บทที่ 539 หมูป่า
บทที่ 539 หมูป่า
หญิงสาวพบเข้ากับสัตว์สีน้ำตาลอมเทาสามตัววิ่งพร้อมส่งเสียงคำรามลงมาที่เนินเขา
พวกมันมีขนสีน้ำตาลอมเทา แผงคอตั้งขึ้น ขาทั้งสีข้างใหญ่และแข็งแรง หัวเป็นรูปสามเหลี่ยม และที่ปากของพวกมันมีเขี้ยวยาวราวเจ็ดหรือแปดเซนติเมตร ร่างกายเต็มไปด้วยพละกำลัง หากนี่ไม่ใช่หมูป่าแล้วจะเป็นอะไรได้อีก!
หมูป่าเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่เป็นฝูง แต่ก็คาดไม่ถึงว่าจะมาทีเดียวถึงสามตัว!
เซี่ยชิงหยวนตอบสนองอย่างรวดเร็วโดยร้องตะโกนว่า “พี่สาวกุ้ยฟาง หมูป่า รีบวิ่งค่ะ!”
ขณะที่เอ่ย หญิงสาวก็ดันตัวเถียนกุ้ยฟาง และวิ่งขึ้นไปบนทางที่สูงชันพร้อมกับลูกซึ่งอยู่ในอ้อมแขน
เถียนกุ้ยฟางซึ่งกำลังพูดคุยอย่างออกรส พลันได้ยินเซี่ยชิงหยวนร้องออกมาด้วยความตกใจ ก่อนจะตามมาด้วยการที่ร่างกายของเธอถูกผลักไปข้างหน้า
ด้วยสัญชาตญาณยามเกิดเหตุฉุกเฉิน เธอจึงวิ่งตามเซี่ยชิงหยวนไปตามจิตใต้สำนึก พลางเหลือบมองไปก็พบเข้ากับสิ่งที่ทำให้กลัวเสียจนหัวใจกระดอนขึ้นมาอยู่ที่คอ!
หมูป่าตัวใหญ่สามตัวกำลังวิ่งเข้ามาทางพวกเธอ!
ไม่เพียงแต่พวกเธอท่านั้น แต่ผู้คนที่ยืนอยู่ในละแวกใกล้ ๆ เห็นดังนั้นจึงตะโกนว่า “หมูป่ากำลังมา รีบหนีเร็ว!”
นี่เพิ่งจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ อากาศจึงยังคงหลงเหลือความหนาวเย็นอยู่บ้าง และแม้ว่าที่อำเภอรุ่ยสี่ฤดูล้วนเป็นดั่งฤดูใบไม้ผลิ ทว่าก็มีช่วงเวลาสั้น ๆ ที่แห้งแล้ง
จึงเป็นไปได้ว่าหมูป่า ซึ่งอยู่บนภูเขาไม่มีอะไรจะกิน จึงลงมาที่นี่
ในปีที่ผ่าน ๆ มาก็มีเหตุการณ์หมูป่าลงมาจากภูเขา ทำลายพืชผล และในกรณีร้ายแรงก็ถึงขั้นทำร้ายผู้คนจนได้รับบาดเจ็บ
หมูป่าไม่เหมือนกับหมูที่เลี้ยงในครัวเรือน ไม่เพียงแต่มีผิวหนังหนาและหยาบ แต่ยังมีคนบริเวณคอที่แข็งด้วย ซ้ำยังมีอารมณ์ฉุนเฉียวอย่างยิ่ง และไม่ว่ามนุษย์จะไปขู่ขวัญมันมากแค่ไหน เจ้าหมูป่าก็ไม่กลัว ในท้ายที่สุด เมื่อคนพบเห็นหมูป่าจึงทำได้แต่เดินเลี่ยงไป
หมูป่านั้นตื่นตกใจอยู่เล็ก ๆ ในตอนที่ลงมาหาอาหาร ทว่าเมื่อได้ยินเสียงผู้คนตะโกนโวยวาย พวกมันก็หงุดหงิดขึ้นมา จึงไล่ตามเซี่ยชิงหยวนและเถียนกุ้ยฟางซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด
เซี่ยชิงหยวนและเถียนกุ้ยฟางนั้นอยู่ใกล้กับหมูป่ามากที่สุด ทั้งยังอยู่บนทางเล็ก ๆ ในทุ่ง ดังนั้นพวกเธอจึงไม่สามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็วนัก
ทันทีที่เจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ในแปลงผักด้วยกันเมื่อครู่เห็นสิ่งนี้ก็วิตกกังวลอย่างยิ่ง เขากัดฟันพลางรีบวิ่งมาหาพวกเธอ พร้อมกับตะโกนไปด้วยว่า “ใครก็ได้ช่วยด้วย หมูป่ากำลังทำร้ายคน!”
เซี่ยชิงหยวนนั้นเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับการเดินทางมายังอำเภอรุ่ยในครั้งนี้อย่างเต็มที่ ถึงแม้เธอจะอุ้มลูกอยู่ในอ้อมแขน แต่ความเร็วของเธอก็ไม่ได้ลดลงเลย ทั้งยังเร็วกว่าเถียนกุ้ยฟางเสียด้วยซ้ำ
เสิ่นทิงอวิ๋นไม่เข้าใจว่าผู้ใหญ่กำลังวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด คิดเพียงว่าคุณแม่แค่พาเขาวิ่งเล่น โดยที่ตัวนั่นสั่นคลอนไปมาแบบนี้นั้นสนุกอย่างยิ่ง เขาวางศีรษะของตัวเองลงบนบ่าของเซี่ยชิงหยวน พร้อมมองไปยังหมูป่าที่ตามมาข้างหลัง ก่อนจะส่งเสียงออกมาอย่างมีความสุข
เถียนกุ้ยฟางเองนั้นวิ่งตามหลังมาด้วยอาการหอบเหนื่อย แต่เธอไม่กล้าหยุดฝีเท้าลงแต่อย่างใด ด้วยเพราะได้ยินเสียงหมูป่าส่งเสียงร้องฮืดฮาดอยู่ข้างหลัง
เซี่ยชิงหยวนรู้ดีว่าการวิ่งแบบนี้ไม่ใช่ทางออก อีกทั้งที่นี่ยังอยู่ห่างจากศูนย์บรรเทาความยากจนและบริเวณที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน การจะรอให้สักคนมาช่วยเหลือนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ เธอต้องหาทางหลุดพ้นจากเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
หญิงสาวกวาดสายตาไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว มองจากสิ่งหนึ่งไปที่อีกสิ่งหนึ่ง ก่อนเอ่ยขึ้น “พี่สาวกุ้ยฟาง ทางนี้!”
เธอพูดแล้ววิ่งไปทางคูน้ำใหญ่
คูน้ำขนาดใหญ่นี้กว้างราวหนึ่งเมตร น้ำลึกประมาณหัวเข่าของผู้ใหญ่ พร้อมกับมีไม้ไผ่สองท่อนพาดเป็นสะพาน ทว่ามีความกว้างไม่เกินยี่สิบเซนติเมตร
เซี่ยชิงหยวนรีบสำรวจดูและพบว่าจากก้นคูน้ำถึงพื้นดินนั้นราว ๆ เจ็ดสิบถึงแปดสิบเซนติเมตร
ตอนที่เธอเป็นเด็ก เธอเคยได้ยินเซี่ยโยว่หมิงบอกว่าหมูป่าสามารถกระโดดข้ามรั้วสูงเทียบเท่าครึ่งตัวคนได้อย่างง่ายดาย ซึ่งก็เทียบเท่ากับคูน้ำนี้ แต่ตอนนี้เธอทำได้แค่ลองดูเท่านั้น
เซี่ยชิงหยวนกอดเสิ่นทิงอวิ๋นไว้แน่น ชะลอความเร็วลง และจะรีบเดินอย่างระมัดระวัง
เถียนกุ้ยฟางเองตามเซี่ยชิงหยวนมาติด ๆ และพยายามข้ามคูน้ำ
บางทีอาจเป็นเพราะในใจนั้นหวาดกลัว อีกทั้งพื้นไม้ไผ่ก็โค้งงอ ในขณะที่เกือบจะถึงอีกฝั่ง ก็เกิดลื่นขึ้นมาจนเกือบจะล้มลง!
“ระวัง!”
ขณะที่ปากของเถียนกุ้ยฟางกำลังจะตะโกนร้อง “โอ๊ย!” ออกมา ในชั่วเสี้ยววินาทีนั้น เซี่ยชิงหยวนก็คว้าแขนของเธอไว้
เซี่ยชิงหยวนออกแรงจับเถียนกุ้ยฟางไว้ด้วยมือข้างเดียว พร้อมกัดฟันเพื่อดึงเธอมา
หมูป่าตัวแรกที่ตามหลังเถียนกุ้ยฟางมาติด ๆ ไม่อาจหยุดได้ทันจึงพุ่งตรงลงไปในน้ำ
มันส่งเสียงร้องโหยหวนจากในน้ำ พยายามลุกขึ้นเพื่อกระโดดเข้าฝั่ง
หมูป่าสองตัวที่อยู่ข้างหลัง เมื่อได้ยินเสียงร้องของเพื่อน หมูป่าตัวหนึ่งก็เดินวนไปมาอยู่บนฝั่ง ในขณะที่อีกตัวมองข้ามไปอีกฝั่ง ก่อนจะเอนตัวไปข้างหลัง ย่อตัวลง จากนั้นจึงเตะขาหลังแล้วก็กระโดดข้ามไป!
เซี่ยชิงหยวนและเถียนกุ้ยฟางไม่มีเวลาให้คิด พวกเธอทำได้เพียงวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตต่อไป
ทว่าหลังจากวิ่งมานาน ขาก็ค่อย ๆ หมดแรง ความเร็วจึงไม่ได้ดีเท่ากับก่อนหน้า
หมูป่าฉุนเฉียวที่อยู่ข้างหลังยังคงไล่ตามมาติด ๆ
หลังจากได้เสียงร้องเรียกของผู้คน พวกผู้ชายที่ไม่ได้ออกไปข้างนอกก็พากันหยิบจอบเสียม ก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากบ้านพร้อมจอบเสียมที่พาดไว้บนบ่า เจ้าหน้าที่คนนั้นเองก็วิ่งกระหืดกระหอบไล่ตามหมูป่ามา
หมูป่าที่ร่วงลงคูน้ำก่อนหน้านี้ครั้นปีนขึ้นมาจากคูน้ำได้ ก็วิ่งไล่ตามเจ้าหน้าที่ไปอีกที
เมื่อชาวบ้านผู้ชายเห็นเหตุการณ์ พวกเขาจึงแบ่งออกเป็นสองกลุ่มเพื่อช่วยเหลือ
เลือดลูกผู้ชายเดือดพล่าน ตั้งใจว่าจะเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม ใครกันคาดคิดว่าผลที่ออกมากลับกลายเป็นว่าไม่ได้ทำให้หมูป่าตกใจกลัวเลย และกลายเป็นคนกลุ่มนั้นถูกหมูป่าไล่ตามแทน
หมูป่าพวกนี้ล้วนเป็นตัวผู้ เพียงแค่เขี้ยวที่ทั้งยาวและแหลมคมของพวกมันก็สามารถแทงเข้าที่ก้นจนระเบิดได้เลย!
“ปัง!”
“ปัง!”
“ปัง!”
เสียงปืนพลันดังขึ้นสามนัด จากนั้นจึงมีคนอุทานออกมาว่า “หมูป่าถูกฆ่าแล้ว!”