บทที่ 396 ออกไปด้วยกัน
บทที่ 396 ออกไปด้วยกัน
ถังชุนหยานยังคงใช้ชีวิตปกติ และไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนกำลังเคียดแค้นตนอยู่ เวลานี้เธอมองดูชุดของตัวเองหน้ากระจกอย่างไม่มั่นใจ ทุกสิ่งเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าไม่รู้จะใส่ชุดอะไรในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้
เกอชิงเหม่ยเดินเข้ามาในห้องเห็นว่าถังชุนหยานกำลังวุ่นวายกับการเลือกชุด เธอจึงอดไม่ได้ที่จะถาม “อะไรกัน? ไม่รู้จะใส่ชุดไหนหรือจ๊ะ?”
“อ้าว ป้าเกอ มาได้ยังไงคะ?”
ถังชุนหยานเห็นเกอชิงเหม่ยเดินเข้ามา ยกยิ้มต้อนรับก่อนจะพยักหน้า “ค่ะ ป้าเกอช่วยฉันเลือกหน่อยได้ไหมคะว่าควรใส่ชุดไหนดี”
เกอชิงเหม่ยหันมองชุดสีครีมก่อนจะพูดว่า “ชุนหยาน ชุดนี้ก็ดูดี เหมาะสมกับเธอมาก ใส่ชุดนี้ดีกว่าจ้ะ”
“ค่ะ”
หลังจากถังชุนหยานเลือกชุดสีครีมนี้แล้ว เธอเก็บชุดอื่น ๆ เข้าตู้
เกอชิงเหม่ยหันมองถังชุนหยานด้วยรอยยิ้มก่อนจะถามอย่างหยอกเย้า “เอ่… ถึงกับเลือกชุดไม่ถูก นี่กำลังมีนัดไปเที่ยวรึเปล่าจ๊ะ?”
ถังชุนหยานหน้าแดงระเรื่อ แต่ก็ยังพยักหน้ารับ “ค่ะ วันหยุดนี้ฉันจะไปเที่ยวกับตู้จ้งเหว่ย ป้าเกอคงรู้จักเขาแล้ว”
“อ้อ เสี่ยวตู้นี่เอง”
เกอชิงเหม่ยประหลาดใจ แต่ก็ยังเอ่ยปากไปว่า “ก่อนหน้านี้ป้าเห็นเขาปฏิบัติกับเธอแตกต่างจากคนอื่น อย่างนี้หมายความว่าป้าก็เดาไม่ผิดน่ะสิ”
ถังชุนหยานถามออกไปด้วยความสงสัย “เอ๋? ป้าเกอสังเกตเห็นเหมือนกันหรือคะ? ทำไมทุกคนถึงรู้แล้วล่ะ มีแต่ฉันคนเดียวที่ไม่ทราบหรือเนี่ย”
“จ้ะ ป้าเห็นมาสักพักแล้ว แต่ตู้จ้งเหว่ยคงพยายามซ่อนความรู้สึกไว้ ไม่แปลกหรอกจ้ะถ้าเธอจะไม่สังเกตเห็น ดีแล้วล่ะที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน”
ถึงตู้จ้งเหว่ยจะสารภาพรักออกมาแล้ว แต่เป็นถังชุนหยานที่ยังรู้สึกไม่มั่นใจ
“ป้าเกอคะ… ฉันคิดว่าความสัมพันธ์ของฉันกับตู้จ้งเหว่ยอาจจะไปกันไม่รอด ครอบครัวของเราแตกต่างกันมากเกินไป ถึงเขาจะชอบฉัน แต่เราเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน มุมมองของพวกเราย่อมแตกต่าง ไม่ว่าจะมองมุมไหนความสัมพันธ์นี้มันก็ยากที่จะสานต่อ หากเราต้องอยู่ด้วยกันตลอดไปมันต้องเหนื่อยไม่น้อยเลยนะคะ”
เกอชิงเหม่ยไม่คิดมาก่อนว่าถังชุนหยานจะเป็นคนคิดมากเช่นนี้ จึงหันมองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา
แต่ก็ทำได้เพียงหัวเราะออกมาแล้วกล่าวปลอบโยน “เธอกับเสี่ยวตู้ยังไม่ได้ลองคบหากันเลย แล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าเข้ากันไม่ได้? ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความคิดและมุมมองที่แตกต่างกันหรอก ถ้าพวกเธอใช้เวลาอยู่ด้วยกันไปนาน ๆ บางทีมันอาจจะเจอจุดกึ่งกลางระหว่างกันก็ได้นะจ๊ะ ถ้าเสี่ยวตู้เขาชอบเธอจริง ๆ เขาย่อมพยายามอย่างหนักเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์นี้แน่นอน แล้วทุกอย่างจะราบรื่นเองนะ”
“จริงหรือคะป้าเกอ?”
เมื่อเห็นใบหน้าว่างเปล่าของถังชุนหยาน เกอชิงเหม่ยลูบศีรษะหญิงสาวเบา ๆ แล้วพูดอย่างใจเย็น “จริงสิจ๊ะ”
“แต่ฉันคิดว่าถ้าอยู่คนเดียวอย่างป้าเกอก็ดีนะคะ การอยู่คนเดียวตลอดชีวิตไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลยสักนิด”
ถังชุนหยานคิดอย่างนั้นจริง ๆ ก่อนที่ตู้จ้งเหว่ยจะสารภาพรักกับตน
เกอชิงเหม่ยพยักหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนจะกล่าวแนะนำ “อย่าเอาสถานการณ์ของฉันไปเปรียบเทียบเลย ทุกอย่างมันแตกต่างกัน เทียบกันไม่ได้หรอกจ้ะ อีกอย่างเสี่ยวตู้ก็เป็นเด็กดี พวกเธอลองคบกันดูก่อนก็ไม่เสียหาย ถ้าเขาไม่ดีก็ค่อยเลิกก็ยังได้”
“ค่ะ”
หลังรับฟังคำแนะนำจากเกอชิงเหม่ยแล้ว ของจิตใจถังชุนหยานคลายความหนักอึ้งก่อนหน้าลงได้
อื้ม! มาลองดูสักตั้ง ถ้ามันไม่ดีจริง ๆ แต่อย่างน้อยก็ได้ลอง… สุดท้ายแล้วการตัดสินทุกอย่างโดยไม่ได้ลงมือทำก่อนมันเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด หลังจากนี้ให้เวลาเป็นคำตอบดีกว่า
ทั้งสองคุยกันอยู่สักพัก ก่อนที่เกอชิงเหม่ยจะพูดถึงเรื่องที่เธอมาหาในวันนี้
“ชุนหยาน น้ำหอมที่เธอเคยให้ฉันก่อนหน้านี้หอมมากเลย เธอยังมีมันอยู่ไหมจ๊ะ?”
ถังชุนหยานพยักหน้ารับอย่างรีบร้อนก่อนจะตอบกลับว่า “ค่ะ เป็นพี่สาวซวงที่บอกฉันไว้แล้ว ฉันพยายามทดลองอยู่สองสามวัน ตอนนี้มันสำเร็จแล้วค่ะ ถ้าหากว่าคุณป้าชอบ ฉันก็ดีใจค่ะ” หลังจากน้ำหอมนี้เสร็จ ผู้หญิงทุกคนในตระกูลจิงก็ได้มันไปใช้ยกเว้นเพียงเฮ่อหลาน
“ชุนหยานของป้าเก่งขึ้นทุกวันเลย”
แต่ถังชุนหยานไม่กล้ารับความดีความชอบนี้
“พี่สาวซวงเป็นคนสอนฉันค่ะ สอนฉันทุกอย่าง พี่เก่งมากจริง ๆ ค่ะ” เธอรู้สึกอยู่เสมอว่าถังซวงทำได้ทุกสิ่งบนโลกนี้
“นั่นก็เพราะว่าถังซวงอยากให้เธอมีความสามารถไงจ๊ะ”
ถังชุนหยานหยิบก้านหอมออกมาแล้วส่งให้เกอชิงเหม่ย ก่อนจะยกยิ้มกว้าง “ป้าเกอคะ ป้าก็เก่งมาก ดูงานปักของป้าเกอสิ ฉันว่ามันดูสมจริงมากเลย”
“ฮ่าฮ่า… เราเลิกยกยอกันเองเถอะ ฉันจะลอยอยู่แล้ว เอาล่ะ ขอตัวก่อนนะ”
“ค่า”
หลังจากเกอชิงเหม่ยออกไปแล้ว ถังชุนหยานยังคงยุ่งอยู่กับบางอย่าง
และในวันเสาร์ ตู้จ้งเหว่ยก็มาที่บ้าน
เมื่อเห็นว่าตู้จ้งเหว่ยมาถึงแล้ว ถังซวงอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อแล้วกล่าวทักทายว่า “รอเดี๋ยวนะ ชุนหยานใกล้จะออกมาแล้วล่ะ”
ได้ยินอย่างนั้นแล้วตู้จ้งเหว่ยโบกมือไปมาก่อนจะพูดว่า “พี่สาวซวง ฉันไม่รีบอะไรหรอก ให้ชุนหยานทำธุระตามสบายเลย”
เห็นใบหน้าสดใสของตู้จ้งเหว่ย ถังซวงอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อ เพราะดูจากท่าทีของอีกฝ่ายเห็นชัดว่าต้องการพบเจอถังชุนหยานเร็ว ๆ แท้ ๆ “อ้อ… งั้นหรือ? อย่างนั้นฉันให้ชุนหยานออกไปเที่ยวกับนายวันหลังดีไหม? หรือว่าออกไปหลังทานมื้อเที่ยงดีล่ะ?”
ได้ยินคำหยอกเย้าของถังซวง ตู้จ้งเหว่ยรีบอ้อนวอนทันที
“พี่สาวซวง ฉันรีบ ฉันรีบมากเลยด้วย ฉันอยากเจอชุนหยานจะตายอยู่แล้วเนี่ย”
“ฮ่าฮ่า…”
ถังเซวี่ยหัวเราะออกมาอย่างไม่สามารถอดกลั้นได้ “พี่คะ เลิกแกล้งพี่ตู้ได้แล้ว เขาเหงื่อแตกหมดแล้วเนี่ย”
“ก็ได้ ๆ ฉันไม่พูดอะไรแล้ว”
เมื่อเห็นหน้าผากของตู้จ้งเหว่ยมีเหงื่อไหลออกมา ถังซวงก็ยกยิ้ม
หลังจากที่ตู้จ้งเหว่ยมาถึงไม่นานนัก หม่าเสี่ยวชุ่ยก็มาถึงที่นี่ด้วยเช่นกัน และทันทีที่เห็นถังเซวี่ยนั่งรออยู่ เธอยกยิ้มกว้างก่อนจะพูดว่า “เสี่ยวเซวี่ย เราไปกันเถอะ”
“อื้ม ไปกันเถอะ”
ถังเซวี่ยโบกมือลาถังซวง แล้วกล่าว “พี่คะ ฉันกับเสี่ยวชุ่ยจะออกไปข้างนอกนะ”
“ระวังตัวกันด้วยนะทั้งสองคน”
ถังเซวี่ยกลายเป็นคนแรกที่ออกจากบ้านไปก่อน
“พี่สาวซวง…”
เมื่อถังเซวี่ยออกไปแล้ว ถังชุนหยานก็เดินเข้ามา เธอทักทายถังซวงพร้อมยกยิ้มกว้าง ก่อนจะหันมองตู้จ้งเหว่ย “เธอมาแล้ว”
ตู้จ้งเหว่ยที่เห็นว่าวันนี้ถังชุนหยานที่แต่งตัวดูดีเป็นพิเศษ เขาถึงกับตกตะลึง “ชุนหยาน… เธอ… สวยมากเลย”
ถังชุนหยานไม่คิดว่าตู้จ้งเหว่ยจะเป็นพวกพูดจาตรงไปตรงมาอย่างนี้ เธอหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นว่าถังซวงยังอยู่ด้านข้าง “ตู้จ้งเหว่ย… ทำไม… พูดออกมาแบบนี้ล่ะ รีบไปได้แล้ว”
“อื้ม”
เห็นถังชุนหยานที่เขินอาย ตู้จ้งเหว่ยจึงรีบหยุดปากก่อนจะพาถังชุนหยานออกไป
ขณะมองทั้งสอง ถังซวงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ เวลานั้นเองที่โม่เจ๋อหยวนเข้ามา
“ซวงเอ๋อร์ ฉันมาช้าไปหรือเปล่า?”
ถังซวงส่ายศีรษะก่อนจะตอบกลับว่า “ไม่ช้าหรอกค่ะ แต่ตู้จ้งเหว่ยกับคนอื่น ๆ มาเร็วเกินไปต่างหาก” ขณะพูดอย่างนั้นถังซวงหยิบของขวัญที่เตรียมเอาไว้แล้วพูดต่อว่า “เราไปหาผู้อาวุโสจูกันเถอะค่ะ”
“ครับ”
โม่เจ๋อหยวนหยิบกล่องของขวัญจากมือของถังซวง และเดินออกไปพร้อมกัน