บทที่ 591 ถึงเวลากลับ
บทที่ 591 ถึงเวลากลับ
จิงเหวินรุ่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากเห็นว่าจูรุ่ยกลับมาแล้ว
ส่วนจูรุ่ยที่กลับมาก็ขยับเข้าไปใกล้จิงเหวินรุ่ยแล้วกล่าวกระซิบ “เหวินรุ่ย ฉันทำให้คุณกังวลมากเลย แต่ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงอีกต่อไปแล้วค่ะ”
จิงเหวินรุ่ยพยักหน้ารับ “อื้ม คุณต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ”
จูรุ่ยยิ้มแล้วพูดว่า “อื้ม ฉันจะรักษาคำพูดแน่นอน”
ถังซวงและคนอื่น ๆ เฝ้ามองจูรุ่ยและจิงเหวินรุ่ยที่กล่าวคำต่อกันอย่างอ่อนหวานก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้ม แต่ไม่คิดที่จะล้อทั้งสองอีกต่อไป อย่างไรแล้วมันก็เป็นเรื่องดีที่ทั้งสองคนรักกัน และได้สมหวัง
ขณะนี้จูเหลียนเดินออกมาพร้อมกับหลี่เจียหมิง
นี่เป็นครั้งแรกที่ถังซวงได้เจอกับหลี่เจียหมิง เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายแล้ว เธอรู้สึกตกตะลึงไม่น้อย หลี่เจียหมิงคนนี้เป็นไปตามที่เธอคาดไว้ไม่มีผิด เขาดูดี ดูดีกว่าที่คิดไว้มากจริง ๆ แต่ผู้ชายคนนี้กลับกลายเป็นเกย์ไปเสียได้ ทำให้เธอรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
พานลี่ฮวาที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงหดหู่ “โห… หลี่เจียหมิงหน้าตาดีขนาดนี้เชียว แต่ทำไมเขาถึง… ชอบผู้ชายนะ” น้ำเสียงของเธอลดต่ำลงเพราะเกรงว่าคนจากตระกูลหลี่จะได้ยินเข้า
แน่นอนว่าถังซวงและคนอื่น ๆ ได้ยินมันชัดเจน ถังชุนหยานก็พยักหน้าเห็นด้วยอย่างอดไม่ได้ “ค่ะ เขาดูดีมากจริง ๆ”
ขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันอยู่ หร่วนปี้เฟิง คุณชายจู และพ่อแม่ของหลี่เจียหมิงก็ก้าวขึ้นเวที พิธีการหมั้นหมายจึงเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว
งานหมั้นเต็มไปด้วยความรื่นเริง แขกเหรื่อล้วนแต่ใส่เครื่องประดับมากมายเข้าร่วมงาน อย่างไรก็ตามว่าที่คู่สามีภรรยาที่ยังไม่แต่งงานกลับยืนอยู่บนเวทีด้วยความไม่เต็มใจนัก ผู้หญิงพยายามฝืนยิ้มอย่างหนัก ส่วนผู้ชายไม่มีอารมณ์ใดบนสีหน้าเลย ราวกับว่านี่ไม่ใช่งานหมั้นที่เขาต้องการ
จูเหลียนไม่พอใจมาก ยิ่งเห็นหลี่เจียหมิง เธอยิ่งรู้สึกเกลียดชัง ปรารถนาที่จะหลุดพ้นจากงานหมั้นในวันนี้ให้ได้
เวลานี้ คุณชายจูหันมองจูเหลียนและบอกให้เธอยกยิ้มให้ดี หลังจากนี้จะเป็นการดื่มอวยพรแล้ว
“พ่อคะ หนู…”
ก่อนจูเหลียนจะพูดอะไร พ่อแม่ของหลี่เจียหมิงเดินเข้ามา ความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้ชอบตระกูลจูเลย เพราะรู้สึกว่าตระกูลจูต่ำต้อยเกินไป ลูกชายของพวกเขาสมควรได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแพร่ข่าวลูกชายของพวกเขา ในตอนนี้กลายเป็นว่าลูกสาวของตระกูลใหญ่ ๆ ก็ไม่ยินดีที่จะแต่งงานกับตระกูลหลี่ พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแต่งงานกับตระกูลจู
เห็นว่าพ่อแม่ของหลี่เจียหมิงเดินเข้ามาแล้ว จูรุ่ยกลืนคำพูดทั้งหมดลงท้องไป
ถังซวงมองเห็นสีหน้าของคนเหล่านั้นชัดเจน ในแววตาของพวกเขามีความสุขแปลกประหลาด แน่นอนว่าในตระกูลหลี่คงจะต้องมีเรื่องสนุก ๆ มากขึ้นในอนาคตแน่
แต่เธอก็ไม่รู้หรอกว่าตระกูลหลี่จะมีความสุขหรือไม่ พ่อแม่ของหลี่เจียหมิงกำลังพาคู่หมั้นทั้งสองไปดื่มอวยพรทีละโต๊ะ เวลานี้สีหน้าของจูเหลียนอมทุกข์อย่างมาก แม่ของเจียหมิงเองก็ไม่ค่อยพอใจนัก หากลูกสะใภ้คิดสร้างปัญหา เธอจะสั่งสอนหล่อนอย่างหนักแน่นอน!
“จูเหลียน นี่คืองานหมั้นของเธอกับเจียหมิง ถึงเธอจะมีบางอย่างในใจ แต่เธอก็ต้องแสดงสีหน้าให้เหมาะ อย่าให้ฉันเห็นว่าเธอทำหน้าบูดบึ้งอีกนะ!”
“ฉัน… ฉันไม่ได้…”
แม้จูเหลียนจะปฏิเสธ แต่คนอื่น ๆ ไม่เชื่อถือคำพูดของเธอ
สุดท้าย จูเหลียนจึงทำได้เพียงยกยิ้มอย่างกล้ำกลืนขณะเดินดื่มอวยพรกับแขกทีละโต๊ะ และเมื่อมาถึงโต๊ะของถังซวง จูเหลียนไม่สามารถฝืนยิ้มได้อีกต่อไป
“คุณ… พวกคุณมาที่นี่ทำไม?”
ถังซวงรีบตอบกลับ “พวกเรามาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับคุณและหลี่เจียหมิงไง”
จูเหลียนยิ่งโกรธจัด ต้องการจะโต้ตอบ แต่เมื่อเห็นสายตาคุณชายจูที่จ้องเขม็งมา เธอก็หยุด
จูเหลียนสูดลมหายใจลึกเพื่อระงับความเกรี้ยวกราดในใจ
ส่วนหลี่เจียหมิงหันมองถังซวงอย่างสนใจ ก่อนจะหันมองจูรุ่ยและจูเหลียน ในแววตาของเขาเผยความอยากรู้อยากเห็น ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้จะไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่นัก น่าสนใจ…
หลังจากจูเหลียนดื่มอวยพรที่โต๊ะของถังซวงเสร็จแล้ว พวกเขาเดินไปที่โต๊ะถัดไป
งานหมั้นกินเวลาค่อนข้างนานพอสมควร ถังซวงกินอาหารไปมาก เมื่อเริ่มอิ่มแล้ว จึงคิดขอตัวกลับก่อน
จูรุ่ยยืนขึ้น กล่าวว่า “พี่สาวซวง ฉันจะกลับพร้อมพี่ค่ะ”
“อื้ม”
ถังซวงพยักหน้ารับ
หลังจากทั้งกลุ่มออกไปแล้ว จูเหลียนกลับมานั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง เธอไม่ได้กินอะไรเลยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ตอนนี้เธอรู้สึกหิวมาก แต่ก็ไม่สามารถกลืนอะไรลงท้องได้ เพราะความจริงที่เธอหมั้นกับหลี่เจียหมิง ทำให้เธอกลายเป็นตัวตลกของหนุ่มสาวในเมืองก่างเฉิงแน่นอน
จูเหลียนผลักถ้วยของตัวเองออกไป
หลี่เจียหมิงที่เดินกลับมา เห็นสถานการณ์ตรงหน้าชัดเจน เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “เธอคิดว่าคนอื่นเขาอยากจะหมั้นกับเธองั้นหรือ? ถ้ามีทางเลือกอื่น ฉันก็ไม่อยากเห็นหน้าเธอเหมือนกัน”
“หึ… แล้วคิดว่าฉันอยากจะเห็นหน้าคุณหรือ? ฉันก็ไม่ได้ชอบคุณเหมือนกัน คุณคิดว่าตัวเองดีมากหรือไง?”
หลี่เจียหมิงโกรธ เขาเองก็ไม่เต็มใจที่จะหมั้นหมายในวันนี้เลย ยิ่งถูกเย้ยหยันแบบนี้ มันยิ่งทำให้เขาไม่มีความสุข เขาไม่สนใจว่าจะมีแขกอยู่ที่นี่หรืออะไร เพราะเวลานี้เขาไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกแล้ว
“เจียหมิง เจียหมิง… ลูกคิดจะไปไหน กลับมาก่อน!”
แม่ของหลี่เจียหมิงตะโกนเรียกหลี่เจียหมิงที่เดินออกไปโดยไม่พูดจา ทว่าเขาไม่สนใจเสียงเรียกของแม่แม้แต่น้อย จ้ำอ้าวออกไปอย่างไม่แยแส
คุณนายหลี่จึงหันกลับมาหาจูเหลียนพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง “เธอพูดอะไรกับเจียหมิง? ทำไมเขาถึงออกไปอย่างนั้น? รู้ไหมว่าวันนี้คือวันหมั้นของพวกเธอสองคน เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในงานหมั้นมันทำให้ตระกูลจูและตระกูลหลี่กลายเป็นตัวตลก!”
จูเหลียนถูกตำหนิอย่างไร้เหตุผล จึงโต้กลับทันที “ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยค่ะ หลี่เจียหมิงอารมณ์ไม่ดีและออกไปเอง ฉันไม่เกี่ยวสักหน่อย”
“เธอ…”
คุณนายหลี่ไม่คิดมาก่อนว่าจูเหลียนจะกล่าววาจาฉะฉานออกมา มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกเกลียดชังสะใภ้จูมากขึ้นไปอีก
ทว่าขณะนั้นหร่วนปี้เฟิงเดินเข้ามา หลังทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เธอกล่าวกับลูกสาวสองสามคำก่อนจะหันไปกล่าวกับคุณนายหลี่ “แม่สามีคะ เราไปต้อนรับแขกกันดีกว่าค่ะ ยังไม่ถึงเวลาที่แขกจะกลับ เดี๋ยวถ้ามีอะไรไว้ค่อยพูดคุยกันภายหลังจะดีกว่า”
ถังซวงที่ไม่รู้เลยว่าในโรงแรมมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นหลังจากตนกลับออกมา ก็พูดถึงการกลับเมืองหลวงกับพานลี่ฮวา
ซึ่งพานลี่ฮวายังไม่อยากให้ถังซวงและคนอื่น ๆ กลับไปสักเท่าไหร่
“ซวงเอ๋อร์ อยู่ต่ออีกสักสองสามวันไม่ได้หรือ”
ถังซวงยิ้ม “คุณป้าคะ หนูต้องกลับไปเรียนแล้วค่ะ นี่หนูก็อยู่ก่างเฉิงมานานพอสมควรแล้ว”
พานลี่ฮวาเพียงถอนหายใจยาว ไม่ได้กล่าวโต้แย้งอะไรอีก ตระเตรียมของมากมายให้กับถังซวงและคนอื่น ๆ เพื่อนำกลับไปที่เมืองหลวงด้วย