ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษเล่มที่ 13 บทที่ 385 หลบหนี

เล่มที่ 13 บทที่ 385 หลบหนี

หลังจาก​เตรียมตัว​มาตลอด​สอง​วัน​ ในที่สุด​ก็​ถึงเวลา​ที่​ต้อง​ออกเดินทาง​กับ​ขบวน​พ่อค้า​

หลิน​เมิ้งห​ยา​รับประทาน​อาหารเย็น​จน​อิ่ม​ท้อง​ จากนั้น​นาง​ก็​อ้างว่า​ไม่สบาย​แล้ว​นอนหลับ​แต่​หัวค่ำ​

หาก​มอง​อย่าง​ผิวเผิน​ทุกอย่าง​ล้วน​เป็นปกติ​ หลิน​เมิ้งห​ยา​ออก​ไป​ที่​ประตู​จวน​ตั้งแต่​เช้าตรู่​เพื่อ​ก่อ​สงครามประสาท​กับ​พวก​องครักษ์​

เหตุการณ์​ใน​คราวนี้​ทำให้​นาง​มีโทสะ​ค่อน​ข้างมาก​

หลาย​วัน​ที่ผ่านมา​พวก​องครักษ์​ล้วน​รู้ไต๋​นาง​หมด​แล้ว​

ทุกวัน​ตอนเช้า​นาง​จะต้อง​ออกมา​ก่อเรื่อง​วุ่นวาย​จน​พวกเขา​รู้สึก​ว่า​เป็นเรื่อง​ปกติ​ เห็นได้ชัด​ว่าการ​สร้าง​ความ​ลำบากใจ​ให้​พวกเขา​กลายเป็น​งานอดิเรก​ของ​พระชายา​ไป​แล้ว​

ทุกครั้งที่​พระชายา​หลบหนี​ล้มเหลว​ นาง​จะต้อง​กินข้าว​ถึงสอง​ถ้วย​

ขณะเดียวกัน​พวก​องครักษ์​ที่​ถูก​คัดเลือก​มาอย่าง​ดี​คง​ปวดหัว​ไม่น้อย​

อันที่จริง​ทั้งหมด​นี้​ล้วน​เป็น​แผนการ​ของ​หลิน​เมิ้งห​ยา​ นี่​คือ​จิตวิทยา​ใน​การควบคุม​ฝ่ายตรงข้าม​

ดวงจันทร์​ซึ่งเคย​กลม​เกลี้ยง​เต็มดวง​บัดนี้​เหลือ​เพียง​ครึ่ง​เสี้ยว​

ท้องฟ้า​ยาม​ไร้​แสงจันทร์​ช่างหม่นหมอง​ยิ่งนัก​

เวลา​ผัน​ผ่าน​อย่าง​รวดเร็ว​ ตอนนี้​ถึงเวลา​ที่​คน​ทั้ง​จวนจะ​เข้านอน​

“แอ๊ด​…” เสียงดัง​ขึ้น​ ไม่รู้​ว่า​เพราะ​ลม​หรือ​สิ่งอื่น​ใด​ที่​ทำให้​ประตู​เล็ก​ด้านหลัง​ตำหนัก​หลิว​ซิน​ค่อยๆ​ แง้มออก​

สนิม​และ​ฝุ่น​ร่วง​ลง​บน​พื้น​ เวลา​เพียง​ไม่นาน​ ศีรษะ​หนึ่ง​พลัน​โผล่​ขึ้น​มาท่ามกลาง​ความมืด​

หัน​มอง​ซ้าย​มอง​ขวา​ ก่อน​จะค่อยๆ​ ก้าว​ออกมา​

หลังจาก​มั่นใจ​แล้ว​ ดวงตา​พลัน​เปล่งประกาย​ สายตา​ตวัด​มอง​ซ้าย​ที​ขวา​ที​เพื่อ​สำรวจ​ความปลอดภัย​

เมื่อ​มั่นใจ​แล้ว​ว่า​บริเวณ​รอบ​ๆ นี้​หา​ได้​มีคนอื่น​ ศีรษะ​เล็ก​พลัน​หดกลับ​ไป​

เวลา​ผ่าน​ไป​เพียง​ไม่นาน​ ร่าง​บาง​สอง​ร่าง​ก็​เดิน​ออกจาก​ประตู​

หลังจาก​ส่งสายตา​เป็น​สัญญาณให้​กันและกัน​ พวก​นาง​ค้อมตัว​ลง​แล้ว​อาศัย​เงาริม​กำแพง​เดินเลาะ​ออกมา​จนถึง​ประตู​หลัง​ของ​จวน​

“นาย​หญิง​ ประตู​หลัง​ของ​จวน​มีคน​คอย​เฝ้าอยู่​มิใช่หรือ​เจ้าคะ​?”

ที่แท้​ร่าง​บาง​ทั้งสอง​ก็​คือ​หลิน​เมิ้งห​ยา​และ​ป๋า​ย​ซ่าว​

“ชู่ อย่า​เพิ่ง​พูด​อะไร​ ข้า​มีแผน​อยู่แล้ว​”

หลิน​เมิ้งห​ยา​พา​ป๋า​ย​ซ่าว​ไป​หลบ​ที่​มุมหนึ่ง​

ยังมี​เวลา​อี​กราว​สอง​ชั่วโมง​กว่า​ฟ้าจะสว่าง​ ปกติ​แล้​วจะ​มีคน​มาเฝ้ายาม​จนกระทั่ง​รุ่งสาง​

แต่​วันนี้​กลับ​แตกต่าง​ออก​ไป​

ขณะที่​พวก​นาง​ซ่อนตัว​ได้​ไม่นาน​ ชาย​คน​หนึ่ง​ถือ​โคมไฟ​สีเหลือง​ส้มเดิน​อ้า​ปาก​หาว​มาที่​ประตู​หลัง​

ใน​มือ​ของ​เขา​คือ​กุญแจ​ประตู​จวน​ด้านหลัง​ ลูกกุญแจ​กระทบ​กัน​เสียงกังวาน​ดัง​ขึ้น​ท่ามกลาง​ความ​เงียบงัน​

“ลุง​เฉิน​ ท่าน​มาตรงเวลา​ยิ่งนัก​”

คน​เปิด​ประตู​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​อย่าง​ไม่เต็มใจ​นัก​ เขา​เอ่ย​กระทบกระทั่ง​อีก​ฝ่าย​

ด้านนอก​ รถม้า​ขน​ผักสด​จอด​คอยท่า​อยู่​หน้า​ประตู​แล้ว​

“ลำบาก​แล้ว​ ลำบาก​แล้ว​ นี่​เป็นผล​แตง​สด​ขึ้นชื่อ​ของ​บ้าน​ข้า​ แม้จะไม่ได้​ราคาแพง​นัก​ แต่​ขอ​มอบให้​พี่ใหญ่​เอา​ไป​ลอง​กิน​ดู​แล้วกัน​”

ตอนนี้​ยังอยู่​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ เมล็ดพันธุ์​เพิ่งจะ​ถูก​หว่าน​ แน่นอน​ว่า​ของสด​จึงมีไม่มาก​นัก​

แต่​เพื่อ​ครอบครัว​สูงศักดิ์​ใน​เมืองหลวง​ พวก​เกษตรกร​เฉลียวฉลาด​คำนวณ​เวลา​และ​สถานที่​ที่​เหมาะสม​ จากนั้น​เปิดทาง​บ่อน้ำพุร้อน​เพื่อ​สร้าง​ความอบอุ่น​และ​ได้​ผลผลิต​สด​ใหม่​

แน่นอน​ว่า​ผักสด​เหล่านี้​ย่อม​มีราคา​สูงลิบ​ ดังนั้น​น้อย​คน​นัก​จึงจะได้​กิน​

จวน​อวี้​ที่​แสน​มั่งคั่ง​เอง​ก็​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ ทุก​เจ็ด​วัน​จะมีผักสด​ถูก​ขน​มาส่งที่​จวน​

เมื่อ​ถึงเวลา​นั้น​ องครักษ์​เฝ้าประตู​หลัง​จะไม่เข้มงวด​เท่าไร​นัก​ เหตุ​เพราะ​หาก​มาตรวจสอบ​เอง​ก็​ต้อง​เสียเวลา​เปล่า​ ยิ่งไปกว่านั้น​พระชายา​คน​นี้​มักจะ​เคยชิน​กับ​การ​นอน​ตื่น​สาย​เป็นประจำ​

ไม่มีใคร​คาดคิด​ว่า​นาง​จะตื่น​แต่เช้า​เพื่อ​หลบหนี​

อาศัย​จังหวะ​ที่​ลุง​เฉินคน​ส่งผัก​ขับ​รถม้า​เข้าไป​ใน​จวน​ หลิน​เมิ้งห​ยา​จับมือ​ป๋า​ย​ซ่าว​วิ่ง​ออกจาก​ประตู​หลัง​ไป​

พวก​นาง​อาศัย​ความมืด​เพื่อ​พราง​ตัว​

พยายาม​สะกด​กลั้น​ความภาคภูมิใจ​ของ​ตัวเอง​ หลิน​เมิ้งห​ยา​และ​ป๋า​ย​ซ่าว​วิ่ง​อย่าง​เต็ม​ฝีเท้า​

แต่​นาง​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​ทันทีที่​ร่าง​ของ​นาง​ลับ​หาย​ไป​จาก​มุมนั้น​ เงาดำ​หลาย​ร่าง​พลัน​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ตรอก​ที่​นาง​เพิ่ง​วิ่ง​ลับ​ไป​

“พวก​เจ้าจงคุ้มกัน​พระชายา​ให้​ดี​ อย่า​ให้​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​เด็ดขาด​”

เสียง​เคร่งขรึม​ของ​พ่อบ้าน​เติ้ง​ดัง​ขึ้น​ เงาหลาย​เงาพลัน​กระจาย​หาย​ไป​ท่ามกลาง​ความมืด​

ทอดสายตา​มองตาม​พระชายา​ซึ่งนั่ง​อยู่​ใน​รถม้า​คัน​เล็ก​ พ่อบ้าน​เติ้ง​อด​ที่จะ​ถอนหายใจ​ไม่ได้​

ท่าน​อ๋อง​จะไม่รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ไม่มีทาง​ห้าม​พระชายา​เอาไว้​ได้​

เรื่อง​กักขัง​พระชายา​เป็น​เพียง​กลอุบาย​ให้​คนนอก​เห็น​เท่านั้น​

คน​ทั้ง​เมืองหลวง​ต่าง​รู้จัก​อุป​นิสัยใจคอ​ของ​พระชายา​ดี​ว่า​นาง​หา​ใช่นก​น้อย​แสน​เชื่อง​ใน​กรงทอง​ไม่

การ​ทำ​เช่นนี้​ก็​เพื่อ​ป้องกัน​มิให้​พระชายา​เสื่อม​เสียชื่อเสียง​

เพียงแค่​ไม่รู้​ว่า​พระชายา​จะเข้าใจ​ความขมขื่น​ของ​ท่าน​อ๋อง​มาก​น้อย​เพียงใด​

เฮ้อ​ หวัง​ว่า​พระชายา​จะเสด็จ​กลับมา​อย่าง​ปลอดภัย​

ท่ามกลาง​ความ​มืดมิด​ รถม้า​ที่​หลิน​เมิ้งห​ยา​และ​ป๋า​ย​ซ่าว​นั่ง​ค่อยๆ​ เคลื่อน​ออก​ไป​ช้าๆ

คนขับ​รถม้า​คือ​คน​ที่​หยุ​น​จู๋เลือก​มา เขา​จะไป​กับ​พวก​นาง​ด้วย​เช่นเดียวกัน​

ยิ่งไปกว่านั้น​ สิ่งที่​ทำให้​หลิน​เมิ้งห​ยา​รู้สึก​ประหลาดใจ​ก็​คือ​คน​คน​นี้​คือ​ชายหนุ่ม​ใน​ร้านขายยา​สามสหาย​คน​นั้น​

เพราะเหตุนี้​หยุ​น​จู๋จึงบอ​กว่า​จะมีคน​ติดตาม​คอย​ดูแล​พวก​นาง​ตลอดทาง​

นับตั้งแต่​ครั้งแรก​ที่​ได้​เจอ​เขา​ หลิน​เมิ้งห​ยา​รู้สึก​ได้​ทันที​ว่า​ชายหนุ่ม​คน​นี้​มีไหวพริบ​และ​ชาญฉลาด​

ดูเหมือน​การ​เดิน​ทางใน​คราวนี้​จะต้อง​พึ่งพา​เขา​แล้ว​จริงๆ​

หลิน​เมิ้งห​ยา​และ​ป๋า​ย​ซ่าว​ซึ่งนั่ง​อยู่​ใน​รถม้า​รีบ​เปลี่ยน​เสื้อผ้า​เป็น​ชุด​ธรรมดา​

หลิน​เมิ้งห​ยา​แต่งกาย​เป็น​บุรุษ​คน​หนึ่ง​ ใบหน้า​เรียว​เล็ก​รูปไข่​โดดเด่น​สะดุดตา​เหมือนกับ​หลิน​หนาน​เซิงไม่มีผิด​

โชคดี​ที่​นาง​มิได้​มีความ​เขินอาย​อย่างเช่น​หญิงสาว​ทั่วไป​ ไม่ว่า​มอง​ไป​มุมไหน​ก็​มีเพียง​ความ​สงบนิ่ง​ หลังจาก​สวมใส่​เสื้อผ้าอาภรณ์​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ นาง​ไม่ต่าง​อัน​ใด​จาก​ชายหนุ่ม​ฝีมือ​เยี่ยม​ยุทธ​

“แม่นาง​น้อย​ เจ้าลองดู​ข้า​เถิด​ บัดนี้​ข้า​หล่อเหลา​เอาการ​เลย​ใช่หรือไม่​”

หลิน​เมิ้งห​ยา​แสร้ง​แสดงท่าทาง​เสมือน​คุณชาย​เจ้าสำราญ​ พัด​ใน​มือ​ยื่น​ไป​เชย​คาง​ป๋า​ย​ซ่าว​

แสร้ง​ส่งสายตา​เย้ายวน​ชวน​หลงใหล​ แต่​ป๋า​ย​ซ่าวก​ลับ​หลุด​ขำ​พรืด​

ป๋า​ย​ซ่าว​สวม​ชุด​หญิงสาว​ที่​เพิ่ง​ออกเรือน​ ใบหน้า​งดงาม​ดั่ง​หยก​ ท่วงท่า​น่าเกรงขาม​มีสง่าราศี​

พวก​นาง​แต่งกาย​เป็น​คู่รัก​แต่งงาน​ใหม่​ นอกจาก​ขบวน​พ่อค้า​แล้วก็​ไม่มีใคร​รู้เรื่อง​นี้​

คงจะ​ไม่ดี​นัก​หาก​พวก​นาง​แต่งกาย​เป็น​สตรี​ทั้งคู่​

ยิ่งไปกว่านั้น​ใบหน้า​ของ​ป๋า​ย​ซ่าว​ยัง​อ่อนหวาน​น่ารัก​ นาง​ไม่เหมาะ​จะแต่ง​เป็น​ชาย​ การ​แต่งกาย​เป็น​หญิง​เพิ่ง​ออกเรือน​ต่างหาก​ที่​เหมาะสม​กับ​นาง​ ซ้ำยัง​สามารถ​ป้องกัน​มิให้​ใคร​เข้ามา​ตาม​เกี้ยวพาราสี​ระหว่าง​ทางได้​อีกด้วย​

ยกเว้น​พวก​ที่​มีรสนิยม​แบบ​พิเศษ​

ทั้งสอง​จัด​แต่ง​เสื้อผ้า​ให้​เรียบร้อย​ นอกจาก​เสื้อผ้า​และ​รองเท้า​แล้ว​ หลิน​เมิ้งห​ยา​ยัง​นำ​เงินติดตัว​ไป​ค่อน​ข้างมาก​ แม้นาง​จะเป็น​ผู้กำหนด​เส้นทาง​คราวนี้​เอง​ แต่​เงิน​เหล่านี้​มีไว้​ใช้ระหว่าง​ทำ​ภารกิจ​ให้​สำเร็จ​

เพื่อ​มิให้​เกิด​เหตุการณ์​ถูก​ปล้นสะดม​หลังจาก​แยกตัว​จาก​ทุกคน​ หลิน​เมิ้งห​ยา​จึงสวม​เพียง​เครื่องประดับ​ไร้​ราคา​

ท่าทาง​เสมือน​คน​ขี้​งก​ของ​นาง​ทำให้​ป๋า​ย​ซ่าว​หัวเราะ​จน​ตัว​งอ​

นาย​หญิง​ของ​นาง​ฉลาดเฉลียว​ยิ่งนัก​!

“นาย​น้อย​ พวกเรา​ใกล้​จะถึงโรงเตี๊ยม​กัน​แล้ว​ขอรับ​ ท่าน​อยาก​ลง​ไป​ซื้อ​ของ​ก่อน​หรือไม่​?”

อยู่​ๆ เสียง​ที่​ด้านนอก​พลัน​ดัง​ขึ้น​ หลิน​เมิ้งห​ยา​ชะงัก​

ขบวน​พ่อค้า​นัด​รวมตัว​กันที่​โรงเตี๊ยม​แห่ง​หนึ่ง​ก่อน​จะออกเดินทาง​

นาง​แหวก​ผ้าม่าน​ออก​ ก่อน​จะได้ยิน​คนขับ​รถม้า​ส่งเสียง​กระซิบ​

“ตามคำสั่ง​ของ​ท่าน​ ฐานะ​ของ​ท่าน​คือ​คุณชาย​เพียง​คนเดียว​จาก​ตระกูล​มั่งคั่ง​ สกุล​หยวน​นาม​ว่า​หลิน​ เพิ่งจะ​แต่งงาน​ได้​เพียง​ครึ่ง​ปี​ ดังนั้น​จึงออกเดินทาง​เพื่อ​ทำการค้า​ที่​เมือง​หลิน​เทียน​ ข้า​เป็น​คนขับ​รถม้า​ของ​ท่าน​นาม​ว่า​หยวน​ซาน​ นาย​หญิง​สกุล​หยวน​หม่า​ ชื่อ​เพียง​ตัว​เดียว​คือ​ฮุ่ย​”

ไม่รู้​ว่า​ชื่อจริง​ของ​ชาย​ผู้​นี้​คือ​อะไร​ หลิน​เมิ้งห​ยา​จึงเรียก​เขา​ว่า​หยวน​ซาน​

รับ​หนังสือเดินทาง​ของ​ตนเอง​ ใน​นั้น​เขียน​ชื่อ​ของ​นาง​ ป๋า​ย​ซ่าว​และ​หยวน​ซาน​เอาไว้​อย่าง​ชัดเจน​

นาง​ส่งให้​ป๋า​ย​ซ่าว​ดู​ ก่อน​จะเริ่ม​ท่อง​ประวัติ​ของ​ตนเอง​ให้​ขึ้นใจ​

โชคดี​ที่​มีระบบ​เซินหนง​คอย​ช่วยเหลือ​ ดังนั้น​นาง​จึงจำได้​ไม่ขาดตกบกพร่อง​เลย​แม้แต่​คำ​เดียว​

“นาย​น้อย​ ถึงโรงเตี๊ยม​แล้ว​ขอรับ​”

หยวน​ซาน​เอ่ย​เรียก​ด้วย​ความเลื่อมใส​อยู่​ด้านนอก​ หลิน​เมิ้งห​ยา​ตั้งสมาธิ​ นี่​เป็นการ​เดินทาง​ครั้งแรก​ของ​นาง​ ไม่รู้​ว่า​เมือง​หลิน​เทียน​จะมอบ​ประสบการณ์​แปลกใหม่​อัน​ใด​ให้​

มือ​เล็ก​แหวก​ม่าน​ออก​ หลิน​เมิ้งห​ยา​ใน​คราบ​ชายหนุ่ม​ประคอง​ร่าง​ป๋า​ย​ซ่าวลง​จาก​รถม้า​

แม้จะยัง​เช้าตรู่​ แต่กลับ​มีคน​เข้าออก​โรงเตี๊ยม​ไม่ขาด​

ไม่ว่า​จะเป็น​พ่อ​ข้า​จาก​ต่างเมือง​หรือ​ขบวน​พ่อค้า​ที่​ต้องการ​จะออกจาก​เมือง​ล้วน​หยุดพัก​กันที่​โรงเตี๊ยม​แห่ง​นี้​

แม้ราชสำนัก​จะเน้น​การเกษตร​มากกว่า​ค้าขาย​ แต่​ถึงกระนั้น​ก็​ยังมี​พ่อค้า​ผุด​ขึ้น​เป็น​จำนวนมาก​

โชคดี​ที่​ทุก​แคว้น​ล้วน​มีโรงเตี๊ยม​ข้างทาง​ ฉะนั้น​การ​มาของ​พวก​นาง​จึงไม่เป็นที่​สังเกต​นัก​

หยวน​ซาน​นำทาง​พวก​หลิน​เมิ้งห​ยา​ไปหา​หัวหน้า​พ่อค้า​

เขา​เป็น​พ่อค้า​เก่า​นาม​ว่า​ท่าน​กัว​ หยุ​น​จู๋เล่า​ว่า​ก่อนที่​เขา​จะเข้าร่วม​กลุ่ม​สามสหาย​ เขา​เคย​เป็น​หัว​หน้าใหญ่​ของ​สำนัก​คุ้ม​กันภัย​

แต่​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​เขา​จึงผัน​ตัว​มาเป็น​ผู้นำ​ของ​ขบวน​การค้า​แห่ง​กลุ่ม​สามสหาย​

แต่​ถึงกระนั้น​ท่าน​กัว​ก็​เป็น​ผู้​มาก​ประสบการณ์​ เมื่อก่อน​เขา​ทำ​ภารกิจ​สำเร็จ​ลุล่วง​อย่าง​น่าอัศจรรย์​ ฉะนั้น​ภารกิจ​การเดินทาง​ไป​ยัง​เมือง​หลิน​เทียน​จึงมอบหมาย​ให้​เขา​เป็น​ผู้ดูแล​

แน่นอน​ว่า​ฉาก​หน้า​คือ​การ​ไป​เจรจา​ทำการค้า​เท่านั้น​

“คารวะ​ท่าน​กัว​ ผู้น้อย​ได้ยิน​ชื่อเสียง​ของ​ท่าน​กัว​มาก่อน​ วันนี้​ได้​พบกัน​นับ​เป็นเรื่อง​ที่​น่ายินดี​ยิ่ง​ นี่​คือ​ของขวัญ​เล็กน้อย​ที่​ผู้น้อย​นำมา​มอบให้​แก่​ท่าน​ ได้​โปรด​รับ​ไว้​ด้วย​”

ท่าน​กัว​มีลูกน้อง​อีก​สอง​คน​ซึ่งกำลังกิน​อาหารเช้า​อยู่​ใน​ห้องโถง​

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

Score 10
Status: Completed

ชีวิตแรกของ “ซูซิงเกอ” จบลงในห้องทดลองที่เธอรัก..

เมื่อตื่นมาอีกครั้ง ซูซิงเกอจึงได้ชีวิตใหม่ในร่างของ “หลินเมิ้งหยา”คุณหนูสมองพิการ

ที่มีผู้ปองร้ายเป็นแม่เลี้ยงและน้องสาวของตนเอง!

มิหนำซ้ำนางกำลังจะถูกส่งตัวไปแต่งงานกับ “หลงเทียนอวี้” ท่านอ๋องแสนเย็นชา

ที่ต้องแต่งงานทางการเมืองกับนาง โดยที่เขาก็ไม่ได้เต็มใจ

ช่างเป็นการเกิดใหม่ ที่แสนวิเศษจริงๆ! เอาละ! จะปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ไม่ได้

นางหาใช่คนที่จะปล่อยให้ชะตาชีวิตเป็นไปตามลิขิตอย่างหลินเมิ้งหยาเสียเมื่อไหร่

เพราะนางคือ..วายร้ายจอมแก้แค้นซูซิงเกอ

นางจะใช้ความรู้สารพัดพิษที่มี จัดการพวกมันเอง

เริ่มจากยัยน้องสาวตัวดีก่อนละกัน!

Options

not work with dark mode
Reset