กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามีบทที่ 533 อาการชัก

บทที่ 533 อาการชัก

บทที่ 533 อาการชัก

บทที่ 533 อาการชัก

เมื่อเซี่ยชิงหยวนและเสิ่นอี้โจวได้ยินดังนั้น สีหน้าของพวกเขาก็แปรเปลี่ยนไปโดยทันที

ทั้งสองวิ่งตามไปอย่างไม่คิดเสียด้วยซ้ำ

ขาของเสิ่นอี้โจวยังมีอาการบาดเจ็บหลงเหลืออยู่ ทำให้เกิดการเซเล็กน้อยเมื่อก้าวเดินอย่างเร็ว ๆ เซี่ยชิงหยวนจึงรีบเข้าไปช่วยพยุงผู้เป็นสามีอยู่ข้าง ๆ

เสิ่นอี้โจวเหลือบมองเธอด้วยความซาบซึ้ง ก่อนเอ่ยกับเจ้าหน้าที่ที่มาตามว่า “เสี่ยวไช่ล่ะครับ?”

เสี่ยวไช่ที่เสิ่นอี้โจวกล่าวถึงคือไช่จิ้งกั๋ว แพทย์ที่มาด้วยกันในครั้งนี้

เจ้าหน้าที่เอ่ยตอบ “คุณหมอไช่เพิ่งกลับมาจากไปเก็บสมุนไพรข้างนอก เด็กคนนั้นเป็นตะคริว คุณยายของเขาเอาเข็มแทงเข้าไปตรงร่องเล็ก ๆ ระหว่างจมูกถึงริมฝีปากบน ซ้ำยังป้อนยาต้มให้กิน คุณหมอไช่บอกว่าการทำแบบนั้นไม่ถูกต้อง ครอบครัวของเด็กจึงโวยวายสร้างเรื่องขึ้น จนตอนนี้มันเริ่มจะควบคุมไม่ได้แล้วครับ”

ใบหน้าของเสิ่นอี้โจวมืดลงเล็กน้อยพลางเอ่ย “เลอะเทอะเสียจริง”

ในตอนที่พวกเขามาถึงที่นี่ อันที่จริงมีคนท้องถิ่นจำนวนมากที่กังขา บางทีอาจถึงขั้นไม่ต้อนรับเลยเสียด้วยซ้ำ เพราะทันทีที่พวกเขามาถึง สิ่งแรกที่ได้รับผลกระทบคือ แนวคิดและวิถีชีวิตดั้งเดิมของตน

ด้วยมนุษย์เป็นสัตว์ที่มีนิสัยต่อต้านการเปลี่ยนแปลง เหตุนี้จึงเกิดความขัดแย้งอันเนื่องมาจากความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันได้อย่างง่ายดาย

เสิ่นอี้โจวไม่ได้พูดอะไรอีกและเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

หลายคนที่เพิ่งมาถึงสถานีอนามัยชั่วคราวก็ได้ยินเสียงร่ำไห้และเสียงตะโกนโวยวายของสมาชิกในครอบครัวทันที

ผู้คนที่อยู่ด้านนอก เมื่อเห็นเสิ่นอี้โจวกำลังมาก็ราวกับเห็นดวงดาวแห่งความช่วยเหลือ ทุกคนต่างรีบหลีกทางให้พวกเขาผ่านเข้าไปอย่างรวดเร็ว

เสิ่นอี้โจวกับเซี่ยชิงหยวนเข้ามาด้านในสถานีอนามัย แล้วพบว่ามีเด็กอายุราวห้าหรือหกขวบนอนอยู่บนเตียงเล็ก ๆ ดวงตาทั้งสองข้างของเขาปิดสนิท แขนขานั้นแข็งทื่อและกระตุกอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวครึ้ม

มีเลือดพุ่งออกมาจากร่องเล็ก ๆ ระหว่างจมูกถึงริมฝีปากบน และเนื่องจากศีรษะของเขาเงยขึ้น ส่งผลให้เลือดไหลเข้าไปในโพรงจมูก

ที่ด้านข้างมีหญิงชราชาวไต ซึ่งถือชามดินเผาอยู่ในมือและพยายามอย่างยิ่งที่จะป้อนยาสีน้ำตาลอมดำเข้าปากเด็ก

ถัดจากหญิงชราคือหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งถือเข็มไว้ในมือ โดยกำลังจะแทงเข็มไปที่ร่างกายของเด็ก

ชายวัยสามสิบปลาย ๆ คนหนึ่งถูกพ่อของเด็กพุ่งเข้ามาห้ามไว้ “คุณจะป้อนยาให้เขาอีกไม่ได้ ถ้ามันเข้าไปอุดตันทางเดินหายใจจะเป็นเรื่องใหญ่นะ!”

คนคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไช่จิ้งกั๋ว แพทย์ที่เดินทางมาที่นี่ด้วยในครั้งนี้

“หยุด!” เสิ่นอี้โจวออกปากตะโกนเพื่อหยุดสถานการณ์วุ่นวายตรงหน้า

ครอบครัวของหญิงชรานั้นรู้จักเสิ่นอี้โจว เมื่อเห็นว่าเขามาที่นี่ก็รีบชี้ไปยังไช่จิ้งกั๋ว พร้อมเอ่ยอย่างร้อนใจ “หมอของพวกคุณไม่ยอมให้ฉันช่วยชีวิตหลานชายฉัน!”

เสิ่นอี้โจวเดินตรงเข้าไปแล้วกล่าวว่า “แม่เฒ่า ได้โปรดเชื่อหมอของพวกเรานะครับ เราจะรักษาเด็กคนนี้ให้หายดีเอง”

พอเอ่ยจบ ชายหนุ่มก็ส่งสายตาให้เพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้าง ๆ ซึ่งพวกเขาสามารถเข้าใจได้โดยสัญชาตญาณ จึงรีบก้าวเข้ามาดึงตัวเพื่อเปิดทางให้แพทย์

ไช่จิ้งกั๋วกระโจนเข้ามาอย่างเร่งรีบ

เขาเริ่มจากการตะแคงตัวเด็กแล้วคลายคอเสื้อ จากนั้นเช็ดเลือดออกจากใบหน้า แล้วตรวจทางเดินหายใจอีกครั้ง ก่อนจะทำความสะอาดสิ่งตกค้างในปาก เช่น กากยา

เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ในขณะที่จัดการกับผู้ป่วยก็พลันเอ่ยขึ้นว่า “ช่วยเอากล่องยาสีขาวบนชั้นมาให้ผมหน่อยครับ”

เจ้าหน้าที่ของศูนย์บรรเทาความยากจนกำลังกันผู้คนเอาไว้ เซี่ยชิงหยวนจึงรีบนำกล่องยาไปให้ไช่จิ้งกั๋ว พร้อมทั้งช่วยเปิดให้เขา

ไช่จิ้งกั๋วหยิบยาในกล่อง แล้วออกคำสั่งต่อ “ผมต้องการผ้าเช็ดตัวและน้ำเย็นหนึ่งกะละมัง”

เซี่ยชิงหยวนกวาดสายตาไปรอบห้อง ก่อนจะหยิบถังไม้ขึ้นมาแล้วเดินไปตักน้ำยังธารน้ำเล็ก ๆ ข้างประตู แล้วนำผ้าเช็ดตัวที่แขวนไว้บนชั้นวางด้านข้าง ชุบน้ำแล้วบิดให้หมาด วางลงที่บริเวณคอและรักแร้ของเด็ก

พ่อแม่ของเด็กที่ก่อนหน้านี้โวยวายและบอกว่าพวกเขาทำร้ายลูก แต่เมื่ออาการชักของเด็กค่อย ๆ หยุดลง เสียงของพวกเขาก็เงียบลงเช่นกัน

เมื่อเห็นว่าจังหวะการหายใจของเด็กกลับมาคงที่ ไช่จิ้งกั๋วจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกพลางเอ่ย “กินยาไปแล้ว อีกสักพักไข้คงจะลดลง”

เขาดึงผ้าห่มที่แต่เดิมคลุมตัวเด็กไว้แล้วพูดว่า “หากฝ่ามือและฝ่าเท้าของเด็กร้อนก็ไม่ควรห่มไว้แบบนี้ เพราะอาจทำให้เกิดอาการชักได้ง่าย”

ยายของเด็กยังคงหลงเหลืออาการขุ่นเคืองอยู่ประปราย “เมื่อก่อนเวลาที่เด็กมีไข้ก็ห่มผ้าให้แบบนี้กันทั้งนั้น ความร้อนจะทำให้เหงื่อออก”

เมื่อเห็นว่าแม่เฒ่ายังคงดื้อดึงอยู่แบบนี้ ไช่จิ้งกั๋วพลันกังวลว่าหากในอนาคตเกิดเด็กมีไข้ขึ้นมา พวกเขาก็จะทำแบบนี้อีก จึงทำได้เพียงอธิบายให้หญิงชราฟังอย่างอดทน

เซี่ยชิงหยวนเองก็กระวนกระวายจนมีเหงื่อออกมาไม่น้อยเช่นกัน เมื่อหญิงสาวเห็นว่าอาการของเด็กคงที่แล้ว เธอจึงกล้ายกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดเหงื่อตัวเอง

เธอสบตากับเสิ่นอี้โจว ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกัน

ไช่จิ้งกั๋วมองไปยังทิศทางที่ทั้งสองจากไป ก่อนจะเหลือบมองไปยังมือของทั้งคู่ที่ประสานกันไว้ เขาก็เข้าใจได้ในทันที

เมื่อเซี่ยชิงหยวนและเสิ่นอี้โจวกลับถึงบ้าน ทั้งสองพลันสบตากัน แล้วเอ่ยออกมาพร้อมกันว่า “รีบไปจัดการให้เสร็จกันเถอะ”

ไม่เพียงแค่ในแง่ของเศรษฐกิจเท่านั้น ทว่าคนที่นี่ต้องได้รับการศึกษาและพัฒนาความคิดด้วย

เสิ่นอี้โจวดื่มน้ำแล้วออกไปข้างนอกอีกครั้ง “ผมจะให้คนจัดการให้เรียบร้อย ตอนนี้ขอไปพูดคุยหารือกับพวกเขาสักหน่อยแล้วกัน”

เซี่ยชิงหยวนเอ่ยเสริม “ฉันเองจะไปค้นหารอบ ๆ บ้านดูว่าเมล็ดพันธุ์ไหนที่เหมาะกับการเพาะปลูกตอนนี้บ้างนะ แล้วจะจัดการให้ในวันพรุ่งนี้เลย”

เธอตะโกนถามเสิ่นอี้โจวอีกครั้ง “คุณรู้จักใครในหมู่บ้านที่เป็นผู้หญิงและพอจะพูดคุยกันรู้เรื่องบ้างไหม? ฉันจะไปหาเธอหน่อย”

เสิ่นอี้โจวหวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ย “ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านน่ะ ชื่อเถียนกุ้ยฟาง คุณสามารถไปหาเธอได้เลย”

เซี่ยชิงหยวนตอบกลับไปหลังได้คำตอบ “ฉันเข้าใจแล้ว คุณไปเถอะ”

สองสามีภรรยาออกจากบ้านไปตาม ๆ กันเพื่อจัดการกิจธุระของตน

เช้าวันรุ่งขึ้น เสิ่นอี้โจวได้รับข่าวและรีบไปที่กองทัพ

หลินตงซิ่วมองดูขาที่กะเผลกก็คิดอยากจะบอกกับเซี่ยชิงหยวน ไหนเลยจะรู้ว่าสีหน้าของหญิงสาวก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเช่นกัน “แม่คะ หนูมีธุระต้องออกไปข้างนอกสักพัก แล้วจะรีบกลับมาค่ะ”

จากนั้นหญิงสาวก็ออกจากบ้านไปเช่นกัน

ทั้งสองรีบเร่งมากจนหลินตงซิ่วไม่อาจรั้งไว้ได้ทัน

เธอเหลือบมองเสิ่นอี้หลิน ซึ่งยืนอุ้มเสิ่นทิงอวิ๋นอยู่ข้าง ๆ ก็พลันรู้สึกวุ่นวายใจขึ้นมาเล็ก ๆ “ไป ไป ไป พาหลานชายของลูกกลับขึ้นไปชั้นบนไป อย่าให้วิ่งตามคนอื่นไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้า“

เสิ่นอี้หลิน “…”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Score 10
Status: Completed
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี ...ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด! เรื่องย่อ หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

Options

not work with dark mode
Reset