บทที่ 537 เพื่อเป็นอาหารเสริมสำหรับเด็ก
บทที่ 537 เพื่อเป็นอาหารเสริมสำหรับเด็ก
เซี่ยชิงหยวนยกยิ้ม “การเอาแต่พูดว่าอนาคตนั้นงดงามแค่ไหนนั้นไร้ประโยชน์นะ ต้องทำให้พวกเขาได้กลิ่นหอมของเนื้อและรู้สึกโหยหาอยากจะกินสิ”
เธอกล่าวต่อว่า “คนที่คุณบอกเมื่อวานว่าปลดประจำการจากกองทัพแล้วจะมาถึงที่นี่วันนี้ใช่ไหมคะ?”
เมื่อเสิ่นอี้โจวได้ยินถ้อยคำของเซี่ยชิงหยวน ก็รับรู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ เขายกยิ้มพลางบีบปลายจมูกของเธอเบา ๆ “คุณช่างมีความคิดล้ำลึกจริง ๆ นะ”
ชายหนุ่มดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือพลางเอ่ย “อีกประมาณสักชั่วโมงสองชั่วโมงพวกเขาก็น่าจะมาถึงแหละ”
เซี่ยชิงหยวนยื่นตะเกียบให้สามีพร้อมสวมเสื้อผ้า “ถ้าอย่างนั้นก็รีบกินข้าวเถอะ เดาว่าคุณคงจะได้ยุ่งหัวหมุนอีกแล้วแน่ ๆ”
ใครเลยจะรู้ว่าเสิ่นอี้โจวกลับส่ายหัว “ผมจะไม่ออกไปพบพวกเขาในบ่ายวันนี้หรอก ผมจะอยู่บ้านเพื่อสร้างห้องอาบน้ำและห้องน้ำให้คุณก่อน”
ทุกครั้งที่เซี่ยชิงหยวนไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระ เธอต้องไปยังส้วมหลุม ซึ่งมีหลังคามุงจากเพียงสองแห่งที่บริเวณเชิงเขา ว่ากันว่าชาวจีนฮั่นในท้องถิ่นเป็นคนสร้างขึ้น
อาจกล่าวได้ว่าส้วมหลุมนี้ค่อนข้างจะเรียบง่ายกว่าส้วมหลุมในหมู่บ้านซีสุ่ยไม่น้อย โดยล้อมรอบด้วยไม้ไผ่โปร่งแสง หลังคามุงจาก หลุมที่ขุดไว้ข้างใต้ และมีไม้ไผ่หนาสองต้นวางอยู่ด้านบน และนั่นคือทั้งหมดที่มี
แน่นอนว่ากลิ่นนั้นไม่น่าพิสมัยแต่อย่างใด หญิงสาวไม่กล้าแม้แต่จะมองลงไปเสียด้วยซ้ำ เพราะกลัวจะพบกับหลุมที่เต็มไปด้วยหนอนแมลงวันสีขาวเดินยั้วเยี้ยไปมา
และทุกครั้งที่เซี่ยชิงหยวนไปส้วมหลุมนี้ เธอจะขอให้เสิ่นอี้หลินยืนเฝ้าให้ห่างออกไปเล็กน้อย ไม่ใช่ด้วยเหตุผลอื่นใด แต่เป็นเพราะช่องว่างระหว่างรั้วไม้ไผ่ที่ล้อมรอบนั้นกว้างเกินไปจนทำให้เธอกลัว
ทว่าสำหรับบางคนนั้น เธอได้ยินมาว่าพวกเขาเพียงเดินเตร่ไปสักจุดหนึ่ง จากนั้นจึงขุดหลุม จัดการธุระ และฝังมันไว้ตรงนั้นก็เรียบร้อยแล้ว
แม้แต่ของที่เช็ดก้นก็ยังเป็นใบไม้ที่ดึงส่ง ๆ มาจากต้นไม้ข้าง ๆ…
เธอทนทุกข์ลำบากได้ แต่จะให้เธอทนความสกปรกนั้นเป็นไปไม่ได้เลย
ด้วยเหตุนี้ ทันทีที่หญิงสาวได้ยินเสิ่นอี้โจวกล่าวว่าต้องการสร้างห้องน้ำให้ เธอจึงรีบยกมือทั้งสองขึ้นสนับสนุน “ดีเลย ฉันจะช่วยคุณด้วย”
มื้อกลางวันต่อจากนั้นถือเป็นมื้อที่น่าพึงพอใจที่สุดเท่าที่พวกเขาได้กินหลังจากมาถึงที่นี่
ข้าวสวยรสหวาน เนื้อหมูรมควันสลับชั้นสีแดงขาว รสเค็มของน้ำทะเลและรสหวานจาง ๆ ของอาหารทะเลที่สดใหม่ เมื่อรวมกันแล้วนั้นแสนโอชะ
ลูกทั้งสองคนอายุเพิ่งหกเดือนเท่านั้น ทว่าเมื่อได้กลิ่นอันเย้ายวนของอาหารมื้อนี้ ก็เตะขาเล็ก ๆ ของพวกเขาออกไปด้านข้าง ทั้งยังขมุบขมิบปากอย่างคึกคักด้วยอยากจะลิ้มลอง
เสิ่นอี้หลินซึ่งถือน่องไก่ตากแห้งที่หั่นเป็นชิ้นไว้ในมือ แล้วกวัดแกว่งมือไปมาที่ปลายจมูกของเด็กทั้งคู่ ทั้งสองเบิกตากว้างพร้อมไล่ตามเนื้อไก่นั้น
ทั้งยังมีเสียงฮึดฮัดไม่พอใจในตอนที่เสิ่นอี้หลินขยับมือของเขาออกไปด้วย
เสิ่นทิงหลานนั้นรุนแรงกว่าเสิ่นทิงอวิ๋นอยู่เล็กน้อย เด็กหญิงตัวน้อยเอื้อมมือออกไปหมายจะคว้ามัน เมื่อเห็นว่าตัวเองจับไม่ได้ ก็พลันส่งเสียง “เอ๊ะ! เอ๊ะ!” ในลำคออย่างไม่พอใจ
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลินตงซิ่วก็หัวเราะพลางลูบหัวเสิ่นอี้หลิน “รู้ทั้งรู้ว่าหลานชายหลานสาวของแม่กินไม่ได้ก็ยังจะแกล้งน้องอีก เจ้าเด็กแสบ”
ราวกับว่าจะโต้ตอบกับคำพูดของหลินตงซิ่ง เสิ่นทิงหลานพลันส่งเสียง “อืม!” ออกมาอย่างเห็นด้วย
เมื่อเสิ่นอี้โจวและเซี่ยชิงหยวนเห็นภาพนี้ สองสามีภรรยาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
เสิ่นอี้โจวเอ่ยขึ้นว่า “เด็กทารกสามารถให้กินอาหารเสริมเพิ่มได้ใช่ไหม?”
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “ได้นะ เมื่อเช้านี้คุณแม่ก็ป้อนน้ำซาวข้าวให้ทั้งคู่ พวกเขาชอบมากเลยทีเดียว”
เมื่อเด็กสองคนเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ความต้องการอาหารของร่างกายพวกเขาก็เพิ่มขึ้น และนมแม่ของเซี่ยชิงหยวนก็ไม่อาจสนองความหิวโหยของพวกเขาได้อีก ดังนั้นหญิงสาวจึงชงนมผงให้พวกเขาดื่มอยู่เป็นประจำ
เมื่ออายุได้หกเดือน หญิงสาวจึงเริ่มให้ลูก ๆ กินอาหารเสริมเพิ่มเติม เพียงแต่ว่าหากมีเงิน ก็สามารถให้เด็ก ๆ กินไข่ตุ๋น หรือโจ๊กที่มีเนื้อหมูบดละเอียดกับผักโรยหน้า เป็นต้นได้
เสิ่นอี้โจวเองเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวเชิงนี้มาก่อน จึงทำให้รู้สิ่งเหล่านี้โดยธรรมชาติ
เขายังรู้ด้วยว่าหากไม่มีปัจจัยเหล่านั้น ก็คงตระเตรียมสิ่งพวกนี้ให้เด็ก ๆ ไม่ได้
ชายหนุ่มมองลูกทั้งสองคนอย่างรู้สึกผิด พลางสัมผัสใบหน้าเล็ก ๆ ของพวกเขา แล้วกล่าวว่า “พ่อจะรีบทำให้พวกหนูได้กินไข่กินเนื้อในเร็ววันนะ”
เซี่ยชิงหยวนเองซึ่งอยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยหยอกล้อว่า “เพื่อพวกหนูสองคน พ่อถึงกับต้องทำไข่ไก่ทำเนื้อขึ้นมาเองเลยน้า”
…
หลังกินมื้อกลางวัน เสิ่นอี้โจวไม่ได้หยุดพักผ่อน เขาเริ่มสร้างห้องอาบน้ำและห้องน้ำทันที
ในอำเภอรุ่ยนั้นไม่มีลมพายุรุนแรง ดังนั้นเสิ่นอี้โจวจึงวางแผนที่จะใช้ตอไม้เป็นเสาและคาน ส่วนทั้งผนังสี่ด้าน เขาจะใช้ไม้ไผ่ตีกั้นแบ่งห้อง โดยใช้ไม้ไผ่ที่มีความหนาเพียงพอ
เมื่อวานนี้เขาได้บอกกล่าวกับชาวบ้านไปว่าเขาต้องการวัสดุ พวกเขาจึงนำมาส่งให้วันนี้
ผู้ที่นำของมาส่งให้เป็นชายหนุ่มชาวไตสองคนที่ทราบมาว่าเสิ่นอี้โจวกำลังจะสร้างห้องน้ำและพบว่ามันเป็นสิ่งแปลกใหม่อย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงรั้งรออยู่เพื่อเป็นลูกมือและเรียนรู้วิชา
เซี่ยชิงหยวนนำชาร้อนและของว่างมาให้พวกเขา ก่อนจะออกไปหาเถียนกุ้ยฟางพร้อมเสิ่นทิงอวิ๋นในอ้อมแขน
ลูกชายและลูกสาวนั้นต้องผลัดกันอุ้มพวกเขาสักหน่อย ไม่เช่นนั้นจะเกิดความไม่พอใจเอาได้
เซี่ยชิงหยวนเดินไปจนสุดทางและพบผู้หญิงในหมู่บ้านจำนวนมากกำลังปลูกพืชผัก
เมื่อพวกเธอเห็นเซี่ยชิงหยวน ทุกคนพลันละมือจากสิ่งที่ทำมาทักทายหญิงสาว พลางมองไปยังเสิ่นทิงอวิ๋นในอ้อมแขนของเธอ แล้วเอ่ยชมว่าเสิ่นทิงอวิ๋นเป็นเด็กที่หล่อที่สุดที่พวกเธอเคยเห็นมา
ไม่รู้ว่าเสิ่นทิงอวิ๋นฟังรู้เรื่องหรืออย่างไร จึงเตะขาไปมาอย่างมีความสุข
เซี่ยชิงหยวนจับลูกชายของเธอให้มั่น พร้อมออกปากถาม “เริ่มกันตั้งแต่วันนี้เลยเหรอคะ?”
พวกผู้หญิงพากันหัวเราะ “ใช่จ้ะ อยู่ที่บ้านก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ไม่สู้ออกมาทำงานให้ลุล่วงแต่เนิ่น ๆ จะได้รับเงินเร็วขึ้นดีกว่า”
เพื่อมาซื้อเนื้อกินด้วย
แต่แน่นอนว่าเธอกลืนคำพูดสองสามคำสุดท้ายกลับลงไป
เที่ยงวันนี้ ไม่รู้ว่ามีเด็กกี่คนแล้วที่ถูกตีเพราะงอแงอยากจะกินเนื้อ
เซี่ยชิงหยวนยกยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นพวกคุณทำงานต่อเถอะค่ะ ฉันจะไปหาพี่สาวกุ้ยฟางเสียหน่อย”
ผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า “มีคนมีผักในแปลงอยากจะส่งไปขายในวันพรุ่งนี้ด้วยนะ เธออยู่ที่แปลงผักทางทิศตะวันออก ช่วยดูผักที่ทุกคนปลูกอยู่แหนะ”
พวกเขาเคยหัวเราะเยาะคนที่ปลูกผักเยอะ ๆ หัวเราะเพราะว่าพวกเขาไม่สามารถกินได้หมด ซ้ำยังไม่สามารถขายได้ ทว่าพอมาตอนนี้ กลับกลายเป็นว่าพวกเขาคว้าโอกาสนี้ไปได้ก่อน
ตอนนี้เซี่ยชิงหยวนเข้าใจแล้วว่าไม่ใช่แค่กลิ่นเนื้อในบ้านของเธอเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องเช่นนี้มากระตุ้นให้พวกผู้หญิงรีบปลูกผักลงแปลงอีกด้วย
เธอกล่าวขอบคุณผู้หญิงกลุ่มนี้ ก่อนอุ้มเสิ่นทิงอวิ๋นมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก