กำพร้า ณ ต่างโลก 24 คุยกับท่านหญิงเสือดำ

ตอนที่ 24 คุยกับท่านหญิงเสือดำ

เมื่อเข้ามาในห้องที่มีแค่ผมกับท่านหญิงเสือดำ มีแค่ท่านหญิงนั่งหลังโต๊ะดูเหมือนต้องการคุยมากกว่า

ผมโล่งใจ

ผมมองในห้อง ห้องมีช่องกระจกอยู่เยอะและแสงแดดยามเย็นกำลังส่องมานอกกระจก ข้างในสว่างด้วยไฟลิช

มีนกรักตัวเล็กอยู่สองสามกรงน่าจะเอาไว้ติดต่อกับคน แต่มีชุดท่ออยู่

โต๊ะเป็นโต๊ะไม้สีน้ำตาลเข้มเงา เก้าอี้ข้างหลังจากที่เห็นขอบดูเหมือนกึ่งบัลลังก์หุ้มเบาะแต่ออกแบบมาเพื่อเน้นความนั่งสบายโดยไม่ทิ้งความสวย มีกระถางต้นไม้อยู่กับชั้นใส่ปึกกระดาษอยู่ด้านหลังห้อง

ที่ฝั่งตรงข้ามกับท่านหญิงมีโซฟาอยู่ ผมไปยืนหน้าโซฟาแต่ไม่ได้นั่งลงเธอยังไม่ได้เชิญผม

จากนั้นท่านหญิงเริ่มพูด

“น้องต้องการค่าจ้างเท่าไหร่?”

ท่านหญิงเสือดำไม่ได้เสนอราคาจ้างมาก่อนแต่ให้ผมเป็นคนเสนอไปเลย

เธอพร้อมที่จะจ่ายไม่ว่าเท่าไหร่หรือ?

ผมลองคิด ถ้าผมจะได้ค่าจ้าง มันต้องมากกว่าที่ผมเคยทำได้มา ผมลองคำนวณ

“วันละ 5 ทองครับ”

“ได้ ตกลง เธอเป็นคนของฉันแล้วตอนนี้”

เธอตอบตกลงทันทีเหมือนเงินไม่ได้เยอะเกินไป

“มีความคิดอะไรเสนอมั้ย?”

ท่านหญิงเสือดำเทเครื่องดื่มกลิ่นคล้ายบรั่นดีใส่แก้วแล้วจิบ

“ถ้าทำกล่องไว้รับคนไปส่งตามชั้นที่เคลื่อนที่ด้วยเชือกเหล็กมัดรวมกันแล้วดึงคนขึ้นลงล่ะครับ”

“แล้วมันจะเคลื่อนที่ได้ยังไง”

ท่านหญิงเสือดำถามขึ้นมา

“เอาคนหมุนรอกพาขึ้นลงครับ ใช้กำลังคนตัวใหญ่หกคนเราจะพาคนขึ้นทีละไม่เยอะ”

“อืม ฉันพอนึกภาพออก มีอะไรอีก”

ท่านหญิงเสือดำให้ผมเสนอความคิดต่อไป

“กลิ่นที่เป็นเหมือนกลิ่นประจำร้าน ถ้าเอามาทำเป็นน้ำหอมล่ะครับ หมักมันให้กลิ่นติดนานๆอย่างเข้มข้นแล้วเอามาฉีดเป็นสเปรย์ทีละน้อยๆ”

ท่านหญิงเสือดำเอียงหัว

“น้ำหอมฉันพอรู้จัก แต่สเปรย์นี่มันคืออะไร?”

ท่านหญิงเสือดำสงสัยแต่ไม่ได้เรียกพี่เอโกะ

“มันเป็นหัวติดกับหลอดแล้วเป็นหัวฉีดพ่นน้ำทีละน้อยๆครับ มีกระดาษมั้ยล่ะครับ”

ผมถามท่านหญิงเสือดำ ท่านหญิงหันไปข้างหลังเพื่อหยิบกระดาษมาหนึ่งแผ่นและนำมายื่นให้ผมพร้อมดินสอ

ผมเขียนแบบหัวสเปรย์คร่าวๆ ผมอยากอธิบายให้วิวเป็นคนวาดให้จริงๆ

เมื่อเสร็จมันดูเหมือนงานเด็กๆแต่ผมว่าน่าจะพอเข้าใจกลไกมันได้อยู่

“ประมาณนี้ครับท่านหญิง”

ผมเอาแบบหัวสเปรย์ให้ท่านหญิงดู ท่านหญิงพยักหน้า แล้วเอากระดาษไว้ข้างๆ แล้วทำหน้าเหมือนมีความหวัง

“มีอีกมั้ย?”

“ฝักบัวครับ มันเป็นสายยางรับน้ำมาจากแหล่ง และเป็นหัวปล่อยน้ำติดอยู่สูงเหนือตัวคนประมาณศอก หัวนั้นฉีดน้ำเป็นเส้นเล็กๆกระจุกกันและปล่อยน้ำเป็นสายจากที่สูงให้ตกลงมา มันเป็นการอาบน้ำที่ไม่ต้องใช้มือจับและเร็ว เรายุ่งกับการถูตัวระหว่างอาบอยู่ในน้ำได้”

“แล้วเราจะปล่อยน้ำร้อนยังไง”

ผมรีบตอบท่านหญิงเสือดำ

“ทำกล่องใส่ปลาอุ่นอกไว้ทำน้ำร้อนครับ เราจะทำช่องน้ำร้อนและมีวาล์วปล่อยน้ำร้อนมาใส่”

“แต่น้ำเย็นมันจะย้อนเข้าไปน่ะสิ”

“เราต้องหาระบบที่น้ำเย็นไม่ย้อนเข้าไป แล้วทำตัววาร์วปล่อยน้ำให้ดีๆ ให้ไม่เยอะจนทำให้บาดเจ็บ”

“ฉันพอนึกภาพออกแล้ว”

ท่านหญิงบอกผมมา

“ครับ”

“มีอะไรอีกมั้ย?”

ท่านหญิงถามผม หน้าตาคาดหวังมาก ผมคิดอยู่สักพักแต่คิดอะไรไม่ออก

“ตอนนี้มีความคิดเท่านี้ครับ”

“อย่างนั้นเหรอ”

ท่านหญิงตอบมาเสียงเบาๆหน้าตาดูผิดหวังนิดหน่อย

“แล้วที่ได้ดูดงเสือดอกเล่นน้ำวันนี้มีคำถามอะไรมั้ย?”

“ทำไมบางห้องผมไม่ได้ดูเลยครับ ผมไม่มีโอกาสได้ทำจริงๆเหรอ? แต่ผมอยากเห็นว่าเอาไว้ทำอะไร”

ผมถามท่านหญิงเสือดำเมื่อเธอเปิดให้ถาม

“ฉันคิดว่าฉันไม่น่าจะให้น้องทำ แต่ถ้าอยากเห็นฉันจะเปิดให้ไปดู ฉันจะให้คนพาไป”

“ขอบคุณครับ”

ผมยิ้มให้ท่านหญิงเสือดำ

“แล้วมีอะไรอีก?”

“ทำไมรู้เรื่องถุอูริจิดีจังครับ?”

เมื่อท่านหญิงเสือดำถามผม ผมถามเธอ

“เราผลิตถุงอู๊ริจิใช้เอง”

“อ๋อ เข้าใจแล้วครับ แล้ววันนี้ผมพักที่ไหน?”

ผมถามเรื่องที่พักและที่ดงเสือดอกเล่นน้ำใช้ถุงผลิตเองด้วย

“น้องจะพักที่หอ เอาแผนที่มั้ย?”

“เอาครับ”

จากนั้นท่านหญิงเสือดำหันไปเอากระดาษอีกแล้ววาดแผนที่

ไม่นานเธอก็ยื่นแผนที่มาให้ผม ผมดู

มันคร่าวๆไม่ได้ละเอียดมาก แต่พอรู้แล้วว่าไปยังไง ถ้าอย่างนั้นคนที่เอาสัมภาระผมไปเอาไปไว้ที่นั่นหรือ? มันไม่ไกลมาก

“มีคำถามอะไรอีกมั้ย?”

“ไม่มีแล้วครับ”

ผมตอบท่านหญิงเสือดำ

“เอาล่ะ งั้น อธิบายที่จะจัดประชุมวันนี้มา แบบคร่าวๆใครก็ฟังเข้าใจง่ายๆ เรามีเวลาไม่มาก”

“ได้ครับ”

ผมหายใจลึกๆ เรียบเรียงในหัวเตรียมพร้อม

“ที่ผมจะพูดคือศาสตร์การเข้าใจคนแบบที่ผมรู้มา การเข้าไปในหัวอีกคนและตอบสนองเขาด้วยการไขข้อข้องใจ ไขปัญหาใจที่เขามี แบบที่ผมรู้มาตอนเด็กคร่าวๆ”

ผมบอกเรื่องจิตวิทยาที่ผมรู้กับท่านหญิงเสือดำ

 

 

ผมบอกทุกอย่างที่พอรู้เกี่ยวกับเรื่องการเข้าใจจิตใจคนอื่น ผมไม่ได้เก่งอะไรมากมาย แต่พอดูผ่านๆมาอยู่บ้าง

ท่านหญิงเสือดำหลับตาคิดสักพัก

“อืม ฉันพอเข้าใจแล้ว ว่าน้องพอเข้าใจแต่ยังไม่ถ่องแท้ แต่ฉันรู้แล้วว่าใครเก่งพอทำได้”

“ครับ”

ท่านหญิงเสือดำประเมินการพูดของผม ดูนาฬิกาต่างโลกหลังจากนั้น

“เอาล่ะ ได้เวลาไปนำประชุมแล้ว คราวนี้อธิบายอย่างละเอียดในที่ประชุม ฉันไม่สนเรื่องเวลาที่ต้องใช้”

“ได้ครับ”

ผมตอบท่านหญิงเสือดำ จากนั้นท่านหญิงเสือดำลุก แล้วเปิดประตูเดินออกไปข้างหน้า ผมตามไป

พวกผู้คุ้มกันแยกย้ายกันไปหลายคนแล้ว เหลือแต่พี่เดเนโรยืนคุมอยู่ข้างหน้า เราลงบันไดไปชั้นที่ 6 แล้วเดินเข้าห้องประชุมใหญ่ 

มีโต๊เหมือนโต๊ะนักเรียนอยู่เยอะมาก แล้วก็มีที่พูดขยายเสียเสียงอยู่ข้างบน มันเป็นปากแตรใหญ่และมีต่อท่อยาวลงมาเป็นที่พูด

มีกระดานดำกับชอล์กไว้เขียน

คนเริ่มมากันเยอะเกือบเต็มห้องใหญ่แล้ว มีทั้งชายหญิงหลากหลายแบบ

เมื่อเรารออีกสักพักเริ่มไม่มีคนมาแล้ว ท่านหญิงเสือดำชี้ไปที่ท่อไว้พูดใส่ตัวขยายเสียง

ผมเริ่มพูดเรื่องการเข้าใจจิตใจคนแบบละเอียด

 

 

ผมอธิบายไปทุกอย่างที่พอรู้มา มีคำถามสวนมามากมายระหว่างพูด เมื่อผมพูดเสร็จ ผมมองท่านหญิงเสือดำ จากนั้นท่านหญิงเสือดำเดินมาหาผมพร้อมพี่เดเนโร

“ฉันพอเข้าใจแล้วว่าจะเอาใครมาสอนดี มันคนเดียวกับที่ฉันคิดไว้ก่อน หลังจากนี้น้องไปดูพวกห้องทำงานที่ไม่ได้เข้าคร่าวๆ อย่ารบกวนคนชั้นที่ 6 มาก และอย่าลงไปชั้นใต้ดินเด็ดขาด เสร็จแล้วก็กลับหอไปนอนพักผ่อน แล้วพรุ่งนี้เช้ามาหาฉัน อย่าเพิ่งรื้อข้าวของออกมา เข้าใจนะ”

“ครับ”

ผมตอบท่านหญิงเสือดำ แล้วท่านหญิงเสือดำก็หันไปหาพี่เดเนโร

“หาคนมาพาน้องเขาเดินดูห้อง”

“แต่”

“ฉันจะขึ้นห้องเลย ไม่มีอะไรหรอก”

พี่เดเนโรดูไม่ค่อยเต็มใจ ผมดูนาฬิกา มันประมาณตี 2 แล้ว

จากนั้นพี่เดเนโรพาผมไปหาผู้คุ้มกันชั้นคนหนึ่งแล้วพูดกับเขา เขาพยักหน้าจากนั้นมาหาผม พี่เดเนโรเดินขึ้นไปแล้ว น่าจะไปประจำหน้าห้องท่านหญิงเสือดำ

“เอาล่ะ อยากดูชั้นไหนฉันจะคอยตามไปข้างๆและอธิบายห้องคร่าวๆให้ฟัง อยากเดินดูห้องไหนเดินนำไปเลย”

“ได้ครับ”

ผมตอบพี่ผู้ชาย

ผมเดินไปดูชั้น 6 ห้องมันเยอะ มันเป็นห้องทำงานเอกสารและไม่ใช่ทางผมที่ชอบใช้ร่างกายสักเท่าไหร่

เราเดินดูห้องสื่อสารที่ชั้น 3 มันเป็นห้องรวมท่อและมีคนเหมือนพนักงานสื่อสารคอยติดต่อห้องต่างๆ มันดูวุ่นวายมากและผมไม่อยากยุ่งเลย

เราดูร้านค้าต่างๆที่ชั้น 1 มันมีร้านเสื้อผ้า, ร่านอุ้ย, และร้านขายถุง ผมลองเข้าไปดูร้านขายถุง มันมีอยู่แบบเดียวเท่านั้น ผมได้ความคิดดีๆ แต่ผมเก็บไว้ก่อน

เมื่อผมเดินมาขึ้นสะพาน ดูภาพรวม ไม่มีอะไรที่ผมอยากดูอีก ผมบอกพี่เขาที่เท้าราวข้ามสะพานดูคนข้างล่างอยู่

“ผมไม่มีอะไรแล้วครับ”

“อย่างนั้นเหรอ งั้นฉันไปละ”

เขาพูดเสร็จแล้วเขาก็เดินไป เดินไปโบกมือไป

ผมดูภาพรวมอยู่อีกสักพัก

ผมจะทำงานที่แบบนี้แล้วสินะ มันเสี่ยงมากเพราะผมแค่ 14 แต่เท่าที่ดูเหมือนท่านหญิงไม่ได้ให้ผมไปทำงานที่เจอลูกค้าหรือต้องสละตัวเองที่ไม่ใช่ต่อสู้

ผมเอาแผนที่มาดู แล้วรีบเดินไปหอผมใช้ความเร็วกันคนตามเพราะมันดึกแล้ว เมื่อเหล่าสตรีหน้าร้านเห็นผมเดินเร็ว พวกเธอไม่ได้เรียกผม

ไฟในเมืองยามค่ำที่ฟ้ามืดแล้วยังสว่างไสวหลากสีสัน ไม่นานผมก็มาถึงหอ มันเป็นหอใหญ่ไฟสว่าง คนเดินเข้าเดินออกมากมาย

ผมไปที่โต๊ะผู้จัดการ

“ท่านหญิงเสือดำให้แผนที่นี้มาแล้วไม่ได้บอกอะไรเพิ่มเติมครับ ผมชื่อวารี ทำงานที่ดงเสือดอกเล่นน้ำวันแรก”

คนที่โต๊ะผู้จัดการมองหน้าผมและดูหลังโต๊ะจากนั้นพยักหน้า คนกลางหันไปบอกให้คนข้างๆพาผมและเขาพาผมไปห้อง

มันเป็นหอที่ตกแต่งมาให้ดูโปร่ง, สะอาด, และอาศัยอยู่อย่างสบายเป็นหลัก ไฟน่าจะสว่างอยู่ตลอดเวลาไม่มีขาด มีการดูแลความสะอาดอย่างต่อเนื่อง

เท่าที่ดู มันไม่มีฝุ่นสักเม็ด จนผมรู้สึกว่า มันมากเกินไปไหมสำหรับหออยู่อาศัย

เมื่อเข้ามาในห้องมันเป็นห้องธรรมดา กำแพงสีชมพูอ่อนมากๆ มีเตียงสำหรับสองคนนอน ผมสงสัยว่าทำไมเขาให้ผมนอนเตียงสองคน? มีโซฟาด้วยหรือ? มีระเบียงทับครัวเล็กๆ, ตู้อะไรก็ไม่รู้ข้างประตูออกระเบียง, และอ่างล้างจานกับราวตากผ้า

ผมดูตู้อะไรก็ไม่รู้ เมื่อเปิดมา ผมเจอกับความเย็นออกมา มีสองช่อง ช่องล่างไว้เก็บของต่างๆ ช่องบนเป็นช่องน้ำเข็ง บนสุดมีชั้นที่มีประตูเล็กๆปิดอยู่

ผมเปิดประตูเล็กๆ ข้างในมีกบ ผมลองลูบหัวมันละมันร้องตอบ แต่ตัวมันเย็นมากจนนิ้วผมเกือบติดกับตัวมัน

ถ้าอย่างนั้นมันคือกบทำความเย็น แต่มันชื่ออะไรก็ไม่รู้

ผมหยิบกรงนกรัก นั่งข้างเตียง มันนุ่มสบายสุดๆไปเลย

ผมควรอาบน้ำก่อนไหม? ผมคิด แต่วีกับวิวย้ำมามากว่าถ้าว่างแล้วโทรมา ไม่ว่าจะตอนไหน

ผมหยิบนกรักหาวีมาแล้ววางนกรักลงพื้น จากนั้นพูด

“วี ตื่น พี่เพิ่งโทรได้”

นกรักนิ่งไปสักพัก ยังเดินไปเดินมาอยู่

“วี พี่ว่างแล้ว คุยกับพี่มั้ย?”

นกรักเดินมา

“พี่วารี! หาววว ทำไมกว่าจะว่าง งานเยอะเหรอ?”

“พี่อยู่ช่วงดูสถานที่และแนะนำต่างๆน่ะ มันเลยยุ่งยาก ท่านหญิงให้พี่นำที่ประชุมด้วยล่ะ”

ผมยิ้มแย้มแล้วบอกวี

“เหรอ? ประชุมเรื่องอะไรอ่ะ อ๊ะ ใช่ วิวทักพี่นะ”

“ทักวิวให้พี่ด้วยนะ คราวหน้าพี่จะโทรหา”

“วิวพี่วารีบอกเดี๋ยวคราวหน้าโทรหานะ”

เสียงวีบอกวิว

“มาละพี่วารี ว่าแต่ ประชุมเรื่องอะไรล่ะ?”

“ประชุมเรื่องการเข้าใจจิตใจคนน่ะ การเอาอกเอาใจลูกค้า แต่เป็นศาสตร์ไปเลย”

“เอ แต่พวกเธออาชีพแบบนั้นอยู่แล้ว พี่จะแนะนำพวกเธอได้เหรอ?”

วีถามผม ผมคิดครู่หนึ่ง

“มันเกี่ยวกับการไขปริศนาจิตใจคนนะ แกะความคิดเขาจากคำพูดไม่กี่คำว่าเขาคิดอะไร”

“เหมือนการสะกดจิตเหรอ?”

วีพูดถึงสะกดจิต แต่จิตวิทยากับการสะกดจิตมันไม่เหมือนกัน

สะกดจิตมันเป็นการใช้จิตวิทยาแบบสุดโต่ง ถ้าเงื่อนไขครบ คนใช้จิตวิทยาทำให้คนหนึ่งอยู่ใต้คำบัญชาได้

แต่ไม่รู้สิ มันทำได้ค่อนข้างยาก และผมไม่ได้สนใจควบคุมใครด้วยผมเลยไม่ได้เรียนศาสตร์นี้มากมาย

แต่การใช้ภาพลวงตาหรือการหลอกล่อให้อีกฝ่ายเข้าเงื่อนไขก็ดีสำหรับการต่อสู้เหมือนกัน

ผมน่าจะเรียนมันไว้บ้าง แต่มันผ่านมาแล้วผมเลยไม่ได้คิดอะไรมาก

แค่เสียดายนิดเดียวเท่านั้น

“ว่าไงละพี่ เหมือนสะกดจิตมั้ย?”

เมื่อผมตกอยู่ในความคิด วีถามมาอย่างเร็ว

“โทษที ไม่เหมือนน่ะ มันคล้ายกัน แต่คนละอย่างกัน มันก็พูดได้ว่าแขนงเดียวกันนั่นแหละ”

“มันต่างกันยังไงเหรอ?”

วีถามผม เสียงเหมือนอยากรู้ ผมอยากเห็นสีหน้าเธอ

“สะกดจิตมันไว้ควบคุมอีกฝ่ายให้ทำสิ่งที่อยากทำ ให้ท่าทางเขาเป็นไปตามที่เราบอกไว้”

“อ๋อ”

วีเข้าใจแล้ว

“แต่ที่พี่สอน วิชาไขใจ เราไขปัญหาในใจของอีกคน บอกวิธีให้เขาว่าต้องคิดแบบไหนแล้วทำแบบไหน ให้เขาไปแก้ปัญหาเองให้ได้ หรือถ้าเขาคิดไม่ออกจริงๆก็หาคำตอบให้เขา เมื่อเขาแก้ได้ เขาก็จะสบายขึ้น ไม่ได้ควบคุมใคร เหมือนเพื่อให้เขารู้สึกดีขึ้นกับสิ่งแวดล้อม ดีขึ้นกับความคิดตัวของเขาเอง”

“อย่างนั้นเหรอ ฟังดูยากอ่ะ เล่าให้ฟังได้มั้ย?”

วีอยากเรียนวิชาไขใจ หรือจิตวิทยาโลกนี้

“แต่มันดึกน่ะสิ”

“อืม เอาน่า ไม่เป็นไรหรอก”

“อืม ได้สิ มันดึกแล้ว ถ้ามีคำถามอะไร จดไว้ก่อนแล้วกันไว้วันหลัง เอาล่ะ วิชาไขใจมันต้องเริ่มจาก…”

 

 

ผมสอนวิชาจิตวิทยากับวี วิวน่าจะฟังอยู่ด้วย ผมพูดให้เร็วนิดหน่อย มันอีกนิดเดียวจะเช้าโป้งชี้ล่าง

“หาววว”

วีหาวมาแล้ว

“พี่ยังไม่ได้ถามเลยว่าเมื่อวานทำอะไรบ้าง ซ้อมเป็นไงบ้าง”

“เฮ้อออ มีสองคน มันเหงาอ่ะ เราให้นาช่วยดูด้วย แล้วสอนให้เธอเป็นกรรมการ แต่นายังไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่”

วีบอกมา ดีที่นาได้ร่วมทำอะไรด้วย

“ให้นาได้อ่านหนังสือเยอะๆล่ะ”

“อืม ได้”

ผมบอกวี

“วันนี้พอแล้วแหละ อยากเจอนะ”

“โหหห!! จะดวลหนูเหรอ?”

ผมหัวเราะเบาๆ

“หมายถึงอยากอยู่ใกล้ด้วยกัน”

“หนูรู้น่า แค่นี้ล่ะนก”

วีตอบมาว่าเธอรู้อยู่แล้ว แล้วนกไม่พูดอะไรต่อ ผมอุ้มมัน

“แค่นี้แหละนก”

ผมบอกนกก่อนเอามันเข้ากรง

เมื่อมันลงในกรงมันเดินเล่นปรกติ

ผมปิดกรง ไปอาบน้ำอุ่น เตรียมนอน วันนี้ไม่ได้ออกกำลังกาย แม้น้ำเย็นจะดีกว่าอยู่ดี ผมต้องให้ตัวเองได้พักบ้าง

ผมกะตื่นสักแปดโมง ผมจะไม่ได้หลับลึก แต่ไปทำงานตั้งแต่เช้าดีกว่า

ผมงีบอยู่นาน พอเช้าได้ประมาณชั่วโมงผมก็ตื่น

วิ่งเร็วรอบๆห้อง อาบน้ำเย็นแล้วแต่งตัว ส่องกระจกตรวจความเรียบร้อย ผมเลือกใส่ชุดสุภาพ

ผมเดินออก มีตลาด ผมรีบเดินตลาดหาของกิน ผมยัง

ไม่ได้เข้าคาเฟ่ที่ดงเสือดอกเล่นน้ำเลย แต่ผมไปหลังจากนี้ได้

ผมหาของกิน มีข้าวราดแกงกับข้าวเหนียวหมูทอด ข้าวราดแกงไม่ค่อยมีคนแต่ข้าวเหนียวหมูทอดมีคนมาซื้อเรื่อยๆ และทอดใหม่เรื่อยๆ

ผมซื้อข้าวเหนียวหมูทอด

เมื่อซื้อเสร็จผมกำลังจะออกตลาด ระหว่างเดิน

“มั้นทอดกรอบ มั้นทอดกรอบ ชิ้นละ 30 ทองแดงจ้า”

“มันใส่อะไรมั่งครับ”

แม่ค้ายิ้มร่า

“มั้นมัน, เนื้อวัว, กับบาซิลา”

“อ๋อ!”

มันคือโครกเกะนี่เอง ผมซื้อมาสองชิ้น หาที่นั่งกิน รีบกินแล้วเดินไปดงเสือดอกเล่นน้ำ

คนเริ่มเดินกันเยอะกว่าเมื่อคืนอีก แต่เมื่อคืนไม่ใช่ว่าจะไม่มีคน

เสียงสตรีบริการเรียกคนเต็มไปหมด มันมีบุรุษด้วย แต่ข้างนอกไม่ได้พอๆกันเหมือนในดงเสือดอกเล่นน้ำ

ผมไปถึง ทักคนคุมประตูตอนแรกเขาไม่ให้เข้า พอผมบอกชื่อ เขาก็ให้ผมเข้าได้

ผมเข้าคาเฟ่ ไปดูเมนู ที่คาเฟ่มีแต่แกงไบชุนฟุกับไก่ทอดเหมือนของผู้พันชื่อไก่ดงเสือแค่สองอย่างกับเครื่องดื่มร้อนต่างๆ

ผมสั่งไบชุนฟุกับสะโพกชุปแป้งทอดหนึ่งชิ้นและเครื่องดื่มกลิ่นคล้ายกาแฟ ผมดูและดมไกลๆเอาจากของแก้วคนที่ซื้อที่เดินผ่าน

ผมเริ่มกินไบชุนฟุ

ผมตกใจ มันคล้ายของพี่อลิสมาก

ถ้าอย่างนั้น พี่อลิสทำตามรสชาติของที่นี่

และที่นี่คือไบชุนฟุอันดับหนึ่ง

แต่เหมือนรสมือมันต่างกัน มันเลยพูดว่าเหมือนไม่ได้

ไก่ดงเสือเหมือนของผู้พัน มันมีรสชาติและทอดได้พอดีนุ่มมาก กาแฟก็หอม แต่มันไม่ได้ใส่นมและใส่แค่น้ำตาลมาแล้ว

ผมกินจนเสร็จ พอรวมทุกอย่างมันค่อนข้างอิ่ม จากนั้นผมขึ้นไปหาท่านหญิงเสือดำเลย

ผมเคาะประตูห้องท่านหญิงเสือดำ

“เข้ามา”

เสียงเธอตอบกลับมา

ผมเปิดเข้าไป

เธอนั่งหลังโต๊ะเหมือนเดิม จิบบรั่นดี วาง แล้วเริ่มพูด

“ตอนแรกฉันคิดไว้ว่าจะให้เธอทำงานแบบนึง แต่เมื่อดูเธอยิ่งมากขึ้น ฉันเปลี่ยนใจ เธอจะเริ่มจากไปฟาร์มอูริจิ แล้วอยู่จนกว่าจะทำเป็นทุกอย่าง จากนั้นเดี๋ยวฉันบอกเอง”

ผมตกใจอยู่ ผมต้องเริ่มจากฟาร์ม? แต่ผมรีบตอบท่านหญิงเสือดำ

“ได้ครับ”

“แต่วันนี้”

เธอเว้นช่วงสักพัก ผมตื่นเต้นขึ้น

“เราจะไปหาปราชญ์อดีตลูกน้องฉัน”

“เอออ๋!?”

ผมจะได้ไปหาปราชญ์ลูกน้องเก่าเธอ

แต่งโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

patreon (Ebook): patreon.com/wayuwayu

ขอเชิญร่วมโดเนทสนับสนุนผลงานโดยการโดเนท ความช่วยเหลือของท่านจะทำให้งานดำเนินต่อไปได้เรื่อย ขอบคุณทุกท่านจากใจมากๆครับ

ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu

กำพร้า ณ ต่างโลก

กำพร้า ณ ต่างโลก

Score 10
Status: Completed
นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่มผู้ได้ไปเกิดต่างโลก แต่กระนั้นเขาเป็นกำพร้า แล้วตัดสินใจจะสร้างชีวิตใหม่ในโลกใหม่ใบนี้ ร่วมใช้ชีวิตไปกับเขา ณ โลกใหม่กับคนใหม่ๆ กับ กำพร้า ณ ต่างโลก

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset