ชุยเสี่ยวซินยืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง เธอยืนเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ในตอนที่เธอกำลังยกมือขึ้นจะเคาะประตูห้องนั้น ก็บังเอิญมีคนเปิดประตูห้องพอดี
เด็กผู้หญิงสวยผมสั้นประมาณติ่งหูเอียงหัวไปข้างหน้า เธอเห็นว่ามีใครบางคนยืนจ้องอยู่ที่หน้าประตู ดวงตาคู่สวยกำลังมองมาที่เธอ
ชุยเสี่ยวซินเองก็กำลังมองไปที่หลี่ซือเหนียน เธอรู้ว่าหลี่มู่หยางมีน้องสาวหนึ่งคน แต่คิดไม่ถึงว่าหลี่มู่หยางจะมีน้องสาวที่สวยขนาดนี้………..
"พวกเขาเป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกันจริงหรอ?" มีความคิดผุดขึ้นมาในสมองของชุยเสี่ยวซิน
หลังจากนั้นเธอก็รีบสะลัดความคิดนี้ออกจากสมอง หลี่มู่หยางเป็นผูมีพระคุณที่่ช่วยชีวิตเธอไว้ เธอจะดูถูกเขาอย่างนี้ได้อย่างไร………?"
"ชุยเสี่ยวซิน?" หลี่ซือเหนียนเป็นคนทำลายความเงียบระหว่างพวกเธอสองคนก่อน โดยการอ้าปากถาม
"หลี่ซือเหนียน?" ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนที่ได้ยินหลี่ซือเหนียนพูดชื่อตัวเอง ชุยเสี่ยวซินรู้สึกมีความสุขเล็กน้อย เธอรู้สึกว่านี่เป็นการยอมรับในตัวเธออย่างหนึ่ง ถึงแม้แต่ก่อนเธอจะไม่เคยสนใจเลยว่าจะมีคนยอมรับในตัวเธอมั้ย
"ฉันเอง" หลี่ซือเหนียนพยักหน้า เธอยิ้มและพูดว่า " ฉันเองก็รู้ว่าต้องเป็นพี่"
"พี่มาดูหลี่มู่หยาง" ชุยเสี่ยวซินรู้สึกว่าสายตาของหลี่ซือเหนียนแปลกๆ แต่ในระหว่างทางที่เธอมา เธอเองก็คิดไว้แล้วว่าจะต้องเกิดสถานการณ์แบบนี้ ขนาดที่เธอคิดว่าเธอจะต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ซับซ้อนกว่านี้ คิดว่าต้องมีพ่อแม่และญาติสำคัญของหลี่มู่หยางอยู่ด้วย และการที่พวกเขาใช้สายตาสำรวจหรือสายตาชื่นชมมองมาที่เธอ
เด็กผู้หญิงสวยคนหนึ่งมาเยี่ยมเพื่อนนักเรียนที่ป่วยโดยลำพัง มันเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้เกิดการเข้าใจบิดเบือน มีข้อสงสัย ถ้าเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆรู้เข้าล่ะก็ เกรงว่าเรื่องอื้อฉาวระหว่างคนสองคนจะแพร่กระจายออกไปในโรงเรียนฟู่ซิ่งอย่างรวดเร็วสินะ?
มีหลี่ซือเหนียนเพียงคนเดียวที่อยู่ในห้อง แน่นอนว่านี่จะเป็นการช่วยให้เธอหมดปัญหาหลายๆปัญหาไปอย่างไม่ต้องสงสัย
"อ้อ หลี่มู่หยางคือพี่ชายของฉัน……" หลี่ซือเหนียนพูดยิ้มๆ เธอจูงมือของชุยเสี่ยวซินด้วยความเป็นกันเอง และพูดว่า " พี่เสี่ยวซิน พี่รีบเข้ามาเถอะ"
ชุยเสี่ยวซินไม่ค่อยคุ้นชินกับการเป็นกันเองแบบนี้ และเธอเองก็ไม่เคยจับมือสนิทสนมกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
แต่หลี่ซือเหนียนเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักมากจริงๆ รอยยิ้มของเธอไร้เดียงสามาก ความเป็นกันเองของเธอก็จริงใจมาก ดูเหมือนว่าถ้าปฏิเสธจะดูเหมือนเป็นการดูหมิ่น……..
ชุยเสี่ยวซินลังเลเล็กน้อย เธอเดินเข้าไปที่ข้างเตียงของหลี่มู่หยางโดยมีหลี่ซือเหนียนจูงมือไป
"พี่ พี่เสี่ยวซินคนที่พี่คิดถึงมาแล้ว" หลี่ซือเหนียนส่งเสียงเรียก เธอกระพริบตาให้หลี่มู่หยาง และพูดด้วยใบหน้ากลุ้มใจว่า " พี่ลืมตาขึ้นมาก็ถามว่าพี่ชุยเสี่ยวซินเป็นอย่างไรบ้าง แถมยังมาบังคับให้ฉันไปสืบว่าวันนี้พี่ชุยเสี่ยวซินได้ไปโรงเรียนมั้ย…พี่ดูสิ ดูสิ ไม่ใช่ว่าพี่เสี่ยวซินสบายดีอยู่หรอ? ดูสิมีตรงไหนบ้างที่บาดเจ็บ? ดูสิว่ามีเส้นผมร่วงมั้ยหรือมีเนื้อส่วนไหนหายไปบ้าง?"
"พี่ก็แค่………."
"พอแล้ว พี่ไม่ต้องอธิบายแล้ว อธิบายก็คือการปกปิด" หลี่ซือเหนียนไม่ได้ให้โอกาสหลี่มู่หยางได้พูดเลย เธอพูดขึ้นมาว่า "พวกพี่สองคนคุยกันเถอะ? เดี๋ยวฉันจะออกไปหาอะไรกินหน่อย ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว"
หลี่ซือเหนียนกุมมือของชุยเสี่ยวซิน ยิ้มและพูดว่า " พี่เสี่ยวซิน ฉันยกพี่ชายของฉันให้พี่แล้วนะ?"
ชุยเสี่ยวซินทำหน้านิ่ง เธอพยักหน้าและพูดว่า " โอเค"
ชุยเสี่ยวซินฟังออกว่าที่หลี่ซือเหนียนพูดมันสองแง่สองง่าม แต่ถ้าเธอไม่ตอบล่ะก็ คนอื่นก็จะคิดว่าเธอคิดมากเกินไป?
หลี่ซือเหนียนแอบทำท่าทางสู้ๆให้พี่ชายตัวเอง หลังจากนั้นเธอก็บอกลาชุยเสี่ยวซิน
หลี่มู่หยางยิ้มด้วยความเิขนอาย เขาพูดกับชุยเสี่ยวซินว่า " หลี่ซือเหนียนก็นิสัยแบบนี้แหละ เธออย่าไปใส่ใจเลยนะ"
"เธอน่ารักมาก " ชุยเสี่ยวซินพูดด้วยความตั้งใจ
หลี่มู่หยางพยักหน้า เขามองตาชุยเสี่ยวซินและถามว่า " เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?"
ผิวของชุยเสี่ยวซินขาวละเอียด บนใบหน้าที่สวยงามก็ไม่มีอะไรบกพร่อง เธอสวมกางเกงยีนส์สีฟ้าอ่อน สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวชายเสื้อไว้ในกางเกง ไม่ได้คาดเข็มขัด ทำให้เห็นเอวที่บางเรียวอย่างชัดเจน ราวกับต้นหลิวที่โอนเอนในสายลม ให้ความรู้สึกของความเรียบง่ายและความสะอาด
ในความทรงจำของหลี่มู่หยาง ตอนที่ถูกโจมตีที่ร้านกาแฟ ชุยเสี่ยวซินได้รับาดเจ็บ…..แต่ตอนนี้มองไม่เห็นร่องรอบบาดเจ็บอะไรเลย ราวกับวันนั้นเป็นฝันร้ายที่เจ็บปวด
"ขอโทษนะ" ชุยเสี่ยวซินลดเปลือกตาลง ขนตายาวๆปกคลุมลงมา ราวกับเป็นพัดที่ทำจากคน "นายสละชีวิตเพื่อช่วยฉันและคนอื่นๆ แต่ฉันกลับหนีไป…….."
"มีคนมาช่วยเธอไว้หรอ ใช่มั้ย?" หลี่มู่หยางพูดยิ้มๆ "คนที่ตะโกนว่าสัวต์ชั่วร้ายเป็นคนของเธอ รังสีกลมๆสีแดงที่เผาอีกาพวกนั้นก็มาจากคนของเธอ พวกเธอหนีไปหลังจากที่แน่ใจแล้วว่านักฆ่าคนนั้นจากไปแล้วใช่มั้ย?"
ชุยเสี่ยวซินกระพริบตาและถามว่า " นายรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร?"
"ฉันรู้สึก………"หลี่มู่หยางฉีกยิ้ม โผล่ฟันสีขาวๆสองแถว เขาสามารถเป็พรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทยาสีฟันได้ "เพราะนี่น่าจะเป็นเรื่องที่เธอน่าจะทำได้"
"ขอบใจมาก" ชุยเสี่ยวซินรับรู้ได้ถึงความซาบซึ้ง เธอพูดว่า "ขอบใจมากที่นายเชื่อใจฉัน"
"พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้ว ไม่ใช่หรอ?" หลี่มู่หยางพูดยิ้มๆ "ก็เหมือนกับที่เธอเชื่อว่าการเรียนของฉันสามารถช่วยให้ดีขึ้นได้นั่นแหละ ฉันเองก็เชื่อในตัวของเธอด้วย เชื่อว่าเธอไม่ได้ตั้งใจทิ้งฉันไว้ในสถานการณ์ที่อันตรายแบบนั้นคนเดียว…………"
"ครอบครัวของฉันเป็นคนพาฉันออกมา" ชุยเสี่ยวซินอธิบาย เธอรู้สึกว่าเธอติดค้างการอธิบายต่อหลี่มู่หยาง และนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เธอต้องการมาเยี่ยมหลี่มู่หยาง "ตอนที่ฉันออกมาฉันหมดสติไปแล้ว ไม่สามารุขัดขืนใดใดได้"
"ฉันเข้าใจ" หลี่มู่หยางสะบัดมืออย่างสบายๆ และพูดว่า "ฉันพอจะเดาสถานการณ์แบบนั้นออก"
"งั้น………" ชุยเสี่ยวซินคิดว่า มันถึงเวลาแล้วที่เธอจะบอกลา
ไม่ว่าที่ร้านกาแฟวันนั้นหลี่มู่หยางจะแสดงออกมาได้อย่างกล้าหาญมากขนาดไหน แต่เขาก็ยังเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง
เพราะนักฆ่าคนนั้นหาร่องรอยของเธอจนเจอแล้ว การโจมตีครั้งนี้ล้มเหลว แต่ก็กลัวว่าเขาจะหาวิธีในการดำเนินการอีกครั้ง และเป็นการเผชิญกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายมากกว่าเดิม
เธอก็เลยไม่อยากจะดึงหลี่มู่หยางเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะก็ไม่มีใครที่จะกล้ารับประกันได้ว่าหลี่มู่หยางจะโชคดีเหมือนครั้งนี้
" การนัดกันของเรายังใช้ได้อยู่มั้ย? "จู่ๆหลี่มู่หยางก็พูดขึ้น
"อะไร?"
"เธอเคยบอกว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอจะช่วยติวหนังสือให้ฉัน……..คำพูดที่เธอพูดตอนที่อยู่ร้านกาแฟวันนั้น" หลี่มู่หยางจ้องตาชุยเสี่ยวซิน พูดยิ้มๆ
"อ้อ" ชุยเสี่ยวซินปัดผมที่หน้าผากของเธอ และพูดว่า " ฉันก็ยังคงพูดแบบนั้นอยู่ ถ้านายยินยอมล่ะก็"
"แน่นอน" หลี่มู่หยางพูดยิ้มๆ " ฉันเองก็อยากจะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยซีเฟิง ได้ยินมาว่าที่มหาวิทยาลัยซีเฟิงมีทะเลสาบอยู่แห่งหนึ่ง ที่สามารถดูพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในโลกได้"
"งั้นก็มาตั้งใจเรียนกับฉันสิ" ชุยเสี่ยวซินเม้มปากยิ้มๆ
……………………
เริ่มตั้งแต่วันนี้ ชุยเสี่ยวซินก็มาเยี่ยมหลี่มู่หยางที่โรงพยาบาลทุกวัน อีกทั้งช่วยติวหนังสือให้หลี่มู่หยางเป็นเวลาสี่ชั่วโมง
เธอเป็นนักเรียนเรีนรดีที่มีชื่อเสียงของโรงเรียน ไม่มีวิชาไหนที่จะยากเกินความสามารถของเธอ
เธออธิบายเนื้อหาแต่ละวิชา หลังจากนั้นเอก็จะให้หลี่มู่หยางฝึกทำแบบฝึก ถ้าหลี่มู่หยางมีตรงไหนที่ไม่เข้าใจ เธอก็จะอธิบายมันอีกครั้งด้วยคำพูดที่เข้าใจง่าย อธิบายจนกว่าหลี่มู่หยางจะเข้าใจเรื่องนั้นอย่างชัดเจน
ไม่รู้เป็นเพราะว่าผู้ชายผู้หญิงช่วยกันทำเรื่องอะไรจะไม่รู้สึกเหนื่อย หรือเพราะว่าผู้หญิงสวยมีความสามารถในการกระตุ้นจิตใจ ระยะเวลาการนอนหลับของหลี่มู่หยางในช่วงนี้ลดน้อยลง อีกทั้งปฏิกิริยาการตอบรับของเขาก็รวดเร็วยิ่งขึ้น มีบางข้อที่ค่อนข้างยาก ชุยเสี่ยวซินอธิบายเพียงครั้งเดียวเขาก็สามารถเข้าใจได้เลย
ชุยเสี่ยวซินตกใจมาก เธอตั้งใจหาข้อที่ยากมาลองทดสอบหลี่มู่หยาง หบว่าหลี่มู่หยางสามารถทำข้อสอบได้อย่างรวดเร็ว บางครั้งเขาก็ไม่ได้ใช้วิธีที่ชุยเสี่ยวซินสอนในการทำข้อสอบข้อนั้น
นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ชุยเสี่ยวซินสงสัยมาก แต่ก่อนหลี่มู่หยางก็ไม่เคยฟังที่คุณครูสอน นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาสอบได้ที่สุดท้ายหรือสอบได้ศูนย์คะแนน
แต่ตอนนี้เธอก็แค่มาอธิบายให้เขาฟังแค่ครั้งเดียว แล้วเขาไปหาวิธีการทำแบบอื่นมาจากที่ไหน?
เรียนรู้เพียงวิธีเดียวสามารถวิเคราะห์ได้หลายวิธี?
หรือว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่ถูกซ่อนอยู่?
ชุยเสี่ยวซินจ้องใบหน้าสีดำของหลี่มู่หยาง พบว่าเธอยิ่งดูยิ่งสบายตามากขึ้น ถึงแม้หลี่มู่หยางจะผิวดำคลับ แต่เขากลับมีใบหน้าที่ชัดเจน สิ่งที่พิเศษก็คือดวงตาสองข้างของเขา ดวงตาที่ฉลาดเฉียบแหลมคู่นั้น ราวกับว่าเป็นดวงตาที่สามารถกลืนวิญญาณของผู้อื่นได้
"หลี่มู่หยาง………." ชุยเสี่ยวซินส่งเสียงเรียก
"อะไร?" หลี่มู่หยางเงยหน้าขึ้นมามอง
"แต่ก่อนเธอทำไม่เป็นเลยจริงๆหรอ?"
"ก็คงใช่แหละ" หลี่มู่หยางพยักหน้าและพูดว่า " แต่ก็ไม่รู้ว่าช่วงนี้เป็นอะไร มีบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้น ราวกับว่าแต่ก่อนเคยประสบพบเจอมาแล้ว……ข้อสอบพวกนี้ก็เช่นกัน ทั้งๆที่ฟังเธออธิบายเป็นครั้งแรก แต่ฉันกลับหาวิธีอื่นๆได้อีกหลายวิธี"
ชุยเสี่ยวซินทำตาโต มองหลี่มู่หยางและพูดว่า " นายจะบอกว่า….ในทุกๆข้อนายสามารถหาวิธีอื่นๆมาทำข้อสอบได้ใช่มั้ย?"
"ใช่นะ" หลี่มู่หยางพยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็จับหัวตัวเอง และพูดด้วยความเขินอายว่า "บางข้อทำได้แค่วิธีเดียว วิธีอื่นๆเป็นวิธีปลอม เพราะถ้าเธอยังเลือกทำตามวิธีอื่น ก็จะพบว่าจะได้คำตอบที่ไม่ถูกต้องหรือคำตอบที่ตรงกันข้าม นั่นเป็นกับดักของความรู้ มันง่ายที่จะทำให้เธอเสียเวลา"
ชุยเสี่ยวซินไม่เชื่อ เธอก็เลยเอากระดาษมาร่างข้อสอบทฤษฎีสี่มิติ หลังจากนั้นเธอก้ยื่นข้อสอบไปตรงหน้าของหลี่มู่หยางและพูดว่า "นายลองทำข้อสอบข้อนี้ดู และใช้ทุกวิธีที่นายรู้"
หลี่มู่หยางพยักหน้า หลังจากนั้นก็เริ่มทำข้อสอบ
ห้านาทีผ่านไป หลี่มู่หยางยังคงทำข้อสอบอยู่
สิบนาทีผ่านไป หลี่มู่หยางก็ยังคงทำข้อสอบอยู่
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป หนึ่งชั่วโมงผ่านไป…………..
ในระหว่างที่เขาทำข้อสอบ หลี่มู่หยางเปลี่ยนดินสอไปหนึ่งด้าม และก็ขอกระดาษเปล่าอีกสอบสองแผ่น
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ เขาก็ยืนกระดาษสิบกว่าแผ่นให้ชุยเสี่ยวซิน และพูดด้วยความเขินอายว่า " ฉันรู้แค่นี้………"
ชุยเสี่ยวซินรีบรับกระดาษคำตอบมา เธอยิ่งดูหน้าของเธอก็ยิ่งนิ่งขึ้น สุดท้ายเธอก็ปิดกระดาษคำตอย มองหลี่มู่หยางและพูดว่า " นายเขียนลงไปสิบเอ็ดวิธี?"
"ใช่" หลี่มู่หยางพยักหน้า "ที่จริงยังมีอีกวิธีหนึ่ง แต่วิธีนั้นฉันทำเป็นแค่เริ่มต้น มีบางการคำนวนที่ฉันยังติดขัดอยู่ ไม่สามารถทำให้สมบูรณ์แบบขึ้นมาได้"
"แต่……….." ชุยเสี่ยวซินกัดริมฝีปาก มองหลี่มู่หยางด้วยสายตาสับสน และพูดออกไปอย่างยากลำบากว่า "ฉันทำเป็นแค่สองวิธี"
"…………………."