ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษเล่มที่ 14 บทที่ 409 ถนนสายเดิม

เล่มที่ 14 บทที่ 409 ถนนสายเดิม

ผู้คน​สัญจร​ภายใน​ตำบล​ซื่อ​ฟางค่อน​ข้างมาก​ ฉะนั้น​พวกเขา​จึงไม่กล้า​ลงมือ​อย่าง​โจ่งแจ้ง

หลิน​เมิ้งห​ยา​กลับ​ไม่รู้สึก​ว่า​พวกเขา​จะลงมือ​ทำร้าย​ตนเอง​ ดังนั้น​จึงเดินทาง​กลับ​ไป​ที่​โรงเตี๊ยม​แล้ว​จูงมือ​ป๋า​ย​ซ่าวอ​อก​มาเดิน​ซื้อ​ของ​

เหา​มาก​มิรู้​คัน​ หนี้​มาก​มิรู้​คืน​ คน​พวก​นั้น​กำลัง​จับจ้อง​นาง​ ฉะนั้น​นาง​จึงยัง​มิอาจ​ทำการ​ใดๆ​ ได้​

“นาย​…คุณชาย​ ข้า​ยัง​กังวล​เรื่อง​ป๋า​ย​ซูเจ้าค่ะ​”

ป๋า​ย​ซ่าว​ที่​คิด​จะร้องเรียก​นาย​หญิง​ถูก​หลิน​เมิ้งห​ยา​ถลึงตา​ใส่

ไม่ว่า​อย่างไร​นาง​ก็​มิอาจ​เรียก​นาย​หญิง​ของ​ตนเอง​ว่า​สามีได้​ ฉะนั้น​จึงเรียก​ว่า​คุณชาย​แทน​

“เอาล่ะ​ หาก​พวกเรา​ยังมี​บุญวาสนา​ต่อกัน​ สักวันหนึ่ง​จะต้อง​ได้​กลับมา​พบ​หน้า​อย่าง​แน่นอน​ เจ้าเอง​ก็​ลำบาก​ที่​ต้องตาม​ข้า​มา เช่นนั้น​เจ้าอยากได้​อะไร​ ข้า​จะซื้อ​ให้​ทั้งหมด​”

อันที่จริง​ป๋า​ย​ซูมีโอกาส​หลาย​ต่อ​หลายครั้ง​ใน​การ​วางยา​ฮ่องเต้​ แต่​นาง​กลับ​ไม่ทำ​ เรื่อง​นี้​พอ​จะทำให้​หลิน​เมิ้งห​ยา​ให้อภัย​นาง​ได้​ เพียงแต่​…ยัง​ไม่ใช่ตอนนี้​

ป๋า​ย​ซ่าว​หนักใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​ นาง​มิได้​มอง​สิ่งของ​ข้างทาง​เลย​แม้แต่น้อย​ ผิด​กับ​หลิน​เมิ้งห​ยา​ที่​ตื่นเต้น​เป็น​อย่างยิ่ง​ ไม่นาน​นาง​ก็​ซื้อ​ของ​กลับ​ไป​มากมาย​

อีก​ทั้ง​ยัง​จ้างคน​นำ​ของ​เหล่านั้น​ไป​ส่งที่​โรงเตี๊ยม​

“อดีต​ที่​ผัน​ผ่าน​ การ​แต่งงาน​บน​ความทุกข์​ แม้น​ท่อน​เหล็ก​ยัง​ขาดสะบั้น​ กอบกู้​โลกา​”

ใน​มุมอับ​มุมหนึ่ง​ อยู่​ๆ หลิน​เมิ้งห​ยา​ก็​เหลือบ​ไป​เห็น​นักพรต​เสื้อผ้า​ขาด​รุ่งริ่ง​คน​หนึ่ง​

ทั้งที่​คำพูด​ของ​เขา​คือ​คำทำนาย​ที่​มิได้​ปะติดปะต่อ​กัน​เลย​แม้แต่น้อย​ แต่​นักพรต​คน​นั้น​ยังคง​นั่ง​ทำนาย​ด้วย​ความมุ่งมั่น​อยู่​ที่​เดิม​

หาก​มิใช่ว่า​เขา​มีญาณวิเศษ​ เช่นนั้น​เขา​ก็​คง​เป็น​จอม​หลอกลวง​แห่ง​ยุทธ​ภพ​

แต่​นักพรต​คน​นั้น​กลับ​กลั้นหายใจ​เมื่อ​มีคน​เดินผ่าน​ ท่าทาง​เสมือน​กำลัง​ดูถูก​เหยียดหยาม​ หลิน​เมิ้งห​ยา​ชำเลือง​มอง​อยู่​สอง​ครั้ง​ นักพรต​คน​นั้น​รีบ​ฉีก​ยิ้ม​กว้าง​แล้ว​กวักมือ​เรียก​นาง​

หลิน​เมิ้งห​ยา​ชี้นิ้ม​เข้าหา​ตนเอง​ นักพรต​รีบ​ผงกศีรษะ​ลง​

แปลก​จริง​ ทั้งที่​มีคน​เดินผ่าน​สัญจร​มากมาย​ เหตุใด​นักพรต​คน​นั้น​จึงเจาะจงเรียก​นาง​กัน​เล่า​?

เหตุ​เพราะ​ไม่มีสิ่งใด​ให้​ต้อง​ทำ​ เช่นนั้น​นาง​ลอง​ไปดู​เขา​สักหน่อย​จะเป็นไร​

“ท่าน​นักพรต​”

หลิน​เมิ้งห​ยา​ยก​มือขึ้น​ประกบ​กัน​เพื่อ​แสดง​ความนับถือ​ ป๋า​ย​ซ่าวก​ลับ​มอง​เจ้านาย​ของ​ตนเอง​ด้วย​ความสงสัย​

อย่า​ว่าแต่​นักพรต​ข้าง​ถนน​เช่นนี้​เลย​ แม้แต่​พระ​อาจารย์​เลื่องชื่อ​ใน​เมืองหลวง​นาย​หญิง​ยัง​ไม่ชายตา​แล​

เหตุใด​นาย​หญิง​จึงแสดงท่าทาง​เลื่อมใส​เขา​เช่นนี้​เล่า​?

“ท่าน​อุตส่าห์​เดิน​มาหา​ถึงที่​ ได้​โปรด​อภัย​ให้​อาตมา​ด้วย​ที่​มิอาจ​ลุกขึ้น​ต้อน​รับได้​”

แม้นักพรต​คน​นั้น​จะส่งเสียง​เชิงเกรงใจ​ แต่กลับ​นั่งไขว่ห้าง​ท่าทาง​เย่อหยิ่ง​แตกต่าง​จาก​คำพูดคำจา​อ่อนน้อม​ถ่อมตน​ยิ่งนัก​

“ไม่เป็นไร​ ใน​เมื่อ​ท่าน​นักพรต​เป็น​ผู้​ออกบวช​ เช่นนั้น​มิจำเป็นต้อง​คำนับ​คารวะ​ข้า​แต่อย่างใด​ มิรู้​ว่า​ท่าน​นักพรต​เรียก​ข้าน้อย​มาด้วย​เหตุใด​กระนั้น​หรือ​?

นักพรต​เครา​ยาว​หัวเราะ​ หึ​ หึ​ หึ​ สามครั้ง​ ก่อน​จะเอ่ย​เสียง​ไม่เร็ว​หรือ​ช้าจน​เกินไป​

“นาย​ท่าน​ อาตมา​หา​ได้​เรียก​ท่าน​มาไม่ แต่​เป็น​ท่าน​ต่างหาก​ที่​ร้องเรียก​ตัวเอง​ ท่าน​คง​ติดใจ​กับ​คำทำนาย​ของ​อาตมา​ เช่นนั้น​ลอง​ให้​อาตมา​ดูดวง​เพื่อ​คลาย​ความสงสัย​ของ​ท่าน​ให้​ดี​หรือไม่​?”

พูดจา​วกวน​ไปมา​ สุดท้าย​ก็​พยายาม​เสนอขาย​การค้า​ของ​ตนเอง​

ป๋า​ย​ซ่าว​รู้สึก​หงุดหงิด​ใจกับ​นักพรต​สกปรก​โสโครก​คน​นี้​ยิ่งนัก​ ทว่า​หลิน​เมิ้งห​ยา​กลับ​มิเอ่ย​อัน​ใด​

ยก​ข้อ​มือขึ้น​แล้ว​เขียน​กระดาษ​ที่​ถูกวาง​อยู่​บน​ดิน​เป็น​คำ​ว่า​ ‘ข้า​’

ทว่า​หลิน​เมิ้งห​ยา​หา​ได้​เขียน​เป็น​ภาษาจีน​โบราณ​ไม่ ฉะนั้น​อักขระ​จึงหาย​ไป​

“รบกวน​ท่าน​แล้ว​”

นักพรต​มอง​อักษร​เบื้องล่าง​ สีหน้า​อึ้ง​งัน​แข็งทื่อ​

ครู่​ต่อมา​จึงถอนหายใจ​ยาว​ ก่อน​จะหยัก​ยิ้ม​ขมขื่น​พลาง​ส่ายหน้า​

“อักษร​นี้​…อาตมา​มิอาจ​แก้​ออก​ได้​ แม้นาย​ท่าน​จะเป็น​คน​ต่างบ้านต่างเมือง​ แต่​กลับมา​ปรากฏตัว​อยู่​ที่นี่​ แสดงว่า​ย่อม​มีชะตา​ต้องกัน​ อาตมา​หวน​นึกถึง​สหาย​เก่า​ผู้​หนึ่ง​ที่​เคย​มาเยือน​ที่​แห่ง​นี้​เมื่อ​ยี่สิบ​ปีก่อน​”

คำพูด​ของ​นักพรต​ทำให้​ป๋า​ย​ซ่าว​มั่นใจ​ว่า​เขา​เป็น​เพียง​จอม​ลวงโลก​ สายตา​คมกริบ​ฉายแวว​ไม่พอใจ​

คำพูด​เลื่อนลอย​ก็​เป็น​เพียง​เรื่องไร้สาระ​เท่านั้น​ ไฉน​ต้อง​ชักแม่น้ำทั้งห้า​เรื่อง​สหาย​เก่าแก่​มาหลอก​นาย​หญิง​ด้วย​ หาก​อยู่​ที่​เมืองหลวง​ล่ะ​ก็​ นาง​จะลาก​นักพรต​คน​นี้​ไป​ที่ว่าการ​อย่าง​แน่นอน​

แต่​มิรู้​ว่า​เพราะเหตุใด​นาย​หญิง​จึงมีท่าทาง​อารมณ์ดี​ ซ้ำยัง​ยิ้ม​แล้ว​สนทนา​กับ​นักพรต​คน​นั้น​ต่อ​

“โอ้​? สหาย​ท่าน​ใด​กัน​เล่า​?”

อันที่จริง​หลิน​เมิ้งห​ยา​เอง​ก็​รู้สึก​มิต่าง​อัน​ใด​จาก​ป๋า​ย​ซ่าว​ แต่​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​นักพรต​คน​นี้​จึงส่งความรู้สึก​เหมือน​คน​ที่​มาจาก​ต่าง​โลก​มาให้​นาง​

นักพรต​หัวเราะ​ ก่อน​จะหยิบ​ของ​สิ่งหนึ่ง​ออกมา​วาง​ลง​ตรงหน้า​หลิน​เมิ้งห​ยา​

หลิน​เมิ้งห​ยา​จ้องมอง​ มัน​คือ​ตราประทับ​ลาย​ดอก​เหมย​อัน​หนึ่ง​

“นี่​คือ​สิ่งที่​สหาย​ท่าน​นั้น​ทิ้ง​เอาไว้​ ใน​เมื่อ​อาตมา​ส่งมัน​ถึงผู้รับ​แล้ว​ เช่นนั้น​พวกเรา​ร่ำลา​กัน​ตรงนี้​เถิด​”

ยัง​ไม่ทัน​ที่​หลิน​เมิ้งห​ยา​จะตั้งสติ​ได้​ทัน​ นักพรต​คน​นั้น​รีบ​เก็บ​ของ​ของ​ตนเอง​แล้ว​หมุนตัว​ออก​วิ่ง​

“ท่าน​นักพรต​ ของ​ของ​ท่าน​!”

หลิน​เมิ้งห​ยา​หยิบ​ตราประทับ​ขึ้น​มาแล้ว​ร้อง​ตะโกน​ แต่​นักพรต​ร่าง​ผอม​กลับ​เร่งฝีเท้า​เร็ว​ขึ้น​กว่า​เดิม​

ไม่นาน​ร่าง​ของ​เขา​ก็​หาย​ไป​จาก​แนว​สายตา​ของ​พวก​นาง​

ทิ้ง​หลิน​เมิ้งห​ยา​ยืน​อึ้ง​งัน​อยู่กับที่​ ตกลง​นี่​มัน​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​?

“หยุด​ก่อน​! อย่า​เพิ่ง​ไป​!”

อยู่​ๆ เสียง​เปี่ยม​ไป​ด้วย​โทสะ​พลัน​ดัง​ขึ้น​จาก​เบื้องหลัง​ หลิน​เมิ้งห​ยา​หันกลับ​ไป​มอง​ด้วย​อาการ​ตื่นตระหนก​ นาง​เห็น​เป็น​ชาย​ใบหน้า​โหดเหี้ยม​อำมหิต​คน​หนึ่ง​ถือ​ดาบ​แกว่งไกว​เข้ามา​

ร่างกาย​ของ​ชาย​คน​นั้น​คละคลุ้ง​ไป​ด้วย​กลิ่น​คาวเลือด​ เพียง​มอง​ปราด​เดียว​ก็​เดา​ได้​ว่า​เขา​เป็น​คน​ขาย​เนื้อ​ ขณะที่​กำลังจะ​วิ่ง​ผ่าน​หลิน​เมิ้งห​ยา​ ฝีเท้า​ของ​เขา​พลัน​หยุด​ลง​

“น้องชาย​ เมื่อ​ครู่​เจ้าเอง​ก็​ถูก​ไอ้​นักพรต​จอม​ลวงโลก​นั่น​หลอก​เอา​ใช่หรือไม่​? ไม่เป็นไร​ ไม่ว่า​เจ้าจะถูก​หลอก​เสีย​เงินทอง​ไป​มากมาย​เท่าใด​ พี่ชาย​คน​นี้​จะไป​ล่า​ตามตัว​เขา​กลับมา​ชดใช้​ให้​เจ้าให้ได้​ เมื่อ​ครู่​เขา​วิ่ง​ไป​ทาง​ใด​?”

ใบหน้า​ของ​ชาย​ร่าง​กำยำ​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความอาฆาต​ แต่​ถึงกระนั้น​เขา​ก็​ปฏิบัติ​ต่อ​พวก​หลิน​เมิ้งห​ยา​ด้วย​ความอ่อนโยน​

หลิน​เมิ้งห​ยา​ชี้นิ้ว​ไป​ยัง​เส้นทาง​ตรงกันข้าม​ของ​นักพรต​คน​นั้น​ คน​ขาย​เนื้อ​จึงสั่งให้​นาง​ไป​แจ้งทางการ​ ก่อนที่​เขา​จะรีบ​วิ่ง​ออก​ไป​พร้อมทั้ง​เสียง​ตะโกน​ดังลั่น​

หลิน​เมิ้งห​ยา​และ​ป๋า​ย​ซ่าว​หันหน้า​สบตา​กัน​ นี่​มัน​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​!

“ข้า​ว่าแล้ว​เชียว​ นักพรต​นั่น​ต้อง​เป็น​พวก​ลวงโลก​อย่าง​แน่นอน​ มิเช่นนั้น​จะมีพี่ชาย​ฆ่าหมู​ออก​ตามล่า​เขา​อย่างนั้น​หรือ​”

หลิน​เมิ้งห​ยา​ยืน​เหม่อลอย​หลาย​วินาที​ ก่อน​จะได้สติ​กลับมา​

ป๋า​ย​ซ่าว​พูด​ถูก​แล้ว​ แต่​ใน​มือ​ของ​นาง​คือ​ตราประทับ​ลาย​ดอก​เหมย​

หาก​นาง​มอง​ไม่ผิด​ ตราประทับ​ลาย​ดอก​เหมย​อันนี้​เหมือนกัน​กับ​ดอก​เหมย​บน​เอว​และ​บน​ผ้า​ห่อ​ของ​ผืน​นั้น​ไม่มีผิด​

ไม่รู้​ว่า​นักพรต​คน​นั้น​เป็น​ใคร​ เหตุใด​เขา​จึงนำ​ของ​ที่​มีความเกี่ยวข้อง​กับ​นาง​ออกมา​

เหตุการณ์​มิคาดฝัน​เกิดขึ้น​ครั้งแล้วครั้งเล่า​จน​หลิน​เมิ้งห​ยา​รู้สึก​สับสน​ไป​หมด​

ทั้งสอง​หมดอารมณ์​เดิน​ซื้อ​ของ​อย่าง​สิ้นเชิง​ หลังจาก​ซื้อ​อาหาร​บางส่วน​แล้วจึง​มุ่งหน้า​กลับ​ไป​ยัง​โรงเตี๊ยม​

เพียง​ผ่าน​ประตู​เข้ามา​ จ้าว​เฟย​รีบ​วิ่ง​มาหยุด​ตรงหน้า​นาง​ สีหน้า​เสมือน​ต้องการ​ขอความช่วยเหลือ​

“ในที่สุด​เจ้าก็​กลับมา​เสียที​ เสี่ยว​หยวน​เอ๋ย​ พี่ชาย​กับ​ญาติ​ผู้​พี่​ของ​เจ้ากำลัง​ทะเลาะ​กัน​!”

หา​? หลิน​เมิ้งห​ยา​กลืน​ขนม​ลงคอ​ นี่​เขา​ป่วย​หรือไม่​?

นอกจาก​จะจับ​โจร​ไม่ได้​แล้ว​ยัง​มาทะเลาะ​กัน​อีก​หรือ​?

หลิน​เมิ้งห​ยา​รีบ​วิ่ง​เข้าไป​ใน​โรงเตี๊ยม​ ผล​ปรากฏ​ว่า​ห้องโถง​ที่​เคย​เป็นระเบียบเรียบร้อย​พังพินาศ​ไม่เป็นท่า​

ส่วน​หลง​เทียน​อวี้​และ​ชิวอวี้​กำลัง​แลกหมัด​กัน​อยู่​ตรงกลาง​

สิ่งที่​ทำให้​นาง​หงุดหงิด​ใจก็​คือ​พวกเขา​ล้วน​ทิ้ง​อาวุธ​คู่​กาย​แล้ว​ใช้ร่างกาย​ปะทะ​กัน​โดยตรง​

“หยุด​เดี๋ยวนี้​!”

หลิน​เมิ้งห​ยา​หงุดหงิด​เป็น​อย่างยิ่ง​ ช่วง​เช้านาง​เกือบ​ถูก​โจร​หื่น​กาม​ลวนลาม​ ช่วง​บ่าย​พบ​อา​ซิ่ว​ที่อยู่​ๆ ก็​หายตัว​ไป​ ซ้ำเมื่อ​ครู่​ยัง​ถูก​นักพรต​ข้าง​ถนน​ทำให้​จิตใจ​ของ​นาง​สับสนวุ่นวาย​อีก​

กว่า​จะกลับ​ถึงโรงเตี๊ยม​ไม่ง่าย​เลย​ แต่กลับ​ต้อง​มาเห็น​พวกเขา​ทะเลาะเบาะแว้ง​กัน​อีก​

น่าขายหน้า​เหลือเกิน​!

คำพูด​ของ​นาง​เสมือน​คำตัดสิน​อัน​ทรงพลัง​ ชาย​ทั้งสอง​ที่​ไม่ว่า​ใคร​ห้าม​ก็​ไม่ฟังพลัน​ผละ​ตัว​ออก​จากกัน​

ทว่า​คน​หนึ่ง​หน้าตา​ปูด​บวม​ ส่วน​อีก​คน​สภาพ​เละเทะ​มิต่างกัน​

พวกเขา​มีท่าทาง​เสมือน​คุณชาย​สูงศักดิ์​เสีย​ที่ไหน​?

“หาก​จะตี​กัน​ก็​ไสหัว​กลับ​ไป​! ตอนนี้​อารมณ์​ข้า​ไม่ดี​เป็น​ที่สุด​ หาก​ใคร​กล้า​ทำให้​ข้า​หงุดหงิด​อีก​ล่ะ​ก็​ ไสหัว​กลับบ้าน​ไป​ให้​หมด​!”

หลิน​เมิ้งห​ยา​ตะคอก​เสียงดัง​ ก่อน​จะพา​ป๋า​ย​ซ่าว​ขึ้นไป​ยัง​ห้อง​พักผ่อน​ของ​ตนเอง​

ทว่า​สิ่งที่​ทุกคน​คาดไม่ถึง​ก็​คือ​ชาย​ทั้งสอง​ที่​เพิ่งจะ​ต่อสู้​กัน​อย่าง​ดุเดือด​เมื่อ​ครู่​มีสภาพ​เสมือน​หมา​หงอย​ขึ้น​มาทันที​

แม้พวกเขา​จะยังคง​ไม่สบตา​กัน​ แต่​ถึงกระนั้น​ก็​เดิน​นำหน้า​ตามหลัง​คุณชาย​น้อย​ไป​แต่​โดยดี​

“คิก​ เสี่ยว​หยวน​แข็งแกร่ง​ยิ่งนัก​”

จ้าว​เฟย​มองตาม​ร่าง​ที่​หาย​ไป​จาก​ชั้นสอง​ด้วย​รอยยิ้ม​ขบขัน​

ทว่า​ความเจ็บปวด​เพราะ​โดน​ลูกหลง​พลัน​แล่น​พล่าน​บริเวณ​เหนือ​หน้าท้อง​

“สกุล​หยวน​อบรมสั่งสอน​ลูกหลาน​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​ ข้า​คิด​ว่า​พวกเขา​คง​รัก​น้องชาย​คน​นี้​ด้วยใจจริง​”

เห​วิน​สือ​ที่นั่ง​เงียบ​ตลอดเวลา​เอ่ย​สรุป​เหตุการณ์​วุ่นวาย​ทั้งหมด​

แต่​เขา​เอง​ก็​มิต่าง​อัน​ใด​จาก​จ้าว​เฟย​ เหตุ​เพราะ​เข้าไป​ห้ามปราม​ทั้งคู่​จึงโดน​ลูกหลง​เข้า​เต็มเปา​

หันไป​สบตา​กัน​พลาง​กระตุก​ยิ้ม​ขมขื่น​

เฮ้อ​ ไม่ว่า​จะห้าม​ด้วย​วิธี​ไหน​ก็​มิอาจ​เทียบ​ได้​กับ​เสียง​ตะคอก​ของ​เสี่ยว​หยวน​

ทรุดตัว​ลงนั่ง​บน​เก้าอี้​ หลิน​เมิ้งห​ยา​จ้อง​พวกเขา​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​

นาง​ไม่รู้​ว่า​หลง​เทียน​อวี้​เสียสติ​ไป​แล้ว​หรือ​อย่างไร​ ช่วงนี้​เขา​มัก​มอง​ชิวอวี้​เป็น​ศัตรู​อยู่​เสมอ​

เรื่องราว​วุ่นวาย​มากมาย​ที่​เกิดขึ้น​ทำให้​นาง​ปวดหัว​มาก​พอแล้ว​ แต่​พวกเขา​ยัง​ต่อย​ตี​สร้าง​ความ​อับอาย​ให้​นาง​อีก​

ดวงตา​คมกริบ​เย็นชา​จ้อง​ชาย​ทั้งสอง​ที่​กำลัง​ถลึงตา​ใส่กัน​

มือ​เล็ก​ฟาด​ ‘ปัง​’ ลง​บน​โต๊ะ​อย่าง​แรง​ ก่อน​จะเค้น​เสียง​ถาม

“พูด​มา”

หลง​เทียน​อวี้​และ​ชิวอวี้​จ้อง​กัน​ตาเขียว​ปัด​ ก่อน​จะหันหน้า​หนี​ไป​คนละ​ทาง​

“เขา​ยั่วยุ​ข้า​ก่อน​!”

ชิวอ​วี้​ร้อง​ออกมา​ ฝีมือ​การต่อสู้​ของ​อีก​ฝ่าย​แข็งแกร่ง​ยิ่งนัก​ เขา​รู้สึก​ราวกับว่า​กระดูก​ของ​ตน​กำลังจะ​หัก​อย่างไร​อย่างนั้น​

“เจ้าพูด​ใหม่​เดี๋ยวนี้​!”

หลง​เทียน​อวี้​ที่​ชิงพูด​ตัดหน้า​ไม่ทัน​ตะเบ็งเสียง​ออกจาก​ลำคอ​

“เจ้านั่นแหละ​ยั่วยุ​ข้า​ก่อน​ เจ้าใช้ดาบ​ฟัน​คน​ไม่มีอาวุธ​! เจ้ายัง​กล้า​พูดว่า​ตนเอง​เป็น​บุรุษ​ได้​อีก​หรือ​!”

สิ่งที่​ตอบกลับ​ชิวอ​วี้​คือ​สายตา​เย็นชา​คมกริบ​ประหนึ่ง​ใบ​มีด​ มือ​ที่​กำ​แน่น​ตลอดมา​พลัน​เหวี่ยง​พุ่ง​ไป​ทาง​เขา​

ชิวอ​วี้​ไม่ยอม​เสียเปรียบ​ เขา​รีบ​เอี้ยว​ตัว​หลบ​แล้ว​ออกแรง​ถีบ​เต็มแรง​

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

Score 10
Status: Completed

ชีวิตแรกของ “ซูซิงเกอ” จบลงในห้องทดลองที่เธอรัก..

เมื่อตื่นมาอีกครั้ง ซูซิงเกอจึงได้ชีวิตใหม่ในร่างของ “หลินเมิ้งหยา”คุณหนูสมองพิการ

ที่มีผู้ปองร้ายเป็นแม่เลี้ยงและน้องสาวของตนเอง!

มิหนำซ้ำนางกำลังจะถูกส่งตัวไปแต่งงานกับ “หลงเทียนอวี้” ท่านอ๋องแสนเย็นชา

ที่ต้องแต่งงานทางการเมืองกับนาง โดยที่เขาก็ไม่ได้เต็มใจ

ช่างเป็นการเกิดใหม่ ที่แสนวิเศษจริงๆ! เอาละ! จะปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ไม่ได้

นางหาใช่คนที่จะปล่อยให้ชะตาชีวิตเป็นไปตามลิขิตอย่างหลินเมิ้งหยาเสียเมื่อไหร่

เพราะนางคือ..วายร้ายจอมแก้แค้นซูซิงเกอ

นางจะใช้ความรู้สารพัดพิษที่มี จัดการพวกมันเอง

เริ่มจากยัยน้องสาวตัวดีก่อนละกัน!

Options

not work with dark mode
Reset