บทที่ 547 บินตรงเข้ามาหาเธอ
บทที่ 547 บินตรงเข้ามาหาเธอ
เมื่อชาวบ้านเห็นสีหน้าของเซี่ยชิงหยวนเปลี่ยนไป พวกเขาจึงรับรู้ได้ว่าเรื่องนี้อาจไม่ดีนัก จึงเอ่ยขึ้นว่า “คุณนายเสิ่น อย่างนั้นให้พวกเราช่วยคุณหาไหม?”
เซี่ยชิงหยวนอยากจะตอบรับโดยไม่รู้ตัว
ทว่าเมื่อลองคิดอีกครั้ง นี่ยังเป็นเวลากลางวัน หลินตงซิ่วคงไม่พาเด็ก ๆ ออกไปนานนัก หากเธอขอให้ชาวบ้านช่วยตามหาพวกเขาก็คงจะเกิดความโกลาหลไม่น้อย
หญิงสาวบังคับตัวเองให้ระงับความวิตกกังวลพลางเอ่ย “ขอบคุณนะคะ ฉันจะลองหาที่อื่นดูก่อน ถ้ายังหาไม่พบคงจะต้องรบกวนความช่วยเหลือจากพวกคุณค่ะ”
วาจาของเธอนั้นจริงใจ ชาวบ้านจึงยกยิ้มให้ “ได้สิ คุณนายเสิ่นไม่ต้องเกรงใจหรอก”
ในความเป็นจริง หากเป็นพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่ได้ร้อนใจ แต่ด้วยเห็นเซี่ยชิงหยวนกระวนกระวายจึงเอ่ยปากถาม
โดยปกติแล้วเวลาที่ผู้ใหญ่ออกไปทำงาน เด็ก ๆ ก็จะไปวิ่งเล่นในทุ่งกว้างหรือบนภูเขา จึงถือโอกาสนี้พาน้องชายหรือน้องสาวขึ้นไปบนภูเขาเพื่อตัดฟืน เก็บผักป่า และผลไม้ป่า โดยไม่มีใครกังวลใจแต่อย่างใด
แน่นอนว่ามีคนที่ลูกประสบอุบัติเหตุบนภูเขา แต่พวกเขาเป็นครอบครัวแบบไหน? พวกเขาอยู่ในฐานะไหนที่จะบอกว่าจะไม่ยอมให้ลูกช่วยทำงานงั้นเหรอ?
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องยอมจำนนต่อโชคชะตา
เซี่ยชิงหยวนจำได้ว่าเมื่อวานหลินตงซิ่วบอกว่าผักกูดที่เก็บมาจากข้างคูน้ำนั้นทั้งนุ่มและอร่อย หญิงสาวจึงสงสัยว่าเธออาจจะไปเก็บผักกูด จึงเดินมองหาตามคูน้ำ
เธอพบรอยเท้าของผู้ใหญ่และเด็กอยู่บนดินเลนตะกอนข้างคูน้ำ
ร่องรอยพื้นรองเท้าบนนั้นเหมือนกับรองเท้าผ้าและรองเท้าผ้าใบมาก ซึ่งผู้คนที่นี่ไม่น่าจะสวมรองเท้าแบบนี้ ดังนั้นเธอจึงยืนยันได้ว่าเป็นหลินตงซิ่วและเสิ่นอี้หลินอย่างไม่ต้องสงสัย
เธอมองไปยังคูน้ำเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งกว้างไม่เกินหนึ่งหรือสองเมตร โดยมีความลึกไม่เกินไปกว่าราว ๆ เอวของผู้ใหญ่ และ ณ จุดที่ลึกที่สุดก็ไม่มากพอให้จมลงไปในน้ำได้
เซี่ยชิงหยวนเดินขึ้นไปบนคูน้ำเล็กๆ อีกครั้ง ก่อนจะมาถึงลานหญ้าที่โล่งกว้างขึ้นเล็กน้อย ซึ่งมีผลไม้สีแดงจำนวนมากเติบโต
หรือที่รู้จักกันในชื่อสตรอว์เบอร์รีป่า เป็นผลไม้ขนาดเล็ก เนื้อนิ่ม มีหนามบางๆ อยู่บนผิว รสหวานอมเปรี้ยว ในทุก ๆ ฤดูใบไม้ผลิผลไม้ผลเล็กนี้จะเติบโตอยู่ตามริมถนนและเนินเขา
ใบของมันเป็นรูปไข่ไก่คว่ำ และมีหนามแหลมประปราย ในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนจะเป็นช่วงที่ผลของมันสุกเต็มที่ สตรอว์เบอร์รีป่าจะห้อยอยู่เต็มกิ่งก้าน
หญิงสาวจำได้ว่าตอนที่ยังเด็ก เธอกับพี่ชายชอบที่จะล้างผลไม้ให้สะอาด จากนั้นหยิบเสียจนเต็มกำมือแล้วโยนเข้าปาก เพลิดเพลินกับความรู้สึกของน้ำรสหวานอมเปรี้ยวที่แตกกระเซ็นไปทั่วปาก
เพียงแต่ในตอนนี้ยังไม่ถึงฤดูกาลของมัน จึงมีเพียงไม่กี่ผลเท่านั้นที่เป็นสีแดงอ่อน
เซี่ยชิงหยวนเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ และพบว่าผลไม้สีแดงมีร่องรอยของการถูกเด็ดออกจากขั้ว ทั้งยังมีใบไม้สดสองสามใบ รวมถึงผลไม้สีแดงอ่อนซึ่งถูกคนกัดกินแล้วคายทิ้งอยู่บนพื้น
เซี่ยชิงหยวนยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าหลินตงซิ่วพาเด็ก ๆ มาที่บริเวณนี้
ทว่าหากเดินไปไกลกว่านี้ก็จะเป็นภูเขาลูกใหญ่
เซี่ยชิงหยวนหยิบแท่งไม้ที่มีความหนาเท่ากับแขนเด็กทารกที่อยู่ข้างถนนขึ้นมา จับไม้ในมือไว้มั่น แล้วจึงสาวเท้าก้าวต่อ
ทันทีที่มาถึงเชิงเขาและกำลังกวาดสายตามองไปรอบ ๆ หญิงสาวพลันได้ยินเสียงร้องของหลินตงซิ่วและเสิ่นอี้หลินอย่างตื่นตระหนกว่า “เร็วเข้า รีบหนีเร็ว!” และ “อ๊า อ๊าก” ของเด็กสองคนเป็นครั้งคราว ก่อนจะตามมาด้วยเสียงฝีเท้าอันวุ่นวายบนป่าเขา
เซี่ยชิงหยวนหวาดกลัวอย่างยิ่งจึงจะรีบวิ่งขึ้นไป
ทว่าก่อนที่เธอจะวิ่งไปได้สักสองก้าว หญิงสาวกลับเห็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ สีสันสดใสบินตรงมาหาเธอ
ใช่แล้ว กำลังบิน
เจ้าสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ นี้ร่วงลงอย่างเชื่องช้าราวหนึ่งหรือสองเมตรตรงหน้าเซี่ยชิงหยวน ซ้ำยังร่อนลงอย่างฉุกเฉินเสียด้วย
เพียงแต่ว่าความเร็วของมันนั้นมากเกินไปจนไม่สามารถหยุดได้ทัน จึงชนเข้ากับเซี่ยชิงหยวนโดยตรง
เซี่ยชิงหยวนไม่ทันได้คิดเสียด้วยซ้ำ หญิงสาวเหวี่ยงไม้ในมือตีมันอย่างแรง
เสียงกระชั้นดัง “ตุ๊บ!” ก่อนที่สิ่งนั้นจะตกลงไปที่เท้าของเซี่ยชิงหยวน
เซี่ยชิงหยวน “!”