บทที่ 522 จากลา
บทที่ 522 จากลา
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เสิ่นอี้โจวออกไปทำงานทุกวันและไม่กลับมาจนดึกดื่น
เซี่ยชิงหยวนรู้ว่าสามีของเธอกำลังจัดเตรียมสิ่งต่าง ๆ ก่อนจะไป
เธอกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของเขา แต่ก็ไม่ได้พูดบ่นมากเกินไปนัก เธอเตรียมซุปเพื่อสุขภาพสูตรกว่างโจวเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน และยังช่วยตระเตรียมข้าวของต่าง ๆ ให้เขาด้วย ดูว่าพร้อมไหม
สองวันก่อนที่เสิ่นอี้โจวจะจากไป ทั้งครอบครัวก็เก็บข้าวของในบ้านและย้ายไปอยู่ในบ้านเช่า
ระหว่างรอคนขับรถที่จะมาขนย้ายของ เซี่ยชิงหยวนได้พบกับเซี่ยจื่ออี้ซึ่งกำลังถือกระเป๋าเดินทางอยู่
เซี่ยจื่ออี้กำลังลากกระเป๋าเดินทางด้วยสีหน้าโดดเดี่ยว วินาทีต่อมาเมื่อเห็นเซี่ยชิงหยวน เธอก็ยืดตัวทันที
เธอมองไปยังผู้คนที่ย้ายข้าวของอยู่ด้านหลังเซี่ยชิงหยวน และกลับมารู้สึกภูมิใจอีกครั้ง “คุณนายเสิ่น น่าเสียดายจริงๆ เลยนะคะที่คุณได้อาศัยอยู่ที่นี่ไม่ถึงสองปี”
เซี่ยชิงหยวนหัวเราะเบา ๆ “ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยค่ะ ฉันไม่ได้มีความรู้สึกผูกพันอะไรกับที่นี่อยู่แล้ว แต่คุณเซี่ยน่ะสิ คุณอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายปี แต่กลับถูกผู้อำนวยการเซี่ยไล่ออกออกจากบ้าน ฉันได้ยินมาว่าผู้อำนวยการเซี่ยได้ตัดความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกสาวกับคุณด้วยนี่ใช่ไหม?”
เซี่ยชิงหยวนทำหน้ายิ้มอย่างขบขันพลางเอามือปิดริมฝีปากของเธอเอง เป็นการกระทำที่ดูเสแสร้งแบบไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังเลย “ว่ากันว่าผู้อำนวยการเซี่ยจริงจังมาก ไม่ทราบว่าคุณเซี่ยทำผิดอะไรถึงถูกตัดขาดแบบนี้เหรอคะ?”
สีหน้าของเซี่ยจื่ออี้เปลี่ยนเป็นซีดเซียวทันที
พวกเธอทั้งสองขัดแย้งกันมาตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงตอนนี้ ดังนั้นมันไม่จำเป็นต้องเสแสร้งทำเป็นดีต่อกันอีกต่อไป
เซี่ยจื่ออี้พูดอย่างเย็นชา “ไม่ว่าฉันจะโดนอะไร ฉันก็ยังดีกว่าคุณ การที่คุณติดตามเสิ่นอี้โจวไปยังสถานที่ห่างไกลเหล่านั้น ฉันเกรงว่าคุณจะไม่สามารถกลับมาได้ตลอดชีวิตนั่นแหละ!”
เซี่ยชิงหยวนอุทาน “โอ้” เบา ๆ แล้วพูดว่า “ทำไมฉันต้องอยากกลับมาที่นี่ล่ะ? เพื่อกลับมาเห็นใบหน้าที่น่าขยะแขยงของคุณอย่างนั้นเหรอ?”
จากนั้นเซี่ยชิงหยวนโบกมือด้วยความรังเกียจก่อนจะชี้ไปในทิศทางของเมืองหลวงปักกิ่ง “นั่นคือสถานที่ที่อี้โจวของฉันจะไปอยู่ในอนาคต ส่วนที่นี่ฉันจะปล่อยให้คุณใช้ชีวิตอยู่เองตามยถากรรมก็แค่นั้นแหละ”
หลังจากพูดจบ เซี่ยชิงหยวนก็ไม่สนใจอีกฝ่ายแล้วหันหลังกลับเข้าไปในบ้าน
เซี่ยจื่ออี้มองไปยังทิศทางที่เซี่ยชิงหยวนจากไป เธอโกรธมากจนโยนกระเป๋าเดินทางทั้งหมดลงพื้น
ในทางตรงกันข้าม มันคือตัวเธอเองที่ดูอับอายน่าสมเพชยิ่งกว่า และไม่รู้ว่าใครเป็นคนเปิดเผยเรื่องที่ว่าเธอถูกเซี่ยเจิ้งไล่ออกจากบ้านกัน ตอนนี้ทุกคนต่างรู้เรื่องทั้งหมด และเธอไม่สามารถอยู่ในเขตที่พักอาศัยนี้ได้อีกต่อไป
จนถึงตอนนี้ คนเดียวที่เธอสามารถพึ่งพาได้คือไป๋อวิ๋นหลี่
เธอเป็นแบบนี้เพราะเขา ถ้าเขากล้าเมิน เธอจะทำให้เขาเดือดร้อนอย่างแน่นอน!
เซี่ยจื่ออี้มองไปยังเซี่ยชิงหยวนที่กำลังอุ้มลูกและหัวเราะผ่านหน้าต่างบ้านอย่างเกลียดแค้น และจากไปอย่างไม่เต็มใจ
เซี่ยชิงหยวนรอดูกันต่อไปเถอะ!
…
ในที่สุดวันที่เสิ่นอี้โจวจากไปก็มาถึง
นอกจากเซี่ยชิงหยวนแล้ว ยังมีผู้คนอีกมากมายที่มาส่งเขาและไม่มีใครแสดงท่าทางดูถูกเลย
เสิ่นอี้โจวพูดอำลาเพื่อนร่วมงานของเขา และในที่สุดก็จับมือของเซี่ยชิงหยวน ทั้งสองมองหน้ากันอย่างเงียบ ๆ
เสิ่นอี้โจวพยักหน้า “ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักนะครับ คุณภรรยา”
เซี่ยชิงหยวนส่ายศีรษะของเธอแล้วพูดว่า “อย่าลืมกินยาที่หมอสั่งด้วยนะ และไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหนก็อย่าลืมกินข้าวให้ตรงเวลา ฤดูหนาวที่นั่นหนาวมาก ดังนั้นคุณควรสวมเสื้อสเวตเตอร์และแจ็กเกตบุผ้าฝ้ายที่ฉันเตรียมไว้ให้คุณด้วย…”
เมื่อเซี่ยชิงหยวนพูดคำสุดท้าย น้ำตาก็ไหล พานทำให้ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกต่อไป
เมื่อฟังคำพูดของเซี่ยชิงหยวนแล้ว เสิ่นอี้โจวก็พยักหน้าและท้ายที่สุดทั้งคู่ก็มีดวงตาแดงก่ำ
เสิ่นอี้โจวคว้าข้อมือของเธอ ดึงภรรยามากอดไว้ในอ้อมแขน และพูดด้วยเสียงสะอื้น “ผมจะไม่เป็นอะไร และคุณก็ควรจะไม่เป็นอะไรเช่นกัน”
เซี่ยชิงหยวนกลั้นน้ำตาของเธอ ยิ้มและพยักหน้า เพราะไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าเขา “เอาละ คุณไปที่นั่นก่อนและจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย จากนั้นแม่กับฉันจะพาลูก ๆ ไปหาคุณทีหลัง”
เมื่อเสียงรถไฟดังขึ้น เสิ่นอี้โจวก็ยังทนไม่ได้ที่จะปล่อยมือของเซี่ยชิงหยวนไป
พวกเขากอดกันแน่น ราวกับว่าต้องการจะหล่อหลอมเป็นคนเดียวกัน
เมื่อเห็นว่ารถไฟกำลังจะออกแล้วจริง ๆ ฉู่ซิงอวี่ก็ก้าวมาข้างหน้าและเอ่ยเตือน “เลขาธิการเสิ่น ถึงเวลาแล้วครับ”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เสิ่นอี้โจวก็ปล่อยเซี่ยชิงหยวนอย่างไม่เต็มใจ
เขาจับใบหน้าของเธอราวกับจะประทับรูปลักษณ์ของหญิงสาวไว้ในใจไปตลอดกาล
ในที่สุดเขาก็ก้มศีรษะลงจูบเธออย่างแรงที่หน้าผากแล้วพูดว่า “ดูแลตัวเองด้วยนะ”
หลังจากนั้นเขาก็หยิบกระเป๋าเดินทางขึ้นแล้วหันหลังกลับเพื่อจากไป
เซี่ยชิงหยวนก้าวไปข้างหน้าสองก้าวแล้วบังคับตัวเองให้หยุด
ในที่สุดน้ำตาก็ไหลออกมาทันทีที่เขาหันกลับมา
เธอปิดปากกลั้นเสียงร้องไห้ของตัวเองอย่างแข็งขืน
เธอบอกตัวเองว่านี่จะเป็นการพรากจากกันที่ยาวนานที่สุด และครั้งสุดท้ายในชีวิตของพวกเขา
วันข้างหน้าจะต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป