บทที่ 494 แม่ม่ายผู้โดดเดี่ยวซึ่งหลงรักเฮ่ออวี้เฟิง
บทที่ 494 แม่ม่ายผู้โดดเดี่ยวซึ่งหลงรักเฮ่ออวี้เฟิง
ผู้หญิงคนนั้นมองเฮ่ออวี้เฟิงอย่างตั้งใจ และตอบกลับอย่างใจเย็น “ถ้างั้นฉันจะกลับมาทีหลังนะคะ”
เธอถือกระเป๋าเดินออกไปไม่กี่ก้าวก่อนจะหันกลับมาอีกรอบ ดวงตาเป็นประกายด้วยความหวัง “เถ้าแก่เฮ่อ คืนนี้เรากินข้าวด้วยกันไหมคะ? ฉันอยากเลี้ยงคุณถือเป็นการขอบคุณสำหรับการซ่อมรถให้ฉันน่ะค่ะ”
เฮ่ออวี้เฟิงไม่แม้แต่จะยกเปลือกตาขึ้น และชี้ไปยังอาเซียง “คงไม่ได้หรอกครับ ผมมีแขกอยู่ที่บ้านน่ะ”
เขาหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาเช็ดเหงื่ออย่างลวก ๆ “คุณจ่ายค่าซ่อมรถผมไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องขอบคุณอะไรอีกหรอก”
ขณะที่พูดประโยคนี้ เขาดูจริงจังมากและดูเหมือนจะไม่เข้าใจเจตนาของอีกฝ่ายเลย
จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็สังเกตเห็นอาเซียง
เธอมองอาเซียงขึ้น ๆ ลง ๆ ก่อนจะมองไปทางอื่นและพูดกับเฮ่ออวี้เฟิงต่อไป “ในเมื่อคุณมีแขก งั้นไม่รบกวนแล้วดีกว่า ฉันยังมีรถอยู่สองสามคันที่บ้าน ไว้จะขับพวกมันมาอีกในวันหลัง เพราะงั้นเถ้าแก่เฮ่อช่วยดูพวกมันให้หน่อยก็แล้วกันนะคะ”
พอพูดจบเธอก็ปัดผม บิดเอว แล้วจากไป
วิธีเดินของเธอสามารถอธิบายได้ว่าเป็นการบิดสะโพกส่ายไปมาก็ว่าได้
ลูกจ้างบางคนในร้านแอบดูเธออย่างลับๆ
เมื่อเฮ่ออวี้เฟิงเดินผ่านพวกลูกน้อง เขาก็สะบัดผ้าเช็ดตัวใส่แล้วพูดว่า “เฮ้ ตั้งใจทำงาน”
พวกลูกจ้างไม่อายเลยที่ถูกจับได้ พวกเขาจึงยิ้มให้กันก่อนจะทำงานต่อไป
เฮ่ออวี้เฟิงเดินเข้าหาอาเซียง หยิบกระเป๋าเดินทางจากมือของเธอแล้วพูดว่า “กินข้าวหรือยัง?”
อาเซียงสงบอารมณ์ของเธอแล้วส่ายหัว “ยังเลยค่ะ”
ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาห้าโมงเย็น แต่มันก็ถือว่ายังไม่เย็นมาก
เฮ่ออวี้เฟิงพยักหน้า “วันนี้แม่ของฉันไปเยี่ยมบ้านคนอื่น เย็นนี่เรากินข้าวข้างนอกกันเถอะ”
อาเซียงไม่คัดค้านและพูดว่า “ได้ค่ะ”
เมื่อเห็นอาเซียงตกลงเฮ่ออวี้เฟิงก็พูดว่า “งั้นเธอรอฉันก่อนนะ ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อย”
แล้วเขาก็เดินเข้าไปในห้องหลังร้าน
ในเวลานี้ ลูกจ้างคนหนึ่งซึ่งมักจะพูดคุยกับอาเซียงก็เดินเข้ามาถาม “สาวน้อย เธอรู้รึยังว่าผู้หญิงเมื่อกี้นี้เป็นใคร?”
อาเซียงถามอย่างไม่แน่นอน “ลูกค้าเหรอคะ?”
ลูกจ้างส่ายหัวพลางยิ้มกริ่ม “ลูกค้าที่ไหนล่ะ หล่อนเป็นหญิงม่ายผู้โดดเดี่ยวที่มาแอบชอบเจ้านายของเราต่างหาก”
“หา?” อาเซียงตกตะลึง
สีหน้าประหลาดใจของอาเซียงสร้างความพอใจให้กับความคิดนินทาของลูกจ้างและเขาพูดต่อ “ผู้หญิงคนนั้นมาที่ร้านของเราหลายครั้งแล้ว หล่อนไม่สนใจพวกเราคนไหนเลย และขอให้เจ้านายซ่อมรถของหล่อนทุกครั้ง ทันทีที่เจอเจ้านายของเรา หล่อนจะยิ้มเหมือนดอกไม้บานเชียวแหละ”
อันที่จริงอาเซียงก็สังเกตเห็นอะไรแบบนั้นบนในหน้าของผู้หญิงคนนั้นเช่นกันเวลามองไปที่เฮ่ออวี้เฟิง ความชอบที่ผู้หญิงคนนั้นมีต่อเฮ่ออวี้เฟิงนั้นไม่ปิดบังเลยและแทบจะเหมือนบอกให้โลกรู้ด้วยซ้ำ
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นผู้หญิงที่กล้าหาญและสวยงามเช่นนี้
อาเซียงรู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก
ลูกจ้างส่ายหัว “ก็ไม่ชัดเจนนะ แต่เราทุกคนเห็นสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นคิดกับเจ้านายชัดเจนเลย ไม่อย่างนั้น…รถราคาแพงของเธอที่ควรเอาไปเข้าอู่พิเศษดี ๆ ทำไมกลับมาหาเราอย่างเดียวจนถึงป่านนี้ล่ะจริงไหม? ฉันแค่คิดว่าคงเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นแหละกว่าที่เธอจะจับเจ้านายของเราอยู่น่ะ”
แม่ม่ายคนนี้ทั้งสวยและรวย แม้จะอายุมากกว่านิดหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหา ชาตินี้ถ้าได้เป็นคู่ก็ไม่ต้องดิ้นรนอีกแล้ว
ถ้าเป็นเขาเอง คงตกลงไปนานแล้ว
อาเซียงต้องการถามอะไรเพิ่มเติม แต่เฮ่ออวี้เฟิงที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเดินออกมาพอดี
เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน และท่อนล่างยังคงเป็นกางเกงยีนตัวเดิม
อาเซียงรู้จักเสื้อตัวนี้ เธอเลือกมันเองตอนที่เซี่ยชิงหยวนกับเธอไปเลือกซื้อเสื้อผ้าให้เฮ่ออวี้เฟิงและแม่เฮ่อ
เฮ่ออวี้เฟิงหยิบกระเป๋าเดินทางของเธอขึ้นมาแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ”
อาเซียงพยักหน้าอย่างเหม่อ ๆ “ค่ะ” แล้วเดินตามเขาไป
อาเซียงไม่ได้เสนอว่าจะกินอะไร ดังนั้นเฮ่ออวี้เฟิงจึงพาเธอไปที่แผงขายอาหารสไตล์กวางตุ้ง
หลังจากที่ทั้งสองนั่งลงแล้ว เฮ่ออวี้เฟิงก็เทชาให้ทั้งเธอและเขา จากนั้นใช้ชาลวกชาม ตะเกียบ และถ้วยชาของทั้งสอง
อาเซียงมองดูการกระทำของเฮ่ออวี้เฟิงอย่างเงียบ ๆ ความอึดอัดใจของเธอก่อนหน้านี้คลายไปในที่สุด
ความจริงที่ว่าเขาไม่ได้ทำตัวแปลกไปกับเธอเพราะผู้หญิงคนนั้น แสดงให้เห็นว่าทัศนคติของเขาต่อตัวเธอไม่ได้รับผลจากผู้หญิงคนนั้นเลย
แต่เมื่อนึกถึงสิ่งนี้อาเซียงก็เริ่มรู้สึกเศร้าอีกครั้ง
ทำไมเขาถึงยังปฏิบัติต่อเธอเหมือนเดิมทั้ง ๆ ที่มีคนอื่นมาเปรียบเทียบให้เห็นแล้วล่ะ?
หรือเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับใครทั้งนั้น ทุกอย่างจึงยังเหมือนเดิมแม้ว่าจะมีคนอื่นเข้ามาก็ตาม?
อาเซียงถอนหายใจอย่างหนัก
เฮ้อ ความรู้สึกแอบรักนี่มันอึดอัดจริงๆ
“มีอะไรเหรอ?” เฮ่ออวี้เฟิงวางชามและตะเกียบลง เทชาหนึ่งแก้วให้อาเซียงและเห็นว่าเธอมีสีหน้าเศร้า
อาเซียงเงยหน้าขึ้นมองเขา แต่ยังไม่พูดอะไร
ในที่สุดเธอก็รวบรวมความกล้าแล้วพูดว่า “พี่เฮ่อ ฉันเพิ่งได้ยินมาตอนที่อยู่ในร้านน่ะ ว่าลูกค้าคนนั้นมาหาพี่เพื่อให้ซ่อมรถของเธอบ่อย ๆ”
เฮ่ออวี้เฟิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและตระหนักว่าอาเซียงกำลังพูดถึงใคร
เขาไม่ตอบแต่ถามกลับว่า “พวกคนในร้านพูดไร้สาระกับเธออีกแล้วเหรอ?”
อาเซียงโบกมืออย่างรวดเร็ว “พวกเขาไม่ได้พูดอะไรไร้สาระกับฉันหรอก ฉันแค่บังเอิญได้ยินเฉย ๆ น่ะ”
เมื่อมองดูความตื่นตระหนกของอาเซียง เฮ่ออวี้เฟิงกลับยิ้มเล็กน้อย…
มุมปากของเขาโค้งขึ้นน้อยมาก แต่ก็เป็นหนึ่งในรอยยิ้มที่หายากของเขาเช่นกัน
เมื่อราดหน้าเนื้อมาเสิร์ฟ เขาก็ผลักมันไปทางอาเซียง
จากนั้นก็โน้มตัวเข้ามาใกล้มาก “เธออยากจะถามอะไรจริง ๆ กันแน่?”