ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษเล่มที่ 15 บทที่ 426 เดินทางถึงต่างเมือง

เล่มที่ 15 บทที่ 426 เดินทางถึงต่างเมือง

“เช่นนั้น​พา​พวก​นาง​ไปด้วย​เถิด​ รอ​ถึงเมือง​หลิน​เทียน​แล้ว​ค่อย​หา​สถานที่​ปลอดภัย​ให้​แก่​พวก​นาง​ ท่าน​คิดเห็น​เช่นไร​?”

คำกล่าว​ของ​นาง​ทำให้​สีหน้า​เย็นชา​ของ​หลง​เทียน​อวี้​อ่อนโยน​ลง​มาก​

ตรึกตรอง​สักครู่​ก่อน​จะผงกศีรษะ​ เขา​ไม่แม้แต่​จะเหลือบตา​มอง​หญิงสาว​ซึ่งกำลัง​ส่งเสียง​สะอึกสะอื้น​อยู่​เบื้องหน้า​

“เอาล่ะ​ ใน​เมื่อ​พี่ใหญ่​เห็นด้วย​แล้ว​ เช่นนั้น​พวก​เจ้าสามารถ​ติดตาม​พวก​ข้า​ไปได้​ชั่วคราว​ หงอ​วี้​ เจ้ากับ​น้องสาว​นั่ง​บน​รถม้า​ของ​ข้า​ก็แล้วกัน​”

หงอ​วี้​มอง​หยวน​หลิน​อย่าง​ซาบซึ้งใจ​ หาก​มิใช่เพราะ​นาง​ คุณชาย​หยวน​เหมย​อาจ​บั่น​คอ​ซู่เหมย​ไปแล้ว​

แม้ซู่เหมย​จะยก​ยิ้มมุมปาก​น้อย​ๆ แล้ว​ แต่​ถึงกระนั้น​ก็​ไม่ลืม​ที่จะ​เอื้อนเอ่ย​ขอบคุณ​คุณชาย​ทั้งสอง​ แต่​สิ่งที่​นาง​กลัว​ที่สุด​คือ​ความคิด​ของ​เด็กสาว​คน​นี้​ต่างหาก​

เฮ้อ​ หวัง​ว่า​น้องสาว​ของ​นาง​จะคิดได้​

รถม้า​มีขนาด​ไม่ใหญ่​เป็น​ทุนเดิม​อยู่แล้ว​ เมื่อ​ต้อง​นั่ง​เพิ่ม​อีก​สามคน​ นอกจาก​อา​ซิ่ว​ที่​ตัว​ค่อนข้าง​เล็ก​ที่สุด​แล้ว​ หงอ​วี้​และ​ซู่เหมย​ต่าง​ต้อง​ขดตัว​อยู่​ที่​มุมหนึ่ง​

หลิน​เมิ้งห​ยา​ไม่ชอบ​ท่าทาง​อ่อนแอ​ของ​ซู่เหมย​ แต่​เพราะ​เห็นแก่หน้า​ของ​หงอ​วี้​ ฉะนั้น​นาง​จึงไม่ว่า​กระไร​

เมื่ออกจาก​ตำบล​ซื่อ​ฟางแล้ว​ หลิน​เมิ้งห​ยา​จึงออกจาก​รถม้า​แล้ว​ห​าม้ามาตัว​หนึ่ง​เพื่อ​ขี่​

“เลิก​ทำตัว​น่าสงสาร​ได้​แล้ว​ แม้พี่​เสี่ยว​หยวน​จะหลงกล​ แต่​คนอื่น​หา​ได้​หลงกล​เช่น​เขา​ไม่ ท่าน​คือ​พี่​หงอ​วี้​ใช่หรือไม่​ ได้​โปรด​ดูแล​น้องสาว​ของ​ท่าน​ให้​ดี​ มิเช่นนั้น​อย่า​หาว่า​ข้า​ไม่ไว้หน้า​เลย​”

ขณะ​พูด​ อา​ซิ่ว​หยัก​ยิ้ม​น้อย​ๆ

“แม่นาง​อา​ซิ่ว​ อันที่จริง​…ข้า​แค่​…แค่​ตกใจ​มาก​ไปหน่อย​เท่านั้น​”

ซู่เหมย​ยิ้ม​ฝืด​ๆ อย่าง​ลำบากใจ​ หยดน้ำ​สีใสเอ่อ​คลอ​บน​ดวงตา​เปล่งประกาย​ราว​หยดน้ำ​คู่​นั้น​

ท่าทาง​น่าสงสาร​จับใจ​ นาง​พยายาม​หดตัว​อยู่​ที่​มุมหนึ่ง​ ราวกับ​กำลัง​โดน​อา​ซิ่ว​รังแก​

“ตกใจ​? หาก​ตกใจ​แล้ว​ทำไม​จึงไม่ไปกอด​ขา​คนอื่น​เล่า​? เหตุใด​จึงต้อง​เจาะจงกอด​ขา​พี่​ต้า​หยวน​ด้วย​ อีก​ไม่ไกล​ก็​จะถึงเมือง​หลิน​เทียน​แล้ว​ เจ้ากับ​พี่สาว​ของ​เจ้าจะได้​ใช้ชีวิต​ต่อไป​อย่าง​สงบ​ที่นั่น​ รับรอง​ว่า​จะไม่มีใคร​รู้เรื่องราว​ใน​อดีต​ของ​พี่สาว​เจ้าอย่าง​แน่นอน​ เจ้าคิดเห็น​เช่นไร​เล่า​?”

อา​ซิ่ว​ฉีก​ยิ้ม​หัวเราะ​คิกคัก​ ทว่า​ดวง​ตากลับ​คมกริบ​

“ไม่! ใน​เมื่อ​คุณชาย​หยวน​รับ​ข้า​เอาไว้​แล้ว​ เช่นนั้น​ข้า​ก็​เป็น​คน​ของ​เขา​ ยิ่งไปกว่านั้น​นาง​หา​ใช่พี่สาว​ของ​ข้า​ไม่ นาง​เป็น​เพียง​ผู้หญิง​โสโครก​เท่านั้น​! หาก​ข้า​ไปใช้ชีวิต​ด้วยกัน​กับ​นาง​แล้ว​ต้อง​กลายเป็น​ผู้หญิง​ห​ยำ​….”

“เพียะ”​ เสียงดัง​ขึ้น​ อา​ซิ่ว​ตบหน้า​ซู่เหมย​โดย​ไร้​ซึ่งความปราณี​

รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​เลือนหาย​ไป ดวงตา​คมกริบ​ประหนึ่ง​ใบ​มีด​

“อย่า​ลืม​ว่า​เจ้าทำ​เรื่อง​อะไร​ลง​ไปบ้าง​ตอนที่​พวกเรา​อยู่​ด้วยกัน​! เจ้าบอ​กว่า​นาง​เป็น​ผู้หญิง​ห​ยำ​ฉ่า แต่​หาก​ไม่มีนาง​แล้ว​ล่ะ​ก็​ ป่านนี้​ไม่รู้​ว่า​เจ้าจะถูก​ขาย​ไปอยู่​ที่​หอ​นางโลม​แห่ง​ไหน​แล้ว​!”

ซู่เหมย​ผงะ​จ้อง​อา​ซิ่ว​นิ่ง​ กลีบ​ปาก​สั่นเทิ้ม​ แต่​นาง​กลับ​ไม่กล้า​พูด​อะไร​ออกมา​

อา​ซิ่ว​ปราย​สายตา​ดูแคลน​ไปที่​ผู้หญิง​สองหน้า​คน​นั้น​เล็กน้อย​ บางอย่าง​นาง​ก็​ไม่อยาก​พูด​ออกมา​ให้​ชัดเจน​ เหตุ​เพราะ​กลัว​ว่า​คนกลาง​อย่าง​หงอ​วี้​จะลำบากใจ​

“หาก​ไม่อยาก​ให้​ข้า​พูด​เรื่อง​นั้น​ออกมา​ เจ้าจงอยู่​อย่าง​สงบเสงี่ยม​เสียเถิด​”

พูด​จบ​ อา​ซิ่ว​ก็​หันหน้า​ออกนอกหน้า​ต่าง​

แม้ป๋าย​ซ่าว​และ​หงอ​วี้​จะไม่รู้​ว่า​พวก​นาง​กำลัง​พูด​เรื่อง​อะไร​ แต่​พวก​นาง​รู้สึก​ได้​ว่า​ซู่เหมย​คน​นี้​จะต้อง​มิได้​ใสซื่อ​อย่าง​ที่​แสดง​ออกมา​

หลิน​เมิ้งห​ยา​ขี่ม้า​ด้วย​ท่าทาง​ผ่อนคลาย​ หลง​เทียน​อวี้​และ​ชิวอวี้​ขี่ม้า​ขนาบ​ซ้าย​และ​ขวา​

ทั้ง​สามตก​อยู่​ใน​บรรยากาศ​เงียบขรึม​ชวน​อึดอัด​ ไม่มีใคร​ยอม​เริ่ม​บทสนทนา​ก่อน​

ทว่า​สายตา​ของ​ชิวอวี้​และ​หลง​เทียน​อวี้​ต่าง​แอบมอง​หลิน​เมิ้งห​ยา​อยู่​หลาย​หน​ บางครั้ง​เมื่อ​หันหน้า​มาเจอ​สายตา​ของ​อีก​ฝ่าย​ พวกเขา​ต่าง​ถลึงตา​ให้​กัน​อย่า​งอด​ไม่ได้​

“ข้า​มีเรื่อง​อยาก​บอก​พวก​เจ้า”

หลังจาก​สติสัมปชัญญะ​ของ​ตนเอง​กลับมา​ครบถ้วน​ หลิน​เมิ้งห​ยา​ตัดสินใจ​ที่จะ​เตือน​ชิวอวี้​และ​หลง​เทียน​อวี้​

“เรื่อง​อะไร​?”

ทั้งสอง​เอ่ย​ถามพร้อมกัน​ ก่อน​จะเงียบ​ลง​อีก​หน​หนึ่ง​

“มีคน​จับตามอง​ข้า​อยู่​ เมื่อคืน​ข้า​ได้​เจอ​กับ​เจ้าของ​ของ​หอ​หุย​ชุน​ฟาง ตอนแรก​คิด​ว่า​เขา​ไม่รู้เรื่อง​ของ​ข้า​ แต่​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​เขา​จะรู้จัก​ตัวตน​ของ​ข้า​ตั้งแต่แรก​แล้ว​”

สีหน้าท่าทาง​ของ​ชิวอวี้​และ​หลง​เทียน​อวี้​พลัน​เคร่งขรึม​ลง​ พวกเขา​ทั้งสอง​ล้วน​ติด​อยู่​ใน​วังวน​แห่ง​การ​แก่ง​แย่งชิง​อำนาจ​ใน​ราชสำนัก​ ดังนั้น​ย่อม​ได้กลิ่น​ความไม่ชอบมาพากล​

“คน​ของ​ไท่จื่อ​หรือ​?”

หลังจาก​ตรึกตรอง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ชิวอ​วี้​จึงกระซิบ​ถาม

“ไม่น่า​ใช่ ไท่จื่อ​หา​ใช่คน​มีความอดทน​ เมิ้งห​ยา​ เจ้าพบเห็น​สิ่งใด​อีก​หรือไม่​?”

เมื่อ​พูด​เรื่องสำคัญ​ หลง​เทียน​อวี้​และ​ชิวอวี้​ต่าง​มีท่าทาง​จริงจัง​

แม้ไท่จื่จะ​ชอบ​สร้าง​ความวุ่นวาย​ แต่​หลง​เทียน​อวี้​รู้จัก​แผนการ​ของ​สอง​แม่ลูกคู่​นั้น​ดี​ หาก​ไท่จื่อ​มือ​ยื่นมือ​ยาว​ได้​ถึงขนาด​นี้​ เช่นนั้น​พวกเขา​สอง​แม่ลูก​คง​ไม่อาศัย​จังหวะ​ที่​ฮ่องเต้​กำลัง​ประชวร​ไปทำการ​ลับหลัง​หรอก​

“บางที​อาจ​เกี่ยวข้อง​กับ​พวก​ป๋าย​หลง​เฮย​ฮู่ ข้า​คิด​ว่า​พวกเขา​หา​ใช่เพียง​กลุ่ม​พ่อค้า​มนุษย์​ธรรมดา​อย่าง​แน่นอน​ ลาน​ลับ​ใน​หุย​ชุน​ฟางมีภาพวาด​ประติมากรรม​และ​ตัวเรือน​แกะสลัก​อย่าง​วิจิตรตระการตา​ สิ่งเหล่านี้​ย่อม​มิใช่ของ​ที่​คนธรรมดา​พึงมี​ แม้แต่​ใน​เมืองหลวง​เอง​ยัง​พบเห็น​ได้​ยาก​ ยิ่งไปกว่านั้น​ข้า​ยัง​ได้ยิน​มาว่า​พวกเขา​มิได้​ครอบครอง​ที่นั่น​เพียง​แห่ง​เดียว​”

สายลม​อ่อน​ๆ พัด​กระทบ​ใบหน้า​ข้าง​แก้ม​ของ​หลิน​เมิ้งห​ยา​ ความร้อน​อบอ้าว​ใน​ร่างกาย​จึงลดลง​ไปบ้าง​

ชิวอวี้​และ​หลง​เทียน​อวี้​ต่าง​ตก​อยู่​ใน​ห้วง​ความคิด​ของ​ตนเอง​เหมือนกัน​กับ​หลิน​เมิ้งห​ยา​ พวกเขา​ล้วน​มีข้อสันนิษฐาน​ที่​แตก​ต่างกัน​ออก​ไป

หลังจาก​ตรึกตรอง​อยู่​ชั่วครู่​ สุดท้าย​พวกเขา​ตัดสินใจ​ตามติด​หลิน​เมิ้งห​ยา​ทุก​ย่างก้าว​เพื่อ​ปกป้อง​ความปลอดภัย​ของ​นาง​

“เอาล่ะ​ พวกเรา​อย่า​เพิ่ง​คิดมาก​ไปเลย​ อย่าง​น้อย​พวกเขา​ยัง​ไม่อยาก​ปลิดชีวิต​ข้า​ใน​ตอนนี้​ ข้า​ระวังตัว​มาก​หน่อย​ก็​พอ​ ยิ่งไปกว่านั้น​ข้า​คิด​ว่า​พวกเขา​ต้อง​พิจารณา​บางอย่าง​ก่อน​วางแผน​ลงมือ​กับ​ข้า​ มิเช่นนั้น​ป่านนี้​คง​ฆ่าข้า​ไปแล้ว​”

หลิน​เมิ้งห​ยา​ยังคง​เป็น​หลิน​เมิ้งห​ยา​ แม้อีก​ฝ่าย​จะประสงค์ร้าย​ต่อ​นาง​ แต่​อย่าง​น้อย​ตอนนี้​นาง​ก็​หา​จุด​ได้เปรียบ​พบ​แล้ว​

หลง​เทียน​อวี้​ผงกศีรษะ​ลง​ อันที่จริง​เขา​เอง​ก็​คิด​เหมือนกัน​กับ​นาง​

ใกล้​จะถึงเมือง​หลิน​เทียน​เต็มที​แล้ว​ หาก​ยังอยู่​ใน​ต้า​จิ้น​ อำนาจ​ของ​เขา​และ​สกุล​หลิน​ยังคง​แผ่​ไพศาล​ไปทั่วทุกสารทิศ​ แต่​เมื่อ​ก้าว​เข้าสู่​บ้านเมือง​อื่น​ เกรง​ว่า​ฐานะ​ของ​เขา​และ​สกุล​หลิน​จะกลายเป็น​ภัย​เสีย​มากกว่า​

“ขอ​เพียง​ข้าม​แม่น้ำ​สาย​นั้น​ไป พวกเรา​ก็​ไม่มีอันตราย​อัน​ใด​แล้ว​”

ชิวอ​วี้​ที่​ระแวดระวัง​มาตลอดทาง​กลับ​มีความมั่นใจ​อย่าง​เต็มเปี่ยม​ใน​คำพูด​ของ​ตน​

เอียง​หน้า​มอง​เขา​ ดวงตา​หลิน​เมิ้งห​ยา​ฉายแวว​ฉงน​

แปลก​ ตอน​อยู่​ใน​สำนัก​หมอ​หลวง​ ชาย​คน​นี้​ไม่กล้า​แม้แต่​จะสร้าง​ความขุ่นเคือง​ให้​เจ้าสำนัก​หมอ​หลวง​ แต่​เพราะเหตุใด​เมื่อ​ถึงเมือง​หลิน​เทียน​แล้ว​ เขา​กลับ​มีท่าทาง​ปลอดโปร่ง​โล่งใจ​เช่นนี้​?

“อย่า​ถามเลย​ เมื่อ​ถึงเวลา​เจ้าจะรู้​เอง​”

ชิ ตัดบท​เอา​เสีย​ดื้อ​ๆ

หลิน​เมิ้งห​ยา​คร้าน​จะเค้น​ถามเขา​เช่นเดียวกัน​ ถึงอย่างไร​ชิวอวี้​และ​หลง​เทียน​อวี้​ล้วน​เป็น​คน​มีคุณธรรม​ หาก​พวกเขา​ไม่อยาก​พูด​ ต่อให้​เอา​มีด​จ่อ​คอ​พวกเขา​ก็​ไม่มีทาง​ปริปาก​

ทั้ง​สามจึงเปลี่ยน​มาคุย​เล่น​กัน​แทน​ ขบวน​การค้า​เดินทาง​มาค่อนวัน​แล้ว​

เมือง​หลิน​เทียน​อยู่​ทาง​ตอน​ใต้​และ​มีทะเลสาบ​ล้อมรอบ​ทั้ง​สามทิศ​ บรรยากาศ​จึงค่อนข้าง​ชื้น​กว่า​ต้า​จิ้น​

ฉะนั้น​ระหว่าง​เดินทาง​หลิน​เมิ้งห​ยา​จึงรู้สึก​เหมือน​เดินผ่าน​ช่วงเวลา​เริ่มต้น​จวบจน​สิ้น​ฤดู​วสันต์​

แม้ทั้งสอง​แคว้น​จะมิได้​มีความสัมพันธ์​แน่นแฟ้น​ แต่​ถึงกระนั้น​แถบ​ชายแดน​ก็​หา​ได้​สร้างกำแพง​กั้น​ หาก​ต้องการ​เดิน​ทางเข้าออก​ระหว่าง​พรมแดน​ เช่นนั้น​จำต้อง​แจ้งต่อ​ทางการ​ทั้งสองฝ่าย​

ที่นี่​มีคน​หลากหลาย​พื้นที่​รวมตัวกัน​ ฉะนั้น​จึงไม่มีการ​แบ่งแยก​เผ่าพันธุ์​แต่อย่างใด​

“หาก​บน​โลก​นี้​ไร้​ซึ่งสงคราม​และ​ทุก​แว่นแคว้น​ได้​อยู่​กัน​อย่าง​สงบ​เช่นนี้​จะดีมาก​เพียงใด​กัน​”

หลิน​เมิ้งห​ยา​เปรย​ออกมา​พลาง​ถอนหายใจ​

แม้คุณหนู​สายเลือด​นักรบ​เช่น​นาง​จะไม่เคย​ออกรบ​มาก่อน​ แต่ทว่า​นาง​ได้ยิน​เรื่องเล่า​จาก​บิดา​และ​สหาย​ร่วม​รบ​ของ​เขา​มากมาย​เกี่ยวกับ​การ​สูญเสีย​ใน​สงคราม​

แม้คำพูด​ไม่อาจ​สะท้อน​ความรู้สึก​ของ​เหตุการณ์​ในเวลานั้น​ออกมา​ได้​ แต่​ท่าน​ลุง​ท่าน​ตา​ที่​เคย​มาเยือน​บ้าน​สกุล​หลิน​มากมาย​ล้วน​ล้มหายตายจาก​เพราะ​สงคราม​

ท่าน​พ่อ​เคย​พา​นาง​ไปยัง​งานศพ​ของ​รอง​แม่ทัพ​คน​หนึ่ง​

คน​ทั้ง​ตระกูล​ต่าง​ร่ำไห้​ปาน​จะขาดใจ​ แต่​เพราะ​ตอนนั้น​นาง​ยัง​สติฟั่นเฟือน​ ดังนั้น​นาง​จึงมิยอม​ไปร่วม​งานศพ​กับ​ท่าน​พ่อ​อีก​

หาก​ทุก​แคว้น​ไม่ก่อ​สงคราม​แล้ว​ล่ะ​ก็​ บางที​พวก​ท่าน​ลุง​เหล่านั้น​อาจ​ยัง​มีชีวิต​อยู่​กับ​ภรรยา​และ​ลูกหลาน​ของ​ตนเอง​

น่าเสียดาย​ ตราบใดที่​ยังมี​ความทะเยอทะยาน​ เช่นนั้น​สงคราม​อัน​น่าสังเวช​ก็​ยังคง​ไม่จบ​ไม่สิ้น​

“สักวันหนึ่ง​อาจ​เป็น​เช่นนั้น​ แต่​ความ​สงบสุข​เช่นนี้​คงอยู่​ได้​อีกไม่นาน​แล้ว​”

ชิวอ​วี้​ถอนหายใจ​อย่าง​เสียดาย​ เขา​หลับตา​ลง​ช้าๆ

หลิน​เมิ้งห​ยา​ที่​ไม่ค่อย​เข้าใจ​งาน​ใน​ราชสำนัก​จึงหันไป​มอง​เขา​ด้วย​ความสงสัย​

ทว่า​อีก​ฝ่าย​กลับ​หัวเราะ​แต่​ไม่ยอม​อธิบาย​

ถลึงตา​ใส่เขา​อย่า​งอด​ไม่ได้​ คน​ประเภท​นี้​น่ารังเกียจ​ที่สุด​ เกริ่น​นำ​เพียง​ครึ่ง​ แล้ว​อมพะนำ​อีก​ครึ่ง​ไว้​ไม่ยอม​เปิดเผย​

ท่าน​กัว​เป็น​นักเดินทาง​เก่าแก่​ เมื่อ​มีเขา​อยู่​ กอปร​กับ​สิ่งของล้ำค่า​ที่​นำ​ไปมอบให้​ทางการ​ ไม่นาน​ขบวน​พ่อค้า​ก็​เดินทาง​เข้าสู่​เมือง​หลิน​เทียน​

หันหน้า​กลับ​ไป ต้า​จิ้น​ยังอยู่​ใน​ช่วงต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​ แต่​เมือง​หลิน​เทียน​ที่อยู่​ห่าง​ไปราว​สิบ​ลี้​กลับ​มีสีเขียว​ชะอุ่ม​ของ​ต้นไม้ใบหญ้า​

“เดินทาง​อีก​ไม่ไกล​จะไปถึงทิว​ต้น​ซิ่ง หาก​มอง​จาก​ตรงนี้​จะรู้สึก​ราว​ได้​เห็น​แนว​หิมะ​อย่างไร​อย่างนั้น​ งดงาม​ยิ่งนัก​”

ใบหน้า​ชิวอ​วี้​เผย​รอยยิ้ม​เริงร่า​อารมณ์ดี​

สายตา​ท่าทาง​ไม่เหมือน​แขก​ผู้มาเยือน​ แต่​เหมือน​คน​ที่​ได้​เดินทาง​กลับบ้าน​เสีย​มากกว่า​

ราวกับ​หลิน​เมิ้งห​ยา​เดา​อะไร​บางอย่าง​ออก​แล้ว​ นาง​กระตุก​ยิ้ม​พลาง​ส่ายหน้า​

“แต่​หลังจาก​ผ่าน​ทิว​ต้น​ซิ่งไปแล้ว​ พวกเรา​จะไปถึงสถานที่​อันตราย​ที่สุด​แห่ง​หนึ่ง​ พวก​เจ้าจะต้อง​ระมัดระวัง​ให้​มาก​”

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

Score 10
Status: Completed

ชีวิตแรกของ “ซูซิงเกอ” จบลงในห้องทดลองที่เธอรัก..

เมื่อตื่นมาอีกครั้ง ซูซิงเกอจึงได้ชีวิตใหม่ในร่างของ “หลินเมิ้งหยา”คุณหนูสมองพิการ

ที่มีผู้ปองร้ายเป็นแม่เลี้ยงและน้องสาวของตนเอง!

มิหนำซ้ำนางกำลังจะถูกส่งตัวไปแต่งงานกับ “หลงเทียนอวี้” ท่านอ๋องแสนเย็นชา

ที่ต้องแต่งงานทางการเมืองกับนาง โดยที่เขาก็ไม่ได้เต็มใจ

ช่างเป็นการเกิดใหม่ ที่แสนวิเศษจริงๆ! เอาละ! จะปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ไม่ได้

นางหาใช่คนที่จะปล่อยให้ชะตาชีวิตเป็นไปตามลิขิตอย่างหลินเมิ้งหยาเสียเมื่อไหร่

เพราะนางคือ..วายร้ายจอมแก้แค้นซูซิงเกอ

นางจะใช้ความรู้สารพัดพิษที่มี จัดการพวกมันเอง

เริ่มจากยัยน้องสาวตัวดีก่อนละกัน!

Options

not work with dark mode
Reset