"ฮ่าๆๆๆๆๆ…………….."
หลี่ซือเหนียนหัวเราะจนตัวสั่น หัวเราะจนหายใจไม่ทัน
เธอลงไปกองกับเตียงผู้ป่วย เงยหน้าขึ้นมามองหลี่มู่หยางหายใจถี่และถามขึ้นว่า " พี่ มีอะไรทำให้พี่…….ทำให้พี่เข้าใจตัวเองผิดขนาดนั้น?"
หน้าดำๆของหลี่มู่หยางถูกปกคลุมด้วยสีขาว ทำให้มองเห็นไม่ชัดเจนว่ากลงสีผิวของเขาเปลี่ยนเป็นสีอะไรกันแน่ แต่เขาหลบสายตา ยื่นมืออกไปขยี้ผมของหลี่ซือเหนียนให้ยุ่งเหยิงเป็นการเอาคืน และพูดด้วยความไม่มั่นใจว่า "พี่ก็แค่พูด พี่จะเป็นมังกรยักษ์ได้อย่างไรกันหล่ะ? ดูแล้วไม่เหมือนเลยซักนิดใช่มั้ย?"
"พี่…" หลี่ซือเหนียนเรียกด้วยน้ำเสียงแปลกๆ และปล่อยให้หลี่มู่หยางลูบผมของเธอ เธอกระพริบตาที่ดูไร้เดียงสาไม่มีอะไรซับซ้อนของเธอและมองไปที่หลี่มู่หยาง และถามด้วยจิตใจละเอียดอ่อนว่า " เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมพี่ถึงได้ถามคำถามอะไรแปลกๆแบบนี้?"
"ไม่มีอะไร " หลี่มู่หยางยิ้มเจื่อนแล้วส่ายหน้า "ก็แค่ฝัน ฝันเห็นมังกรตัวหนึ่ง พี่อยากจะเห็นให้ัดเจนว่ามังกรตัวนั้นหน้าตามันเป็นอย่างไร สรุปว่าตาของมันเหมือนตาของพี่เลย…….พี่ก็เลยอยากลองถามเธอดู ว่าพี่เหมือนมังกรยักษ์มั้ย"
หลี่ซือเหนียนรู้สึกกังวลใจ เธอเคยได้ยินมาว่าทุกๆการฝันจะแฝงด้วยความจริงอยู่ เช่น การฝันว่าตัวเองเป็นมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่หรือฝันว่าตัวเองเป็นสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ นั่นเป็นเพราะลึกๆแล้วเขามีปมด้อยและไม่มีความมั่นใจในตนเอง
ทำให้หลี่ซือเหนียนกุมมือของหลี่มู่หยาง และพูดปลอบใจว่า " พี่ ในใจของฉันพี่เป็นมังกรยักษ์ ตอนนี้พี่เป็นมังกรที่กำลังดำน้ำอยู่ เพราะว่าตอนเด็กๆพี่มักจป่วยบ่อยๆ ดังนั้นพี่เลยไม่ได้แสดงศักยภาพและสติปัญญาของพี่ออกมา……….รอจนกว่าร่างกายของพี่ฟื้นฟูดีแล้ว พี่ก็จะมีเวทมนต์วิเศษเหมือนมังกร พลิกแม่น้ำคว่ำทะเล ได้บินทะเยอทะยานบนท้องฟ้าสูงอย่างมีความสุข"
หลี่มู่หยางยื่นมือออกไปลูบที่จมูกของหลี่ซือเหนียน และพูดด้วยความเอ็นดูว่า " เด็กโง่ เริ่มทำตัวเป็นอาจารย์จิตวิทยาอีกแล้ว? สภาพร่างกายของพี่พี่จะไม่รู้หรอว่าเป็นยังไง? ตอนนี้พี่ชายของเธอเป็นคนไร้ประโยชน์ ต่อไปก็คงต้องเป็นคนไร้ประโยชน์ ดังนั้นก็เลยต้องพึ่งพาน้องสาวอย่างเธอมาคอยดูแล"
"พี่ พี่สบายใจได้ น้องสาวของพี่คนนี้ต่อไปจะดูแลเรื่องกินเรื่องที่อยู่และเรื่องหาภรรยาให้พี่" หลี่ซือเหนียนเอามือคล้องคอหลี่มู่หยางพูดและหัวเราะ"
"ฉันต้องการภรรยาสองคน"
"แบบนั้นไม่ได้"
"ทำไม?"
"คนเดี๋ยวฉันเห็นก็โกรธแล้ว แล้วจะมีสองคนได้ยังไง? ฉันคิดที่จะหาวิธีให้ยาพิษให้พวกเธอตายตลอดเวลา"
"…………..งั้นพี่ไม่ต้องมีเลยซักคนดีมั้ย?"
"แบบนั้นไม่ได้ " หลี่ซือเหนียนปฏิเสธ "ถ้าพี่ไม่แต่งงาน พ่อกับแม่ต้องเสียใจมากๆเลย ถ้าพ่อแม่เสียใจ ฉันก็จะเสียใจไปด้วย……ดังนั้น ที่ฉันพอจะอดทนได้ก็คือให้พี่มีได้คนเดียว พี่มีภรรยาได้คนเดียว และต้องมีเพียงคนเดียวเท่านั้น"
"…………………"
หลี่มู่หยางมองดูท้องฟ้าข้างนอกและถามว่า " ฉันหลับไปนานเท่าไหร่?"
สีหน้าของหลี่ซือเหนียนเปลี่ยนเป็นเศร้าสลดและพูดว่า " สองวันสองคืน"
"อะไร?" หลี่มู่หยางตกใจและพูดว่า " ทำไมพี่นอนนานขนาดนั้น? แล้วชุยเสี่ยวซินหล่ะ? เธอมาด้วยหรือเปล่า?"
แววตาของหลี่ซือเหนียนเปล่งประกาย มีเปลวไฟแห่งการนินทาเกิดขึ้น เธอพูดเบาๆว่า " ใครคือชุยเสี่ยวซิน? เป็นอะไรกับพี่?"
"ชุยเสี่ยวซินเป็นเพื่อนร่วมห้องกับพี่ " หลี่มู่หยางย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่ร้านกาแฟ เขาไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าท่าทางของหลี่ซือเหนียนในตอนนี้ ตอนนั้นเขาต่อยนักฆ่าชุดดำคนนั้นด้วยหมัดเดียว เขาก้มหน้ามองมือตัวเองที่ถูกพันไว้ และคิดว่าตอนนั้นเขาต่อยนักฆ่าคนนั้นให้ลอยได้ด้วยหมัดเดียวได้อย่างไร?
ถึงแม้หลี่มู่หยางจะไม่คุ้นเคยกับเรื่องการฝึกบำเพ็ญฌาน แต่เขาก็รู้ดีว่านักฆ่าชุดดำคนนั้นฝีมือระดับสูง
เขาใช้ทั้งดาบและใช้ประตูแห่งความว่างเปล่าเพื่อเรียกอีกา ดูเก่งกาจมาก
หลี่มู่หยางรู้สึกได้ว่าช่วงนี้ตัวเองดูแปลกๆ มักจะมีความรู้สึกว่าในตัวของเขามีสัตว์ประหลาดที่ต้องการจะระเบิดร่างกายออกมา
เขาโกรธง่ายระเบิดง่าย อีกทั้งพละกำลังมหาศาลที่แปลกๆนั้น……….ตอนที่เขาต่อยจางเฉินด้วยหมัดเดียวจนตัวของจางเฉินลอยที่ทะเลสาบก็เป็นตัวอย่างหนึ่ง
หลังจากนั้นเขาได้ยินคนตะโกนว่า "สัตว์ชั่วร้าย" หลังจากนั้นก็มีแสงรังสีกลมๆที่ส่องแสงเหมือนดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นที่เหนือหัวของเขา………………
จนกระทั่งอีกาหายไป แสงรังสีกลมๆหายไป ชุยเสี่ยวซินเองก็หายไปด้วยเช่นกัน
"ตกลงชุยเสี่ยวซินเแ็นอย่างกันกันแน่? มีคนช่วยเธอไว้หรือถูกลักพาตัวไปแล้ว? แล้วคนที่ตะโกนว่าสัวต์ชั่วร้ายเป็นใคร?"
หลี่มู่หยางร้อนใจมาก เขาต้องการอยากจะรู้คำตอบเรื่องพวกนี้เดี๋ยวนี้
"แน่นอนว่าฉันรู้ว่าเธอเป็นเพื่อนร่วมห้องกับพี่ และฉันก็รู้ด้วยว่าเธอเป็นคนสวยในโรงเรียน และเป็นเด็กเรียนที่สุดในชั้ยม.6 เธอได้คะแนนอันดับหนึ่งทุกวิชา…………..จากประสบการณ์และการเรียนรู้หลายปีที่ผ่านมาของหลี่ซือเหนียน เป็นครั้งแรกที่พบว่าจะมีใครมาแข่งขันกับฉันได้ พี่ ได้ยินมาว่าพี่ถูกส่งมาจากร้นกาแฟที่อยู่หน้าประตูโรงเรียน และตอนนั้นก็เป็นเวลาเข้าเรียน ตอนนั้นพวกพี่คงจะไม่ใช่………กำลังมีความรักกันอยู่มั้ง?"
หลึ่มู่หยางพูดปฏิเสธว่า " จะมีึวามรักได้ยังไง? เธอดูหน้าพี่ด้วย พี่เหมาัสมกับคนอื่นด้วยหรอ?"
หลี่ซือเหนียนส่ายหน้า หลังจากนั้นก็พยักหน้า และพูดว่า " แต่ฉันได้ยินคนพูดกันว่า ผู้ชายที่ดีจะไม่ได้ภรรยาที่ดี ผู้ชายขี้เกียจจะได้ภรรยาอ่อนช้อยน่ารัก………พี่ พี่ไม่ต้องมากังวลว่าตัวเองน่าเกลียด แล้วกลัวว่าชุยเสี่ยวซินจะตาบอดไม่พอ หรือว่าให้ฉันไปช่วยทำให้เธอตาบอด?"
"……………."
หลี่ซือเหนียนส่ายหน้าและพูดว่า "ช่างเถอะ ไม่แน่ต่อไปเธออาจจะมาเป็นพี่สะใภ้ของฉันก็ได้ ฉันจ้องเคารพเธอซักหน่อย"
เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางร้อนใจของหลี่มู่หยาง หลี่ซือเหนียนก็ไม่แกล้งเขาอีก เธอพูดว่า " ฉันไม่เห็นชุยเสี่ยวซิน แต่ตอนนี้ที่พี่ได้อยู่โรงพยาบาลเอกชนได้พักห้องพักผู้ป่วยระดับสูงเพราะมีคนจัดการให้ ถ้าฉันเดาไม่ผิดหล่ะก็ น่าจะเป็นชุยเสี่ยวซินมั้ง………เพราะว่า ครอบครัวของพวกเราก็ไม่รู้จักคนใหญ่คนโตที่เมืองเจียงหนาน"
"เธอไปลองสืบให้พี่ที่โรงเรียนหน่อยได้มั้ย…….ดูว่าชุยเสี่ยวซินได้ไปเรียนมั้ย?" หลี่มู่หยางจับมือน้องสาวและพูดขอร้องด้วยเสียงเบาๆ
หลี่ซือเหนียนรู้สึกปวดใจ ราวกับว่าคนที่เป็นที่รักของเธอกำลังจะโดนคนอื่นแย่งไป เธอแบะปาก และพูดอย่างร้ายกาจว่า " โว๊ะ โว๊ะ โว๊ะ ตอนนี้คือทำใจแยกจากกันไม่ได้แล้วหรอ?"
หลี่มู่หยางส่ายหน้า และพูดว่า "ตอนนั้นเหตุการณ์มันอันตรายมาก พี่กังวลเรื่องความปลอดภัยของเธอ"
"ฉันรู้ " หลี่ซือเหนียนมองตาของหลี่มู่หยางและพูดว่า "วันนี้ฉันจะไปสืบที่โรงเรียนให้พี่"
"ขอบใจมาก" หลี่มู่หยางฉีกยิ้ม
"ห้ามยิ้ม" หลี่ซือเหนียนพูดขึ้นมา "ยิ้มแล้วเหมือนมัมมี่แอฟริกัน นอกจากฟันแล้วส่วนอื่นก็มองแทบไม่เห็น…………."
"……………….."
หลี่มู่หยางรู้ดีว่า เขาต้องไปทำอะไรให้เธอโกรธอีกแล้วแน่ๆ
………………
……………..
แขว่บ…………..
รถหรูยี่ห้อMaseratiที่หัวรถมีตราโลโก้ตรีศูลหรือสามง่ามอันโดดเด่นของเทพเจ้ากรีซโพไซดอนถูกจอดที่หน้าประตูโรงพยาบาล ตอนที่หญิงสาวคนนหนึ่งที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงยีนส์สีฟ้ากำลังจะเปิดประตูรถ ผู้ชายที่สวมเสื้อคุลมสีเขียวที่นั่งอยู่หน้ารถพูดห้ามไว้ว่า " คุณหนูครับ คุณจะเสี่ยงจริงๆหรอครับ?"
"เสี่ยง?" หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย "นี่เป็นโรงพยาบาลส่วนตัวของตระกูลชุย เสี่ยงอะไร? ฉันก็แค่อยากจะไปเยี่ยมเพื่อนของฉันหน่อย………และก็เป็นคนที่ช่วยชีวิตฉันไว้"
"คุณหนูครับ พวกเราจัดการโรงพยาบาลที่ดีที่สุดให้เขาแล้ว ห้องพักที่ดีที่สุด และเชิญหมอที่เก่งที่สุดในเมืองเจียงหนานมารักษาให้เขา…….ตามคำขอของคุณหนู และเรายังเรียกหมอสมองที่มีชื่อเสียงที่สุดมาเพื่อตรวจสมองของเขา ดูว่าตอนเด็กๆที่เขาถูกฟ้าผ่ามีบาดแผลอะไรมั้ย เขาช่วยชีวิตคุณหนูไว้ก็จริง บุญคุณในครั้งนี้ตระกูลชุยก็จะค่อยๆตอบแทนเขา….แต่ คุณหนู ผมว่าคุณหนูไม่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องแล้ว"
"พวกคุณกลัวว่าจะมีคนมาลอบฆ่าฉันอีก?" เด็กสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดเบาๆว่า " ไม่ใช่มีพวกนายคอยดูแลฉันอยู่หรอ"
"คุณหนู พวกเรากลัวว่าจอันตรายที่แท้จริง……..ก็คือผู้ป่วยที่คุณหนูกำลังจะไปเยี่ยม" ชายเสื้อคลุมสีเขียวลังเลอยู่นาน สุดท้ายเขาก็พูดความในใจออกมา
"หลี่มู่หยาง?" เด็กสาวขมวดคิ้ว เธอไม่ชอบคนอื่นมาพูดว่าเพื่อนของเธอแบบนี้
"ใช่ครับ" ชายเสื้อคลุมสีเขียวพยักหน้า "คนที่มาบุกโจมตีคุณหนูที่ร้านกาแฟในครั้งนี้ก็คือหวูยานักฆ่าอันดับที่ยี่สิบของประเทศ ผู้ชายคนนี้ฝึกฝนบำเพ็ญฌานมาอย่างลึกซึ้ง อีกทั้งเขาเก่งที่สุดในเรื่องการเรียกนกมาโจมตี มีฉายาว่าราชานก แต่เพื่อนคนนั้นของคุณหนูสามารถขัดขวางการตัดดอกซากุระของเขาได้ถึงสองครั้งติด ครั้งที่สามเขายังต่อยหวูยาจนลอยด้วยหมัดเดียว………..คุณหนูครับ เพื่อนของคุณหนูคนนี้อันตรายมาก"
ชุยเสี่ยวซินพูดว่า " ถ้าเขาได้ยินการประเมินในครั้งนี้ เขาคงต้องดีใจมากๆสินะ?"
"คุณหนู………….."
"ลุงหนิง ฉันเคยคิดไว้แล้ว ฉันรู้ดี " เด็กสาวพูดขัดการโน้มน้าวของชายขุดคลุมสีเขียว และพูดว่า "แต่ ฉันไม่สามารถเลือกที่จะลืมได้ ตอนที่นักฆ่ากำลังจะลงดาบ เป็นเขาที่พุ่งตัวเข้าใส่อย่างกล้าหาญ เป็นเขาที่ใช้เนื้อฝ่ามือจับดาบนั้นไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า…………."
แกร๊ก……….
ชุยเสี่ยวซินเปิดประตูรถ เงยหน้ามองอาคารคลาสสิกที่ซ่อนอยู่ใต้ต้นเชอร์รี่
ช่อเชอร์รี่สีแดง สีแดงเหมือนเลือดที่ไหลออกมาจากฝ่ามือของหลี่มู่หยางในวันนั้น