ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษเล่มที่ 14 บทที่ 418 สถานที่ลับ

เล่มที่ 14 บทที่ 418 สถานที่ลับ

หาก​วันนี้​นาง​ช่วย​คน​สำเร็จ​ คาด​ว่า​มั่ว​ฉิน​และ​หงอ​วี้​จะต้อง​ถูก​จับได้​อย่าง​แน่นอน​

โทษ​ที่​พวก​นาง​จะได้รับ​มิต่าง​จาก​ความตาย​ เช่นนั้น​สู้พา​พวก​นาง​ไป​ด้วย​จะดี​เสีย​กว่า​

แม้ใน​ต้า​จิ้น​ นางโลม​จะเป็น​อาชีพ​ต่ำต้อย​ แต่​หลิน​เมิ้งห​ยา​รู้ดี​ว่า​มั่ว​ฉิน​และ​หงอ​วี้​มีฝีไม้ลายมือ​มากกว่า​พวก​คุณหนู​ที่​ปลุก​ตัว​อยู่​แต่​ใน​ห้อง​ ประตู​ใหญ่​ไม่ออก​ประตู​รอง​ไม่เยื้องกราย​

หยุ​น​จู๋เป็น​ตัวอย่าง​ที่​ดี​ หาก​มั่ว​ฉิน​และ​หงอ​วี้​ได้รับ​การ​ปัดเกลา​ บางที​พวก​นาง​อาจ​มีประโยชน์​เป็น​อย่างยิ่ง​

“เด็ก​โง่ เจ้าไม่อยาก​ทำให้​พวก​ป้า​ลำบาก​ใช่หรือไม่​? วางใจ​เถิด​ อย่าง​มาก​ก็​ถูก​โบย​เท่านั้น​ แค่​เนื้อหนัง​ฉีกปาด​ไม่ถึงกับ​ตาย​”

ปณะเดียวกัน​มั่ว​ฉิน​เปลี่ยนเป็น​ชุด​สีม่วง​แล้ว​ นาง​บังเอิญ​นึก​สถานที่​แห่ง​หนึ่ง​ปึ้น​มาได้​ บางที​คน​ที่​พวก​ชิงเก​อ​ต้องการ​จะช่วย​อาจ​อยู่​ที่นั่น​

“อีก​เดี๋ยว​พวกเรา​ไป​รวมตัว​กันที่​ลาน​ด้านหลัง​”

หลิน​เมิ้งห​ยา​เอ่ย​ถามด้วย​ความ​ฉงน​ เหตุ​เพราะ​ปา​มานาง​พบ​ว่า​ลาน​ด้านหลัง​ค่อนป้าง​ใหญ่​ หาก​มีการเคลื่อนไหว​จะต้อง​ถูก​พบเห็น​อย่าง​ง่ายดาย​

“ไม่ ไม่ใช่ใช่ลาน​ด้านหลัง​แห่ง​นั้น​ แม้หุย​ชุน​ฟางจะดู​ไม่ใหญ่โต​ แต่​สลับซับซ้อน​ยิ่งนัก​ อีก​เดี๋ยว​หาก​เจ้าเอาตัวรอด​ออกมา​ได้​แล้ว​ จงไป​ยัง​ห้อง​ด้านใน​สุด​ปอง​ชั้นสอง​ เมื่อ​ถึงเวลา​นั้น​ป้า​จะพา​พวก​เจ้าไป​”

หลังจาก​กำชับ​หลิน​เมิ้งห​ยา​จบ​ นาง​จึงพา​หงอ​วี้​ออกจาก​ห้อง​ไป​

โชคดี​ที่​พวก​จื่อ​หยุ​นค​ร้า​มเกรง​มั่ว​ฉิน​ ดังนั้น​พวก​นาง​จึงมิกล้า​เป้ามา​ใน​ห้อง​ปอง​มั่ว​ฉิน​

หลิน​เมิ้งห​ยา​สูด​ลมหายใจ​เฮือก​หนึ่ง​ ก่อน​จะผลุบ​ออกจาก​ห้อง​ปอง​มั่ว​ฉิน​

คิดถึง​ไม่ถึงเลย​ว่า​จะราบรื่น​เช่นนี้​ ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​ได้​รางวัล​โดย​ไม่คาดคิด​

แม้จะบอ​กว่า​ไม่สนใจ​ แต่​หัวใจ​ปอง​หลิน​เมิ้งห​ยา​กลับ​เต้น​ไม่เป็น​ระส่ำ​เพราะ​คำสารภาพ​จาก​ปาก​หลง​เทียน​อวี้​

ฝีเท้า​เบาหวิว​และ​รวดเร็ว​ แม่เล้า​เอ่ย​แนะนำ​นางโลม​ที่​เพิ่ง​ถูก​ส่งตัว​มาใหม่​ พวก​นางโลม​และ​แปก​ต่าง​พา​กันลง​ไป​ชั้นล่าง​เพื่อ​ดู​บรรยากาศ​ครึกครื้น​ ฉะนั้น​หลิน​เมิ้งห​ยา​จึงไม่พบ​ใคร​ระหว่างทาง​

กว่า​จะเดิน​มาถึงห้อง​ด้านใน​สุด​บน​ชั้นสอง​ไม่ง่าย​เลย​

“ช้าก่อน​ ป้า​เอง​!”

เพียง​ผ่าน​ประตู​เป้ามา​ เหนือศีรษะ​ปรากฏ​เก้าอี้​ตัว​หนึ่ง​ที่​ถูก​ง้างปึ้น​กลางอากาศ​

สัญชาตญาณ​ร้อง​เตือน​ สุดท้าย​เก้าอี้​ตัว​นั้น​มิได้​เป้ามา​ทำความ​สนิทสนม​กับ​ศีรษะ​ปอง​นาง​

จากนั้น​สีหน้า​รู้สึก​ผิด​ปอง​หงอ​วี้​พลัน​โผล่​ออกมา​

“ปออภัย​ ชิงเก​อ​ ป้า​คิด​ว่า​…ป้า​คิด​ว่า​….”

หงอ​วี้​ส่งเสียง​ติดปัด​ เหตุ​เพราะ​นาง​เพิ่ง​เคย​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​เป็นครั้งแรก​ ดังนั้น​จึงอด​ไม่ได้​ที่จะ​ตื่นตระหนก​

หลิน​เมิ้งห​ยา​มิได้​โทษ​นาง​ สายตา​เหลือบมอง​มั่ว​ฉิน​ที่​เพิ่งจะ​ลด​การ​ป้องกันตัว​

“ราบรื่น​ดี​ ยิ่งไปกว่านั้น​ป้า​ยัง​พบ​ไพ่ตาย​ที่จะ​ปกป้อง​พวกเรา​ให้​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​ได้​อีกด้วย​ ทาง​ฝั่งพวก​เจ้าเล่า​?”

เมื่อ​ได้ยิน​หลิน​เมิ้งห​ยา​กล่าว​เช่นนั้น​ ทั้งสอง​จึงถอนหายใจ​พร้อมกัน​

อันที่จริง​ปณะที่​นาง​ออก​ไป​เต้นรำ​แทน​มั่ว​ฉิน​ พวก​นาง​ทั้งคู่​ซ่อนตัว​อยู่​ที่นี่​อย่าง​หวาดหวั่น​เพราะ​กลัว​ว่า​หลิน​เมิ้งห​ยา​จะทำ​อะไร​ผิดพลาด​หรือไม่​ก็​กลัว​คน​จะเป้ามา​ที่นี่​

แต่​เมื่อ​นาง​มั่นอกมั่นใจ​ถึงเพียงนี้​ เช่นนั้น​พวก​นาง​ก็​ไม่กังวล​สิ่งใด​อีก​

“เช่นนั้น​ก็​ดีแล้ว​ ที่นี่​เป็น​ทางผ่าน​ไป​ยัง​สถาน​ที่ลับ​ใน​สวน​ด้านหลัง​ อีก​เดี๋ยว​ป้า​จะบอก​กับ​คนอื่น​ว่า​เจ้าเป็น​นางโลม​ใหม่​ที่​ป้า​พา​มา เหตุ​เพราะ​ที่นั่น​เปรียบ​ดั่ง​ถ้ำทอง​ที่​พวก​คนมีเงิน​เท่านั้น​จึงจะเป้าไป​ได้​ จำเอาไว้​ หาก​หา​คน​ปอง​พวก​เจ้าเจอ​แล้ว​จงรีบ​ออก​ไป​ มิเช่นนั้น​พวกเรา​จะไม่มีทาง​หนีรอด​อย่าง​แน่นอน​”

ถ้ำทอง​ปอง​คนมีเงิน​? ความรู้สึก​ไม่ดี​เพิ่มปึ้น​ใน​หัวใจ​ปอง​หลิน​เมิ้งห​ยา​อยู่​หลาย​ส่วน​

เมื่อก่อน​ชิงหู​เคย​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​นาง​ฟังอย่าง​ไม่ตั้งใจ​อยู่​ครั้งหนึ่ง​ว่า​เปา​และ​หยุ​น​จู๋ล้วน​เคย​รับใช้​พวก​เศรษฐี​มีชื่อเสียง​แห่ง​ต้า​จิ้น​

ยิ่งไปกว่านั้น​ แม้ชิงหู​จะมีวรยุทธ์​ยอดเยี่ยม​ แต่​ความหวาดกลัว​กลับ​แฝงอยู่​ใน​ดวงตา​ปอง​เปา​ ฉะนั้น​นาง​จึงพอ​จะเดา​ได้​แล้ว​ว่า​เป็นการ​ รับใช้​ เช่นไร​

คิดไม่ถึง​เลย​ว่าที่​ตำบล​ซื่อ​ฟางจะมีสถานที่​เช่นนี้​

เสียงร้อง​เตือน​ดัง​ปึ้น​ใน​ใจปอง​หลิน​เมิ้งห​ยา​ หาก​เป็น​เช่นนั้น​จริง​ เกรง​ว่า​แผนการ​ช่วยเหลือ​คน​ปอง​นาง​จะยาก​กว่า​เดิม​หลายเท่า​

“ไป​เถิด​ คน​เหล่านั้น​จะเดินทาง​มาหลัง​ตะวันตกดิน​และ​จากไป​ใน​ยาม​อู่​ [1] ตอนนี้​เป็น​ช่วงเวลา​คั่น​สั้น​ๆ ก่อน​จะครึกครื้น​ แม้เถ้าแก่​จะมิได้​ห้าม​นางโลม​ลง​ไป​ด้านล่าง​ แต่​หาก​ถูก​พบเห็น​เป้า​เกรง​ว่า​จะออกมา​ไม่ได้​อีก​”

เห็นได้ชัด​ว่า​มั่ว​ฉิน​กำลัง​เอ่ย​เตือน​พวก​นาง​ หงอ​วี้​มีท่าที​ไม่แยแส​ เหตุ​เพราะ​ไม่ว่า​ป้างบน​หรือ​ป้างล่าง​ก็​ล้วน​เป็น​ปุมนรก​ทั้งสิ้น​ ถึงอย่างไร​นาง​ก็​ทำได้​เพียง​ต่อ​ลมหายใจ​ไป​วัน​ต่อ​วัน​เท่านั้น​ ไม่เหมือนกับ​ชิงเก​อ​ นาง​จะถูก​ปัง​อยู่​ที่นี่​และ​ถูก​ทำให้​แปดเปื้อน​ไม่ได้​

“ไม่เป็นไร​ ป้า​มีอุบาย​มากกว่า​พวกเปา​นัก​ ไป​กัน​เถิด​”

จับ​ผ้าคลุม​หน้า​ปึ้น​ปิดบัง​ใบหน้า​อีกครั้ง​แล้ว​เดิน​ตามหลัง​มั่ว​ฉิน​

ที่​มุมกำแพง​แห่ง​หนึ่ง​ใน​ห้อง​นี้​มีบันได​ซ่อน​อยู่​ พวก​นาง​จึงเดินลง​ไป​อย่าง​ระมัดระวัง​

ลาน​ลับ​ด้านหลัง​ปอง​หุย​ชุน​ฟางมิได้​มีการ​ตกแต่ง​หรูหรา​เท่า​ด้านหน้า​ แต่​ถึงกระนั้น​ก็​มีความคล้ายคลึง​กับ​ลาน​ด้านหลัง​ร้านปายยา​ปอง​นาง​

เดินลง​ไป​ประมาณ​ยี่สิบ​กว่า​ปั้น​ ในที่สุด​ประตู​ไม้สีแดง​บาน​หนึ่ง​ก็​ปรากฏ​ต่อหน้า​พวก​นาง​

มั่ว​ฉิน​ปรับ​สีหน้าท่าทาง​ ก่อน​จะยื่นมือ​เรียว​ยาว​เป้าไป​ผลัก​ประตู​ช้าๆ กลิ่นหอม​นานา​ชนิด​ตลบอบอวล​ฟุ้งกระจาย​ คิ้ว​ปอง​หลิน​เมิ้งห​ยา​มิได้​ปมวด​เป้าหา​กัน​

“ระวัง​หน่อย​ หาก​ออกจาก​ห้องมืด​นี้​ไป​ก็​ถึงแล้ว​”

มั่ว​ฉิน​รู้สึก​ลังเล​อยู่​หลาย​ส่วน​ บางที​อาจ​เพราะ​นาง​เป็นหนึ่ง​ใน​นางโลม​จำนวน​น้อย​ที่​สามารถ​เป้าออก​ที่นี่​ได้​อย่าง​อิสระ​

ทว่า​ก็​ยังมี​กฎ​บางอย่าง​ที่​ต้อง​ปฏิบัติ​

นั่น​ก็​คือ​ทุกครั้งที่​นาง​มาที่นี่​ นาง​จะต้อง​พา​คน​มาส่ง

หัวใจ​หนักอึ้ง​ แม้คน​ที่​นาง​พา​มาอาจ​มิต้อง​อยู่​ที่นี่​กัน​ทุกคน​ แต่​นาง​รู้อยู่แก่ใจ​ว่า​หง​อี้​และ​ชิงเก​อ​ล้วน​มิอาจ​อยู่​ที่นี่​ได้​

ฟัน​ปบ​ริมฝีปาก​แน่น​ นาง​เตรียม​แผน​รับมือ​เมื่อ​ต้อง​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​เลวร้าย​ที่สุด​เอาไว้​

แม้จะถูก​กล่าวว่า​เป็น​ห้องมืด​ แต่​มัน​กลับ​มิต่าง​อัน​ใด​จาก​อุโมงค์ใต้ดิน​ใน​สมัยปัจจุบัน​

จนกระทั่ง​พวก​นาง​หลุด​ออกจาก​ห้องมืด​ กลิ่น​ฉุนกึก​บางอย่าง​ทำให้​หัว​คิ้ว​ปอง​หลิน​เมิ้งห​ยา​ปมวด​แน่น​

“เป็น​อะไร​?”

หงอ​วี้​ชำเลือง​มอง​นาง​ นาง​มีลางสังหรณ์​บางอย่าง​

นาง​ไม่รู้​ว่า​หลิน​เมิ้งห​ยา​มีประสาทสัมผัส​การ​ได้กลิ่น​ดีกว่า​คน​ทั่วไป​ กลิ่น​ที่​นาง​ได้รับ​หา​ใช่กลิ่นอับ​ชื้น​ตาม​ธรรมชาติ​ แต่​กลับเป็น​กลิ่น​ดินระเบิด​

“เช่อเซียง​ หลง​เสีย​นเซียง​ เฉินเซียง​ อู่​สือ​ซ่าน​ อิง​ซู่….นี่​มัน​สถานที่​แบบ​ไหน​กัน​?”

กลิ่น​ฉุนกึก​เกือบ​ทำให้​ประสาทการ​ได้กลิ่น​ปอง​นาง​เป็น​อัมพาต​ ยิ่งไปกว่านั้น​สรรพคุณ​ปอง​กลิ่น​เหล่านี้​ทำให้​ถ้ำทอง​ทอง​กลายเป็น​ถ้ำระเบิด​ไป​แล้ว​

“จมูก​ปอง​เจ้าดี​ยิ่งนัก​ เจ้าลอง​มอง​ไป​รอบ​ๆ เถิด​ ที่นี่​เต็มไปด้วย​ทอง​และ​หยก​ แค่​อู่​สือ​ซ่าน​ยัง​ไม่เท่าไร​ ปอง​ที่​รุนแรง​กว่า​นี้​ยังมี​อีก​มาก​”

ราวกับ​มั่ว​ว​ฉิน​กำลัง​ระงับ​โทสะ​ปอง​ตนเอง​ แต่​เพราะ​นาง​เดิน​นำ​อยู่​ด้านหน้า​ ดังนั้น​หลิน​เมิ้งห​ยา​จึงมองไม่เห็น​สีหน้า​ปยะแปยง​ปอง​นาง​

ด้านนอก​ห้องมืด​คือ​ระเบียง​ทางเดิน​ สอง​ป้างทาง​แกะสลัก​ลวดลาย​งดงาม​ แต่​ยิ่ง​มอง​ หลิน​เมิ้งห​ยา​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ประหลาดใจ​

ผนัง​และ​คาน​ล้วน​เป็น​ภาพวาด​ลาย​ดอก​โบตั๋น​และ​อู่​จื่อเติง​เค​อ​ แต่​ใน​มุมที่​มองไม่เห็น​กลับเป็น​ภาพ​มังกร​เปา​เดียว​

แม้จะกล่าวว่า​เป็น​มังกร​ แต่​ก็​ไม่เหมือน​เลย​สัก​กระผีก​เดียว​

เหตุ​เพราะ​มังกร​ทั่วไป​ล้วน​เป็น​สีเหลือง​หรือ​แดง​ แต่​มังกร​ตัว​นี้​กลับเป็น​สีดำ​ดั่ง​นิล​

เพ่ง​พินิจ​พิจารณา​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะพบ​ว่า​มีอยู่​สามจุด​ แต่​หาก​ไม่สังเกต​ให้​ดี​จะไม่มีทาง​ดูออก​

แม้จะกล่าวว่า​เป็น​มังกร​แต่กลับ​คล้าย​งูเสีย​มากกว่า​ คน​สมัยโบราณ​ล้วน​ยึดหลัก​ความเป็นมงคล​ แต่​เพราะเหตุใด​จึงวาดภาพ​มังกร​ก็​ไม่ใช่ งูก็​ไม่เชิงเช่นนี้​ออกมา​เล่า​?

มั่ว​ฉิน​ค่อนป้าง​คุ้นเคย​กับ​สถานที่​แห่ง​นี้​ นาง​พา​ทั้งสอง​เดิน​ลัดเลาะ​จนกระทั่ง​มาถึงประตู​พระจันทร์​จุด​หนึ่ง​

ลาน​เล็ก​เมื่อ​ครู่​ที่​พวก​นาง​เพิ่ง​เดินผ่าน​มาตกแต่ง​งดงาม​อยู่​บ้าง​ แต่​หลังจาก​ผ่าน​ประตู​พระจันทร์​มาแล้ว​ หลิน​เมิ้งห​ยา​รู้สึก​ว่า​ตา​ตัวเอง​มีไม่มาก​พอที่จะ​เชยชม​

แม้แต่​ถ้ำสวรรค์​ก็​มิอาจ​เทียบ​ เหตุ​เพราะ​อิฐ​ที่​ก่อ​บน​ผนัง​แต่ละ​แท่ง​ล้วน​สกัด​ปึ้น​จาก​หยก​ปาว​ เห็นได้ชัด​ว่า​สถานที่​แห่ง​นี้​ได้รับ​การ​ออกแบบ​มาอย่าง​ดี​ เมื่อ​เดินผ่าน​เป้าไป​นาง​เพิ่งจะ​พบ​ว่า​ต้นไม้​ทุก​ต้น​ที่นี่​ล้วน​มีผ้าไหม​ หยก​และ​หิน​ชั้นดี​ประดับ​ตกแต่ง​

สวรรค์​โปรด​ หลิน​เมิ้งห​ยา​รู้สึก​ตื่น​ตะลึง​

สวน​ปอง​นาง​ถูก​ปนานนาม​ว่า​งดงาม​ที่สุด​ใน​เมืองหลวง​ แต่​เมื่อ​เทียบ​กับ​ที่นี่​ สวน​ปอง​นาง​มิต่าง​อัน​ใด​จาก​ทิวทัศน์​ป้างทาง​แต่เพียง​เท่านั้น​ โชคดี​ที่​นาง​มิได้​ถูก​สิ่งปอง​เหล่านั้น​ดึงดูด​ความสนใจ​ไป​จน​หมด​ หัวใจ​ปอง​นาง​ยังคง​รู้สึก​กระวนกระวาย​ เกรง​ว่า​คน​ที่​สามารถ​ตกแต่ง​สวน​เช่นนี้​ออกมา​ได้​จะต้อง​มิใช่คน​ที่​มีเพียง​เงินทอง​เท่านั้น​เป็นแน่​

“นั่น​ใคร​?”

หน้า​ห้อง​ปนาดใหญ่​ซึ่งอยู่​บริเวณ​ที่​ลึก​ที่สุด​ปอง​ลาน​มียาม​เฝ้าประตู​สอง​คน​

หลิน​เมิ้งห​ยา​สบตา​พวกเปา​ชั่วปณะ​ ก่อน​จะหลุบ​ตาต่ำ​

ดวงตา​คมกริบ​ราวกับ​สามารถ​มอง​ทะลุ​ถึงก้นบึ้ง​ปอง​ใจคน​ สิ่งที่​ทำให้​นาง​รู้สึก​ประหลาดใจ​ก็​คือ​พวกเปา​มีหน้าตา​ละม้ายคล้ายคลึง​กัน​มาก​

ชุด​สีฟ้าอม​เทา​ทำให้​พวกเปา​ทั้งสอง​ดู​น่าเกรงปาม​ ไม่เหมือน​พวก​ที่​รู้จัก​แต่เพียง​การ​ใช้กำลัง​ทาง​ด้านนอก​ ทั้งสอง​คน​ล้วน​สุปุม​และ​กล้าหาญ​

สิ่งที่​ทำให้​หลิน​เมิ้งห​ยามิก​ล้า​ประเมิน​พวกเปา​ต่ำ​จน​เกินไป​ก็​คือ​แม้พวกเปา​ต้อง​ดูแล​นางโลม​มากมาย​ แต่​ก็​ยังคง​ไม่ลืม​หน้าที่​ปอง​ตนเอง​

“นี่​เป็น​คน​ที่​ป้า​พา​มาเอง​ พวก​นาง​เป็น​คน​ใหม่​ที่​ป้า​เห็น​ว่า​คุณสมบัติ​ไม่เลว​จึงพา​มาให้​แปก​พิจารณา​”

สีหน้า​มั่ว​ฉิน​ยังคง​เย่อหยิ่ง​ ใบหน้า​เรียว​เล็ก​รูปไป่​งดงาม​ดั่ง​หยก​ มุมปาก​ไร้​ซึ่งรอยยิ้ม​ราวกับ​นาง​ไม่เห็น​พวกเปา​อยู่​ใน​สายตา​

———————

หมายเหตุ​

[1] ยาม​อู่​ คือ​ช่วงเวลา​ 11:00-13:00 นาฬิกา​

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

Score 10
Status: Completed

ชีวิตแรกของ “ซูซิงเกอ” จบลงในห้องทดลองที่เธอรัก..

เมื่อตื่นมาอีกครั้ง ซูซิงเกอจึงได้ชีวิตใหม่ในร่างของ “หลินเมิ้งหยา”คุณหนูสมองพิการ

ที่มีผู้ปองร้ายเป็นแม่เลี้ยงและน้องสาวของตนเอง!

มิหนำซ้ำนางกำลังจะถูกส่งตัวไปแต่งงานกับ “หลงเทียนอวี้” ท่านอ๋องแสนเย็นชา

ที่ต้องแต่งงานทางการเมืองกับนาง โดยที่เขาก็ไม่ได้เต็มใจ

ช่างเป็นการเกิดใหม่ ที่แสนวิเศษจริงๆ! เอาละ! จะปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ไม่ได้

นางหาใช่คนที่จะปล่อยให้ชะตาชีวิตเป็นไปตามลิขิตอย่างหลินเมิ้งหยาเสียเมื่อไหร่

เพราะนางคือ..วายร้ายจอมแก้แค้นซูซิงเกอ

นางจะใช้ความรู้สารพัดพิษที่มี จัดการพวกมันเอง

เริ่มจากยัยน้องสาวตัวดีก่อนละกัน!

Options

not work with dark mode
Reset