กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามีบทที่ 557 คิดว่าตัวเองหล่อนักรึไง?

บทที่ 557 คิดว่าตัวเองหล่อนักรึไง?

บทที่ 557 คิดว่าตัวเองหล่อนักรึไง?

บทที่ 557 คิดว่าตัวเองหล่อนักรึไง?

ซุ่นจือผงะถอยร่นไปข้างหลัง ก่อนจะหลบอยู่หลังหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยอีกที

อันธพาลกวนก็ถูกรั้งไว้ทันเช่นกัน ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

สองวันเต็ม ๆ ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความกลัวและความกังวลใจ ดวงตาสีแดงก่ำของเขาจ้องเขม็งออกไป “แกถูกเสิ่นอี้โจวติดสินบนให้ใส่ร้ายฉัน!”

เอ่ยจบ เขาก็ดิ้นรนพร้อมเอ่ยกับคนที่จับตัวเขาไว้ว่า “พวกแกปล่อยฉันนะ ฉันจะฆ่ามันให้ตาย!”

เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ ในสายตาของทุกคนก็ยิ่งพาลโกรธ

ชาวบ้านต่างพูดคล้อยตามกันว่า “แล้วยังจะมาบอกว่าไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านตั้งแต่บ่ายของเมื่อวานซืนอีก นี่ไม่ใช่ว่าโกหกอยู่ทนโท่หรอกเหรอ?”

“ปกติก็ดูท่าทางเหมือนพวกขโมยอยู่แล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำเรื่องแบบนี้”

“กล้าทำร้ายคุณนายเสิ่นแม้กระทั่งทางความคิด กินดีหมีหัวใจเสือมาจริง ๆ”

“รีบส่งตัวเขาไปสถานีตำรวจเถอะ จะได้ไม่สร้างความเสียหายอีก!”

ทันใดนั้น อันธพาลกวนก็พลันนึกบางอย่างได้ขึ้นมา เขาชี้ไปที่หน้าผากของตัวเอง “ไม่ใช่พวกคุณบอกว่าขโมยคนนั้นโดนตีด้วยไม้คานหรอกเหรอ? ดูให้ชัด ๆ สิว่าแผลของผมมาจากการถูกไม้คานตีรึเปล่า? ผมได้มันมาตอนกลิ้งลงเนินต่างหาก! ผมว่านะพวกคุณน่ะสมคบคิดกันเพื่อใส่ร้ายคนดีมากกว่า!”

เมื่อเห็นว่าอันธพาลกวนยังคงกล่าวหาใส่ร้ายคนอื่นไปทั่ว เสิ่นอี้โจวจึงกระแอมในลำคอพลางหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วกล่าวว่า “ต่างหูเงินนี้ คนของหน่วยรักษาความปลอดภัยพบเมื่อคืนก่อนในตอนที่พวกเขาไล่ตามขโมย โดยพบว่าคนร้ายทำหล่นไว้ หลังจากไปสอบถามชาวบ้านเพื่อให้ระบุตัวเจ้าของ ทุกคนบอกว่าต่างหูชิ้นนี้เป็นสิ่งที่แม่ของกวนเฉิงทิ้งเอาไว้ให้”

เขามองไปยังอันธพาลกวน “ในตอนที่คุณหลบหนี แม้แต่ของชิ้นสุดท้ายที่แม่ทิ้งไว้ให้ก็ไม่สนใจแล้ว”

ดวงตาหงส์เพลิงของเขาหรี่ลงเบา ๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

ทันทีที่อันธพาลกวนเห็นสิ่งที่อยู่ในแววตาของเสิ่นอี้โจว เขาก็พลันเซื่องซึมลง

ดวงตาของเขาล่อกแล่กไปมาเพื่อคิดหาทางออก

ทันใดนั้น เขาก็ชี้ไปยังเซี่ยชิงหยวน พร้อมเอ่ยว่า “เป็นเธอที่ปั้นเรื่องใส่ร้ายผม!”

เขาแกล้งทำเป็นเศร้าโศกเสียใจ “ชิงหยวน ในเมื่อเรื่องราวดำเนินมาจนถึงจุดนี้แล้ว จะโทษผมไม่ได้นะที่พูดเรื่องของเราออกมา ต่างหูอันนั้นคือของแทนใจของพวกเรา และในค่ำคืนนั้นเองที่เราสารภาพความในใจกัน สัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันไปชั่วชีวิต ส่วนเมื่อคืนก่อนก็เป็นคุณเองที่บอกผมว่าผู้อำนวยการเสิ่นกำลังจะเดินทางไปยังตัวอำเภอ ขอให้ผมไปหาคุณที่ห้องเพื่อที่จะได้ใช้เวลาร่วมกัน มาวันนี้เรื่องราวถูกเปิดเผย แล้วคุณจะมาโยนความผิดให้ผมทั้งได้ยังไง?”

เอ่ยจบ น้ำตาของเขาก็หลั่งไหลออกมาในลักษณะที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ราวกับคนที่หลงใหลในความรักถูกคนรักทำร้าย

ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นมองหน้ากันไปมา เธอมองฉัน ฉันมองเธอ สีหน้าของทุกคนล้วนแปลกประหลาด

แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่เชื่อโดยธรรมชาติ

ทว่าก็อดมีใจติฉินนินทาแล้วคิดเพ้อฝันขึ้นมาไม่ได้

ต้องบอกว่าอันธพาลกวนพูดในสิ่งที่ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่กล้าคิดจริง ๆ

อันธพาลกวนยังคิดอยากจะเล่นละครต่อ แต่ทันใดนั้นเองเสิ่นอี้โจวก็ยกเท้าเตะเขาอย่างแรง

ลูกเตะของเสิ่นอี้โจวนั้นรวดเร็วและหนักหน่วง ตรงเข้าที่หัวใจของอันธพาลกวน ความเจ็บปวดทำให้เขาร้อง “โอ๊ย!” ก่อนที่จะล้มลงกับพื้น

เขารู้สึกเหมือนอวัยวะภายในของตนกำลังจะแตกสลายจากลูกเตะนั้น จนต้องขดตัว ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อยู่เป็นเวลานาน

เมื่อมองดูลักษณะท่าทางที่เปี่ยมด้วยความเจ็บปวดของเขา เซี่ยชิงหยวนก็ก้าวออกมา

พร้อมรอยยิ้มเยาะที่มุมปากของเธอ และกล่าวว่า “หากคิดจะหาขอแก้ตัว ก็รบกวนหาที่มันพอเข้าท่าสักหน่อยนะ”

เธอหมุนมือ พลางเชยคางขึ้นเล็กน้อย “ฉันตาบอดรึไง? หรือไม่มีสติถึงกับยอมปล่อยคนอย่างเสิ่นอี้โจวไป แล้วไปอยู่กับคนอย่างนายน่ะ? นายคิดว่าตัวเองดีกว่าสามีของฉันงั้นเหรอ?”

เธอเหลือบตามองต่ำลงไปยังอันธพาลกวนที่อยู่บนพื้น แล้วพูดว่า “ถ้านายยังไม่ตื่นจากฝัน ก็ลองฉี่แล้วชะโงกดูเงาตัวเองในนั้นซะ อย่าทำให้ฉันขยะแขยงไปมากกว่านี้เลย”

เถียนกุ้ยฟางเองก็เอ่ยขึ้น “ใช่ โกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องนั้นเรื่องนี้ มีใครในหมู่บ้านที่ไม่รู้บ้างว่าผู้อำนวยการเสิ่นเดินทางไปยังตัวอำเภอ ยังจะต้องให้น้องชิงหยวนมาบอกแกอีกรึไงฮะ? เธอตาบอดเหรอ? คิดว่าตัวเองเป็นผานอันกลับชาติมาเกิดรึไง? หล่อมากจนไม่มีใครเทียบได้เลยงั้นสิ?”

ถ้อยคำของเซี่ยชิงหยวนและเถียนกุ้ยฟางทำให้ฝูงชนหัวเราะเยาะอันธพาลกวน

อันธพาลกวนซึ่งฟื้นตัวจากความเจ็บปวดบ้างแล้วพลันเอ่ยว่า “ใครจะรู้ ไม่แน่ว่าคุณนายเสิ่นอาจจะติดใจในความเชี่ยวชาญของฉันก็ได้”

เอ่ยจบก็ดันเป้าของตนขึ้นอย่างต่ำช้า

เสิ่นอี้โจวรู้สึกเหลืออด จึงเดินเข้าไปและเตะเข้าที่หว่างขาของอันธพาลกวนอีกครั้ง คราวนี้หลอดเลือดดำที่คอของอันธพาลกวนโป่ง ตาเหลือกจนเป็นสีขาว ก่อนจะเป็นลมหมดสติด้วยความเจ็บปวด

ผู้ที่เห็นฉากนี้ต่างเบิกตากว้าง ในใจพลันรู้สึกสลดเสียใจ

เสิ่นอี้โจวพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม “พาไปส่งที่สถานีตำรวจซะ”

หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยรีบลากตัวเขาไปทันที “พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้ครับ”

เอ่ยจบ เขาจึงโบกมือสั่งลูกน้องให้ลากอันธพาลกวนขึ้นจากพื้นและพาออกไป

เซี่ยชิงหยวนมองไปยังเสิ่นอี้โจว ซึ่งกำลังระงับโทสะของตัวเอง มือเล็ก ๆ ของหญิงสาวจึงแทรกเข้าไปในมือใหญ่ของเขาพลางแกว่งเบา ๆ

เมื่อสัมผัสที่เย็นและนุ่มนวลแทรกเข้ามาในฝ่ามือ เสิ่นอี้โจวจึงก้มศีรษะลงและเห็นดวงตาที่เป็นกังวลของผู้เป็นภรรยา

เสิ่นอี้โจวจึงตระหนักได้ว่าเมื่อครู่เขาค่อนข้างบุ่มบ่าม ชายหนุ่มเอ่ยเบา ๆ ว่า “ขอโทษที่ทำให้กลัวนะ”

เซี่ยชิงหยวนชี้ไปในห้องซึ่งเต็มไปด้วยผู้คน “คุณทำให้พวกเขากลัว”

มันทำให้เธอกังวลมากกว่าตกใจ

เธอไม่เคยเห็นด้านนี้ของเสิ่นอี้โจวมาก่อน

ท่าทีของเสิ่นอี้โจวผ่อนคลายลง ก่อนเขาจะกล่าวกับทุกคนว่า “เมื่อครู่ผมใจร้อนไปสักหน่อย ชาวบ้านทุกคนโปรดให้อภัยด้วยนะครับ กวนเฉิงนั้นปกติแล้วจะขโมยไก่ไล่เตะสุนัข ทว่ามาวันนี้เขากลับคิดว่างแผนจะทำร้ายภรรยาของผม หนำซ้ำยังสาดโคลนทำลายชื่อเสียงของเธอ ผมในฐานะสามี จึงทนไม่ได้จริง ๆ ครับ”

เมื่อชาวบ้านได้ยินวาจาของชายหนุ่ม ทุกคนต่างก็รู้สึกว่ามีเหตุผล ด้วยหากเป็นพวกเขาก็อาจจะตอบโต้รุนแรงกว่าเสิ่นอี้โจวเสียอีก

ในสมัยก่อน หากมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ทั้งชายและหญิงจะถูกจับใส่ในกรงขังหมูแล้วโยนลงทะเล ทั้งชายทั้งหญิงไม่ว่าใครจะถูกหรือผิดก็ตาม

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงปลอบใจเสิ่นอี้โจวและเซี่ยชิงหยวนอีกครั้ง

อาเหมยยืนมองดูเหตุการณ์ข้างในจากด้านนอกด้วยความเกลียดชัง

เธอก่นด่าสาปแช่งเบา ๆ “ยังมีคนที่ทนให้คนอื่นสวมหมวกเขียวให้ตัวเองได้อีกเนอะ?”

คนที่อยู่รอบ ๆ เมื่อได้ยินอย่างนั้นก็มองเธอด้วยความดูถูก

สีหน้าของอาเหมยพลันอับอาย “มองฉันทำไม ไม่ใช่ว่าฉันไปมีชู้กับใครนี่!”

เอ่ยจบก็รีบพาตัวออกจากฝูงชนไปอย่างผิดหวัง

เวลาห้าทุ่มสิบห้านาทีของคืนนั้น

ไม่นานนักก็มีเสียงกุญแจถูกไขเข้าไปในรูล็อก ก่อนเสียงบิดกุญแจจะดังขึ้นมาจากหน้าประตู

ประตูถูกผลักเปิดจากด้านนอก พร้อมแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามา

ไป๋อวิ๋นหลี่เดินเข้ามาจากด้านนอกพลางมองไปยังห้องนั่งเล่นอันมืดมิด ชายหนุ่มจึงคิดว่าเซี่ยจื่ออี้หลับไปแล้ว

เขาเดินโซซัดโซเซไปมา พยายามคลำทางไปจนทรุดตัวลงบนโซฟา

“คุณยังจำได้อยู่เหรอว่าต้องกลับมา?”

น้ำเสียงเย็นชาของผู้หญิงดังขึ้นอีกด้านของโซฟา ทำให้ไป๋อวิ๋นหลี่ตกใจเสียจนกระโดดตัวขึ้น

ในทันใดนั้นเอง ไฟในห้องนั่งเล่นก็ถูกเปิดขึ้น แสงไฟสว่างจ้าจนทำให้ชายหนุ่มปวดตา

เซี่ยจื่ออี้ลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมมองเขาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

คืนนี้ไป๋อวิ๋นหลี่ดื่มเหล้ามานิดหน่อย ขมับของเขาบวม และด้วยเพราะเรื่องความคืบหน้าในการจ่ายเงินนั้นไม่ราบรื่น ทุกคนจึงห่อเหี่ยวอย่างมาก เมื่อเซี่ยจื่ออี้ทำเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ ความรำคาญในใจของเขาก็เพิ่มขึ้นทันที

ชายหนุ่มกุมขมับ “คุณเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก?”

“ฉันเป็นบ้างั้นเหรอ?” เซี่ยจื่ออี้ตำหนิตัวเอง หัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “ไป๋อวิ๋นหลี่ คุณคือคนที่เพิ่งกลับมากลางดึก แต่คุณกลับหาว่าฉันบ้างั้นเหรอ?”

ไป๋อวิ๋นหลี่ไม่ต้องการโต้เถียงกับเธอ เขาพยุงตัวยืนขึ้นด้วยที่วางแขนของโซฟา “ผมขี้เกียจจะคุยกับคุณ”

เมื่อเอ่ยจบก็กำลังจะสาวเท้าเข้าไปในห้องนอนทันที

“หยุดนะ!” เมื่อเซี่ยจื่ออี้เห็นว่าไป๋อวิ๋นหลี่หมางเมินตัวเองมากเพียงใด ความโกรธที่เธอเก็บเอาไว้ตลอดทั้งคืนก็มาถึงจุดเดือดโดยพลัน

หญิงสาวก้าวไปข้างหน้าแล้วดึงเขาให้หันมาหาเธอ “คุณอธิบายมาให้ฉันฟังอย่างชัดเจนหน่อยว่าคืนนี้คุณอยู่กับนังจิ้งจอกนั่นอีกแล้วใช่ไหม?”

เมื่อเผชิญกับคำถามเดิม ๆ ไป๋อวิ๋นหลี่ก็รู้สึกเบื่อหน่ายในใจ

เขาสะบัดเซี่ยจื่ออี้ออกไปด้วยความรำคาญ “ไปให้พ้น!”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Score 10
Status: Completed
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี ...ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด! เรื่องย่อ หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

Options

not work with dark mode
Reset