การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 546 ธูปเรียกวิญญาณ

บทที่ 546 ธูปเรียกวิญญาณ

บทที่ 546 ธูปเรียกวิญญาณ

บทที่ 546 ธูปเรียกวิญญาณ

ถังซวงรีบตรวจสอบชีพจรของผู้เฒ่าตระกูล และเธอก็ต้องขมวดคิ้วทันทีเมื่อรู้ถึงสถานการณ์ของอีกฝ่าย

เวลานี้โม่เจ๋อหยวนและคนอื่น ๆ เข้าไปหาถังซวง ทันทีที่เห็นเธอขมวดคิ้วแน่น ทั้งหมดถามขึ้นว่า “ซวงเอ๋อร์ ผู้เฒ่าตระกูลเป็นยังไงบ้าง?”

ถังซวงดึงมือกลับก่อนจะพูดต่อว่า “ได้รับพิษร้ายแรง ถ้าวันนี้ไม่ได้รับยาแก้พิษ เขาตายแน่” แม้เธอจะไม่แน่ใจว่าผู้เฒ่าตระกูลถูกพิษชนิดใด แต่ก็มั่นใจมากว่ามันร้ายแรงมาก

เมื่อได้ยินคำพูดถังซวงอย่างนั้น ทุกคนโดยรอบพลันตื่นตระหนกทันที

ผู้เฒ่าตระกูลใหญ่มีทักษะการแพทย์ที่โดดเด่นที่สุดในตระกูลถัง แต่เขากลับถูกวางยา

เวลานี้ผู้เฒ่าตระกูลใหญ่บ้วนโลหิตออกมาอีกคำ ใบหน้าของเขาซีดเซียวราวกับพร้อมจะตายตกได้ทุกเมื่อ เขาสัมผัสชีพจรของตัวเองสักครู่ก่อนจะทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบันของตนเช่นกัน และเผยสีหน้าเย้ยหยัน “ฮ่าฮ่า… เป็นธูปเรียกวิญญาณจริง ๆ ด้วย พวกแกวางแผนกันได้ยอดเยี่ยมมาก”

ถังซวงไม่เคยได้ยินชื่อยาพิษที่เรียกว่าธูปเรียกวิญญาณมาก่อน แต่รู้สึกว่าชื่อนี้เหมาะสมกับมันมาก มันคือยาพิษร้ายแรงที่สามารถกระชากวิญญาณออกจากร่างได้จริง ๆ “ถ้าหากคุณรู้ว่ามันคือพิษอะไร ทำไมถึงไม่รู้ตัวล่ะ?”

ผู้เฒ่าตระกูลยกยิ้มพร้อมส่ายศีรษะ “ธูปเรียกวิญญาณนี้ไม่ปรากฏมานานมากแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นมันอีกครั้งในวันนี้ และคนได้รับพิษกลับเป็นฉันเอง”

เมื่อเห็นความสับสนของถังซวง ถังคุนหาวจึงอธิบายขึ้นว่า “ธูปเรียกวิญญาณไร้สี ไร้กลิ่น ยากที่จะป้องกัน และพิษของมันรุนแรงมาก ดังนั้นเมื่อร้อยปีก่อนจึงกลายเป็นยาพิษต้องห้าม ตาเองก็ยังไม่ได้คิดว่ามันจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง แม้แต่ตัวตาเองยังไม่เคยพบเจอใบสั่งยาธูปเรียกวิญญาณเลย”

ผู้เฒ่าถังเองก็ตระหนักได้ถึงความร้ายแรงเช่นกัน

เขาเงยหน้ามองถังคุนเฉินก่อนจะตะโกนเสียงดัง “ถังคุนเฉิน นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ที่ผู้เฒ่าตระกูลใหญ่ถูกพิษเกี่ยวข้องกับแกหรือเปล่า?”

ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เพราะหากธูปเรียกวิญญาณโผล่ขึ้นมาอย่างนี้ และมีผู้นำไปใช้ในทางที่ผิด ผลที่ตามมามันเกินจะรับไหว

ถังคุนเฉินไม่ได้ยอมรับโดยตรงเพียงแค่หันมองผู้เฒ่าถังแล้วพูดต่อว่า “พ่อครับ ผมเคยได้ยินเรื่องธูปเรียกวิญญาณมาบ้าง แต่ผมคงไม่มีความสามารถที่จะกลั่นมันได้หรอกครับ อีกอย่าง… ธูปเรียกวิญญาณไม่มียาแก้พิษ และอีกอย่างเขาคือผู้เฒ่าตระกูลใหญ่… ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น…”

ถังคุนเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย แต่แววตากลับเย็นชาไร้หัวใจ

ตระกูลถังที่เหลือก็ตกอยู่ในความโศกเศร้าทันทีเมื่อได้ยินว่าผู้เฒ่าตระกูลใหญ่ถูกพิษธูปเรียกวิญญาณเล่นงาน บางคนเผยสีหน้าสับสน บางคนเห็นใจ ขณะที่บางคนไม่แยแสต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

ขณะนี้ ผู้เฒ่าตระกูลรองเริ่มกลับมาเร่งเร้าอีกครั้ง “ผู้นำตระกูล เดิมทีวันนี้คือวันดี พวกเราเฉลิมฉลองวันเกิดของคุณ แต่ไม่มีใครคิดว่าผู้เฒ่าตระกูลใหญ่จะถูกวางยาพิษแบบนี้ และไม่รู้ผู้อยู่เบื้องหลัง เราต้องรีบสอบสวนเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดนะครับ”

ผู้เฒ่าถังเหลือบมองผู้เฒ่าตระกูลรอง ก่อนจะหันมองถังคุนเฉิน

เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นดูบังเอิญมากเสียจนเขาอดไม่ได้ที่จะสงสัย และรู้สึกได้ว่าที่ผู้เฒ่าตระกูลใหญ่ถูกวางยาพิษนี้ต้องเกี่ยวข้องกับถังคุนเฉินและผู้เฒ่าตระกูลรองแน่นอน

ขณะนี้มีแขกมากมายอยู่ที่นี่ ผู้เฒ่าถังรู้ดีว่าเรื่องอื้อฉาวในครอบครัวไม่สมควรเปิดเผยออกไป เขาเพียงยกยิ้มอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักแล้วกล่าวขึ้นว่า “ทุกท่าน ฉันต้องขอโทษด้วยแล้ว เดิมทีอยากจะเชิญให้ทุกคนร่วมอยู่ต่อในงานเลี้ยง แต่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ฉันจึงต้องขอโทษทุกท่านด้วย ตอนนี้ตระกูลถังของพวกเรามีบางสิ่งต้องจัดการ เลยทำได้เพียงขอเชิญทุกท่านกลับออกไปก่อน”

หลังได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าถังแล้ว แขกส่วนใหญ่ลุกขึ้น แต่ยังมีบางคนที่นั่งอยู่โดยไม่ยอมขยับเขยื้อน

ตระกูลอินเองก็อยู่ในตระกูลถังด้วยเช่นกัน และผู้ที่มาร่วมอวยพรวันเกิดให้กับผู้เฒ่าถังวันนี้คือนายน้อยที่สามของผู้เฒ่าอิน เขาคืออินเยี่ยนหมิง

ขณะนี้เขาลุกขึ้นด้วยรอยยิ้มก่อนจะกล่าวต่อว่า “ผู้เฒ่าถัง การที่มีธูปเรียกวิญญาณโผล่ออกมาไม่ใช่ปัญหาภายในครอบครัวของคุณเท่านั้น สุดท้ายพวกเราต้องการทราบว่าใครคิดใช้ยาพิษนี้เพื่อวางยาผู้เฒ่าตระกูลใหญ่ ถ้าเป็นแบบนั้นเราคงไม่สามารถออกไปได้ อีกอย่าง… ผมคิดว่าผู้เฒ่าตระกูลรองกล่าวได้ถูกต้องแล้ว ผู้เฒ่าถังควรจะเลือกทายาทสืบทอดโดยเร็วเพื่อให้ตระกูลถังมั่นคงยิ่งขึ้น”

ได้ยินคำพูดของอินเยี่ยนหมิงแล้ว ทุกคนเผยสีหน้าแตกต่างกัน

ใช่ วันนี้ผู้เฒ่าตระกูลใหญ่ถูกธูปเรียกวิญญาณเล่นงาน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากคนอื่น ๆ ในครอบครัวถูกพิษนี้เล่นงานอีก? และเขาต้องค้นหาความจริงว่าธูปเรียกวิญญาณได้ปรากฏขึ้นจริง หรือเป็นเพียงเศษเสี้ยวที่หลงเหลือจากในอดีตเท่านั้น

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้ว คนอื่น ๆ นั่งลงอีกครั้ง

ผู้เฒ่าถังที่ได้ยินแล้วถึงกับมีสีหน้าเคร่งเครียด สุดท้ายเขาเองก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะรู้ดีถึงความร้ายแรงของธูปเรียกวิญญาณ

“ผู้นำตระกูล คุณควรจะเลือกทายาทตระกูลก่อน แล้วค่อยตรวจสอบเรื่องนี้กันอย่างรอบคอบ”

ผู้เฒ่าตระกูลรองยืนกรานที่จะให้ผู้เฒ่าถังเลือกทายาทเช่นเดิม ส่วนถังคุนเฉินที่อยู่ข้าง ๆ จ้องมองผู้เฒ่าถังด้วยแววตาเร่งรัดอย่างเฝ้ารอคำตอบ

ตอนนี้ถังคุนหาวอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “พ่อครับ พ่อไม่คิดจะมาดูอาการผู้เฒ่าตระกูลใหญ่หน่อยหรือ? ไม่มีอะไรที่พวกเราจะทำได้แล้วหรือครับ?”

ก่อนผู้เฒ่าถังจะตอบกลับ ผู้เฒ่าตระกูลรองกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ทุกคนรู้ดีว่าธูปเรียกวิญญาณไม่มียาแก้พิษ พยายามไปก็ทำอะไรไม่ได้”

“แต่ว่า…”

ก่อนถังคุนหาวจะได้พูดอะไรต่อ หัวเฟยเฟิ่งที่ยืนอยู่ข้างกายก็หยุดเขาไว้ ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นว่า “เอาละ หมดเวลาเหนียมอายแล้วสินะ มีอะไรจะพูดก็พูดออกมาเถอะ ฉันคิดว่าถังคุนเฉินคงจะร่วมมือกับผู้เฒ่าตระกูลรองในการลงมือทำร้ายผู้เฒ่าตระกูลใหญ่ แล้วยังต้องการบังคับให้ผู้เฒ่าถังเลือกถังคุนเฉินเป็นทายาทสืบทอดอีกด้วย”

หลังได้ยินคำพูดของหัวเฟยเฟิ่ง ถังคุนหาวก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้เฒ่าตระกูลรองสบถออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หัวเฟยเฟิ่ง อย่าพูดจาไร้สาระ คุณชายรองกับฉันจะกลั่นธูปเรียกวิญญาณได้ยังไง? ยิ่งกว่านั้นลูกสาวของคุณชายรองก็มีทายาทคืออวี้สือ พวกเธอคือทายาทแท้จริง เราไม่เห็นต้องทำอะไรเลย”

“หึ… ที่พวกคุณต้องลงมือกับผู้เฒ่าตระกูลใหญ่ก็เพราะเขาเป็นก้างชิ้นใหญ่ของพวกคุณไงล่ะ ตอนนี้คุณคงแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้ฆ่าเขาแล้วสินะ”

ผู้เฒ่าตระกูลแปดที่มักจะเพิกเฉยต่อคนอื่นเสมอมาลุกขึ้น ในเมื่อตอนนี้มีบางอย่างเกิดขึ้น เขาคือคนแรกและคนเดียวที่ยืนเคียงข้างกับผู้เฒ่าตระกูลใหญ่ เขาหันมองผู้เฒ่าตระกูลใหญ่ด้วยสีหน้ากังวลแล้วเอ่ยปากถาม “พี่ใหญ่ ไม่มีอะไรที่พวกเราทำได้จริงหรือครับ?”

ผู้เฒ่าตระกูลใหญ่ยกยิ้มขมขื่นพร้อมส่ายศีรษะ

“นายเคยได้ยินหรือว่ามียาแก้พิษธูปเรียกวิญญาณ? นี่คงเป็นวันตายของฉันจริง ๆ แต่ว่า…”

ในตอนท้าย ผู้เฒ่าตระกูลใหญ่หันมองผู้เฒ่าตระกูลรองที่ยืนอยู่เคียงกับถังคุนเฉิน และกล่าวด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “แม้ตาเฒ่าอย่างฉันต้องตายในวันนี้ แต่ก็จะไม่มีวันให้พวกแกสมปรารถนา เดิมทีฉันไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามาแทรกแซงเรื่องทั้งหมด แต่วันนี้ฉันจะไม่ยอมเด็ดขาด”

ผู้เฒ่าตระกูลรองมองผู้เฒ่าตระกูลใหญ่ “พี่ใหญ่ พี่อยู่ในสภาพน่าสังเวชอย่างนี้แล้วยังพยายามจะทำตัวจองหองอีกงั้นหรือ? พี่คิดว่าตอนนี้พี่จะทำอะไรได้อีก?”

“ฮึ่ม… ถึงฉัน… ฉัน… จะต้องตาย… ฉันก็จะไม่ยอมให้… แกสมปรารถนา” เขายังพอจะมีเรี่ยวแรงอยู่บ้าง แต่ขณะนั้นเองที่ผู้เฒ่าตระกูลใหญ่รู้สึกว่าพลังในกายของเขากำลังจะหมดลง และลมหายใจเริ่มติดขัด

“ฮ่าฮ่า… พี่ใหญ่ พี่กำลังจะตายหรือเนี่ย” ผู้เฒ่าตระกูลรองระเบิดเสียงหัวเราะออกมาราวกับความตายของผู้เฒ่าตระกูลใหญ่เป็นเรื่องน่าขบขัน

ผู้เฒ่าตระกูลแปดมองผู้เฒ่าตระกูลรองด้วยใบหน้าขุ่นเคือง “นาย… นายกล้าพูดกับพี่ใหญ่แบบนี้!”

ผู้เฒ่าตระกูลใหญ่คว้ามือของผู้เฒ่าตระกูลแปดเอาไว้ “เจ้าแปด นาย… นาย… ต้อง…” ขณะพูด เขาพยายามค้นหาบางสิ่งในอ้อมแขน

ผู้เฒ่าตระกูลแปดคล้ายเข้าใจบางอย่าง กล่าวด้วยความโศกเศร้า “พี่ใหญ่ แต่ถ้าไม่มีพี่ มันก็ไร้ประโยชน์”

ถังซวงไม่รู้เลยว่าผู้เฒ่าตระกูลใหญ่กับผู้เฒ่าตระกูลแปดกำลังพูดคุยอะไรกัน แต่เมื่อเธอเห็นผู้เฒ่าตระกูลใหญ่เริ่มอ่อนแรงและกำลังจะตายเต็มที เธอไม่คิดสนใจเรื่องอื่น หยิบยาคืนชีพที่มีเพียงเม็ดเดียวออกมา จากนั้นยัดมันเข้าปากของผู้เฒ่าตระกูลใหญ่อย่างรวดเร็ว

สุดท้ายแล้ว เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายาคืนชีพนี้จะได้ผลหรือไม่

เพราะทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มียาแก้พิษธูปเรียกวิญญาณ และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอใช้ยาคืนชีพ เธอจึงไม่รู้ว่าคุณภาพของยาจะดีเท่ากับที่หนังสือกล่าวไว้หรือไม่

“เธอ… เธอป้อนอะไรให้ฉัน?”

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

Score 10
Status: Completed
การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวย เธอตื่นขึ้นมาในร่าง 'ถังชวง' เด็กสาวในยุค 70 ที่มีชีวิตแสนลำบากในตระกูลที่กขี่ทั้งเธอ แม่กับน้องสาว... แต่จากนี้เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอจะเป็นเศรษฐีนี่ให้ได้เลย! นิยายแปลเรื่อง การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวย [重返七零之空间小辣] ผู้แต่ง:钰儿 เรื่องย่อ: เธอเกิดใหม่มาในร่งของ ถังซวง' เด็กสาวที่ถูกกใน ยุค 70!! แถมยังต้องมาเจอกับพ่อใจร้ายที่วัน ๆ เาแต่ทุบตี เธอเลยต้องวางแผนให้แม่หย่ากับพ่อเฮงซวยแบบนี้แล้วพาแม่กับน้องสาว ออกไปจากตระกูลปรสิตนี่ และหลังออกจากระกูล เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจพาครอบครัวไปสู่เส้นทางเศรษฐีนี่ให้ได้ในสักวัน

Options

not work with dark mode
Reset