ไป​ชั่วชีวิต​ กลาง​ท้อง​นภา​พลัน​มีหลุม​สีดำ​ปรากฏ​ขึ้น​ จิน​เฟย​เหยา​รู้สึก​ว่า​พอ​สติ​วูบ​ไหว​คน​ก็​ไป​อย่าง​เลอะเลือน​

“ใต้เท้า​หลง​ ท่าน​บุ่มบ่าม​เกินไป​แล้ว​” ข้าง​หู​จิน​เฟย​เหยา​มีคำพูด​ดัง​มา คำ​ว่า​ใต้เท้า​หลง​ทำให้​นาง​สะดุ้ง​และ​ลืมตา​ขึ้น​ จากนั้น​ก็​เห็น​จอม​มาร​หลง​นั่งยองๆ​ อยู่​ข้าง​กาย​นาง​

เห็น​นาง​ฟื้น​ขึ้น​มา จอม​มาร​หลง​ก็​ยื่นมือ​มาลูบ​ศีรษะ​นาง​ จากนั้น​เอ่ย​ว่า​ “นับ​จาก​วันนี้​ไป​ เจ้าเป็น​ของ​ข้า​แล้ว​”

“หา​?” จิน​เฟย​เหยา​มอง​เขา​อย่าง​งุนงง​ ไม่เข้าใจ​เลย​สักนิด​ว่า​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

Score 10

Options

not work with dark mode
Reset