ตอนที่ 4 พิธีเปิดภาคเรียน 1
ผมฝันถึงวันแรกที่ได้พบกับยูกิอีกครั้ง
ในคืนก่อนวันสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการสอบหรือสัมภาษณ์ ผมมักจะฝันเสมอ
เคยได้ยินจากรายการทีวีว่า การฝันหมายถึงการนอนหลับไม่ลึกพอ บางทีผมอาจจะกำลังตื่นเต้นโดยไม่รู้ตัว
“อ่า…”
ผมหยุดเสียงนาฬิกาปลุกก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง
เป็นความฝันที่ดีเหลือเกิน… ได้พบกับยูกิอีกครั้ง หลังจากลืมตาขึ้นมา ฉันเปิดม่านเพื่อรับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามา
แม้ใจจะอยากกลับไปนอนต่อเพื่อฝันถึงเธออีกครั้ง แต่วันนี้คงทำอย่างนั้นไม่ได้
“งั้น… ไปกันเถอะ วันนี้ฉันจะได้พบยูกิอีกครั้ง”
เพราะว่าวันนี้ เป็นวันปฐมนิเทศครั้งที่สองของฉัน
———
โรงเรียนเอกชน ‘ชิจิฟุกุ’ เป็นหนึ่งในโรงเรียนมัธยมปลายชั้นนำของประเทศ
มีการเรียนการสอนคุณภาพสูง กฎระเบียบที่เคารพความเป็นอิสระของนักเรียน อีกทั้งยังมีทุนสนับสนุนสำหรับการเรียนเพิ่มเติมหรือการไปศึกษาต่อต่างประเทศ สำหรับคนที่มีความสามารถ ที่นี่เปรียบเสมือนสวรรค์ของนักเรียน
จากบ้านของผม ถ้าขี่จักรยานก็ใช้เวลาเพียงสิบนาที แต่ถ้าเดิน จะใช้เวลายี่สิบนาที
วันนี้ผมมีเวลาเหลือเฟือ จึงตัดสินใจเดินไป
นักเรียนส่วนใหญ่เดินทางโดยรถไฟ ดังนั้น ยิ่งผมเข้าใกล้โรงเรียน ก็ยิ่งเห็นนักเรียนที่เดินมาจากสถานีเพิ่มมากขึ้น
วันนี้เป็นวันปฐมนิเทศ ทำให้ไม่มีนักเรียนรุ่นพี่มาโรงเรียน ทุกคนที่ฉันเห็นล้วนเป็นเพื่อนใหม่ที่เพิ่งเข้ามา
บางคนดูตื่นเต้นกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ บางคนดูเครียดและกังวล แต่ละคนมีความรู้สึกแตกต่างกันออกไป
“แต่โรงเรียนมันใหญ่ไปหน่อยไหมเนี่ย…”
ผมหยุดยืนตรงหน้าประตูโรงเรียน แล้วสูดลมหายใจลึกกับขนาดของโรงเรียนที่จะเป็นที่ๆผมจะได้เข้าเรียน
แม้ผมจะเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งตอนสอบเข้า แต่ในตอนนั้น ผมตื่นเต้นจนไม่ได้มีโอกาสมองรอบๆ แบบนี้เลย
“นักเรียนใหม่ทุกคน เชิญทางนี้เลยครับ กรุณาเข้าคิวที่แถวนี้นะครับ”
เสียงของเจ้าหน้าที่วัยกลางคนที่สวมแว่นตาพร้อมกับถือโทรโข่งกำลังบอกทางไปยังโรงยิม
เมื่อผมเดินไปใกล้โรงยิม ก็เห็นแถวยาวของนักเรียนใหม่ที่กำลังรออยู่
“ฉันอยู่นาระตอนม.ต้นน่ะ”
“จริงดิ? งั้นเธอจะมาอยู่หอพักที่นี่เหรอ?”
ผมได้ยินบทสนทนาของนักเรียนที่อยู่แถวข้างหน้า ในขณะที่ผมเดินไปเข้าคิวที่ท้ายแถว
ในหัวของผมพลันนึกขึ้นได้ว่า ตอนนี้ผมกำลังจะได้กลับไปเป็นนักเรียนมัธยมปลายอีกครั้ง
ความรู้สึกตื่นเต้นเริ่มปะทุขึ้นมาในใจ ผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ
ในสมัยเรียน ผมมีหลายสิ่งที่อยากทำ แต่กลับไม่ได้ทำ
และในเมื่อผมมีโอกาสได้เริ่มต้นใหม่ในชีวิตมัธยมปลายอีกครั้ง คราวนี้ผมจะไม่ปล่อยให้ความฝันหลุดลอยไป
“แต่ว่าก่อนจะทำสิ่งที่อยากทำ ผมต้องจัดการเรื่องที่ไม่อยากทำก่อน…”
ใช่แล้ว ผมได้ทำผิดพลาดไว้เรื่องหนึ่ง
“ดันตั้งใจเรียนเกินไปนี่สิ…”
TLN: เมื่อวานลงน้อยหน่อย และคิดว่าจะน้อยแบบนี้ไปอีกสักพัก ต้องเขียน code ทำโปรเจคจบ คุยกับคอมจนเริ่มจะคุยกับคนไม่รู้เรื่อง?