ตอนที่ 287 การตัดสินใจของคานาเรีย
「――ยากที่ข้าจะเชื่อได้จริงๆ ปาสคาล ไม่สิต้องบอกว่าถึงข้าอยากจะเชื่อ ก็ทำใจเชื่อได้ยากจริงๆ 」
กษัตริย์แห่งคานาเรียพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมา
เมื่อคนสนิทของตนอย่างดยุกดรากูนอทได้ขอเข้าเฝ้าอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ตนก็รู้สึกแปลกใจพอสมควร แต่พอคิดถึงเรื่องที่เขาอาจจะต้องการปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องเก็บกวาดสิ่งที่ดยุกโควิสทำไว้ก็ควรจะตอบรับทันที
ยิ่งด้วยตำแหน่งของดยุกดรากูนอทแล้ว กษัตริย์ยิ่งมิอาจเมินได้
เขาตัดสินใจว่าเรื่องนี้คงจะอ่อนไหวมาก จึงได้เข้าไปพูดคุยกันที่ห้องรับรองแทนที่จะเป็นโถงบัลลังก์ ใช่แล้วมันคือห้องที่ตนเคยใช้คุยกับคลอเดีย โซระ และลูกชายของตน
จากนั้นเขาก็ได้ทราบถึงความจริงอย่างเรื่องเมื่อ 300 ปีก่อน จากปากของดยุกดรากูนอท และเรื่องที่โซระต้องการเป็นลอร์ดแห่งทีทิส
เดิมทีกษัตริย์คานาเรียก็ไม่ใช่ผู้ที่ปรีชาอะไรมากมาย การที่เขาต้องมารับมือกับเรื่องที่ลุงของตนก่อก็อดปวดหัวไม่ได้พอต้องมาเจอเรื่องใหม่ที่พลิกประวัติศาสตร์ทวีป
เขาจึงพูดแบบนั้นออกมา
จักรวรรดิแอด แอสเทร่าที่ทรงอำนาจทางการทหารมากสุดในทวีปและวิหารเทพแห่งกฎหมายที่มีผู้ศรัทธามากที่สุดในทวีป การจะมาบอกว่าจ้าวมังกรเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของทั้งสองขุมกำลังและคอยชักจูงให้โลกใบนี้ไปสู่การชำระล้าง ที่จะทำให้มนุษยชาติสูญสิ้น ไม่ว่าใครก็ทำใจเชื่อได้ยาก
ยิ่งไปกว่านั้นหลักฐานก็ไม่มีปรากฏเลย
กษัตริย์ยังคงพูดต่อหน้าข้ารับใช้คนสนิทของเขาแล้วถอนหายใจ
「สงครามกับเหล่าคิจินเมื่อ 300 ปีก่อนแล้วเป็นเรื่องลวงหลอกจากวิหารเทพแห่งกฏหมาย เป้าหมายที่แท้จริงของพวกมันคือการฟื้นคืนชีพจ้าวมังกรและชำระล้างโลก เพื่อการนั้นรังมังกรในป่าทีทิสจำเป็นสิ่งจำเป็นสินะ หากเป็นแบบนั้นจริงก็คงสมเหตุสมผลที่พวกวิหารเทพให้ความช่วยเหลือฝ่ายเราจนผิดปกติ」
「อย่างที่ฝ่าบาทกล่าว」
「อย่างไรก็ตามพวกเรายังขาดหลักฐาน ข้าจึงไม่อาจทำใจเชื่อได้ ยิ่งไปกว่านั้นโซระผู้ที่บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดก็เป็นว่าที่ผู้สืบทอดตระกูลมิตสึรุกิซึ่งเป็นขุนนางระดับสูงของจักรวรรดิ การจะปล่อยให้เข้ารับผิดชอบป่าทีทิสก็นับว่าเสี่ยงไปนะ แล้วเจ้าจะทำอย่างไรหากเขาคิดก่อกบฏล่ะปาสคาล? 」
กษัตริย์ถามดยุกดรากูนอทด้วยท่าทีลำบากใจ แต่อีกฝ่ายก็ตอบกลับอย่างสงบนิ่ง
「หากเกิดเรื่องนี้ขึ้นจริง กระหม่อมคงต้องให้ฝ่าบาทประกาศต่อสาธารณชนว่าทุกอย่างเป็นเพราะกระหม่อม」
「……เจ้าจะบอกว่า เจ้าจะขอรับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งหมดเองสินะ」
「พ่ะย่ะค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นหากเรารีบลงมือ ความเชื่อใจที่จะได้จากท่านโซระก็จะสูงตามไปด้วยและเรื่องผู้ต่อต้านที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นคงเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่อย่างน้อยมันก็คงง่ายกว่าการที่ต้องไปกล่อมทุกฝ่ายแล้วค่อยยกตำแหน่งให้ท่านโซระพ่ะย่ะค่ะ หากจักรวรดริรู้ตัวก่อนแล้วชิงลงมือตัดหน้าเรา อะไรหลายๆ อย่างก็จะลำบากไปอีก」
เป้าหมายจริงๆ ของโซระมีเพียงการหาจุดอพยพให้พวกคิจิน แต่ใช่ว่าจะต้องเป็นคานาเรียเสมอไป
หากจักรวรรดิเตรียมสถานที่สำหรับอพยพที่เหมาะสมมาแทน แล้วคานาเรียยังมัวชักช้าสุดท้ายโซระก็อาจจะเลือกจักรวรรดิแทน
ความเสียหายที่ดยุกดรากูนอทคิดว่าจะได้รับหากโซระไปอยู่ฝ่ายตรงข้ามมันหนักหนากว่าการที่เขามาอยู่ฝ่ายตนอยู่แล้ว
พอตอบไปแบบนั้น กษัตริย์ก็ขมวดคิ้วคิด
「ก็จริงว่าหากได้ตัวโซระมาแทนที่จะถูกจักรวรรดิดึงตัวไปเป็นเรื่องดี ทว่าจากสิ่งที่ข้าได้ยินมา พวกระดับสูงของจักรวรรดิกับวิหารเทพแห่งกฏหมายมีความเกี่ยวของกันสูงนี่ หากพวกมันมีเป้าหมายในการชำระล้างโลก พวกเขาจะยอมรับโซระหรือพวกคิจินหรือ? 」
「นั่นก็เป็นเพียงการคาดเดาของฝ่ายเราพ่ะย่ะค่ะ พวกระดับสูงของจักรวรรดิใช่ว่าจะมีแต่คนของวิหารเทพเสียหมด ยังมีอีกหลายฝ่ายที่กลัวจะเสียผลประโยชน์หากโลกต้องล่มสลายไปเนื่องจากเป้าหมายของวิหารเทพ」
ตัวอย่างง่ายๆ เลยก็คือจักรพรรดิอะมาเดอุสที่ 2 นั่นคือสิ่งที่ดยุกคิด
จากที่โซระบอก มีความเป็นไปได้สูงที่จักรพรรดิจะไม่เห็นด้วยกับการชำระล้างโลก หากไม่ใช่แบบนั้นเขาคงไม่มีทางยอมให้โซระไปยังคิไคเป็นแน่
แต่การที่เขาเต็มใจส่งโซระไปยังคิไค ก็แปลว่าเขาหวังให้โซระสามารถกำจัดสันตะปาปาโซเฟียหรือไม่ก็จ้าวมังกรภายในนั้นแน่ๆ
หากเขาเดาถูกก็แปลว่าจักรพรรดิน่าจะติดต่อลับๆ กับพวกโซระและคิจินแล้ว
นอกจากนี้เจ้าชายริชาร์ดที่ต้องการจะขยายอำนาจของจักรวรรดิต่อ ก็น่าจะหมายตาโซระและพวกคิจินมาไว้ภายใต้ตน
ก็ไม่แน่ใจหรอกว่าเจ้าชายจะรู้ถึงเรื่องการชำระล้างโลกไหม แต่จากการกระทำของเขาและนิสัยแล้ว เขาไม่น่าจะใช่คนที่ยอมรับพวกจ้าวมังกรหรืออะไรทำนองนั้น
หากทางเจ้าชายเคลื่อนไหวก่อนโดยชิงตัวโซระและพวกคิจินไป อนาคตของคานาเรียได้จบสิ้นแน่
「ก็ดั่งที่ฝ่าบาททรงทราบ ประเทศของพวกเราถูกปิดจากทางตะวันออกด้วยจักรวรรดิ ทางใต้จากนครศักดิ์สิทธิ์คาริทัส ทางตะวันตกก็กลายเป็นทะเลทราย ทางเหนือก็ทะเล ดังนั้นพวกเราจึงแทบจะไม่สามารถหาทางพัฒนาประเทศต่อไปได้เลย กระหม่อมจึงเชื่อว่าโอกาสในครั้งนี้จะเปิดเส้นทางที่แตกต่างออกไปพ่ะย่ะค่ะ」
「โอกาสงั้นหรือ? จะบอกว่าการที่โซระได้เป็นลอร์ดแห่งทีทิสคือโอกาสของพวกเราหรือ ก็แปลวส่าเจ้าต้องการให้โซระและพวกคิจินบุกเบิกป่าทีทิสสินะ」
「พ่ะย่ะค่ะ เพราะป่าทีทิสนั้นกว้างใหญ่เสียจนสามารถกลืนประเทศเราได้ ทว่าด้วยการปรากฏตัวของพวกมอนสเตอร์พวกเราจึงไม่สามารถทำอะไรกับมันได้มาหลายปีทั้งที่มันเป็นขุมทรัพยากรที่จะช่วยพัฒนาประเทศของเราได้มากมาย ข้าไม่อยากจะยอมแพ้ต่อไปแล้ว ดังนั้นหากได้ท่านโซระมาเป็นลอร์ดและมีพวกคิจินมาบุกเบิก เรื่องราวจากนี้จะต่างออกไปพ่ะย่ะค่ะ」
พลังของโซระในฐานะดราก้อนสเลเยอร์และพลังของพวกคิจิน
เห็นว่ากันว่าการจะเอาชีวิตรอดในคิไคได้หากไม่เก่งจริงคงอยู่ไม่ไหว นอกจากนี้เห็นว่ามีบางคนที่กล้าสู้กับโซระตัวต่อตัวด้วย
หากได้พวกเขามาเป็นแกนนำพัฒนาดินแดน ถึงจะเป็นมอนสเตอร์แห่งทีทิสก็ไม่มีทางต้านพวกเขาได้แน่
แม้ไอพิษของไฮดรายังอยู่ แต่ความกว้างของป่าที่มีการปนเปื้อนนั้นก็แค่ส่วนน้อย ดังนั้นการครองป่าทีทิสก็ไม่ต่างอะไรกับการครองประเทศแห่งใหม่ได้
นอกจากนี้ ถึงไม่นับเรื่องการพัฒนาของประเทศ แต่พวกคิจินที่อพยพมาก็จะกลายเป็นพลเมืองของคานาเรีย กองทหารคิจินที่นำโดยโซระ อำนาจทางการทหารของคานาเรียจะเพิ่มขึ้นขนาดไหน แถมมันอาจจะมากพอเทียบเคียงกับตระกูลมิตสึรุกิของจักรวรรดิด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าพวกคิจินก็ใช่จะให้ความร่วมมือเขาเต็มร้อย พวกเขาก็มีเป้าหมายของตัวเอง แต่อย่างน้อยหากคานาเรียรับพวกเขาเข้ามา ความสัมพันธ์ที่แย่สุดก็จะเป็นการพึ่งพาอาศัยกัน
พอได้รับคำอธิบายของดยุก กษัตริย์ก็คิดหนัก
「หื้ม…ข้าเข้าใจที่เจ้าจะบอกนะปาสคาล หากเราปล่อยให้โซระดูแลป่าทีทิส รับพวกคิจินเข้ามา การพัฒนาป่าและกำลังของประเทศเราจะเพิ่มขึ้นในทันที ทว่านั่นคือในกรณีที่สำเร็จ หากโซระล้มเหลวในการปกครองป่าแล้วพวกคิจินหันเขี้ยวมาหาพวกเราล่ะ」
「ดั่งที่ฝ่าบาทคิด ความเป็นไปได้ที่ท่านโซระจะล้มเหลวก็มีอยู่ อย่างไรก็ตามหากเราตกอยู่แต่ภายในความกลัว จักรวรรดิก็จะขยายอำนาจได้มากกว่าเดิม ซึ่งภัยคุกคามนั้นมันร้ายแรงเสียจนประเมินค่ามิได้ ดังนั้นความเสี่ยงในการทำตามแผนนี้ย่อมน้อยกว่าเป็นไหนๆ 」
จากที่ดยุกดรากูนอทบอก สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการพาโซระและพวกคิจินมายังคานาเรีย ส่วนเรื่องหลังจากนั้นช่างเล็กน้อย
อีกทั้งเขายังมีความแน่วแน่ที่จะขับเคลื่อนกระแสไม่ให้โซระกลายเป็นศัตรูกับคานาเรียไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
ถ้าถามว่าเพราะอะไร
ก็คงจะเป็นเรื่องที่โซระมีความโดดเด่นในฐานะนักดาบตั้งแต่ในอดีต พอมาตอนนี้เขากลับยิ่งใหญ่ยิ่งกว่านั้นเสียอีก
อย่างตอนที่ตนคุยกับโซระในคฤหาสน์ก่อนหน้า ดยุกดรากูนอทรู้สึกเลยว่าบางอย่างในตัวโซระทำให้เขาหนาวสั่น ทว่าโซระก็ยังแสดงท่าทีเป็นมิตรต่อเขาและไม่แสดงความคุกคามออกมาเลย เขาจึงอดคิดไม่ได้ว่าหากเปลี่ยนให้ชายคนนี้กลายเป็นศัตรูจะต้องพบเจออะไรบ้าง
ความน่าเกรงขามของเขาตอนนี้น่าจะได้มาจากการที่เขาเอาชนะพ่อตัวเองซึ่งเป็นนักบุญดาบได้สำเร็จ ส่วนเหตุผลที่พวกคิจินติดตามโซระมาก็น่าจะเป็นเพราะโซระคือมนุษย์ที่คู่ควรต่อการฝากชะตากรรมของเผ่าเอาไว้
คนที่มีองค์ประกอบแห่งความเป็นผู้นำมากขนาดนั้นดยุกดรากูนอทไม่อยากจะเสียไปให้จักรวรรดิเลยจริงๆ หากเกิดขึ้นคานาเรียคงเสียหายหลายแสน
หลังจากถูกโน้มน้าวโดยดยุกขนาดนี้กษัตริย์ก็ให้คำตอบกับอีกฝ่าย
「เมื่อโซระเลือกประเทศของเขา ก็หมายความว่าเราจะนำจักรวรรดิไปก้าวหนึ่งแล้ว ก็จริงว่ามีเรื่องที่ต้องกังวลมากมายทั้ง จักรวรรดิ วิหารเทพแห่งกฎหมาย จ้าวมังกร แต่หากข้ายังไม่ตัดสินใจ ฝ่ายอื่นก็คงชิงลงมือแทน สุดท้ายข้าก็คงถูกตราหน้าว่าเป็นกษัตริย์ที่ล้มเหลว」
「ถ้าเช่นนั้น ฝ่าบาท――」
「อื้อ ทว่าข้าคงไม่สามารถแต่งตั้งให้โซระเป็นลอร์ดได้ทันที แต่ข้าจะทำเนินตามแผนของเจ้า ดังนั้นรีบพาตัวโซระมาโดยเร็วที่สุด ข้าต้องการคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว」
「พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท」
ดยุกดรากูนอทก้มหัวให้กับผู้เป็นนาย
การตัดสินใจในคราวนี้ของกษัตริย์คือสิ่งที่พลิกโฉมของประวัติศาสตร์คานาเรียอย่างแท้จริง แต่มันก็ใช้เวลาอีกสักพักกว่าผู้คนจะเห็นถึงสิ่งนั้น
——-
Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code